รีวิว Sony Discman D-34 อีกหนึ่งในรถถังที่ผมรัก
** ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมคนเดียวนะครับ **
ผมจะเล่าถึงความรู้สึกกับ Discman D-34 ที่มีกับผมกันซักนิดก่อนนะครับ
เมื่อ 15 ปีที่แล้วหรือมากกว่า (ย้อนนานมาก ๆ) ยุคนั้น เป็นยุคที่ CD เข้ามามีบทบาทใน
ตลาดวงการดนตรี ซีดีสมัยก่อน ขายกันแพงสะใจประมาณ 400 กว่าบาท การหาเงิน 400 บาท
ในสมัยนั้น เรียกได้ว่า พอ ๆ กับหาเงิน 1,000 บาทในสมัยนี้เลยทีเดียว
เข้าเรื่องของผมดีกว่า ผมเองเป็นคนชอบอะไรก็ตามที่เป็นพกพา เกมพกพา เครื่องเสียงพกพา ฯลฯ
ผมเป็นคนหนึ่งที่เดินสะพานเหล็กบ่อยมาก ก็ได้มีโอกาสเจอ Discman D-34 ก็สอบถามราคา
คนขายบอกว่า 2,500 บาท (ในสมัยนั้น) ก็แพงสำหรับผมมาก ๆ ซึ่งผมก็ดันมีเงินพอซื้อซะด้วย
แบบว่าคิดไว้แล้วว่ามันต้องประมาณ 3,000 บาท ผมก็ได้มาครับ แบบไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย
ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ จนปัจจุบัน ก็ยังอ่านกระตุก ๆ ไฟก็ไม่ค่อยเข้า เลยเบื่อ ๆ ต้องวางไว้เฉย ๆ
ใจก็ยังคิดจะเอาไปซ่อมที่ศูนย์โซนี่ดีไหม ค่าเปิดเครื่องก็ 500 บาทเข้าไปแล้ว คิด ๆๆ
แต่ก็ยังไม่ได้เอาไปซ่อม คิดว่า หาดูในต่างประเทศดีกว่า เผ่อเจอของดี
ณ ปัจจุบัน เมื่อมีโอกาส โลกกว้างขึ้น ผมก็สามารถหาของได้ ผมก็ไม่รีรอที่จะหา D-34
มาตอบสนองกิเลสในห้วงลึกของผมอีกครั้ง และแล้ว ผมก็ได้มันมา New Old Stock
ได้มาจาก อเมริกา คนขายบอกว่า ของใหม่แน่นอน แต่สภาพกล่อง เน่า (เขาบอกอย่างนี้จริงๆ นะ)
เพราะมันคือของใหม่ เก็บไว้ใน stock จนกล่องเก่าเปื่อยไปหมด
แต่ก็เชื่อที่เขาบอกครับ และบาร์โค๊ดข้างกล่องกับเลขซีเรียลหลังเครื่อง ตรงกันเด๊ะ
ตัวเครื่องก็ใหม่ จับแล้ว รู้สึกได้เลย จริง ๆ นะ T_T ดีใจ
ราคา 90 USD ยังแปะไว้อยู่เลย นี่ขนาด Sale นะเนี่ย
ส่วนเรื่อง 8 ชั่วโมง ใช้ถ่าน AA สี่ก้อนนั้น ผมไม่รู้ว่ามันไปใช้ถ่านพลังเทพจากไหน
ผมซื้อถ่าน AA สีดำ พานาโซนิค จาก เซเว่น มาใส่ เล่นไปได้ 2 ชั่วโมง ค่าแบ็ตกระพริบ
แล้วเครื่องก็ดับแล้ว (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสมัยเมื่อ 17 ปีก่อนนั้น มันมีถ่าน AA เทพอะไร)
ดีนะ ที่ผมมีหม้อแปลง เลยฟังนาน ๆ ได้ ต้องบอกตามจริงครับว่า Discman ที่เป็น 9V
ทุกตัวนั้น ถ้าใช้แบ็ต จะอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงนิด ๆ ก็หมดแล้วครับ (แบ็ตใหม่ ๆ นะ)
และ Discman ส่วนใหญ่นั้น ก็จะเล่นหรืออ่านแผ่นแท้เป็นหลักเลย
สำหรับแผ่น CD-R หรือแผ่นไรท์นั้น ต้องไรท์ที่ความเร็ว 4X หรือต่ำกว่าถึงจะอ่านได้
ถ้าเกินกว่านี้ จะมีน้อยรุ่นที่อ่านได้ครับ อย่างเจ้า D-34 ตัวนี้ ถ้าเกิน 4X ไม่อ่านเลยละ
แต่สำหรับ D-25 อ่านได้ถึง 10X เลยทีเดียว (ตัว D-25 ผมจะมารีวิวให้อ่านแน่ ๆ)
เอาละ แกะกล่องดูกันดีกว่า แกะเบา ๆ นะ กล่องเปื่อยแล้ว T_T 1992 - 2010 กว่า 18 ปี
เปิดกล่องมาก็เจออุปกรณ์อย่างในภาพ
ทุกอย่างใหม่จริง ผมดูตัวเครื่องทั้งสปริงใส่ถ่าน น็อตหลังเครื่อง ไม่มีการถูกไขมาจริง ๆ
ไม่มีสนิม พอใจจริง ๆ ส่วนหูฟังนั้น ฟองน้ำ เปื่อยเลยครับ ผมเลยเอาออก
หูที่เขาแถมมาแถมของ Aiwa มาให้ คนขายเขาใช้คำว่า Upgrade Headset นะ
ซึ่งผมก็ไม่ได้ฟังอยู่แล้วหูลักษณะนี้ (ยังไม่ได้เทสเลย เสียงออกหรือเปล่า T_T)
ผมชอบนะ เสียงโดยรวมของ Discman D-34 แม้จะปรับเพิ่ม Bass ได้ ผมก็จะไม่ปรับ
เรียกได้ว่าฟังกันแบบ Flat ก็เพียงพอกับเสียง Bass ที่ให้แล้วละครับ
ผมสรุปเรื่องเสียงของ Discman D-34 แบบสั้น ๆ ว่า ครบถ้วน ละกันครับ
อยากได้ฟังอะไรก็ได้ ทำนองนั้นน่ะครับ
ผมจะฟังกับหูฟัง earbud น่ะครับ
เร็ว ๆ นี้จะถอย headphone เหมือนกันนะ ได้อุดหนุนเฮียมั่นแหง ๆ
นี่คือหน้าตาของรถถัง Sony Discman D-34
การได้จับของใหม่ กับจับของเก่า มันต่างกันจริง ๆ ครับ เหมือนอุปทานเลยนะ
เพราะผมมีตัวเก่ากึกรุ่นเดียวกันอยู่ให้เปรียบเทียบนั่นเอง
ฝาเปิดด้านบนเป็นพลาสติก ABS
สวนที่เหลือ (เครื่องด้านล่าง) ทำจากเหล็กครับ
จึงทำให้ D-34 หนักในระดับนึงเลยทีเดียวเชียว
ดูกันหลาย ๆ มุม จะสังเกตุได้ว่า ปุ่มการใช้งานนั้น ออกแบบมาให้ใช้ได้ง่าย
ปุ่ม Play จะเน้นใหญ่กว่าเพื่อน ส่วนฟังก์ชั่นต่าง ๆ ก็มีให้ใช้พอสมควรเช่น
Repeat, บันทึกล็อคเล่นเฉพาะเพลงที่อยากฟัง
กด Play เล่นสบาย อ่านลื่น ไม่มีกระตุกเลย T_T ดีใจจริง ๆ
เพราะรู้ ๆ กันว่า การซื้อของไทม์แมชชีนแบบนี้ มีอะไรต้องลุ้นเยอะมาก
เมื่อเปิดฝาเครื่องมาก็จะเห็นแบบนี้
ที่ใส่แผ่น CD และก็ช่องใส่แบ็ต AA สี่ก้อน หาซื้อได้ง่าย
อ่ะเปิดช่องใส่แบ็ตให้ดูครับ
ตัวสปริงในช่องรังถ่านใหม่กริ๊บ ๆ ไม่มีสนิมเลย
กินพลังงานมาก ๆ เลยครับ ถ่าน AA 4 ก้อนใช้ได้ 2 ชั่วโมง
และคำว่า Discman คือ อย่าพาฉันเดินนะ ฮ่าๆๆ
เพราะปัจจุบันจะมี Sony CD Walkman ก็แปลว่า พาฉันเดินได้เลยจ้า
Discman เหมาะกับการนั่งฟังเพลิน ๆ ในห้อง ในบ้าน หรือต่อ line out เข้าแอมป์ออกลำโพง
คนอาจจะพูดว่า แล้วทำไมไม่เล่น CD แยกชิ้นกันไปเลยละ ต้องขอบอกว่าสมัยเกือบยี่สิบปีก่อน
CD แยกชิ้นนั้น แพงมาก ๆ ครับ และก็มีให้เลือกซื้อน้อยรุ่น น้อยยี่ห้อครับ
อย่างว่าครับ อุปกรณ์เครื่องเล่นแบบนี้ เป็นอุปกรณ์คาบเกี่ยวของเวลาครับ
มาดูปุ่มกดหน้าเครื่องกันบ้าง
ปุ่มปรับ Vol. ก็ปรับได้ตั้งแต่ 1 - 10 ครับ ซึ่ง ฟังกันแค่ 2 - 3 ในห้องนอน (ใส่หูฟัง)
ก็ดังแล้วครับ ใครฟังกับหูฟังแล้วฟัง 4 - 6 ละก็ แปลว่า หูท่านเริ่มไปแล้วแน่นอน
มันขับเสียงได้เต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวนะครับ Discman เนี่ย พวก chip สมัยก่อนกินไฟเยอะ
แต่ก็ให้กำลังขับที่หมดจด ถัดไปก็จะเห็นปุ่มปรับ Bass มี 3 ระดับ และก็ปุ่ม Hold
มาดูด้านข้างเครื่องกันบ้างครับ
ก็จะเจอรูแจ๊ก 3.5 มาตรฐานครับ
ส่วนด้านหลังเครื่องก็จะแปะสติ๊กเกอร์ (แบบลอกยากมาก) เอาไว้
งาน Made in japan เป็นอะไรที่บ่งบอกถึงความแจ่ม
และก็มีแปะ Cer ว่า ผลิตล็อต กรกฎาคม 1992
สำหรับช่อง Line out และ AC adaptor ก็ต้องมีแน่นอนครับ
ใช้สาย mini ดี ๆ เสียงผ่าน line out นี่ก็ไม่ขี้เหร่เลย ผมว่าเสียงดีด้วยซ้ำ
ใช้ไฟ 9V หม้อแปลงแบบ บวกในลบนอก ซึ่งจะแตกต่างกับ D-20 , D-25
ขั้วแบบ บวกในลบนอกนั้น ปัจจุบันพวกเครื่องเล่นต่าง ๆ ก็ใช้ขั้วแบบนี้
ยกตัวอย่าง เครื่องเกม PSP ผมก็ได้ลองเอาหม้อแปลง PSP ซึ่งมัน 5V มาเสียบ
ก็เล่นได้นะ แต่ก็ไม่ควรทำนะ เพราะไฟมันไม่ถึง แต่ผมแค่ลองให้รู้เท่านั้น
นี่คือ spec คร่าว ๆ ครับ ของ D-34
D-A conversion :
1 bit quartz time axis cotrol
Frequency response:
20 - 20,000 Hz +1.5, -2.5 dB
Line output (stereo minijack) :
Output level 0.54 V rms at 47 kilohms
Load impedance over 10 kilohms
Headphones (Stereo minijack)
5mW + 5mW at 16 ohms
Dimension (w/h/d) : 137 x 35 x 155.3 mm
weight : 410 g (ไม่รวมแบ็ต)
มาถึงตรงนี้ ต้องขอยอมรับว่า ผมถูกใจเครื่องเล่นแบบนี้จริง ๆ สำหรับผมแล้ว
มันมีสเน่ห์มาก ๆ ทั้ง Minidisc และ Discman (CD walkman ผมก็มีเครื่องนึง)
ยิ่งการได้มาแบบยกกล่อง (แง้ กล่องเน่า)
และยังเป็น New old stock ทำนองนี้ เท่าไหร่ผมก็จ่าย
เพราะในอดีต ผมไม่มีเงินที่จะซื้อเลย เก็บสะสมกันแบบหลายเดือนกว่าจะได้เงินซื้อ
ทั้งหมดมันก็เกิดจากความชอบ ความรู้สึกครับ ผมไม่เคยคิดจะมาปั่นกระแสใด ๆ นะ
ให้ใครต้องหาเครื่องแบบนี้มาเล่นน่ะ ของมันมีดีในตัว ผมไม่จำเป็นต้องไปปั่น
บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ เรื่องแบบนี้บังคับไม่ได้ แต่ผมดันชอบมากเลยซื้อ
ผมมีความสุขที่ได้ฟัง มีความสุขที่ได้ซื้อ
มีความสุขในการหาแผ่น CD เพลงเพราะๆ ถูกใจ
สำหรับผมแล้วมันเป็นความสุขที่รู้สึกและสัมผัสได้จริง ๆ (อินจริงๆ นะเนี่ย)
ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ซื้อเครื่องใหม่ ๆ มาเล่น
เอาละครับขอจบการรีวิวครั้งแรกบนเว็บเฮียมั่นคงแต่เพียงเท่านี้นะครับ
จริง ๆ มันก็ไม่เหมือนกับรีวิวเท่าไหร่เนอะประมาณ เล่าๆ บ่น ๆ มากกว่าครับ
ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ (รักคนอ่าน)
สันติ