Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เรียงความเรื่อง "เพลงของแม่"

หูทองเหลือง

12/08/2019 18:46:30
2,052
ครอบครัวของผมเป็นคนต่างจังหวัดครับ และก็เหมือนครอบครัวทั่วไปในยุคก่อน คือพ่อจะออกไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนแม่ก็อยู่บ้านดูแลงานบ้านและเลี้ยงดูลูกๆ ตั้งแต่เด็กผมจึงใกล้ชิดกับแม่มากกว่า
แม่เป็นคนอารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน และเป็นคนที่รักเสียงเพลงคนนึงก็ว่าได้ ในสมัยก่อนยุคที่ทีวียังมีแค่ 4-5 ช่อง วิทยุยังเป็นสื่อความบันเทิงที่เข้าถึงได้ง่าย และวิทยุทรานซิสเตอร์ก็มีใช้กันอย่างแพร่หลาย แม่ผมก็จะมีวิทยุอยู่เครื่องหนึ่งติดตัวเกือบตลอดเวลา แม่จะเปิดฟังข่าวฟังเพลงเกือบทั้งวัน แม้กระทั่งเวลานอนแม่ยังเอาวิทยุตั้งไว้ข้างหมอนเปิดฟังเพลงเบาๆ ผมคิดว่านิสัยชอบฟังเพลงของผมนั้นต้องได้มาจากแม่อย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากแม่จะชอบฟังเพลงแล้ว แม่ยังชอบร้องเพลงด้วย และเนื่องจากแม่จะมีสังคมเพื่อนฝูงของแกอยู่พอสมควร เวลาที่แม่ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน ก็มักจะถูกเชิญให้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีอยู่บ่อยๆ และแม่ก็จะมีเพลงประจำที่ใช้ร้องเสมอ เพลงนั้นก็คือเพลง "บัวขาว"
เห็นบัวขาว พราวอยู่ ในบึงใหญ่
ดอกใบ บุปผชาติ สะอาดตา
น้ำใส ไหลกระเซ็น เห็นตัวปลา
ว่ายวน ไปมา น่าเอ็นดู
หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน
ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร
พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร
ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ
ผมจะได้ยินแม่ร้องเพลงนี้ตั้งแต่เด็กจนร้องตามได้ จนผมยกเพลงนี้ให้เป็นเพลงประจำตัวแม่ผมไปแล้ว และหลายครั้งที่ไปงานเลี้ยงแม่มักจะพาผมไปด้วย ผมจึงได้เห็นแม่ขึ้นเวทีร้องเพลงบ่อยๆ และได้เห็นสไตล์การร้องเพลงของแม่ นั่นก็คือ แม่ผมตัวจริง ต้องร้องเพลงคล่อมจังหวะครับ 555
เวลาผ่านไป.. ลูกๆก็เติบโตมีครอบครัว  พ่อกับแม่ก็แก่ตัวลงตามกาลเวลา แต่ผมยังโชคดีที่พ่อกับแม่ท่านอายุยืน จนท่านทั้งสองอายุ 80 กว่าปีแล้ว แต่ยังเดินเหินไปไหนมาไหนได้ และท่านก็ชอบเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นกับแม่ ที่ทำให้ทุกคนในครอบครัวผมต้องจดจำไม่มีวันลืม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 304
ความคิดเห็นที่ : 1

หูทองเหลือง

12/08/2019 18:48:35
2,052
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่พ่อกับแม่เดินทางไปเที่ยวจังหวัดหนึ่งซึ่งติดชายแดนไทย พ่อได้โทรศัพท์กลับมาบอกว่า แม่เป็นอะไรไม่รู้ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น!! จนต้องนำแม่ส่งโรงพยาบาลในอำเภอที่ใกล้ที่สุด และผลการตรวจพบว่า แม่มีอาการเลือดคั่งที่สมอง!! ต้องผ่าตัดด่วน แต่ด้วยบุคคลากรและเครื่องมือที่ไม่พร้อม ทุกคนจึงสรุปว่าต้องนำตัวแม่กลับมารักษาที่กรุงเทพฯให้เร็วที่สุด!!
แต่สิ่งต่างๆก็เหมือนไม่เป็นใจ ด้วยจังหวัดนั้นเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ ทั้งจังหวัดมีรถพยาบาลอยู่ไม่กี่คัน ประกอบกับวันนั้นทางจังหวัดมีงานพิธีสำคัญ รถพยาบาลต้องไป standby กันหมด ทำให้กว่าที่จะมีรถพยาบาลกลับมารับแม่ผมก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้ว และกว่าที่แม่จะมาถึงโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯก็หกโมงเย็นแล้ว ลองคิดคร่าวๆว่า แม่อาจจะเกิดอาการเลือดคั่งตั้งแต่กลางดึก ก่อนที่พ่อจะมารู้ในตอนเช้า และกว่าแม่จะเดินทางมาถึงกรุงเทพฯในตอนเย็น ก็เป็นเวลาเกิน 12 ชั่วโมงไปแล้ว!!
ในระหว่างที่รถพยาบาลพาแม่กลับมากรุงเทพฯ ลูกๆที่กรุงเทพฯก็เฝ้ารอคอยอย่างกระวนกระวาย คำว่าเลือดคั่งในสมองวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย แล้วกว่าแม่จะมาถึงมือหมอก็เกินสิบชั่วโมงมันนานเกินไปแล้ว บอกตามตรงว่าเราทุกคนตอนนั้นทำใจกันไว้แล้ว แม่เราจะฟื้นมั้ย หรือถ้าแม่ฟื้นขึ้นมาสมองแม่จะเป็นยังไงบ้าง แม่คงจะไม่เหมือนเดิมแน่ๆ แต่เราทุกคนยังต้องทำใจให้เข้มแข็ง อย่างน้อยตอนนี้แม่เราก็ยังอยู่ ยังไงต้องรักษาแม่ให้ถึงที่สุดก่อน
เมื่อแม่มาถึงโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ คุณหมอก็ตรวจอาการแม่อีกครั้ง และบอกให้พวกเรารู้ว่าอาการของแม่คือ เส้นเลือดดำที่ผิวด้านนอกสมองฉีกขาด ทำให้มีเลือดไหลคั่งอยู่ในช่องว่างระหว่างสมองกับกระโหลก และเลือดนี้ก็ไปเบียดกดสมองจนทำให้แม่หลับไป ซึ่งหมอบอกว่าเคสแบบนี้มักเกิดกับคนสูงอายุ เพราะคนสูงอายุสมองจะเริ่มหดเล็กลงจนเกิดช่องว่างระหว่างกระโหลก เมื่อเกิดการกระเทือนก็อาจทำให้เส้นเลือดที่ผิวสมองด้านนอกฉีกขาดได้ และเนื่องจากเป็นเส้นเลือดดำ เลือดที่ไหลจึงซึมช้าๆ คนป่วยอาจจะรู้สึกเวียนหัว หรือมึนๆซึมๆ มาหลายวันโดยไม่รู้ตัว จนถึงระดับหนึ่งก็จะหลับแบบแม่ผม ซึ่งเคสแบบนี้ยังรักษาได้ ก็คือต้องเจาะเอาเลือดที่คั่งอยู่ออกมา แต่ผลกระทบกับสมองนั้นก็ต้องรอดูอาการหลังจากนั้น และเมื่อคุณหมอได้สรุปผลการตรวจให้ลูกๆฟังแล้วก็ทำการผ่าตัดในคืนนั้นทันที
เหมือนปาฏิหารย์ เพราะหลังจากผ่าตัดเพียงแค่วันต่อมาแม่ผมก็รู้สึกตัว!! และในเย็นนั้นเองแม่ก็เริ่มจำได้!! แม่จำลูกๆที่มาเฝ้าแม่ได้ และยังถามว่าทำไมมาอยู่ที่นี่ เค้านอนอยู่ที่โรงแรมไม่ใช่หรือ พวกเราก็พยายามชวนคุย ลองถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ สรุปว่าความจำแม่ยังดี เกินกว่าที่เราคาดไว้เสียอีก จังหวะหนึ่งพี่สาวผมเลยแกล้งถามว่าร้องเพลงได้รึเปล่า แม่ผมเลยโชว์ร้องเพลงให้ฟังซะเลย
"เห็นบัวขาว พราวอยู่ ในบึงใหญ่  ดอกใบ บุปผชาติ สะอาดตา....."
พี่สาวผมยืนยิ้มน้ำตาไหลอยู่ตรงนั้น..
และนี่เป็นภาพที่ผมจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต...
แม่นอนพักฟื้นอยู่อีกไม่นานก็ได้กลับบ้าน จนถึงวันนี้เหตุการณ์ก็ผ่านไป 4 ปีแล้ว พ่อกับแม่ผมก็แก่ชราตามเวลาแต่ท่านก็ยังแข็งแรงเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน เป็นบุญของลูกหลานที่ท่านยังอยู่ให้พวกเราได้ไปเยี่ยมไปกราบท่านได้ และสำหรับแม่ ผมจะไม่มีวันลืมเสียงของแม่และเพลงที่แม่ร้องไปตลอดชีวิต
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 4
ความคิดเห็นที่ : 2

หูทองเหลือง

12/08/2019 18:49:46
2,052
พี่ๆน้องๆท่านไหนมีเรื่องราวเกี่ยวกับคุณแม่ บทเพลง หรือเหตุการณ์ประทับใจ ก็มาแชร์กันได้นะครับ ถือเป็นการแบ่งปันความรู้สึกดีๆที่เรามีต่อแม่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 4
ความคิดเห็นที่ : 3

เหน่งบา

12/08/2019 21:48:32
1,866



ภาพวันแม่ในฐานะสมาชิกบอร์ดมั่นคงผู้หัดถ่ายภาพโดยไม่มีการเรียนรู้ทฤษฎีและเป็นผู้นิยมเที่ยวโบราณสถานเนื่องจากอยู่จังหวัดลพบุรี่(สาธยายเยิ่นเย้อชิหัย)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 4

นายมั่นคง

12/08/2019 21:53:50
4,294
ขอบคุณมากๆๆสำหรับเรียงความครับ ผมแทบลืมไปแล้วว่าเราเคยเขียนเรียงความกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนปัจจุบันผมไม่แน่ใจว่าการเขียนเรียงความยังมีอยู่หรือไม่

ขออนุญาตมอบพอยท์แทนคำขอบคุณที่มอบสิ่งดีๆให้กับทุกๆคนนะครับ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

เหน่งบา

12/08/2019 22:23:41
1,866



ผมเชื่อแน่ว่าแทบทุกคนยืนยันว่าแม่ของตัวเองดีที่สุด ทำอาหารอร่อยที่สุด รักเราที่สุด ฯลฯ

ผมเองก็ต้องขอยืนยันด้วยคน

ตั้งแต่จำความได้ ผมเห็นภาพแม่ทำงานไม่มีหยุด เหมือนมดงานที่ไร้เวลาพัก

เป็นมดงานสายพันธุ์ 'No life'

ทำงานอย่างเดียว ไม่มีบันเทิง

เป็น job description ยาวเหยียดเหมือนรางรถไฟ

มิเป็นเพียงแม่บ้านเลี้ยงลูกสิบคน ยังต้องดูแลบ้านช่อง ทำอาหารวันละสามมื้อให้คนสิบกว่าคนกินทุกวัน ช่วงตรุษจีนเพิ่มงานอีกสิบเท่า ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ชุนผ้า รวมไปถึงตัดเสื้อผ้าให้ลูกใส่

นอกจากนี้ยังต้องทำมาค้าขาย ขายของหน้าร้าน เย็บรองเท้าด้วย

ทุกเช้าแม่หิ้วตะกร้าเดินไปตลาด กลับมาพร้อมวัตถุดิบมากมายสำหรับสิบกว่าชีวิต

แม่เรียนไม่จบชั้นประถม แต่พูดได้สิบกว่าภาษา รู้ภาษาจีนทุกแขนง แม้แต่ภาษาใต้ ก็พูดได้คล่องปรื๋อ ผมเองเกิดทางใต้เองแท้ๆ ยังแหลงไม่ได้

เรื่องอาหารก็ถือว่าชั้นหนึ่ง เมนูยาวเหยียด อร่อยระดับมิชลินห้าดาว (ขออนุญาตเว่อร์นิดนึง!)

สาบาน! ในชีวิตนี้ผมไม่เคยเจอใครที่ทำงานหนักขนาดนี้

เวลาได้ยินคนบ่นว่างานหนัก ผมก็คิดในใจว่า เขายังไม่รู้หรอกว่างานหนักเป็นยังไง

ทำงานหนักขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่ร่างกายเสื่อมทรุด และจากโลกไปเร็วกว่าที่สมควร

แม่ไม่เคยบ่นก่นด่าชะตาชีวิต ก้มหน้าทำงานหนักจนลืมตาอ้าปากได้ สิ่งที่แม่ทำส่งผลให้ลูกทุกคนอดทน ทำมาหากิน ไม่บ่นไม่เกี่ยงงานหนัก และได้ดีทุกคน

นี่ก็คือพระคุณแม่ สอนลูกด้วยการกระทำ

หากแม่คนหนึ่งทำได้อย่างนี้ ก็ถือว่าเป็นยอดแม่

นาทีนี้ขอสดุดี 'ยอดแม่' ของทุกๆ คน

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 6

หูทองเหลือง

12/08/2019 22:54:54
2,052
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 3 - เหน่งบา



ภาพวันแม่ในฐานะสมาชิกบอร์ดมั่นคงผู้หัดถ่ายภาพโดยไม่มีการเรียนรู้ทฤษฎีและเป็นผู้นิยมเที่ยวโบราณสถานเนื่องจากอยู่จังหวัดลพบุรี่(สาธยายเยิ่นเย้อชิหัย)
ขอบคุณสำหรับภาพครับคุณเหน่งบา

ได้ดูภาพนี้แล้วยิ่งย้ำเตือนความจริงที่ว่า ไม่ว่าคนหรือสัตว์ แม่ย่อมรักลูกเสมอ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 7

หูทองเหลือง

12/08/2019 23:12:45
2,052
ขอบคุณเฮียมั่นที่มาแจกหูครับ

จริงๆนอกจากเรื่องเพลงที่แม่ร้องแล้ว สิ่งที่ผมอยากแชร์ก็คืออาการเลือดคั่งที่สมองที่เกิดขึ้นกับแม่ตามที่ผมเล่าไปครับ ซึ่งกรณีของแม่ผมจากที่สอบถามกันดู น่าจะเกิดจากก่อนหน้าวันเดินทางไม่กี่วัน ตอนเข้านอนท่านพลาดทำหัวโขกกับเตียง แล้วก็ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เกิดอาการรุนแรงได้ขนาดนี้ ดังนั้นครอบครัวใครที่มีคนสูงอายุ ก็ขอให้ดูแลท่านให้ดีๆนะครับ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบแม่ของผมเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 8

เหน่งบา

13/08/2019 10:31:55
1,866
คุณแม่พี่หูทองเหลืองคงทำบุญมามากครับ อาการเส้นเลือดในสมองฉีกขาด เกิดขึ้นแล้วทิ้งระยะนานขนาดนั้น ส่วนใหญ่กลับมาไม่เท่าเก่า ยกเว้นถึงมือหมอหรือถึงโรง'บาลแล้วได้ฉีดยา(จำชื่อไม่ได้)ภายในสี่ชั่วโมง ถึงมีโอกาสรอดจากอาการอัมพฤกษ์อัมพาตสูงหน่อย นี่ทิ้งระยะนานขนาดนั้น แล้วยังแก้ไขได้  บุญรักษาแท้ๆ

เข้าใจความรู้สึกตอนรอเวลาตอนเดินทางเลยครับว่าทางบ้านจะร้อนรุ่มกลุ้มกังวลกันสักเพียงใด

ถือว่าท่านสะเดาะเคราะห์ไปครับ ยังไงก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี อ่านแล้วยังรู้สึกปิติยินดีไปด้วยเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
"เรียงความเรื่อง "เพลงของแม่""