1. ควรเบินในช่วงความถี่ที่ฟังคือ 20-20kHz แต่นั้นก็พอ
2. ใช้เพลงหลากหลายแนว ไฟล์แบบใหนก็ได้เพราะสุดท้ายมันก็ถูกแปลงเป็นสัญญาณอนาล็อกแล้วส่งไปที่หูฟังเหมือนกันอยู่ดี สมัยก่อนเบินเครื่องเสียงเค้าเปิด FM เลยด้วยซ้ำ
3. มันก็แค่อุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อให้วิธีของตัวเองมันดูเทห์
4. ไม่ทราบ แต่ถ้าเลือกได้ก็เอาวิธีแบบคนปกติเค้าทำดีกว่า
5. เหมือนกันทุกอย่าง 
6. ไม่มีหรอกที่เบินแล้วเสียงแย่ลง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงหูฟังตัวนั้น QC มันคงห่วยสุดๆ และคงขายไม่ออกเพราะยิ่งเบินเสียงยิ่งแย่

สำหรับผม ฟังไปเรื่อยๆครับ ถ้าเพราะอยู่แล้ว เว้นแต่รับไม่ได้ก็เปิดทิ้งเอาไว้ได้ครับ ใช้เพลงหลากหลายครบทุกย่านเสียง
โดยทั่วๆไปก็ >100 ช.ม. ครับ เสียงมาตามที่หูฟังให้ได้ ไม่ต้องหวังว่าจะแปลงร่างใดๆด้านเสียง ด้วยไฟล์หรือความถี่พิศดาลครับ
ให้มีความสุขกับการฟังครับ ถ้าเสียงไม่ใช่แน่ๆ เปลี่ยนหูฟังได้ผลดีที่สุด ดีกว่าลงทุนปรับจูนใดๆ
เว้นกรณีปรับจูนหูตัวเองครับ ไม่เสียเงิน 555

1.การเบิร์นหูฟังด้วยคลื่นความถี่สูง มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรครับ

***มีข้อเสียมากกว่าข้อดี คือความถี่สูงเกินกว่าย่านที่คนฟังได้ยิน มักเป็นความถี่ที่ไม่จำเป็นและอาจจะทำอันตรายต่อไดรเวอร์ได้ครับ(ความถี่ต่ำเกินไปก็เช่นกันครับ)

2.การเบิร์นหูฟังด้วยการเปิดเพลงที่เราชอบวนไปตามปกติ ต้องใช้ไฟล์คุณภาพสูงเท่านั้นใช่หรือไม่
(เพลงส่วนใหญ่ในเครื่องผม จะเป็นพวกไฟล์ aac bitrate 263kbps ที่ดึงมาจากจาก itune กับพวก mp3 320 , 192 , 128 kbps ครับ) สามารถใช้ไฟล์คุณภาพปานกลางแทนได้เปล่าครับ

***จริงๆใช้เท่าที่ตัวเองมีทดแทนก่อนได้ครับ แต่ถ้ามีไฟล์เพลงที่บิทเรทสูง ควรเลือกมาใช้ก่อน ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลครับ เพราะจากเท่าที่ลองมาได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกันนักครับ

3.การเบิร์นแบบปกติต่างกับการเบิร์นด้วยวิธีใช้คลื่นความถี่สูงอย่างไรครับ

***ต่างตรงที่ปลอดภัยกว่าครับ เพราะความถี่สูงเกินไปนั้น ให้ความถี่ที่เกินกว่าไดรเวอร์จะรับได้ ซึ่งทำให้ภาคขยายเกิดอาการคลิปปิ้ง (clipping) แล้วเกิดความเพี้ยนที่ป้อนความร้อนไปสู่วอยซ์คอยส์ได้ แต่โดยความเป็นจริงแล้ว ความถี่ต่างๆที่เราได้ยินอยู่นั้น ถูกกรองโดยภาคขยายไปแล้วรอบหนึ่งเพื่อไม่ให้สูงเกินความจำเป็นครับ

4.จริงหรือเปล่าครับว่า ถ้าเบิร์นโดยใช้คลื่นความถี่สูงจะทำให้หูฟังพังเร็วขึ้น

***ความถี่ที่สูงจริงๆก็จะเกินหูมนุษย์ได้ยิน ก็ไม่สามารถบันทึกลงได้เช่นกัน แต่ความถี่สูงที่สูงระดับ 8000-10000Hz ถ้าเปิดต่อเนื่องเป็นเวลานานๆผมว่าทำให้เสียได้ ทั้งนี้ผมเองก็ยังไม่เคยทดลองทำเช่นนั้นซักที เพราะไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไรครับ

5.หากผมไม่ต้องการเบิร์น แบบเปิดกล่องมาก็จับฟังเลย เป็นการเบิร์นแบบที่เราฟังไปเรื่อยๆ ดูพัฒนาการของหูฟังไปเรื่อยๆ แบบนี้ เสียงที่ได้จะต่างกับการเบิร์นปกติ และ แบบที่ใช้คลื่นความถี่สูงอย่างไรครับ

***จริงๆผมว่าดีกว่าครับ การฟังไปและถือว่าเบิร์นไปในตัว เป็นการฝึกทักษะการฟังความเปลี่ยนแปลงของเสียงไปในตัว ความสนุกของการเล่นหูฟังก็คือการฟังครับ ไม่ใช่การป้อนคลื่นเสียงที่เราไม่ฟังเข้าไป โดยเชื่อว่าป้อนความถี่สูงๆแล้วจะทำให้เสียงหลังเบิร์นดีขึ้น อันนี้ไม่จริงเลยครับ

6.ถ้าหากว่าเบิร์นแล้วเสียงแย่ลงหรือไม่ได้ตามที่เราต้องการ เราสามารถเบิร์นแก้ได้ใช่หรือไม่ครับ

***อย่าเชื่อเรื่องการเบิร์นที่ผิดแล้วเสียงแย่ลง หรืออย่าเชื่อว่าการเบิร์นที่ผิดวิธีจากที่ใครกำหนดหลักการพิลึกๆออกมาแล้วจะทำให้หูฟังนั้นสูญเสียคุณภาพ และไม่มีการแก้เบิร์น หรือแก้กรรมแต่อย่างใดเกี่ยวกับหูฟังครับ หูฟังมันดีที่สุดได้เท่าไหร่ หลังเบิร์นคือช่วยให้มันดีได้ที่สุดของมันเท่านั้นครับ ไม่มีดีไปกว่าหรือดียิ่งขึ้นไปอีกมากมาย นอกจากเราจะไปดัดแปลงโครงสร้างของไดรเวอร์มัน อันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ

ขอบคุณทุกๆท่านที่มาตอบครับ อาจจะถามมากไปสักหน่อย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
เพิ่งหัดเล่นหูฟังความรู้และประสบการณ์ยังมีไม่มากนัก ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ^^

ยินดีครับ มีสิ่งใดถามมาได้เลยครับ จะถามเรื่องการเบิร์นกี่ครั้งผมก็ยังตอบได้ไม่เบื่อ และก็ตอบเหมือนเดิมทุกๆครั้ง และพิมพ์ให้อ่านใหม่แบบไม่ก๊อปหรือวางลิงค์ให้แน่นอนครับ เพราะผมก็พยายามให้ทุกคนที่อ่านรู้สึกว่าผมตั้งใจเล่าให้ฟังจริงๆครับ^^

โห เฮียมั่นคงมาตอบเองเลย ขอบคุณมากๆครับ <3 และขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาตอบให้มาเป็นความรู้ด้วยครับ :)

ผมว่าเฮียทำบทความเรื่องการเบิร์นแล้วปักหมุดไว้ให้อ่านเลยก็ดีครับ
เอาแบบสาระล้วนๆ เนื้อเยอะๆ น้ำพอมีบ้างให้มันชุ่มชื้นก็พอครับ อย่าเยอะเกินเดี๋ยวคนอ่านเบื่อความยาวของบทความไปก่อน


ปล.นอกเรื่องนิด เฮียทำตัวอักษรสีอื่นยังไงอ่ะ

มาอ่านคำตอบเฮียมั่น ชัดเจนเลยสำหรับมือใหม่แบบผม คงไม่เบิร์นหูฟังแล้ว ฟังไปเรื่อยๆ ดูพัฒนาการของเสียงที่ได้ยินจากหูฟังไปเรื่อยๆแทนดูดีกว่าครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ถามปัญหาที่ผมสงสัยพอดี กับ เฮียมั่นสำหรับคำตอบด้วยนะครับ