รีวิวเครื่อง Sony Discman D25s ครับผม
ก่อนอื่นขอสวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวขี้บ่นของผมนะครับ
รีวิวผมนั้นไม่ได้ละเอียดแบบของฝรั่งนะครับ เพราะผมไม่สามารถบรรยายค่าทางเทคนิคได้
ผมมันพวกอาร์ตตัวพ่อ ดังนั้นจะบรรยายไปตามอารมณ์ประกอบภาพนะครับ ^_^
เริ่มกันเลยดีกว่า
เนื่องจากผมนั้น ได้มีโอกาสเล่น Minidisc มาได้ระยะหนึ่ง ก็รู้เลยว่า คำว่า source นั้นสำคัญมาก
ที่เราเล่นๆ นั้น ก็เกิดจากการแปลง source มาทั้งนั้น เช่น mp3,flac,ape,acc เป็นต้น
อะไรละที่จะเล่นจาก source โดยตรง
คำว่า source ที่ผมเปรียบถึงนี้ก็คือแผ่น CD AUDIO นั่นเอง แล้วเราจะหาอะไรละมาเล่น
ก็ต้องเครื่องเล่น CD นั่นเอง ผมไม่พูดถึงเครื่องเสียง Hi end หรือแนวแยกชิ้นเครื่องใหญ่ ๆ นะครับ
เพราะผมไม่ชอบ ผมชอบแนวพกพา ชอบเล็ก ๆ ทำนองนี้
ก็เลยคิดว่า เครื่องเล่น CD พกพาสิ ถึงจะเป็นคำตอบตรงนี้ได้
ผมมี CD walkman D-NE830 บางเฉียบ อลูมิเนียมเย็นเจี้ยบอยู่ตัวนึง (ไว้จะมารีวิวอีกที)
ซึ่งเล่นได้หมด CD , CD R , CD RW , MP3 ผมก็ชอบนะ เสียงดี แต่มันก็ยังไม่ตอบสนอง
ความรู้สึกได้ มันต้องหนักแน่นกว่านี้ ใช่แล้ว ต้อง Discman สิ เลื่องลือในเรื่องหนักแน่น
ส่วนตัวผมมี Discman D-34 อยู่เครื่องนึง นานมาก ๆ แล้ว อย่างที่ได้รีวิวไป
(แต่ตัวที่รีวิวไปนั้นเป็นเครื่องใหม่นะครับ เครื่องเก่าฝากเพื่อนซ่อมอยู่) ผมก็ว่ามันหนักแน่นแล้วนะ
จนวันนึง ได้มีโอกาสสัมผัส Discman D25s ที่ร้านเฮียมั่นคง ก็เลย โดนเลย
และเป็นของใหม่ New Old Stock ซะด้วย จัดไปเลยเฮียมั่น
กลับบ้านมาหาข้อมูลในเน็ต เข้าเว็บฝรั่งดู เขาก็พูดถึงและยกย่องว่าเป็น Discman Audiophile
กันเลยทีเดียวเชียว (จะมี 4 รุ่นคือ 555, 350, 25, 5 ใช้ชิพแบบเดียวกัน ต่างกันที่ลูกเล่นเสริม)
อะไรกันนี่ เราได้ฟัง Discman ระดับ 4 จตุรเทพ เชียวหรือเนี่ย
แว้บ
นี่ครับ หน้าตากล่องของ Discman D25s แบบเรียบง่าย (รุ่นนี้ก็ปี 1992 นะครับ 18 ปีที่แล้วเอง)
จะสังเกตุได้ว่า ข้าง ๆ กล่องก็จะมีบาร์โค๊ด ครับ จะระบุซีเรียลเครื่องไว้ครับ
แกะออกมาก็จะเจออุปกรณ์แค่นี้ (มีแต่ตัวเครื่องนั่นเอง -_-")
จริง ๆ จะมีแต่ตัวเครื่องละครับ หม้อแปลงนั้น เอามาใส่เองให้ดูไม่โล่งอ่ะ T_T
เฮียมั่นแถมมาให้ด้วยนะครับของ FUJIW แจ่มเป็ด
หูฟัง สายต่าง ๆ คู่มือ ไม่มีแถมมานะครับ ผมขอให้แถม PK1 เฮียก็ไม่ให้ (ใจร้าย T_T)
อย่างคู่มือนั้น เรียกกันว่า มีคนทำขายกันใน ebay เลยทีเดียว แพงด้วยนะ
ยกเครื่องออกมาวาง ก็จะได้หล่อ ๆ แบบนี้
ภาพเอียงแหะ ต้องให้อภัยคนสายตาเอียงด้วยนะครับ -_-"
และคำว่า Discman นั้น รู้กันนะครับว่า ยิ่งรุ่นเก่าๆ นั้น เรื่อง Antishock หรือกันสะเทือน
แทบไม่ต้องไปลุ้นเลย เรียกว่า พกเดินไม่ได้นะ เพราะฉันไม่ใช่ walkman
ฉันคือ Discman ดังนั้น เหมาะกับการ วางเล่นบนโต๊ะทำงาน โต๊ะอ่านหนังสือ เป็นต้น
รถถังในสไตล์หรูเลยคราวนี้ และที่สำคัญ ทำจากโลหะทั้งเครื่องครับ
พลาสติกก็จะแค่ปุ่มกด Open และอื่น ๆ เล็กน้อย แต่กว่า 98% ของเครื่องเป็นเหล็ก
หล่อกลึงตีโป่งขึ้นรูปเป็นเครื่องเล่น เล่นในห้องแอร์นี่เย็นเลย
อันนี้ด้านหน้าเครื่องครับ จะสังเกตุได้ว่า Discman D25s นั้น เครื่องจะเป็นสี่เหลี่ยม
ไม่เหมือน Discman ทั่วไปที่มักจะโค้งมน ไม่ก็กลมดิ๊กเลย ซึ่งผมก็ชอบครับ เหลี่ยมจัด
พอจับหันข้างทางขวามือก็จะเจอช่อง PHONE ก็คือช่องเสียบหูฟังนั่นเอง
รูเสียบมาตรฐานนะครับ แจ๊ก 3.5 มิล
ถ้าฟังกับ Fullsize เปิดได้ครับ vol. ประมาณ 4 5 6
แต่ถ้าฟังกับ earbud , inear แนะนำแค่ vol. 2 3 ก็พอครับ
ถ้าจัดไป 4 แปลว่า หูท่าน ใกล้จะหนวกแน่นอน เอิ๊กๆๆๆ กำลังขับมันสูงนะครับ
เปิด vol. น้อยๆ ก็ได้ยินแล้วครับ
คำว่ากำลังขับนั้น ไม่ใช่ดีแต่ขับให้ดังนะครับ อย่าคิดแบบนั้นนะครับ
เพราะว่ามันมาหมดนะครับ ใส กลาง เบส มากันหมด แจ่มจริง ๆ นะ
จับหันหลังมาดูกันหน่อยสิ
ก็จะเจอกับช่อง Line out และ DC 9V รูเสียบหม้อแปลงนั่นเอง
สำหรับ Line out ของ Discman D25s นั้น เรียกได้ว่าเสียงดีมาก ๆ
ผมไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรมาเขียนมากไปกว่าคำว่า เสียงดีมาก ๆ ไม่น่าเชื่อ
ตอนแรกผมก็อ่านจากที่ฝรั่งเขาเขียนรีวิวว่า line out นั้น เสียงดีมาก รายละเอียดสูง
หวานจับใจ เบสก็ไม่บวม แต่เบสลงจนแยกแยะออกว่า นี่เบสนะ นี่ impact นะ
คือ บางคนเหมาไปหมดว่าเสียง ตุ๊บๆ ๆๆ เรียกว่าเบสหนัก
มันทำให้ฟังรายละเอียดของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ชัดเจน รายละเอียดดี สูง กลาง ต่ำ ดีหมด
ไม่มีอะไรเวอร์ ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง อะไรกันว้าเนี่ย ตัวแค่นี้ทำได้ไง
ฟังแกะเพลงสบายเลยถ้าใครเป็นนักดนตรี แต่เรื่องแกะเพลงนั้น
ปัจจุบันเครื่องเล่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดีมากแล้ว ตรงนี้ผมคิดว่าไม่จำเป็น แต่จะเปรียบว่ามันเสียงดีละ
และการฟังเพลงผ่าน line out แล้วได้เสียงแบบว่า เราฟังเครื่อง CD แยกชิ้นแบบไฮๆ ตัวนึง
แต่ตัวมันเล็กกระจิ๋วต่างขนาดกันขนาดนั้น ก็ต้องยืนงงว่า มันยัดอะไรไว้ในเครื่องหว่า
คำที่เขียนตรงนี้ละครับ ก็หมายถึงว่า ฉันเนี่ย มีระบบกลั่นเสียง แบบนี้นะเฟ้ย
ซึ่งผมก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ฟังอย่างเดียวเลย แหะ -_-"
มีสเปคเครื่องมาบอกด้วยครับ ดังนี้
16 Bit DAC, 4 Times Oversampling
20-20kHz, +- 1db
Line Out.7V/50 Ohm
Headphone Out 2x9mW
Adaptor 9V (บวกนอกลบใน)
Recharg Batt ใช้แบ็ตรุ่น BP-2 หรือ BP-2EX
Dimensions 125.8x20.8x134.6mm
วิชาการมีแค่นี้ละครับ ที่เหลือ ผมจะโม้ต่อไป ^_^
ปุ่มกด ก็ทำออกมาได้สวยงาม เงาแว้บ
ปุ่มพื้นฐานการใช้งานครบครัน FF RW PLAY STOP อยู่บริเวณเดียวกันหมด
สัมผัสเบาๆ เท่านั้น
นี่ก็ปุ่มพวก feature ต่าง ๆ ครับ เช่น Repeat ซึ่งผมใช้แต่ repeat นี่ละ
อย่างอื่นไม่ได้ไปปรับเลย อ้อ และก็มี vol. ด้วยครับ เลื่อนแบบ อนาล็อคครับ
เปิดฝามาก็เจอหัวอ่าน ครับ ก็วางแผ่นแบบสบาย ๆ
ด้านบนก็จะมีตัวฝากลม ๆ ไว้ล็อคแผ่น เวลาหมุนครับ
แท่นแท่นแท้นนนน !!! ชั้นวางครับ โอ้ว ทำไปได้นะ ซื้อไม้อัดมา 15 บาท
และก็มานั่งเลื่อยครับ เลื่อยฉลุก็ไม่มี เอาเลื่อยเหล็กเลื่อย มือคุณหนูพองหมดเลย T_T
คือที่ต้องทำแท่นวางลักษณะนี้เพราะว่า ผมมักจะวางเครื่องเล่นไว้บนเตียงตอนฟังเพลง
ซึ่งทุกครั้งพอเลิกเล่น มันจะร้อนที่ใต้เครื่อง จนผมต้องเอากล่องใส่ซีดี มาวางสองฝั่งเป็นฐาน
เพื่อให้เกิดช่องใต้เครื่อง อากาศจะได้ FLOW (น่านคิดไปได้)
จนสุดท้ายก็ออกมาเป็นชั้นวางไม้อัดหน้าตาแบบนี้แล ทำไปได้ -_-"
12 ภาพก็โม้มายาวขนาดนี้ อดทนอ่านต่อไปนะครับ
เอาละ จับเสียบหม้อแปลงและ Play กันเลยดีกว่า ถ้าเราเสียบหม้อแปลงใช้งาน
เวลา play จะมีไฟสว่างที่หน้าจอนะครับ
ถ้าใช้แบ็ต จะไม่มีไฟสว่างขึ้น เพราะประหยัดพลังงาน
ฝั่งนี้เป็นรูเสียบ รีโมท ซึ่งผมก็ตามหาครับ สิ่งนี้เป็นอุปกรณ์ที่ผมขาดอยู่
ซึ่งจริง ๆ แล้ว จะมีหรือไม่ก็ได้ (แต่ก็อยากเก็บให้ครบ ๆ)
เพราะนอกจากนี้ ผมมีครบแล้วเกี่ยวกับ D25s เนี่ย ไว้อ่านดูล่าง ๆ ก็จะมีให้ดูครับ
เหมือนตามหากันจนเจอครับ ผมถูกใจมากกับ Grado 325is จับคู่กับ Discman D25s
ขอบคุณที่ให้ลองครับเฮียมั่น ตอนแรกลอง อะเลสซานโดร MS2is ก็ว่าแจ่มแล้วนะครับ
พอไปเจอ Grado 325is ผมโดนมากกว่าครับ
อย่าถามว่า ทำไม ไม่ไปซื้อเครื่องเสียงแยกชิ้นดี ๆ ไปเลยละ เงินลงทุนขนาดนี้
ผมตอบตรงนี้ได้เลยครับว่า มีแล้วครับ แต่ยังไงมันก็ไม่รักเท่า เล็ก ๆ พกพาได้แบบนี้ครับ
เอาละ จับเครื่อง Discman D25s นอนคว่ำถูหลังกันดีกว่า
ก็จะบอกว่า Made in Japan นะจ๊ะ โฮะๆๆ ผลิตเมื่อ เมษาปี 1992
ก็ครบ 18 ปีพอดิบพอดี เพราะเดือนนี้ก็เมษา ปี 2010 เหมือนกัน
ก็จะมีช่องใส่แบ็ตทางด้านซ้ายครับ ตัวฝาก็ทำจากโลหะนะครับ
มันจะเหล็กกันไปไหนไอ้เจ้าเครื่องนี้ -_-"
ผมละนึกถึงความพยายามในการล่อในการกลึงจริง ๆ เอาเงินฉันไปเลย
เปิดฝาออกมา โอ้ว แบ็ตอะไรของมันละเนี่ย จะไปหาจากไหนละตู ยุคนี้
แต่ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าเรามีเงิน หาได้แน่ ๆ ครับ ^_^ ebay ไงครับท่าน
แบ็ตที่ใช้จะเป็นแบ็ตรุ่น BP-2 และ BP-2EX หรือ BL-215 ลักษณะเหมือนกันครับ
หน้าตาดังนี้ ผมก็ได้มาก้อนนึงจากเฮียมั่นคง ส่วนอีกก้อน ที่ติดสติ๊กเกอร์ 3M เคฟล่านั้น
ก้อนนั้น เดิม ๆ แล้วเป็นแบ็ต sony แท้ ๆ เลยครับแต่เซลล์แบ็ตเสื่อมแบบกู่ไม่กลับแล้ว
ก็เลยให้ช่างที่ร้าน it batt ที่ดิโอสยามชั้น 3 หน้าฟู๊ดฯ จัดการโมให้ครับ
เนื่องจากกรอบแบ็ตนั้น เป็นอลูมิเนียมครับ พอแกะออก แล้วโมแบ็ตใส่ พอประกบกลับ
มันจะไม่สนิท จะเผยอ ซึ่งเวลาเอาไปใส่เครื่องมันจะทำให้ปิดฝายากน่ะผมไม่ชอบ
ผมก็เลยเลาะทิ้งออกเลย (ประกันแบ็ตตูก็หลุดไปด้วย T_T)
และเอาสติ๊กเกอร์เคฟล่าของ 3M มาพันสวยดีเอิ๊กๆ
แต่ปัจจุบัน ฟังผ่าน AC adaptor ครับ เพราะพี่หู Grado กินแบ็ตเครื่องเหลือเกิน T_T
ใส่แบ็ตลงไปก็จะได้แบบนี้ครับ
การเล่นด้วยแบ็ตนั้น ชาร์จเต็ม ๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงได้ครับ จะเล่นได้ประมาณ 3 แผ่น CD
ก็ตีไปประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น อันนี้เทสด้วยหูฟังแบบ earbud ครับ
แต่พอใช้ fullsize Grado ฟังโดยตรงผ่านช่อง Phone มันก็จะเหลือจำนวนเวลาเพียงแค่
ประมาณ 40 - 50 นาที ก็แบ็ตเหลือหนึ่งขีดแล้วครับ กินไฟจริงๆ หูใหญ่ ๆ
ผมต้องการให้ ออโต้บอท D25s ของผม อัพเกรดเท่ห์ ๆ บึกบึนกว่านี้ได้
ก็เลยไปควานหาแบ็ตเตอรี่เสริมรุ่น BP-100 มาครับ หน้าตาแบบนี้
ด้านหน้าและด้านหลังของ BP-100 ครับ
ออโต้บอทลุย ตึ๊ด ตึ๊ดตืด
ประกอบร่าง
แท่นแท้น
เข้มขึ้นทันตาเห็น
หนักขึ้นมาก ใครเขาจะพกว้าแบบนี้ T_T ต่อให้มันมีสายสะพายมาให้
มันก็ไม่ได้กันสะเทือนซักหน่อยเน้อ คือให้สะพายพกได้ แต่ไม่ต้องฟัง ซะงั้น
ถอดออกก็เลื่อนปุ่มนี้ละครับ ก็จะถอดร่าง
ข้อดีที่ผมได้จาก Discman D25s
- รายละเอียดเสียงที่ได้ สุดยอดครับในทุก ๆ ด้าน Perfect
ได้แผ่นเสียงดี ๆ อย่าง The Greatest Basso vol.1 มาลองฟังนี่สบายอารมณ์สุด ๆครับ
- วัสดุทำจากโลหะกว่า 97%
- ดีไซน์สวยงาม ดูแข็งแรง
- ช่อง line out ที่ให้เสียงได้ดีมาก ดีกว่าที่คาดไว้เยอะ
- สุขใจครับ อันนี้สำคัญสุดสำหรับผม ถ้าเสียเงินแล้วถูกใจนี่ยอม
ข้อไม่ดี
- ราคาสูง (แต่ผมซื้อ Hi MD RH1 มาแพงกว่านี้อีกนะ ฮ่าๆๆ)
- ไม่มีระบบกันสะเทือน
นี่ละครับ Discman ระดับ Audiophile ที่ผมนำมารีวิวบรรยายประกอบภาพ
และอารมณ์ที่รู้สึก ให้ได้รับทราบกัน ผมจะไม่พูดถึงเรื่องราคานะครับ เพราะเรื่อง
ความรักนั้น มันขึ้นอยู่กับคนแต่ละคน คนรักของแต่ละอย่างไม่เหมือนกันและทำให้
คนตีค่าของแต่ละอย่างแตกต่างกันเพราะความรักที่รู้สึกให้
ถ้าใครไม่เดือดร้อนและมีความรักให้ Discman เครื่องเล่นแมคคานิคแบบนี้
ผมก็จะขอแนะนำว่า
ถ้ามีโอกาสได้ซื้อ Discman D25s ก็ขอแนะนำให้ซื้อมาฟังครับ แล้วท่านจะชอบ
เหมือนที่ผมชอบ เหมือนที่ผมรักมัน
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ ^_^