ตามที่ผมเข้าใจนะครับ
คาดว่าที่ปริมาณและคุณภาพของเบสที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการ “seal” ของเสียงครับ เนื่องจากเวลาที่ตัว driver ของหูฟังเวลาสร้างเสียงออกมาให้เราฟังเนี่ยตัว driver จะต้องขยับไปแทนที่อากาศเพื่อให้เกิดความถี่มายังแก้วหูเราครับ หูฟัง In-ear นั้นจะมีพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้น้อยกว่าจึงทำให้วามถี่ที่ส่งมาที่แก้วหูของเรานั้นไม่เล็ดลอดออกนอกหูเราครับ สิ่งที่เกิดขึ้นคือทำให้แก้วหูเราขยับได้มากขึ้นและแม่นยำขึ้นจึงเป็นเหตุผลว่าเราจึงได้ยินเสียงเบสที่มีปริมาณและคุณภาพที่ดีขึ้นครับ

เบสแท้ แพ้ระยะทาง ครับ

ตาม คห บนเลยครับ

เบสฟูลไซส์ มันพุ่งมากระแทกทั้งใบหู เข้ารูหูแค่ไม่กี่%

แต่อินเอียร์ มันอัดทั้ง100% เข้ามาตรงๆที่รูหูเลยครับ เบสมันเลยสูญเสียไปน้อยกว่า
เบสมันเลยกระแทกขี้หู(แก้วหู)ได้สะใจกว่าครับ

แต่ผมชอบฟูลไซส์ตรงที่เบสมัน นวดนัวทั้งใบหูดีกว่าอินเอียร์นะครับ มันได้อิมเมจเบสที่ใหญ่สมจริงดี ไม่ใหญ่แบบพยายามยัดแบบอินเอียร์

inear จะได้เปรียบเรื่องการซีลเสียงที่สนิทกว่าเเละตัว driver นั้นก็อยู่เเนบใกล้กับหูมากกว่าดังนั้นปริมาณเบสที่ได้เรียกได้ว่ามาแบบเต็มๆเลยครับ   

ส่วน Fullsize นั้น Driver จะอยู่ห่างออกไปปริมาณเบสนั้นอาจจะดูน้อยกว่าครับ  เเต่เบสที่ได้จาก full size ก็จะมี image ที่ใหญ่กว่าและให้แรงสั่นสะเทือนที่ดีกว่าครับ ซึ่งก็จะมีข้อดีที่เเตกต่างกันระหว่าหูฟังทั้งสองชนิดครับ

ตอนนี้ใครอยากได้ in ear แบบแนวเสียง WG12 แต่เบสซอฟลงมาหน่อย แต่ฟังเพลง ช้า เพลง บรรเลง ดีกว่า WG12 ผมว่า ier z1r เป็นคำตอบที่ลงตัวมากๆ

ขอบคุณทุกๆความเห็นเลยครับ คลายข้อสงสัยล่ะครับ 

สูตรความเข้มเสียง I = P/(4*Pi*(r^2))
กำลังเสียง หารด้วย  รัศมี r (ระยะทาง) ยกกำลังสอง คูณด้วย 4pi
จะเห็นว่าระยะทาง มีผลมาก