225e เลยครับ นอกจากโฟกัสเครื่องดนตรีที่แจ่มแล้ว
 
เสียงนักร้องยังอิ่มและเป็นตัวเป็นตนดีด้วยรับ แต่เสียงนักร้องจะออกกร้านๆซักหน่อยนะครับ แต่ผมชอบนะ มันฟังดิบๆดี

M50x จะออกแนวฟังออกว่าเออ  อันนี้เสียงกีต้าร์น่ะ  อันนี้เสียงกลองนะ

แต่ SR225e นี่ได้ยินระดับที่ว่า อย่าเรียกว่าฟังออกเลยครับ เรียกว่าแทบจะมองเห็นเลยด้วยซ้ำ มันมีความสมจริงมากกว่าแค่แยกออกครับ ถ้าอยู่ห้องเงียบๆนะ จะได้ยินพวกไมโครดีเทลอย่างพวกเสียงสายกีต้าร์สั่น หน้ากลองสั่น ด้วยซ้ำไปครับ  และที่ชัดไม่แพ้เสียงเครื่องดนตรี ก็เสียงนักร้อง เสียงลมหายใจกลืนน้ำลาย มาเต็มครับ จะบอกว่าอย่างกับมาร้องอยู่ตรงหน้าก็ไม่ถือว่าเวอร์ไปครับ

พวกแนวเสียงความบาลานซ์ของเสียงย่านต่างๆ ผมให้สองตัวนี้เสมอกันครับ แต่ความสมจริงของเสียงผมให้ 225e ชนะขาดลอยครับ

ส่วนเรื่องกันเสียง หูแบบเปิดยี่ห้อไหนมันก็ไม่กันเสียงทั้งนั้นแหละครับ แต่มันก็มีสิ่งตอบแทนกลับมาด้วยความโปร่งโล่งของเสียงครับ  เคยฟังเพลงเมทัลที่มันเล่นเครื่องดนตรีผสมปนกันมั่วไปหมดมั้ยครับ  นั่นแหละครับ Grado มันสามารถระเบิดช่องไฟระหว่างเครื่องดนตรีต่างๆให้แยกออกจากกันได้  เป็นหูฟังที่ทำให้ผมจากที่ไม่เคยชอบเพลงเมทัลเลย หันมาฟังเมทัลได้ครับ

ข้อเสียของ 225e คือถ้าเอาไปฟังพวกวงออเครสตร้า ถ้าเจอจังหวะที่เครื่องดนตรีประสานกันหลายๆสิบชิ้น มันเอาไม่อยู่ครับ  แต่ก็นะ M50x มันก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน  และ เบส225e มันจะมาไม่เป็นลูกชัดเท่าไหร่  มาแนวโอบล้อมมากกว่า  ถ้าอยากได้ลูกชัดๆ ต้องขยับไปเลน PS500e ชัดยังกับโดนยิงด้วยกระสุนเบส

เขียนมาตั้งยาว  สรุป ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องใช้หูฟังแบบเปิด ถอย 225e มาเถอะครับ  แล้วจะรู้ว่าทำไมเฮียมั่นแกถึงยกให้ยี่ห้อนี้เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน