Don’t look back in anger - Oasis
แปลกมากครับ จริงๆผมไม่เคยรู้สึกชื่นชอบเพลงของ Oasis เลย อย่างเพลงที่ยอดวิวสูงที่สุดของ Oasis อย่าง wonderwall ผมก็ไม่เคยรู้สึกชอบฟังอะไรเป็นพิเศษ เพราะรู้สึกว่าทำนองมันแปลกมันอั้นๆ ไม่สุด(คิดไปเอง55) แต่กลับมาชอบเพลงอย่าง Don’t look back in anger เพลงพระรองที่ขับร้องโดยโนล กัลลาเกอร์ และเป็นเพลงเดียวของ Oasis ที่ผมชอบ(ณ ตอนนี้ เพราะในอนาคตไม่แน่ อาจจะมีชอบเพิ่ม)
อันที่จริงผมฟังเพลง don’t look back in anger ครั้งแรกก็รู้สึกเฉยๆนะครับ ไม่ได้รู้สึกชอบหรือรู้สึกว่าโดดเด่นกว่าเพลงอื่นๆของ Oasis จนผมได้มาดูคลิปๆนึงของพี่แว่น fps thailand คลิปนั้นเป็นคลิปที่เล่นดนตรีกันและเชิญ Bay Riffer มาร่วมแจมด้วย ซึ่งผมก็เปิดฟังเล่นๆ เพลินๆ รู้สึกง่วงๆ เผลอหลับไป แล้วเคยเป็นเหมือนกันไหมครับ ช่วงเคลิ้มๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่นเนี่ย จะรู้สึกเหมือนกับว่าเพลงที่เราฟังอยู่มันเพราะขึ้นอีกเท่าตัว แล้วผมก็ดันจำได้พอดีว่าตอนนั้นเขาเล่นเพลง Don’t look back in anger กัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของการฟังเพลงนี้ครับ
หลังจากนั้นก็เริ่มชอบขึ้นมานิดนึง เริ่มอยากเล่นเพลงนี้ได้ เพราะเหมือนกับว่าเพลงนี้เป็นเพลงสามัญที่นักดนตรีควรจะเล่นได้ร้องเป็น ก็เลยหัดร้องหัดเล่นผสมปนเปไปกับ algorithm ของ youtube ที่มันดันยัด Don’t look back in anger เวอร์ชั่นต่างๆมาให้กดเข้าไปดู ผมก็ตามเข้าไปดู มากเข้าๆ ก็กลายเป็นชื่นชอบโดยปริยาย
พักเรื่องเพลงไว้ก่อน ตรงนี้ผมอยากเล่าเรื่องที่ทำให้ผมสนใจ Oasis นั่นคือเรื่องราวของ 2 พี่น้องกัลลาเกอร์ครับ เพราะเคยได้ยินผ่านๆ มาว่า 2 คนนี้ไม่ถูกกัน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเดิมทีก็ไม่ได้ตามวง Oasis อยู่แล้ว แต่พอเรามาเริ่มฟังเพลง Don’t look back in anger เข้าเพลงนึงแล้ว มันกลับทำให้รู้สึกว่ามีเรื่องราวให้ต้องติดตาม ผมก็เลยไปค้นดูเลยว่าทำไม 2 พี่น้องคู่นี้ถึงทะเลาะกัน ปรากฏว่าเจอบทความมากมาย ทั้งในเว็บเอย หรือคลิปในยูทูปเอย ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องคู่นี้เยอะพอสมควร หรือมีแม้กระทั่งภาพยนตร์
มองจากภายนอกเข้าไปแล้วอ่านดูเรื่องราวคร่าวๆ จากคนไม่เคยตาม Oasis มาก่อนมองยังไงก็เหมือนเลียมจะเป็นเด็กขี้งอแง งี่เง่า เอาแต่ใจ ไม่มีความรับผิดชอบ จนทำให้ร่วมงานกับโนลไม่ได้ แต่เลียมเองก็พูดกลับในอีกทางนึงว่าโนลเป็นคนที่ชอบสวมหน้ากากและในขณะที่ตัวเขาเองนั้นเป็นคนที่จริงใจแต่อาจจะแสดงออกมาก้าวร้าวเกินไป
ผมมองเข้าไปแบบคนนอกว่าการทะเลาะกันของทั้งคู่นั้นใครถูกใครผิดคงบอกไม่ได้ เพราะไม่ได้รู้รายละเอียดเชิงลึกสักเท่าไหร่ แต่พอจะมองออกว่า type นี้คือ เคมีที่ไม่เข้ากัน ซึ่งมันจะเกิดจากทุกๆอย่างเลยที่เป็นชนวนทำให้มีเรื่อง อย่างที่โนลกล่าวไว้ว่า “เลียมมีปัญหาแค่ 2 อย่างคือทุกสิ่งที่เขาทำนั่นคือปัญหา และ ทุกอย่างที่เขาพูดก็คือปัญหา” ประโยคนี้แสดงได้เด่นชัดเลยว่าปัญหามันก่อตัวสุมมาเรื่อยๆ จนวันนึงมันถึงจุดวิกฤติที่ระเบิดออก นั่นคือวันที่โนลประกาศแยกตัวออกมา เพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป
ปัจจุบันเหมือนเลียมอยากจะกลับไปง้อเพื่อคืนดีกับโนล แต่โนลไม่เอาด้วยเลย แล้วแฟนเพลง Oasis ล่ะครับ อยากให้ 2 พี่น้องนี้กลับมา reunion กันไหม? แล้วถ้าคุณเป็นโนล คุณจะใจอ่อนไหม?
หรือ (ผมคิดไปเองว่า)เรื่องราวของ 2 พี่น้องคู่นี้จะเป็นพล็อตสำหรับเพลง Don’t look back in anger ที่แต่งและร้องโดยโนล และจบอย่างสวยงาม
สุดท้ายในอนาคตไม่ว่าความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้จะออกมาแบบไหน แต่ต้องยอมรับอย่างนึงว่า story ของคู่นี้ …better than twilight (หยอกๆๆ)… story ของทั้งคู่และ don’t look back in anger ตราตึงเข้าไปอยู่ในใจผมในช่วงนี้แล้วล่ะครับ ลองกลับไปฟังกันดูนะสนุก+เพราะมากจริงๆ