ขึ้นอยู่กับว่า  เดินไปไกลแค่ไหน ความพึงพอใจอยู่จุดใด

หูฟังบางคนอาจ  ใช้ Dapจับหููฟัง ไม่กี่พันก็โอเค
หรือบางคนก็ไปจบที่ 10,000 100,000 หรือมากกว่า


คอมก็เช่นกัน
ถ้าในแง่ของอุปกรณ์อย่างเดียว
ถ้าใช้งานกลุ่ม Mainstream ทั่วไป i9-9900k
จับกับ 2080ti ก็อาจพอใจ ในราคาหลักหมื่น

แต่ บางคนก็มีความต้องการมากกว่า
อย่างcpu ก็ขยับไป i9-extreme
Thread ripper, Xeon-scalable, Epyc
ก็ราคามีเป็นหลายหมื่น ถึงหลักแสน


ยังมีram busสูง, multi CPU, gpu coding, storage  ฯลฯ เป็นต้น
เทคนิคการใช้อุปกรณ์ แบบต่างๆ ตามความต้องการและกำลังทรัพย์ (ใช้เงินเยอะกันไปอีก)

ลองเข้าไปที่เว็บappleแล้วจัดสเปคmacproตัวท็อป+full optionทุกอย่างสุดดูดิแล้วจะรู้ว่าวงการหูฟังรู้สึกของถูกไปเลย

ถ้าผมอยากได้สเป็คนั้นประกอบเองดีกว่า ถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง และตัวผมไม่มีทางใช้งานถึงด้วยกับสเป็คขนาดนั้น คอมซื้อแพงแบบสุดโต่งแค่ไหนก็จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างแล้ว ผมใช้งานมากสุดก็แค่เล่นเกม แต่หูฟังยิ่งแพงยิ่งเห็นความแตกต่าง ใครที่ได้ลองและงบถึงผมไม่เชื่อว่าจะพอใจที่ตัว 10K

เป็นเรื่องส่วนบุคคลไงคุณ
ก็อาจจะมีคนรู้สึกแบบคุณ และไม่รู้สึกแบบนี้

คุณใช้งานมันมากสุดก็เล่นเกมไง แล้วคุณพอใจสมรรถนะนัั้นๆ 


จะเอาไอบรรทัดฐาน ราคา10k มาวัด ประชากรทุกคนไม่ได้


ปล. หูฟัง ราคาไม่ใช่ทุุุุุุุกอย่าง 

ที่ Mac มันแพงก็เพราะมันขายUser Experience ด้วยไงครับ

ถ้าได้ใช้ MacOS จนชินแล้ว  พอกลับมาใช้ Windows มันจะรู้สึกหงุดหงิดหลายๆอย่างเลยครับ  และยังลดปัญหาจุกจิกหลายๆอย่างได้เยอะมากด้วยครับ

MacOS ความเป็นระเบียบของ OS มันแจ่มมากครับ แค่ System Preference อันเดียวก็กินขาด Control Panel ของ Windows ไปไกลเแล้วครับ

ไหนจะHardwareที่ทำออกมาได้ดีมากอีก โดยเฉพาะ Trackpad  เป็นคอมยี่ห้อเดียวเลยที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่า  ทัชแพดมันใช้งานได้จริง  มั่นใจได้ว่าออกนอกบ้านไม่ต้องพกเมาส์ก็ได้


ปล.Macbook Pro ที่ผมใช้อยู่ เล่นเพลงเสียงแจ่มมากนะครับ อิอิ

ไม่เห็นต้อง งงเลยครับกระทู้ผมตั้งเนื้อหาพูดถึงตัวผม และถามความเห็นว่าใครเป็นแบบผมบ้าง คุณแค่เล่าเรื่องของคุณเท่านั้นเองครับถ้าอยากแชร์ ส่วนเรื่องหูฟัง ผมยืนยันความเห็นเดิมถ้าได้ลองแพงกว่า 10K จะไม่มีทางพอใจแค่นั้นครับ นอกจากว่าจะเสียดายเงินอยากเอาเงินไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ความเห็นส่วนตัวครับ

ตอบท่าน MaxxIE การใช้งานเขาเราน่าจะต่างกัน ผมกลับรู้สึกว่าชอบ Windows มากกว่า อย่างแรกเลยผมเล่นเกม ถ้าพูดถึงเกมลืม mac ไปได้เลย อีกอย่างผมชอบประกอบคอมเอง อัพเกรดชิ้นส่วนเอง mac ที่ผมเคยซื้อทำได้แค่รอมันเก่าและซื้อตัวใหม่ แต่ pc ผมอัพได้ตามใจชอบ สำหรับผม macOS ไม่ได้ว้าวเหมือน iOS หลายคนยังจำภาพเก่าๆอยูว่า Windows ต้องมานั่งติดตั้งไดร์เวอร์จุกจิก มีปัญหาเรื่องไวรัส สมัยนี้ Windows 10 ติดตั้งเสร็จใช้งานได้เลย ไม่ว่าเสียบอุปกรณ์อะไรขึ้นรองรับหมด และ Windows 10 มีระบบป้องกันไวรัสเป็นของตัวเองแล้วด้วยครับ เรื่อง "User Experience " สำหรับผมขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้งานแบบไหนมากกว่านะครับ

หนูรู้สึกคล้ายกันนะ แต่ของหนู เปนdslr 
หูฟัง5000ก็ได้ตัวที่เสียงดีพอใจแล้ว ลองฟังตัวละหลายหมื่นแยกมะออกและ

แต่พอไปเล่นก้องDSLR ถ้าจะได้้ฟูลเฟรมดีๆน้อยซ์ต่ำก็สตาร์ทครึ่งแสนละ เลนส์อีกหลายระยะอีก ตัวคมๆ ก็หลายหมื่น

+1 เม้นบน หูฟังสำหรับผมจะให้อารมณ์นั้นแหละ ถ้าเรารู้ข้อจำกัดของมัน เราอยากอัพเกรดขึ้นไปอีก คนใกล้ตัวที่เล่นกล้องก็จะคล้ายๆเม้นบนนี่ละ

ลองเล่นจักรยานดูู จะเป็นเสือหมอบ เสือภูเขา มีแต่เรื่องให้ต้องควักกระเป๋าอยู่ร่ำไป เห็นเป็นจักรยานอย่างนี้นะ ตัวกินเงินดีนักแล ความต้องการของมนุษย์ไม่เคยพอ

แล้วแต่การให้ความสำคัญครับ
เหมือนผู้ชายสยองกับราคากระเป๋าของผู้หญิงนั่นล่ะครับ

ตั้งแต่amd กลับมาแข่งขันได้ก็สนุกขึ้นเยอะเลยครับวงการ pc   
3700x+rx5700xt ชุดสุดคุ้ม    ปัจจุบันwin10เสถียรขึ้นมาก  งานเฉพาะทางโปรแกรมเฉพาะทาง pc แรงกว่าmacแล้ว ณ ปัจจุบัน

ที่ จขกท เขาต้องการสื่อถึงคอมประกอบไง เขาหมายถึงว่าสมัยนี้จ่ายเงินนิดหน่อยก็ได้คอมแรงแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องจ่ายแพงกว่านี้ ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วย ใครที่เล่นคอมมานาเป็น10 ปีขึ้นน่าจะรู้สึกได้ เพราะเดี๋ยวนี้ lifestyle คนเปลี่ยนไปเยอะตั้งแต่มีมือถือมีไอแพด พวกอุปกรณ์ hardware ถูกลงอย่างมาก ทำใ้คอมประกอบราคาถูกลงไปด้วย

อุปกรณ์ที่เปลี่ยนรุ่นตามเทคโนโลยีนับวันราคาจะถูกลงครับ เดี๋ยวนี้ประกอบคอมถูกกว่าเมื่อก่อนจริงงบแค่ 2 หมื่นกว่าๆได้อย่างเร็วแล้วครับ