จากประสบการณ์ (อันน้อยนิด) ของผม คือ ต้องดูเป็นชิ้น ๆ ไป ครับ
ผมเคยเปลี่ยนสายหูฟังอินเอียร์พวก effect audio, linum, alo ตอนแรก ๆ อาจจะต้องมีการขยับเขยื้อน ลองเปิด ๆ ปิด ๆ เพลงให้หูฟังกับสายมันจูนกันพักนึงประมาณ 2 ชั่วโมง ตรงจุดนี้เสียงจะเปลี่ยนแน่นอน หลังจากนั้น เบิร์นไปนานแค่ไหน ก็ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนสักเท่าไหร่ 

มีเส้นนึงที่เห็นผลชัดเจนมาก คือ สาย 3.5 to 3.5 ของ Audioquest เสียบกับลำโพงตอนแรกนี่เสียงเพี้ยนเลย ต้องใช้เวลาสักพักเลยครับ ประมาณ 30 ชั่วโมงได้มันถึงเริ่มเข้าที่ แล้วก็มานิ่งตอนเกือบ ๆ 100 ชั่วโมง พร้อมกับคราบดำเต็มหัวแจ็ค จากนั้นก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่ 

ส่วน dap นี่ก็ต้องดูเป็นยี่ห้อไปเหมือนกันครับ เคยลอง Sony zx300 ถือว่าดีเลยครับ เสียงค่อนข้างนิ่งมากตั้งแต่เปิดเครื่อง โดยเฉพาะช่อง 3.5 นี่ ไม่ค่อยเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ ส่วน 4.4 นี่เหมือนจะดีขึ้นตอนสัก 50 ชั่วโมง เบสลูกสวยขึ้น ช่องไฟห่างกันมากขึ้น เหมือนเวทีจะดีขึ้น

ตัวที่เห็นผล คือ opus1s ที่เพิ่งซื้อมาล่าสุด อาจจะเป็นเพราะค้างอยู่ในสต๊อกนานครับ เปิดมาไดนามิคเสียงนี่เพี้ยนมาก ๆ เสียงดนตรีก็ซ้อนทับกันแปลก ๆ แทบจะทนฟังไม่ได้เลย ต้องเปิดทิ้งไว้แล้วลองมาฟังเรื่อย ๆ ประมาณสัก 40 ชั่วโมง ถึงจะเริ่มเข้าที่เข้าทางเหมือนกันครับ สำหรับตัวนี้ผมไม่คิดว่าตัวเองคิดไปเองแน่นอน เพราะตอนนี้เพิ่งซื้อสายมาเสียบช่อง 2.5 เจอเหตุการณ์เดียวกับตอนแรกเลย  

ส่วน cd player กับ integrated amp นี่ไม่เคยลองครับ 

ลองดูสิครับ เปิดฟังคร่าวๆรอบนึงก่อนแล้วเปิดทิ้งไว้สัก 3-4 ชม. มาฟังใหม่เป็นการฝึกหูด้วยจะได้หายคาใจถามคนอื่นก็ได้คำตอบหลากหลายยังไงก็ไม่เท่าเรียนรู้เองครับ

ทั้ง 4 หัวข้อนั้น การเบิร์นอินมีผลโดยตรงทั้งหมด ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องอุปทานแต่อย่างใดครับ

ปกติ อุปกรณ์อิเลคโทรนิคที่เรียงอยู่บนแผงวงจร ถ้าเป็นแบรนด์ดีๆเค้าจะวัดค่าอุปกรณ์อย่างละเอียด หรือที่เรียกว่าคัดเกรด การคัดคือคัดให้มีค่าที่ใกล้เคียงกันหรือเท่ากัน แล้วจึงนำมาใช้ในอุปกรณ์ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ก็ต้องการให้ไฟฟ้าไหลผ่านก่อน ซึ่งก็คือการกระตุ้นให้มันได้ทำงานให้เต็มประสิทธิภาพที่วิศวะกรออกแบบไว้ครับ พออุปกรณ์ทุกชิ้นทำงานได้เต็มที่ จึงจะทราบว่าประสิทธิภาพสูงสุดของมันอยู่ตรงไหนครับ

อีกประการ ผู้ผลิตส่วนใหญ่ ไม่มีกระบวนการเบิร์นอินให้เลยจากโรงงาน (มีบางที่ๆทำการเบิร์นหรือวอร์มมาให้ก่อนขายก็มี) พอผลิตเสร็จก็ลงกล่อง พอคนซื้อๆกลับบ้านไปก็จะรู้สึกว่าทำไมเสียงต่างจากตัวที่โชว์อยู่ที่ร้าน นั่นเป็นเพราะตัวโชว์มีการเปิดใช้งานมาแล้วในระยะเวลาหนึ่งครับ

การเบิร์นอินทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นทุกกรณี แต่อาจจะใช้เวลายาวสั้น หรือดีขึ้นได้อีกมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเองครับ แต่การเบิร์นอินไม่ได้ช่วยให้อุปกรณ์ที่คุณภาพไม่ถึงกลายเป็นของดีขึ้นมา อันนี้ไม่จริงนะครับ