ไม่รู้หมายถึงตัวไหน เเต่ผมว่ารุ่นเก่า 555

อย่าง k10 ตัวเก่านี่ ออกมานานเเล้วเเต่ก็ยังดี กว่าหูฟัง 2 3 หมื่นนะครับ เอาจริงๆ 2 ปีก็ไม่นานด้วย

ไม่ต้องสืบ

อ่านผิด นึกว่าตัวทอป 2 ปีที่เเล้ว เเต่ผมก็ว่าทอป 5  6 ปีก็น่าจะยังดีกว่านะ

แต่ 5-6 ปีถ้าเป็นยี่ห้อที่ใช้เครื่องจักรผลิตระวังเรื่องเสื่อมคุณภาพด้วยนะครับ 

อ้อ เป็นหูฟัง Full Size นะคับ

ถ้าไม่ระบุรุ่น เป็นคำถามที่กว้างตอบยากครับ  ถ้าเป็นกล้องราคาห่างกันสามเท่า ผมยังมองว่าคุณภาพกล้องระดับสูงยังดีกว่า  แต่ลูกเล่นต่างๆ อาจสู้รุ่นใหม่ไม่ได้

แต่หูฟังมันเป็นเรื่องของเสียง  คุณภาพวัสดุตัวสูงย่อมดีกว่า  แต่เสียงเป็นเรื่องของจริตแต่ละคนครับ   ยิ่งเทียบราคาห้าพันกับหมื่นห้า  ระยะห่างกันสองสามปี ก็ถือว่าเยอะแล้วครับ ต่อให้แบรนด์เดียวกัน แต่ต่างรุ่นเสียงก็ต่างแล้วครับ

ยิ่งเดี๋ยวนี้หูฟังเล็กดีรสโต มันออกมาเยอะ  ลองสังเกตเวลาอ่านรีวิว  มักจะมีคำว่า  เสียงเกินราคา  ให้ได้ยินบ่อยๆครับ

งั้นขอระบุรุ่นนะครับ เปรียบเทียบคู่ที่ 1 ระหว่าง  Sennheiser HDR165 ราคา 5500บาท กับ Sennheiser HD600 ราคา 15000บาท
เปรียบเทียบคู่ที่ 2  คู่นี้ต่างยี่ห้อกัน ระหว่าง Shure shr1440 13900 บาท กับ ATH- msr7 ราคา 4700บาท ครับ

จากคู่เปรียบเทียบทั้ง 2 คู่ด้านบน ถ้าเป็นมือสอง Sennheiser HD600 หรือ Shure shr1440ราคามือสอง 5000บาท ซึ่งมีราคาพอๆกับรุ่นใหม่อย่าง Sennheiser HDR165หรือ ATH- msr7

พี่ๆจะเลือกซื้อตัวไหนคับ

เก่าใหม่ไม่ได้ส่งผลกับ fidelity เลยครับ บางตัวออกใหม่แต่ THD สูงๆ FR แปลกๆมีเยอะแยะ ยิ่งแบรนด์ consumer ยิ่งเจอเยอะครับ

หูฟังผมบางตัวก็เก่ามากนะครับ อย่าง DT880 นี่ออกตั้งแต่ 1980 หรือ HD 600 ที่เปิดตัว 1997 จนถึงตอนนี้ทั้งสองรุ่นก็ยังขายและยังใช้งานในสตูดิโออยู่เลยครับ

1. Fidelity = ความซื่อสัตย์ ต่อต้นทางครับ หูฟังที่คู่ควรกับคำว่า High fidelity ควรให้เสียงที่เที่ยงตรง ความเพี้ยนต่ำ ครับ

2. THD = Total Harmonic Distortion (expressed in percentage) เป็นสัดส่วน harmonic distortion ซึ่งเป็นปรากฎการณ์มหัศจรรย์ที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอาท์พุทความถี่ที่ไม่มีอยู่ในอินพุทออกมาครับ เช่น สัญญาณ base frequency 10Hz จะเกิด harmonic distortion ที่ 100Hz (first 10x10Hz), 1000Hz (second 10x10x10Hz), 10,000Hz (third 10x10x10x10Hz) ครับ จะสังเกตว่าถึง harmonic distortion ไม่มีอยู่ใน source signal แต่มัน relate กันด้วยการคูณ 10 ซึ่งทำให้แต่ละขั้น (order) ของ harmonic distortion ถูกเรียกว่า octave ครับ ต่างกับ noise ที่ไม่ relate กับ source frequency เลย

ค่า THD ก็วัด level ของ HD ทั้งหมดเป็น dB แล้วมาเทียบกับสัญญาณที่ป้อนเข้าไปครับ เพราะมันเป็นสัดส่วนเหมือนกัน อีก expression ที่นิยมใช้คือ THD+N (THD+Noise) ที่นำเอา noise หรือสัญญาณที่ไม่เกี่ยวกับอินพุท มารวมกับ THD แล้วเทียบกับสัญญาณอินพุทครัข

อ้ะ ลืม FR ครับ
FR = Frequency Response ครับ อุปกรณ์ที่ดีใน signal chain ส่วนใหญ่จะมี FR ที่ราบเรียบ มี deviation ไม่เกินบวกลบ 1dB ในช่วงที่หูคนได้ยิน (20-20,000Hz) ยกเว้นอุปกรณ์บางชนิดที่ subpar, lesser, underperforming ครับ

ในขณะเดียวกัน transducer เช่นไดรเวอร์ลำโพงและหูฟังกลับมี FR ที่ไม่เรียบมากเท่า อาจ done intentionally หรือเป็น poor design ครับ

อีกข้อที่ควรพิจรณาสำหรับ FR ใน transducer คือ หูคนมี FR ที่ไม่เรียบ และต่างกันในแต่ละระดับความดัง และคนเราชินการฟังจากต้นทางที่มีระยะไกล เช่นลำโพงหรือดนตรีสด ซึ่งระยะห่างนี้จะ attennuate ความถี่สูงๆ ทำให้เสียงที่เรา ‘ชิน’ หรือ ‘มีความเป็นดนตรี’ จะมีความถี่สูงน้อยกว่ากรา ฟ FR ที่ราบเรียบจริงๆ และมีความถี่ต่ำ(เบส)ที่ดังกว่า FR ที่รายเรียบ ทำให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะมี target response curve (ส่วนใหญ่จะเพิ่มความถี่ต่ำ และ dip ตรง 7kHz) ที่ทำมาชดเชยกับหูเราให้ฟังแล้วไม่ ’แห้ง’ เกินไปครับ

ถ้าตัวเลือกที่ถามมาข้างต้นส่วนตัวว่า  hd600 เสียงเหนือกว่าพอสมควร (ต้องต่อกับชุดตั้งโต๊ะ) แม้จะผลิตมานานแล้ว แต่มือสองบางตัวก็ใช้มาแค่ปีกว่า สภาพก็ยังดีอยู่ ราคาเคยมีประมาณ 5-6พัน ก็น่าสนใจ ว่าแต่จะมีใครขายหรือเปล่า

ผมใช้ HD600 ไม่ต้องชุดตั้งโต๊ะก็พอแล้วนะครับ ผมว่าไดรเวอร์มัน 300Ohm ก็จริง แต่ efficient กว่า DT880 (250Ohm) อีก

ปล. ผมใช้แอมป์พกพา FiiO A5 (11V, 5Vp-p) ต่อกับไอพอดคลาสสิค (0.5Vrms) ไม่ก็ต่อตรงกับ Xduoo X3 (-1dB, referenced to 1.5Vrms ไม่งั้นมันจะคลิปครับ)

หูฟังและคาแร็คเตอร์ของเสียงไม่มีคำว่าตกรุ่นครับ(แบบเดียวกับเลนส์กล้อง)..ถ้าหูฟังตัวนั้นสภาพมันยังดีอยู่นะ
อย่าง Shure E5c ที่ออกมานานมากแล้ว(น่าจะเกือบๆสิบปีได้) พวกหูรุ่นใหม่ๆอย่าว่าแต่ราคาห้าหกพันเลยครับ พวกหมื่นอัพก็ไม่รู้จะคว่ำมันได้รึเปล่าเลย

ได้ความรู้เยอะเลยครับ ทำให้มือใหม่อย่างผมฉลาดขึ้นเยอะ ขอบคุณพี่ๆทุกท่านคร้าบ :D

ถ้าถามผม จะบอกว่า 6 ปีนี่ ถ้าผลิต 6 ปีที่แล้วก็คงไม่โอเคเท่าไหร่ อาจจะเสื่อมสภาพเพราะนอนกล่องนานแล้ว แต่ถ้าเค้าผลิตเรื่อยๆ แล้วขายราคานี้อยู่ ก็แสดงว่าเสียงเค้าคงดีจริงๆครับ ดีกว่า 5000 แหง่มๆ ไม่งั้นจะขายทำไม 555+

หูฟังแต่ละตัวมีเสียงเป็นเอกลักษณ์​ครับ ไม่ใช้มือถือหรือทีวีที่รุ่นใหม่​มาดีกว่ารุ่นเก่า อย่าให้คนอื่นทำเราให้ไขว้เขวครับ ผมเคยเห็นบางคนบอกรุ่นใหม่จะมารีบขายรุ่นเก่าออกเร็วเดียวราคาตก แต่อยากถามว่าไอ้รุ่นใหม่ที่ออกใช่เสียงแบบที่เราชอบไหมฟังแล้วรู้สึกมีความสุข​สนุก​กับมันจริงไหม   หูแพงหูถูกก็เช่นกันครับ จริงๆต้องรู้​ครับว่สเราชอบเสียงแบบไหนฟังแค่ไหนแล้วอินที่สุด ผมเคยไปจนถึงตัวแพงมากๆอยากบอกว่ามันดีจริงๆตอนฟังเพราะเพลินมากแต่มันขาดอารมณ์​ร่วมครับ พอกลับมาใช้ตัวที่ถูกกว่าลงมาหน่อยกับให้เสียงที่ลงตัวกับเรามากกว่า เพราะฉะนั้นต้องหาแนวเสียงที่เราชอบก่อนครับ เสียงหูฟังแนวทีาเราชอบเอา ถูก ใหม่ เก่า แพง มาวัดไม่ได้ครับ ชอบคือชอบ ขอให้หาแนวเสียงให้เจอนะครับ  

TF10 ราคา หมื่นกลาง เมื่อ 5-6 ปีก่อน มาวันนี้มันก็ยังเสียงดีกว่า ตัว 4-5 พันในสมัยนี้อยู่

หูฟัง ลำโพง เป็นของที่ ถ้าออกแบบมาดีก็อยู่ได้นานมาก 

เอาเป็นว่าส่วนตัวผมชอบ HD650 มากกว่า hd660s อีกครับ ผมว่าเสียงแบบนี้มันเป็น originals ของยี่ห้อนี้โดยแท้จริงส่วนเสียงแบบ 660s เหมือนถูกปรับให้ถูกหูตามคำเรียกร้องซึ่งมันขาดความเป็นเอกลักษณ์ไป และที่สำคัญเลยผมชอบหูฟัง ohm สูงเพราะมันทำให้สนุกกับมันได้อีกนานยิ่งเปลี่ยนแอมป์ดีขึ้นคุณจะยิ่งอึ้งไปกับมันเพราะมีอะไรให้ค้นหาได้อีกเยอะ ส่วนรุ่นใหม่ขับง่ายต่อให้เปลี่ยนแอมป์มันก็ความแตกต่างที่น้อยกว่ามากสุดท้ายต้องขายไปเล่นหูตัวอื่นแทน ที่ว่ามาทั้งหมดก็จะบอกว่าต้องลองฟังเองและหาตัวเองให้เจออย่าเล่นตามกระแส

สรุปว่าผมสอย Shure SRH1440 มือสองมาแล้วคับ 555+  เทียบกับ philips SHP895ตัวเก่า  srh1440  เบสดีกว่าพอควร เสียงร้องเด่นมาก เสียงดังกว่ามากคับ  แต่ไม่ชอบวัสดุหนังเทียมบริเวณก้านด้านบนหัวเลยคับ  มันลอกง่ายจัง

ท่านใดทราบร้านรับซ่อม หรือวิธีแก้ไขหนังเทียมลอกบ้างมั้ยคับ

HD600 HD650 ผมว่าสองรุ่นนี้มันข้ามกาลเวลาไปแล้วนะ

ผมให้อยู่คลาสเดียวกะพวก K701 702 เลยคือไม่มีตกรุ่นอะใช้ได้ยาวๆถ้าชอบเสียงมัน

ฟูลไซส์พวกรุ่นแก่แต่เก๋านี่มีเยอะนะครับ

L3000 orpheus Sony R10 หรือ AKG K1000

พวกนี้ออกมานานแต่ยังมีคนอยากได้อยู่เลย