Balanced Amp แอมที่เทพๆ จูนมาให้บาลานซ์ ซึ่งจะต่างจากเว่อชั่นธรรมดาหรือเปล่า มั่วครับ 555 เพราะเคยเห็นแอมรุ่นเดียวกันเว่อชันบาลานซ์จะแพงกว่า เว่อชั่นธรรมดาเยอะเลย

เออ จริงซิแฮะต่อ จะอธิบายยังไงดีหว่า 555 เดี๋ยวขอไปค้นคำตอบที่มันจะๆๆ มาให้ก่อนเน้อ 55

ผมเคยถามคุณหมูหวาน ได้คำตอบว่าคือสายที่มันมีสามเขี้ยวน่ะครับ แค่นี้เองครับ

คับคุณตูนเรื่องแพงผมก้อเห็นด้วยครับ

เฮียครับ ตอนแรกกะว่ามันไม่มีอะไรมากลองอ่านไปอ่านมา ชักเยอะแล้วคับ

ตอนนี้ งงเต็กเลยจ้า

พี่หมอครับ แล้วมันเทพกว่า แอมป์ปกติยังไงอ้ะคับ

ผมก็ไม่ทราบครับ ยังไม่ได้ค้นอ่านจริงจัง คงต้องรอเซียนมาตอบล่ะครับ ผมรู้เท่าที่คุณหมูหวานบอกแค่นันเองจริง ๆ ครับ

จุดประสงค์ของ balance คือ ทำให้สัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นระหว่างเส้นทางเดินของสัญญาณ ถูกกำจัด โดยการสร้างสัญญาณให้มา balance (หักล้าง) กับสัญญาณรบกวนนั้น
เช่น ในสายสัญญาณระหว่าง Source ถึง Amp อาจมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารอบๆ มาทำให้เกิดสัญญาณรบกวน ทำให้สัญญาณที่ไปถึง amp ต่างจากที่ส่งมาจาก source เมื่อใช้ สาย balance (system ต้องเป็น balance ด้วยนะครับ) ก็จะทำให้มั่นใจได้ว่า สัญญาณที่ amp ได้รับ เป็นเหมือนกับที่ส่งมาจาก source

^
^
เก็ตเลย ขอบคุณครับ

ดีครับ มีสาระ

โอ้ว เห็นภาพเหมือนเต้ครับ

ทีนี้ มันแตกต่างกับแอมป์ปกติมากขนาดไหนครับ

เหมือนที่คุณหมอพูด กับ ท่าน dwsmnn พูดน่ะครับ เอามารวมกัน

คือมันเป็นขั่วต่อชนิดนึง ทำนอง RCA HDMI อะไรประมาณนี้น่ะครับ

แต่แบบ Balanced รู้สึกมันจะมีสามเขี่ยวน่ะครับ จุดประสงค์ก็แบบที่คุณ dwsmnn บอกน่ะครับ

ห้องมิก ก็ใช้แบบนี้น่ะครับ

อีกอย่างน่ะครับ เท่าที่รู้มันไม่ได้ต่างกันครับมันจะต่างตรงมีขั่ว Balanced

ซึ่งโดยปกติเครื่องเสียงบ้านเขาไม่มีกัน

ยกเว้น ในห้องมิก คอนเสริต ประมาณนี้น่ะครับ

ไม่ค่อยรู้ลึกครับ เหราะยังไม่เคยเล่นไปถึงตรงนั้นครับ

เอ้า ตามคุณ dwsmnn ไปก่อนล่ะ 555

จริงๆ แล้ว การเชื่อมต่อแบบ Balance เค้ารับรองกันว่าดีกว่าการต่อแบบ RCA หรือ unbalance ครับ แต่ผมก็เสียชาติเกิดทุกที คือมีแอมป์ที่เล่นบาลานส์ได้ แต่ไม่มีปัญญาไปหาอุปกรณ์ Balance อื่นๆๆ มาต่อร่วมด้วย 555

เจ้า Roc ของผมนี่ก็บาลานส์ แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่มีซีดีบาลานส์ หรือ dac บาลานส์ 555

ไอ้ตัวดำๆๆ ที่มี 3 รู นั่นแหละคือช่องต่อบาลานส์ครับ มักจะมีในเครื่องเสียงราคาแพงหรือเน้นคุณภาพขึ้นมาอีกขั้นล่ะครับ 555

คล้ายๆกับ พวกหูฟัง Stax เลยครับผมเคยเห็น

เพิ่มอีกข้อนะครับ สัญญาณรบกวนแล้ว แอม stereo ที่ต่อ balanced ได้

มันจะได้กำลังขับเพิ่มขึ้นเท่าตัวครับ dynamic จะดีกว่าเดิม


stereo ปกติ (unbalanced) มีแค่ 2 channal ซ้ายกับขวาใช่ไหมครับ

stereo balanced จะเหมือนมี 4 channal ครับ คือ ซ้าย+ ซ้าย- ขวา+ ขวา-





เหมือนคนเล่นกระดานหกน่ะครับ

stereo ปกติ (unbalanced) คน2คนออกแรงคนเดียว ดังนั้นกระดกได้ช้า

stereo balanced คน2คน ต่างฝ่ายต่างช่วยกันกระโดดงัดซึ่งกันและกัน



ดังนั้นถ้ามีแบบ balanced แต่ไม่ได้ต่อใช้ก็เหมือนรถ V8 แต่วิ่งแค่4สูบแหละครับ 555+

โอ้เก็ตเลย รถ V8 วิ่งแค่กระบะ อิอิ

เมื่อก่อนเคยฝันไว้เหมือนกันครับ ฮ่าๆ เด็กๆอยากเล่นเครื่องไฟ แต่ออกแนวไฮหน่อยไม่เอาธรรมดาเหมือนชาวบ้านเขา เพราะเห็นในคอนเสริตใช้พวกนี้ ประมาณว่าโรคจิตว่างั้นเหอะเห็นเป็นไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าไปดูว่าเขาใช้อะไรกันบ้าง
เพราะมีความรู้สึกว่าพวกที่บ้านใช้ๆๆกันนั้นเสียงแบบว่า.... แต่กับพวกคอนเสริตใหญ่ๆนี่ใช้บาลานส์แล้วเสียงแบบ สุโค่ยมั๊กๆ เลยฝันว่าถ้าจะมีเครื่องเสียงออกงานนี้ต้อง บาลานส์ อย่างเดียว ^^

แต่ก็นะ ราคานี่ สุโค่ยๆ เหมือนกัน

เห็นด้วยกับท่าน leenawat_sri ถ้ามีแล้วไม่ได้ใช้มันก็รีดคุณภาพของของสิ่งนั้นได้ไม่เต็มที่น่ะครับ

และนอกจากเรื่องสัญญานรบกวนผมว่าพลังมันคงมากด้วย เพราะถ้าแค่นั้น

ช่องออปติคอล ก็ไม่ค่อยโดนรบกวนน่ะครับ

ตามที่คุณ dwsmnn ว่าไว้คับ คือเป็นการกำจัดการหลุดหายของสัญญาณภายในสายสัญญาณ โดยมันจะชดเชยสัญญาณกันเองภายในสาย ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ก็คือถ้าเราต่อสัญญาณธรรมดาๆ (2 คั่ว) สัญญาณมันก็จะวิ่งเส้นเีดียวเหมือนในภาพ ถ้ามันหายก็คือหายไปเลย แต่ถ้าเราต่อแบบ 3 คั่ว (Balanced) มันจะวิ่งเป็นเส้นคู่ (Ground Hot Cool) เหมือนในภาพ ถ้ามีสัญญาณเส้นหนึ่งถูกลบกวน หรือหายไป มันก็จะมีการชดเชยกันในสายนั้นเอง

มักจะมีประโยชน์มากๆ กับการที่จะต้องลากสายในระยะทางไกล หรือต้องการสัญญาณที่มีผิดเพี้ยนน้อย เช่น การลากสายไมล์ยาวๆ หรือสัญญาณเสียงในห้องอัดที่ต้องการความถูกต้องมาก และความผิดเพี้ยนน้อยที่สุด โดยเฉพาะในระบบอนาล็อคแบบในอดีต

ลักษณะของการต่อจะมีสองลักษณะคับคือ XLR คือแบบที่เฮียมั่นยกตัวอย่างให้ดู กับ TRS คือแจ็ก 6.3 แบบสเตอริโอ 3 ที่เราเห็นคุ้นๆ ตากันนั้นเอง

เพราะฉนั้น การต่อสายแบบ 3 คั่วนั้น ถ้าเป็นการต่อแบบปกติที่เราคุ้นๆ กัน ก็จะเป็นการต่อที่จะได้ 2 ช่องสัญญาณ (ซ้าย ขวา) เพราะว่ามันจะมีสัญญาณแบบว่า Ground 1 (ใช่ร่วมกันสองช่อง), left 1, right 1 แต่ถ้าเราต่อแบบ Balanced เราก็จะต้องต่อถึง 6 คั่วด้วยกัน คือ ซ้าย (Ground Hot Cool) ขวา (Ground Hot Cool)

งงป่ะคับ ยาวไปหน่อย ผิดพลาดยังไง ก็ต้องขออภัย และให้ท่านอื่นมาเสริมด้วยนะคับ

http://www.taf.in.th/forum/index.php?topic=8584.0

เครดิตท่าน adgio ครับ
กลัวจะเข้าใจกันผิดๆ ลองอ่านดูครับเข้าใจได้ทุกคน

Balanced คือ สิ่งที่ผมไปไม่ถึงครับ เพราะตังไม่มี 55+

มือใหม่ชอบอ่าน

ได้ความว่านอกจากแอมป์บาลาซแล้ว สายยังต้องบาลาซ หูฟังก็ต้องบาลาซไปด้วย ถึงจะได้ผลดีที่สุด

หมายความว่าต้องเปลี่ยนระบบใหม่หมดเลยใช่ใหมหนอ

http://www.headphoneresearch.com/forum/index.php?topic=2457.0


ลองตามlinkไปอ่านดูนะครับ ละเอียดพอสมควรครับ

\"Balanced คือ สิ่งที่ผมไปไม่ถึงครับ เพราะตังไม่มี 55+\"

เหมือนกันครับ 555

ตอบคุณ sucharit คับ

หูฟัง กับ ลำโพง ไม่มี Balanced คับ มีแค่พวกแอมพ์ที่จะมี เต็มที่เลยก็ พวกลำโพง Studio Monitor อ่ะคับ ถึงจะมีระบบนี้อยู่