MP3 ดีกว่าตรงไม่ยืดไม่ยานไม่ต้องแช่ตู้เย็นครับ

เทปเสียงดีกว่าครับ ถ้าเทปดีๆนะอิอิ
จริงๆเทียบมวยผิดคู่ ต้องเทียบ เทป กับ cd
ว่ากันว่าถ้าเป็นเทปดีๆ อย่างเทปเมทัล(ไม่ใช่ถูกๆตลับละ 60 บาทนะครับ) พวกนี้จะให้เสียงได้สมจริงมากกว่าซีดีครับ เพราะมันอัดมาเป็นอนาลอค ความเนียนของเสียงและการตอบสนองความถี่จะดีกว่า
แต่ซีดีจะได้เรื่องความคมของสัญญาณและความคงทน เรียกว่าเปิดเมื่อไรก็จะได้เสียงเดิมๆ ผิดกับเทปที่จะเสื่อมลงตามการใช้งานครับ

ผมคิดว่า เพลงจากเทป กว่ามันจะเดินทางมาถึงหูฟังของเราได้ เครื่องเล่นเทปมันต้องมีกลไกเข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่าเครื่องเล่น mp3 สมัยนี้หนะครับ ซึ่งกลไกพวกนั้น มันก็มีผลต่อเสียงด้วยมั้งครับ ...

ถ้าเทป(เครื่องเล่นด้วยนะ) คุณภาพระดับพระกาฬ กับ MP3 ระดับพระกาฬ เหมือนกัน คงสู้เทปไม่ได้ละครับ

ยืนยันตามพี่นพพงษ์เลยครับว่า เทป เสียงดีกว่า
ของไทยที่อัดมาดี ๆ ที่จำได้ ก็ของ black head ชุดที่มีเพลงยืนยันน่ะครับ
คุณภาพของเทป และคุณภาพการอัด ผมว่าดีมาก ๆ เลย แม้จะไม่ได้เป็นเทปเหล็ก

พี่นพพงครับ เทปเมทัล ที่เทปเพลงแนวเมทัลใช่ไหมครับ
ผมเห็นวง Black Metal ปัจจุบันยังทำเทปออกมาอยู่เหมือนกันเลยครับ หลายวงเลยด้วย
ทไทั้ี่ง เทป ซีดี แผ่นเสียง
*0*

ไม่ใช่ครับ เขาเรียกเทปเหล็กอ่าครับ ไม่ใช่เทป เพลงแนวเมทัล อิ อิ
เครื่องเล่นเทปปรกติเล่นไม่ได้อ่า ส่วนใหญ่เจอในเครื่องเทปใบ้ ถึงจะเล่นได้

อะไรคือเทปใบ้เหรอครับ แล้วเทปเหล็กนี้หาได้จากไหนอะครับ คือต้องเอามาอัดเองหรือคับเพราะพวกเทปที่ขายๆกันไม่เห็นว่าจะมีเทปเหล็กขายเลย

...เกิดทันยุค เทปเมทัล ด้วย...อิ อิ.แพงน่ะสมัยนู้นนนนนนนน...

mp3 ไม่มีเสียงซ่าๆ แทรกมาเหมือนเทปครับ

เทปใบ้ คือเทปที่พูดไม่ได้ครับ.....ตึ่งโป๊ะ !!!
ในที่นี้ผมหมายถึงเครื่องเทปใบ้สมัยเครื่องเสียงบ้านนะครับ ไม่ใช่เทปใบ้ที่เอามาใช้แปลงในเครื่องเสียงรถยนต์

คือเมื่อก่อน ที่ใช้เครื่องเสียงบ้านแยกชิ้นนะครับ
พอจะนึกออกไหม มันจะเป็นถาด ๆ ถาดล่ะอย่างแยกกันไปเลย

เราก็จะมี tuner ตัวนึง เอาไว้รับสัญญาณ FM/AM
เครื่องเล่นซีดีตัวนึง เอาไว้ทำไรไม่ต้องบอกอ่ะเนอะ
เครื่องเล่นเทปตัวนึง บางบ้านก็สองตัวเลย หรือบางตัวก็มีช่องใส่เทปได้สองตัว แจ่มแมวดีจริง ๆ
เอาไอ้สามตัวนั้นมาต่อปรีแอมป์ตัวนึง เพื่อรับสัญญาณจากไอ้สามตัวแรก และควบคุมโทนเสียง กับวอลลุ่ม
แล้วก็ต่อไปยังพาวเวอร์แอมป์ ตัวนึงครับ
แล้วค่อยออกลำโพง

เจ้าเครื่องเล่นเทป นี่ล่ะเขาเรียก เทปใบ้ (Tape deck)
คือตัวมันเองอ่านเทปได้แต่ต้องเอาสัญญาณไปต่อ ปรี ต่อพาวเวอร์ ออกลำโพงถึงจะมีเสียงให้เราฟังครับ

นึกถึงเมื่อก่อน เราก็อัดเสียงจาก cd ลงเทปให้สาวบ่อย ๆ อา....ค่าเทปเปล่าดี ๆ สมัยนั้นม้วนล่ะร้อย มีความสุข

ใช่ครับ เทปที่บันทึกเสียงมาดี ๆ นี่ โยน cd ทิ้งไปได้เลยครับ ส่วนเทป metal นี่ จริงๆ แล้วมันคือวัสดุที่ใช้ทำเส้นเทปครับ ทั่วๆ ไปจะเป็นพลาสติก(ไม่แนใจว่าเป็น พลาสติกประเภทไหนนะครับ) ใช้ฟังไปนานๆ เมื่อโดนความร้อนบวกแรงดึงของเครื่องเล่น มันก็จะยืดออกทีละนิด นี่ยังไม่นับการยืดหดตัวของเส้นเทปจากกรณีอื่นๆ อีก คุณภาพของเสียงที่บันทึกมาจะแย่ลงไปเรื่อยๆ อย่างเร็ว เจ้าเทป metal นี่จะมาช่วยให้คุณภาพของเสียงที่บันทึกมา คงระดับไว้ได้นานขึ้นครับ และได้ช่วงความถี่ที่กว้างกว่าเดิม คร่าวๆ ประมาณนี้ ที่เหลือรอผู้รู้ครับ ความรู้ผมมันหายไปตามเวลาซะแล้ว นั่งนึกอยู่นานได้แค่นี้แหละ สำหรับนักฟังหูเทพทั้งหลาย(ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้มีอันจะกิน) จะหนีไปต่างดาว เอ๊ย ไปเล่นแผ่น Vinyl แทน(ขออนุญาติเล่นมุขลุงซะหนึ่งดอก) แผ่นเสียงน่ะครับ แต่ไม่ใช่แผ่นที่เราเอาของคุณปู่มาร่อนเล่นนะครับ เปิดมาทีนึกว่าฝนตก แผ่นพวกนี้ราคาแพงครับ ศิลปินคุณภาพส่วนใหญ่จะออกอัลบัมมาในรูปของแผ่นVinylด้วย มันจะให้เสียงที่ใก้ลเคียงกับธรรมชาติที่สุด(แน่นอนชุดเครื่องเล่นต้องเทพด้วย) เคยมีวาสนาได้ฟัง ขึนว่าเจ้าของเสียงมายืนร้องอยู่หน้าลำโพงเลยทีเดียวครับ เล่นเอาขนลุก(อั้นอยู่นาน ปวดขรรรรี้ น่ะครับท่าน ไปปล่อยก่อนละ)

ขอบคุณมากที่ให้ความรู้คร้าบบบบบ

# 10

ที่ไหนมีอนาล๊อก ที่นั้นมี noise ครับ