หูผู้ชายมีประสิทธิภาพต่ำกว่าหูผู้หญิง นับตั้งแต่ทารก
ทารกหญิงจะสามารถแยกเสียงของแม่ตนเองกับผู้หญิงอื่นได้ทันที
แต่ทารกชายจะสับสนถ้าได้ยินเสียงแม่และเสียงหญิงอื่นพร้อมกัน
โตขึ้นมาอีกหน่อย เด็กชายจะมีพัฒนาการพูดที่ช้ากว่าเด็กหญิง
ทั้งนี้เพราะระบบการฟังของเด็กชายมีประสิทธิภาพต่ำกว่า
เมื่อระบบการฟังมีประสิทธิภาพต่ำกว่า การฝึกพูดก็ช้ากว่าด้วย
จึงไม่แปลกที่เด็กชายคุยให้รู้เรื่องสู้เด็กหญิงไม่ได้
หูของผู้ชายไม่สามารถแยกแยะความรู้สึกจากน้ำเสียงได้ดีเท่าเพศหญิง
ทำให้ผู้ชายไม่ค่อยรู้สึกเจ็บใจเท่าไหร่ (รู้ซะ)
เมื่อมีใครมาพูดด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน่

เวลาผู้ชายจะฟังอะไร เขาต้องหยุดกิจกรรมอื่นๆทันที
เขาไม่สามารถฟังพร้อมกับพูดหรืออ่านได้
ไม่เหมือนผู้หญิง เวลาคุยกัน เธอสามารถฟังไปด้วย
และพูดไปด้วยก็ได้ (อย่างออกรสเชียวหละ)
ทั้งนี้เพราะผู้หญิงสามารถใช้สมองส่วนการฟัง
กับสมองส่วนการพูดในเวลาเดียวกันได้ แต่ผู้ชายทำไม่ได้
เพราะฉะนั้น อย่าได้พยายามขัดจังหวะในขณะที่ผู้ชายตั้งใจพูดอยู่เชียว
เขาจะอารมณ์เสีย
เพราะต้องสับสวิสต์สมองส่วนการพูดไปสู่ส่วนการฟังอย่างกระทันหัน
เส้นประสาทที่เชื่อมระหว่างสมองสองส่วนนี้ในผู้ชายมีน้อยกว่าผู้หญิงมากอยู่
เขาจึงประติดประต่อเรื่องไม่ได้ดีเท่าผู้หญิง (นั่นเอง)

เช่นเดียวกับการอ่าน
ขณะที่ผู้ชายอ่านหนังสือ เขาจะปิดสวิสต์ส่วนการฟังลง
ดังนั้นถ้าเราคุยอะไรกับเขาในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
หรือกำลังดูอินเทอร์เน็ตดู แล้วเขาทำเหมือนไม่ได้ยิน
ก็ขอให้เข้าใจเถอะว่าเขาไม่ได้ยินจริงๆ (ไม่ได้ทำเป็นไม่ได้ยินอย่างที่ผู้หญิงคิด)

นอกจากนี้ ผู้หญิงยังสามารถใช้หูได้ดีกว่าผู้ชาย แม้แต่ในยามหลับ
แม่ลูกอ่อนที่นอนหลับท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมในตลาดสด
สามารถตื่นขึ้นมาได้ทันที ถ้าได้ยินเสียงร้องของลูกน้อยเพียงเบาๆ
เพราะในขณะหลับประสาทส่วนการรับฟังของผู้หญิงยังคงทำงานอยู่กว่า 50%
ในขณะที่ผู้ชายทำงานอยู่ไม่ถึง 20%
และผู้หญิงสามารถแยกแยะเสียงประเภทต่างๆที่เข้าสู่หูของเธอได้อย่างน่ามหัศจรรย์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหูของผู้ชายจะสู้หูของผู้หญิงไม่ได้
แต่มีอยู่สองสิ่งที่เหนือกว่าเพศหญิง
สิ่งแรก คือ การจับทิศทางของเสียง
ผู้ชายสามารถบอกได้ทันทีว่าเสียงนั้นมีต้นกำเนิดมาจากทิศใด ในขณะที่ผู้หญิงไม่แน่ใจ

อีกข้อก็คือ ผู้ชายจะสามารถแยกชนิดของเสียงได้เร็วกว่าเพศหญิง
ตัวอย่างเช่น เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆตอนกลางคืน ผู้ชายจะบอกได้ว่าเป็นเสียงของอะไร
ในขณะที่เพศหญิงจะฟังออกมาเหมือนๆกันหมด

เครดิต: นาง พรรณี ชุติวัฒนธาดา, โรงเรียนศรีพฤฒา,