Totem ซีรีนี้แนวสมจริงครับเหมาะสำหรับคนที่เล่นจริงจังเครื่องต้องถึงโดยเฉพาะแอมป์ต้องเอามันอยู่ ถ้าจะเอาเสียงสุดๆจากมันทั้งชุดแพงกว่าลำโพงแน่ๆครับ ผมเคยฟังแต่รุ่นเก่าพวก model one เดาว่ารุ่นน้องมันก็คงมาทางเดียวกันครับ (เชื้อไม่ทิ้งแถว)

ส่วน P3ESR ตัวนี้จะแนวเสียงผ่อนคลายกว่าฟังง่ายเล่นง่ายกว่าครับ เหมาะกับดนตรีน้อยชิ้นหรือเพลงที่เน้นสียงร้องครับ ไม่เหมาะกับแนวเพลงหนักๆ แอมป์ที่เหมาะสมกับมันไม่ต้องมีกำลังสูงมากก็ให้เสียงได้น่าพอใจครับ เท่าที่เคยฟังส่วนตัวผมว่าต้องเป็นแอมป์หลอดจะเข้าทางที่สุดครับ 

แอมป์ Luxman ผมเคยฟังรุ่นเก่าๆอย่าง A383 เสียงหวานใสฟังไปก็คล้ายๆหลอดเหมือนกันครับ ฟังเพลงหนักๆไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ moon ก็ออกแนวใสเหมือนกันแต่เป็น Audiophile มากกว่าครับ

ความเห็นส่วนตัวนะครับถ้าอยากจบง่าย P3ESR เล่นง่ายกว่าเยอะครับ ถ้าห้องไม่ใหญ่มากเปิดเป็นแบล็กกราวด์มิวสิคสบายเลยครับ แอมป์ 2 ตัวที่ว่าผมให้น้ำหนักไปเข้าทาง P3ESR มากกว่าทังกำลังขับและแนวเสียงครับ โดยเฉพาะ Luxman น่าจะฟังแล้วหวานหยาดเยิ้มเลย ทั้งหมดเป็นความคาดเดาของผมยังไงลองไปฟังด้วยตัวเองดีที่สุดครับ

ฮาเป็ด น่าจะขับง่ายกว่า โทเท็ม ถ้ามีแอมป์เสียงใกล้เคียงหลอด ไป ฮาเป็ด น่าจะดีกว่า

ผมเคยมี Totem Model 1 แต่เป็น Single wire และ Rainmaker ครับ ปกติแล้ว Totem ขับยากทุกตัว แอมป์วัตต์ต่ำขับไม่ค่อยได้ คือถ้าแอมป์กำลังน้อยไป อาจจะได้ยินแต่กลางแหลมที่จัดจ้าน และเบสต่ำไม่ค่อยออก แต่ถ้าได้แอมป์ใหญ่ผมว่ามันดีมากๆครับ รายละเอียดระยิบระยับสมจริงครับ

ส่วน harbeth เคยฟังผ่านๆ กลมกล่อมดีครับ แต่ผมว่า Totem น่าเล่นกว่าครับ^^

เฮียเชียร์ให้เล่นของสูงเลยนะครับ 55555

555 ผมไม่ทราบราคา Harbeth ครับ แต่เดาว่ามือสองราคาไม่น่าจะหนีจาก 1Sig ครับ

ลำโพง Totem นั้นยังไงก็ต้องขอมีให้ได้ซักครั้งในชีวิตครับ ไม่งั้นมันนอนไม่หลับจริงๆๆ 555

ผมเห็น น้า Vince Bruzzese แกเอา Signature 1 ไปจัดเซ็ทโชว์ในงาน CES 
เล่นกับ int moon ตัวล่าสุดที่มี dac ในตัว 240i กำลังขับแค่ 50w เองครับ เลยคิดว่า
น่าจะเอาอยู่ หรือ ตัวออกแบบใหม่ กินวัตต์น้อยลงแล้ว

ถ้าเป็น int luxman ก็คงเป็นตัว 505 100w แต่ตัวนี้ ต้องหา dac แยก เอา(เปลือง)



https://www.youtube.com/watch?v=LPVzhiPqlw8

แถม คลิป ป้ายยา ตัว Signature 1หน่อย
น้า Vince จัดเองเลย 



https://www.youtube.com/watch?v=p1hAxMVpFQ8

ถ้าพร้อมจะเรื่องมากสุดๆ ทั้งชุดทั้งห้อง ไป Totem ครับ  นั่นหมายถึงว่า พร้อมจะสนุกกับการเป็นออดิโอเต็มตัว ไม่งั้นไม่ได้เสียงเท่าที่ศักยภาพอันสูงของมันจะทำได้ แน่นอนว่าถ้าพร้อมเล่นก็ไปได้ไกลมาก

ไม่งั้นฮาเบ็ธจะจบง่ายกว่าครับ แนวเพลงที่ฟังกับแอมป์ที่ว่ามาก็พอได้

หากเป็นแค่ Music Lover อยากได้ชุดฟังเสียงดี ฟังง่าย ไม่จุกจิก ทั้งชุด, ห้อง, ตำแหน่งการตั้ง = ฮาเบ็ด
แต่หาก เป็น  หรืออยากเป็น Audiophile เต็มตัว สนุกกับการเลื่อน ลำโพง ทีละนิ้ว เพื่อหาจุดที่เสียงดีที่สุด + มีงบจะขยับชุด (amp, source, สาย) = โทเท็ม

แต่จากชุดที่เห็น อยากให้ลอง ฮาเบ็ด ก่อน
พอวิชามีพอตัว ค่อยข้ามไป โทเท็ม คับ 

แอมป์ Moon ผมก็เคยมีครับ พอจะขับ Totem Model One ได้พอกล้อมแกล้ม คือถ้าห้องไม่ใหญ่มาก ก็พอไปไหว แต่ตอนนั้นของผมเป็น single wire ขับง่ายกว่า Bi Wire แยะครับ  ถ้าแอมป์เล็กจนเกินไป ไม่แนะนำครับ 555 และจะให้เสียงดีที่สุด เรื่องเซ็ทอัพลำโพงในห้องที่เหมาะสมกันอันนี้ก็สำคัญครับ

Totem เหมือนม้าพยศ ท้าทายให้ขี่ มีอะไรให้ค้นหาเยอะกว่าครับ 555

(แต่ตกม้าก็หลายคน รวมทั้งผม 555)

ความเห็นส่วนตัว
ถ้าเป็นผม จะเล่น Totem ไหม ผมพุ่งคำถามไปที่นี่เลยครับ..ห้อง
ถ้ามีห้องที่พร้อมจะปรับแต่งอคูสติคพอสมควร (ต้องมีงบแน่ แต่ ไม่ต้องรีบ ไว้ในอนาคตได้) ผมถึงจะเอาครับ
ไม่งั้นทุ่มเทลงชุดไปเท่าไหร่ ก็หายไปเยอะ เพราะห้องมันไม่ได้
อันนี้ไม่นับเวลา และความพยายามที่ต้องใช้่ในการเซ็ทอัพนะครับ  คือ ต้องมีห้องก่อน แล้วค่อยๆเล่นไปเรื่อยได้ ไม่ต้องใจร้อน
แต่ถ้่าไม่มีห้องเป็นกิจจะลักษณะ  ต้องลองชั่งใจดีๆก่อนครับ

ที่จริงมันเป็นเรื่องปกติของลำโพงที่อยู่ในระดับสูงแทบทุกรุ่นนะครับ ไม่เจาะจงเฉพาะTotem
และย้ำว่าเป็นความเห็นส่วนตัว คือผมเคยเห็นบางท่านเล่นเครื่องระดับไฮเอนด์ แต่...ห้องไม่มีการปรับแต่งเลย ไม่มีการเซ็ทอัพเลย เห็นแล้วก็เหนื่อยครับ...กระแดะใช้ศัพท์สูงว่า สะท้อนใจน่าจะใช่กว่า... เพราะที่ได้ยิน มันไม่ได้แม้แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นของเสียงที่มันให้ได้
แต่ก็เป็นความพอใจส่วนตัวครับ คนจ่ายเงิน แฮปปี้ที่ได้ครอบครอง เสียงไม่ได้เต็มร้อย(แต่หายไปเยอะมากกกกกกก)ทว่าเขาพอใจ ก็จบ

คลิปออกงานที่เอามานั้นแค่เน้นขายของร่วมกันครับ
moon คุม Totem ไม่อยู่ เสียงแย่มากครับ