ฟังกับ Tidal Master (MQA) นะครับ

เกือบครอบ  Grado SR225e

ครอบ  ATH M50x


ถ้าเทียบกันระหว่าสองตัวนี้  Grado ให้เสียงดีกว่าทุกด้าน  ดีกว่าแบบสัมผัสได้ง่ายๆเลยด้วย  แต่ATHส่วมใส่สบายกว่า  ข้อดีเรื่องการส่วมใส่อย่าเดียวของ Grado คือ  มันเย็นหูดี  เพราะมันเป็นแบบเปิดระบายอากาศได้ดีมาก

ความคงทน  Grado ชนะ 
เพราะถ้าใครเคยเห็นตัวจริงจะสงสัยว่า  ทำยังไงมันถึงจะพังว่ะ 555
และถึงมันพัง  มันก็ซ่อมง่ายมากเลยครับ  เพราะงานประกอบมันไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลย  ไม่ต้องอาศัยเครื่องจักรชั้นสูงใดๆในการซ่อมแซมเลย  มือคนทำได้สบาย

เกินงบไปเยอะหน่อย  แต่ถ้าสู้ไหวก็อยากให้ลองรับ

เห็นควรด้วย เอ๊ย  เห็นด้วยตามความเห็น2
ไม่มีอะไรบรรยายเพิ่มแล้ว นอกจากจะบอกว่า ให้อดทนจนกว่าจะเบิร์นฟองน้ำเสร็จนะครับ ^ ^

Grado SR225E ผมคงไม่เหมาะเพราะว่ามันเป็นแบบแปะหู ถึงแม้ว่าจะไม่ร้อนแต่ใส่ไปนานๆ คงเจ็บและปวดหูมากๆ ส่วน ATH-M50X ผมอ่านรีวิวมาพอสมควร แต่มันเป็นหูฟัง Monitor ใช่ไหม จะฟังสนุกหรอครับ

แล้วถ้าผมสนใจเป็น Sony MDR-1AM2 พี่คิดว่าไงบ้าง

ปล.ไม่มีโอกาสได้ไปลองของจริง เพราะอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีร้านขายหูฟังพวกนี้เลย

พี่พอจะแนะนำตัวไหนให้ผมเพิ่มเติมได้บ้างครับ ^^

Sony MDR1AM2 ถ้าชอบเบสที่เด่นก็แนะนำครับ น้ำหนักเบามากใส่สบายสุดๆ
M50x โอกาสไม่ถูกใจสูงนะ
ช่วงราคานี้มี HD569 อีกตัวครับ เสียงโทนอุ่น ไม่ล้าหู

ไม่มีอะไรแนะนำเพิ่มครับ ในช่วงราคานี้ ถ้าเอา'เสียง'ดีที่สุดน่าจะเป็นตัวนี้ มันเป็นตัวคุ้มที่สุดตัวหนึ่งของ Grado (ถ้างบถึง)
225e เป็นตัวที่เริ่มจะเป็นสายใหญ่ ฟองน้ำ L cush นั่นคือ ประสิทธิภาพสูงกว่าตัวเล็กกว่า ที่เป็นรุ่นน้องของมันอย่าง 125 นั่นคือ ขับง่ายกว่าด้วยซ้ำ และดุลเสียงสมดุลกว่าครับ

Grado ทุกรุ่นมีลักษณะทางกายภาพที่จะเสื่อมสภาพน้อยมาก ยกเว้นฟองน้ำที่หลายปีเปลี่ยนที ส่วนอื่นมันจะไม่เสื่อมสลายเลยนะครับ หูฟังแบบอื่นพวกที่หุ้มหนังเทียม ไม่ว่าแพ็ด เฮดแบน จะมีการเปื่อยสลายทั้งสิ้น ...ไว้โดนเองแล้วจะเข้าใจครับ

ที่จริง เอาฟังง่ายเบาสบายใส่คล่อง MDR 1 มันก็ฟังติดใจง่ายครับ แต่ถ้าวัดโดยเน้นที่เสียง ผมยังถือหาง 225e นะครับ คือถ้าจะข้ามไปให้เหนือตัวนี้นี่ต้องไปอีกไกลครับ พวกหมื่นกว่าบาท

ตัวเลือกที่สูสีในเชิงคุณภาพ น่าจะเป็น Beyerdynamic ครับ แต่โดยเกณฑ์เฉลี่ย Beyer จะแฟล็ท จริงจังกว่า เสียงกลางคนละสไตล์ แต่จะขับยากกว่านิดนึงนะครับ Gradoจะออกแนวแต่งเติมสีสันที่ถูกหูกว่า และออกโทนสว่าง

เรื่องเจ็บหู ใช้ไปสักพักจะดีขึ้นครับ ลองหาอะไรแข็งๆมาให้หูฟังมันหนีบแทนก็จะลดภาระการเจ็บหูช่วงเบิร์นฟองน้ำไปได้นิดนึงครับ(ถ้าเอาของนิ่มอย่างหมอนมาให้มันหนีบนี่ไม่ได้ผลนะครับ) ถ้าอยู่ตัวแล้วก็ไม่เจ็บครับ (เครดิตภาพพี่หมูหวาน ^ ^)

ผมเคยฟังแต่ MDR-1A (ตัวก่อนM2)นะครับ  ผมว่าเสียงมันยังสู้ M50x ไม่ได้เลยครับ

มีดีหน่อยตรงที่แพดมันใส่สบายมาก  และก็ร้อนมากเช่นกันครับ

ส่วนเรื่อง225eเจ็บหู
ช่วงแรกผมก็เจ็บทรมาณมากครับ  แต่พอก้านมันขยายจนพอดีกับหัวเราแล้ว  ก็เฉยๆครับ  ใส่สบายกว่าพวกครอบหูด้วยเพราะมันไม่ร้อน

Grado มันเป็นหูฟังที่ต้องลองครับ  อธิบายเป็นหน้าๆก็บรรยายคุณงามความดีของเสียงที่ Grado ให้มาได้ไม่ชัดเท่าลองฟังครับ

ลองสังเกตดูนิดนึงก็ได้ครับ  ว่าเสียงมันดีระดับไหน  ทำนักเล่นหูฟังมากรายมากที่ยอมเจ็บหูเพื่อได้ฟังเสียงของมันครับ  หลายคนก็ยอมแพ้ขายต่อไปก่อน  แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ผจญนรกจนได้พบสวรรค์ครับ

สุดท้ายนี้  ถ้าแน่ใจจริงๆแล้วว่าจะไม่เล่น Grado  ผมแนะนำว่า  ถ้ามีโอกาสได้ลองฟัง  อย่าได้ไปขอเค้าลองฟังเด็ดขาดครับ

เพราะผมโดนมาแล้ว ไม่น่าไปลองเลยตรู 55555

ผมว่า Dragonfly Black มันแรงขับมันไม่ค่อยเยอะ อาจจะไม่เหมาะกับหูฟังประเภท Full Size นะครับ แม้นว่า Full size  ที่บอกว่าขับง่ายก็ตาม 

ขอบคุณที่แนะนำครับ เดี๋ยวผมลองไปหาข้อมูล HD 569 ต่อ

ขอบคุณนะครับ อธิบายให้ละเอียดเลย

Beyerdynamic ผมไปอ่านมามันแนว Monitor มากกว่าพวก ATH M Series จริงๆ ครับ ถ้าคนชอบฟังรายละเอียดอาจจะชอบ แต่ผมเน้นฟังสนุกนี่สิ คงต้องขอหาตัวอื่นก่อนอาจถูกแนวที่ฟังกว่า

และสุดท้ายขอถามนิดนึงครับ เบิร์นฟองน้ำคืออะไรหรอ ใช่ทำให้ฟองน้ำมันนิ่มป่าว แหะๆ

พอผมอ่านพี่สองคน พี่ MaxxIE กับ พี่เหน่งบา แล้วใจเริ่มเอนเอียงหรือจะยอมเจ็บหูเพื่อเสียงดี 555
ยาแรงจริงครับ อิอิ

ปล. Dragonfly Black เอา Grado SR225E อยู่ไหมครับ

จริงหรอครับ ผมเพิ่งได้มือสองมาเองกะว่าเอามาขับ Full Size พวกโอห์มไม่สูงมาก

อธิบายเพิ่มที่บอกว่าไม่เหมาะเพราะหูฟัง Full Size มันต้องเปิดดังหรือเร่งวอลุ่มเยอะครับผลที่ตามมาคือแบตของโทรศัพท์มันจะโดนสูบหรือหมดเร็วกว่าปกติครับ และเสียงที่ได้หากเร่งวอลุมเกิน 85 จะเริ่มฟังไม่ค่อยไพเราะแล้วครับ

ถ้าไม่ว้อนท์มาก  และไม่อยากปวดหัวปล่อยขายต่อ 
แนะนำทำใจร่มๆครับ  แล้วหาโอกาสโบกรถไฟฟรีเข้าไปลองฟังที่ร้านเฮียมั่นก่อนครับ

ตอนแรกผมก็มาแนวๆนี้แหละ  
งบ ห้า-หก พัน  
อยากได้หูฟังไว้ดูหนัง  ฟังดนตรีประกอบหนัง

เล็งไว้เยอะมาก  Sony  Sennheiser  M50x  ฯลฯ
Grado นี่ตัดออกยี่ห้อแรกเลยเพราะอ่านแนวเสียงแล้วมันไม่ใช่แนว
แต่หลังจากลองยี่ห้อที่เล็งมาเสร็จแล้ว  มองไปเห็น Grado แล้วนึกขึ้นได้  ไหนๆก็ถ่อตั้งไกลมาร้านเฮียมั่นแล้ว(ผมอยู่อุดร)  ลองฟังเจ้านี่เอาไว้เป็นประสบการณ์สักหน่อยแล้วกัน

พอรู้สึกตัวอีกที  Grado เต็มโต๊ะลองไปหมด  นั่งฟังเทียบวนไปอยู่นั่นแหละ 555
เท่าที่ลองฟัง Grado มา  ผมโดนใจ 225e กับ RS1e Thailand Limited ที่สุด

แต่ว่าสู้ค่าตัวและค่าชุดขับ RS1e ไม่ไหว  มีแค่ 225e ที่พอสู้ไหว เพราะต่อตรงก็แซ่บ
แต่ว่าเอาเงินไปไม่พอ  
ก็เลยได้กลับที่พักตัวเปล่า แต่ในหัวนี่ยังจำเสียง Grado ได้แม่นทุกตัวเลยครับ 555



ปล. วางยา  Grado SR225e  นี่เป็นหูฟังที่ทำให้ผมมองเห็นหน้านักร้องได้  แม้จะได้ยินแค่เสียงครับ  อิอิ
ปล2. วางยาอีกขนาน  ผมชอบเสียง Koss KSC35 พอ ๆ กับ Grado SR225e เลยครับ  ตอนแรกผมว่า Grado ให้เสียงคุ้มค่าคุ้มราคาแล้วนะ เจอ KSC 35 เข้าไปทีเดียวอึ้ง  ฟังไปด่าไปว่า  ราคามึงแค่นี้มึงจะให้เสียงระดับนี้ไม่ได้  ให้เกียรติ Grado กุด้วย  555

เบิร์นฟองน้ำนี่ผมเขียนเล่นเอาฮาเฉยๆครับ ที่จริง คือ ถ้าใช้ไปสักพัก มันจะนิ่มลง และทำให้เจ็บหูน้อยลงเท่านั้น

ไม่ว่าเราอ่านรีวิวมาอย่างไร เข้าใจหรือวาดมโนภาพไว้อย่างไร สุดท้ายต้องลองฟังครับ เพราะมันอาจไม่ตรงกับที่ได้ฟังจริง
อย่างคุณMaxxIE ไม่ได้กะซื้อ Grado เนื่องจากอ่านรีวิวและคิดว่าคงไม่ใช่เป้าหมาย เอาจริงเข้าก็เกมส์พลิก

ผมเองฟังเสียงหรือชอบเสียงหูฟังที่ค่อนข้างคัลเลอร์มาตลอด พอแก่ตัวลง เริ่มรู้สึกว่าอยากฟังเสียงคนร้อง(ย้ำ  เฉพาะเสียงคนร้อง)ที่แฟล็ตมากขึ้น ปรุงแต่งน้อยลง ทำให้หยิบCreative เมพสายฟ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้มาฟังบ่อยขึ้น  และทำให้เริ่มสนใจจะมีหูฟังที่เป็นกลางสักหน่อยไว้ฟังอีกอารมณ์ เวลาต้องการฟังเพลงนานๆ  ก็ลองพิจารณาข้อมูลตรงนี้ และฟังนานๆเพื่อเก็บเกี่ยวประสพการณ์นะครับ  ฟังให้นาน ฟังให้หลากหลายประเภทเพลง

คำว่า ฟูลไซส์ มันแค่บอกประเภท(และขนาด)หูฟังครับ อย่าง 225 นี่ ประสิทธิภาพมันสูงกว่า 125...ประสิทธิภาพนะครับ ไม่นับเรื่องคุณภาพ หมายความว่า ความไวมันสูงกว่า กินกำลังขับกรณีปกติน้อยกว่า คือเร่งเสียงน้อยกว่าแต่ดังกว่า  แต่ถ้าขับหรือรีดคุณภาพให้สุดจะยากกว่า นั่นคือคนละสถานการณ์กับการฟังปกติ

Grado sr225e นี่ผมว่า overall ช่วงต่ำหมื่นเลยครับ แม้ราคามันจะเกินงบไปหน่อยแต่คุ้มค่าแน่นอน โดยเฉพาะการใช้งานในระยะยาว จะรู้เลยว่าเลือกไม่ผิด

แต่ถ้าในงบตอนนี้ลองหา AKG Y50BT มาลองดูครับ ปัจจุบันยังหาได้อยูครับ แนวเสียงก็ overall เหมือนกันฟังสนุก แต่คนละสไตล์กับ grado sr225e

เพิ่งหยิบมาเปลี่ยนแพดเสียงดีเหมือนเดิมครับ 55