
ของทั้งสองชิ้นซื้อมาไล่ๆ กัน อายุสองเดือน สภาพเทียบเท่าของใหม่ ประกันเหลือยาวๆ 10 เดือน
ตัว HD660s ไม่มีริ้วรอยใดๆ เลย ใช้น้อยประมาณ 10 ชม เท่านั้น ยังไม่พ้นเบิร์น
ส่วน Ares II+ มีขนแมวจางๆ ที่ขั้ว 2pin เท่านั้น(แทบมองไม่เห็น) อายุการใช้งานประมาณ 30-40 ชม. ไม่พ้นเบิร์นเช่นกัน
รีวิวคร่าวๆ นะครับ
HD660s รายละเอียดเสียงดี ขับง่าย scale ตามอุปกรณ์ที่ใช้ คือเสียงดีตั้งแต่เสียบกับมือถือ (ดีมากๆ จนตกใจ) และถ้าได้ source ดีๆ จะดีขึ้นอีก
เสียงออกแนวกลางๆ ไม่ dark เสียงเบส control ดี ลูกชัด สวย มิติเครื่องดนตรีดีมากๆ เสียงกว้างมาก
เป็นหูฟังที่ให้เสียงอลังการ กว้างแบบไม่โหวงเหวง ขนาดเครื่องดนตรีใหญ่พอดี เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากหูฟังทั่วไป อันนี้เป็นจุดที่ชอบมากๆ
ใช้กับช่อง 4.4 แล้วเสียงลงตัวมาก (ผมใช้กับ zx300) focus เสียงชัดเจนขึ้น เสียงร้องและเบสรูปทรงและตำแหน่งดีขึ้นมาก เป็นประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยมสุดๆ
น้ำเสียง HD660s จะคล้ายๆ กับ HD650 แต่เสียงจะไม่ dark เสียงสูงดีกว่า เสียงร้องชัด เคลียร์กว่า และเบสกระชับกว่า ส่วนตัวถือว่าดีกว่าแทบทุกด้าน
Ares II+ 4.4mm 2pin เป็นสายอัพเกรดที่เสียงเป็นเอกลักษณ์ ได้ขนาดเครื่องดนตรีที่ใหญ่ หนัก สไตล์สายทองแดงแต่ได้เสียงสูงที่ใสคล้ายสายเงิน และเสียงไม่ทึบ
จุดเด่นคือเสียงร้องมวลหนา น้ำเสียงชัดเจน และเสียงเบสลูกใหญ่ หนัก ลูกสวยและลงลึก ขนาดผมเป็นพวกเมาเบสยังชอบมากๆ ฟังได้ทุกแนวเพลงเลยสำหรับสายนี้
ถ้าใครอยากใช้ช่อง 4.4mm ให้คุ้มต้องสายนี้เลย
หูฟังที่ใช้คือ massdrop plus เป็นหูฟังเบสหนัก แต่ Ares II+ ช่วยให้ control เบสได้ดี ไม่บวม ไม่เบลอ ถ้าใครใช้หูฟังสายเบสเหมือนกันก็ไม่ต้องกลัวว่าซื้อไปแล้วจะทำให้เบสบวมจนฟังไม่ได้ครับ
ราคา
HD660s ขายที่ราคา 18,000 บาท (ราคามือหนึ่ง 21,990 บาท)
Ares II+ 4.4mm 2pin ขายที่ 6,000 บาท (ราคามือหนึ่ง 8,990 บาท)
ติดต่อลองฟังได้ที่ BTS อนุสาวรีย์ฯ หรือ free EMS
0877666937
โทรมาสอบถามก่อนได้เลยครับ ไม่กัด