ผมว่าดูมันน่ากลัวนะครับ

ผมก็เห็นภาพนี้มานานแล้วเป็นภาพประจำตัวตามเว็บบอร์ดต่างๆครับ 
แต่ก็ยังดูไม่ออกเหมือนกันว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ ^^

มาจาก สตาร์วอร์ เจไดคนสุดท้ายครับ  ผมก็ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน เพราะเห็นเขาบอก เอาไอดอลของแฟนๆรุ่นดึก(ลุค) มาปู้ยี่ปู้ย่ำ ตอนนี้ถึงขั้นลงชื่อล่าให้เปลี่ยนบทหนังเลยครับ555

อ่อ เจอแล้วชื่อ Porgs เป็นสัตว์อยู่บนดาวที่ลุคอยู่

https://youtu.be/ObTicGkw3WY

...

เข้าใจว่าเอาหนูแฮมเตอร์กับนกพัฟฟินมารวมกัน

ไปดูมาแล้วส่วนตัวคิดว่าสนุกมาก ดูจบแล้วรอลุ้นภาคต่อไปเลยว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อไป....
แต่ไม่ใช่แฟนเดนตาย ไม่ทันนักแสดงรุ่นแรกเลยเฉยๆ ค่ะ (^ ^)​

มันคือนก บนดาวที่ ลุค สกายวอร์คเกอร์ อยู่ครับ

ผมชอบฉากชูวี่ ก่อไฟกินข้าวเย็นมาก 555

จะว่าปู้ยี่ปู้ยำมันก็ไม่ใช่ซะทีเดียวครับ

เพราะถ้านับแค่ในภาพยนตร์ ตัวละคร ลุค สกายวอร์คเกอร์ ก็แทบไม่มีบทอื่นใดเลยนอกจากบทพระเอก
ซึ่งผมว่าภาคนี้ เข้าใจตีความให้ ลุค ดูเป็นคนธรรมดาสามัญที่ต้องมาแบกรับภาระความเป็นฮีโร่ ดีครับ

ซึ่งมันเข้าได้ดีกับตัวหนังครับ เพราะภาคนี้แทบจะลบล้างภาพจำเก่าๆของหนังเฟรนไชส์นี้ ที่ชอบให้ตัวละครเอกไม่กี่ตัวเป็นตัวชี้ชะตาทั้งจักรวาล  โดยหันกลับมาโฟกัสเรื่องการทำงานเป็นทีม และการอ่านสถานการณ์อย่างรอบคอบแทน ซึ่งผมว่ามันดูเป็นสงครามที่Realขึ้นกว่าภาคก่อนๆมากครับ

ใครยังไม่ดูแนะนำให้รีบดูเลยครับ มันเป็นหนังที่หักล้างสูตรสำเร็จเดิมๆ และกล้าที่จะพาไปยังแนวทางใหม่ๆ มาก

แนะนำ อย่าไปยึดติดกับคำวิจารณ์ของแฟนสตาร์วอร์เดนตายที่ยึดติดกั ลุค สกายวอร์คเกอร์ แบบพระเอกจ๋ามากเกินไป และเปิดใจรับสารที่ตัวหนังต้องการจะสื่อ เพราะผมบอกเลยว่าภาคนี้ผมว่าเมื่อเวลาผ่านไปมันจะขึ้นหิ้งแบบภาค5แน่นอน เป็นหนังที่ลงตัวมากทั้งในแง่ปรัชญาและความบันเทิง

ผมกลับว่าภาคนี้แสดงให้เห็นถึงตัวตนจริงๆ ของ Luke ที่สุดแล้วครับ

ผู้ไม่เคยดู ... กรุณาอ่านข้ามมมมมมม







ตั้งแต่ Episode IV ผมยังไม่เห็น Luke ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากไปกว่าถล่ม Death Star ซึ่งจริงๆ ตอนนั้นยังคุม Force ไม่ได้ด้วยซ้ำ

มาฝึกตอนวัยรุ่น ฝึกแค่วิชาสู้ แต่ไม่ได้ฝึกจิตรวิญญาณ ความคิด อะไรเลย ... ถ้าดู Episode I จะเห็นได้ว่า Yoda ยังบอกว่า Anakin น่ะแก่เกิน (เด็กกว่า Luke ตอนเริ่มแน่ๆ)

ที่เป็น Legend ก็เพราะยุคนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ ... ตอนจบ Episode VI คนฆ๋า Emperor ตัวจริงก็คือ Vader มิใช่ Luke!!!

ทำออกมาแนว Fallen Hero และกลับใจ ... ผมมองว่านี่คือการเติมเต็มให้ Luke กลับมาเป็น Hero ที่แท้จริงด้วยซ้ำ ... ทำเอารัก Luke มากมาย จากเดิมที่เฉยๆ มากๆ กับตัวละครนี้ตั้งแต่สมัยก่อน (ที่สำคัญกวนตีนมากกก)

ภาคนี้คนไม่ชอบเพราะมันไม่ใช่ว่าต้องมีคนเทพ คนเก่ง ตระกูลดัง ... แต่เค้าต้องการแยกแยะอะไรบางอย่าง และต้องการทำลายสิ่งที่เคยยึดติดกับหนังในตระกูล Starwars 

Ben ผู้ยกย่องตัวเองด้วยสายเลือดเทพ ... ถือตัวเองเป็นตัวหลัก และด่า Ray ว่าไม่เกี่ยวเลยเป็นแค่ no one ... เพราะใน Series นี้ถือว่าตระกูล Skywalker คือสุดตีน

Ray จาก no one เต็มตัวลูกของคนเก็บขยะมาเป็นเทพที่เสมอกันได้เฉย

การส่งต่อฝ่ายต่อต้าน จาก Poe ที่ขับ X-Wing ลุยเดี่ยวมามีสมองรับผิดชอบชีวิตคนอื่นมากขึ้น พร้อมสำหรับการเป็นผู้นำเต็มตัวใน Episode IX

คนขายอาวุธที่ขายให้ทั้งสองฝ่ายจนรวย ... แสดงให้เห็นถึง "คนละฝ่าย" ไม่ใช่ คนดี คนชั่ว

และที่ชอบสุดคือภาคนี้มันเน้นตรงนี้จริงๆ "The greatest teacher....Failure is" คนส่วนใหญ่ที่ติดภาพพระเอกชนะถึงไม่โดน แต่ถ้าลองมองดูภาคนี้ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักเรื่อง มันต้องการเน้นคำนี้แหละครับ ... เน้นให้ fail fail fail ถึงได้ขัดใจคนส่วนหนึ่งที่ยึดติดว่า พระเอกชนะเสมอ -_-

ไหนๆ ก็คุยกันประเด็นนี้แล้ว




มีสปอยล์




คือตอนเด็กจำได้แต่  "มนุษย์ต่างดาวตัวสีเขียว"
และ "ชายในชุดดำใส่หมวก"
จำชื่อ จำเนื้อเรื่องอะไรไม่ได้เลย

มานั่งดูตอนโต
ช็อคมากกับฉาก "ข้าเป็นพ่อของเจ้า"
คิดในใจ "%@# จริงดิ อันนี้มีในบทใช่ไหม"  5555

ภาคใหม่ๆ ที่สร้างเลยไม่ช็อคกับบทเท่าไหร่
แต่จริงๆ ก็ไม่คิดว่าเนื้อเรื่องภาคนี้จะออกมาแบบนี้ คือคู่เบนกับเรย์
แม้จะมีแฟนๆ บางคนจิ้นคู่นี้มาตั้งแต่ภาคก่อนแล้วก็ตาม
แต่มาคิดอีกที เขาอาจต้องการสื่อว่าเราสามารถเข้าใจและเห็นใจกันได้ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ทำสิ่งที่ทุกคนอาจตัดสินว่าชั่วก็ตามที โลกนี้ไม่ได้มีแต่สีขาวและดำ แต่มันมีสีเทา ซึ่งมีความเหมือนจริงมากขึ้น

นอกจากนี้ ชื่นชมคนคัดเลือกนักแสดงมาก คือก่อนเข้าไปดู ภาคก่อน​ ยอมรับว่าไม่ชอบหน้านักแสดงรุ่นใหม่เลยสักคน แต่พอไปดูแล้วชอบมาก ทุกคนเหมาะสมกับบทมาก โดยเฉพาะนักแสดงที่รับบท เบน โซโล หรือไคโล เรน
ภาคก่อนรู้สึกเป็นเด็กมีปัญหา แต่ภาคนี้ดูเท่ ดูหล่อมาก 
ฉากเบนหันหลังชนกับเรย์ช่วยกันสู้กับองครักษ์​ชุดแดงนี่ติดตามาก (^ ^)​

ส่วนเรื่องตัวละครรุ่นแรก
ส่วนตัวคิดว่าบทให้เกียรติมาก ไม่ได้รู้สึกว่าเอาพวกเขามาปู้ยี่ปู้ยำ
บทของพวกเขาสำคัญมาก มีฉากที่ทรงพลังมากหลายฉาก และขับเคลื่อนให้เรืรองดำเนินไป.... 

แต่ต้องยอมรับว่าตัวละครรุ่นแรกกำลังทำหน้าที่ "ส่งไม้ต่อ" ให้กับตัวละครรุ่นต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาของโลกนี้

ผมไม่แปลกใจเรื่องที่เป็นประเด็นกันอยู่ครับ  เพราะเข้าใจว่าสตาร์วอร์ส  มันเป็นหนังพิเศษสำหรับคนกลุ่มหนึ่งจริงๆ  ความคาดหวังของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งแฟนกลุ่มแรกที่ติดตามตั้งแต่หนังออกเมื่อ 30-40 ปีก่อน  กับกลุ่มแฟนที่มาติดตามย้อนดูทีหลัง

ส่วนตัวผมแล้วผมดูในโรงทุกภาค  ตั้งแต่ New hope ยัน Revenge of the sith  สำหรับผมเนื้อเรื่องมันจบสมบูรณ์ตั้งแต่ Return of jedi แล้วครับ  สามภาคแรกย้อนต้น  ก็เป็นแค่ส่วนประกอบเติมเต็ม  ให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์เท่านั้น  ภาคใหม่ 7-9 ที่ออกมาผมเลยเฉยๆ  ยังไม่ได้ดูเลยซักภาค  

ผมว่ามันคือ  การเดินเรื่องสู่บทใหม่  โดยใช้ละครเก่าๆ อย่างฮาน เลอา ลุค  เป็นส่วนเสริม เพื่อให้เนื้อเรื่องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น  แต่ที่เป็นประเด็น ก็คงเพราะยังมีแฟนบางส่วน  ที่ยังผูกพันกับตัวละครเหล่านี้อยู่ครับ

ไปดูมาแล้วกับลูกๆ พวกมันดูกันสนุก แต่สำหรับผมหนังแนวนี้ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยของงดวิจารณ์ 555

พี่ tangkoo. พูดถึงแฟนรุ่นเก่า กับแฟนรุ่นใหม่ แล้วนึกได้

ตอนนี้ผมเห็นตีกันกระจายเลยครับ555  แฟนรุ่นใหม่ก็เรียกแฟนรุ่นเก่าว่าแฟนบอย ตอนนี้หันมาซัดกันเรื่องรายได้แล้ว

อย่างที่บอกผมว่ามันอยู่ที่มองกันมุมไหน  ไม่มีใครผิดใครถูก  มีแต่ชอบกับไม่ชอบ

ผมเด็กยุคทีวีขาวดำ  อินเตอร์เน็ตก็ไม่มี  วีดีโอ ดีวีดี ก็ไม่มีให้หาดูง่ายๆอย่างสมัยนี้ จะดูหนังฝรั่งใหญ่ๆต้องดูในโรงเท่านั้น การได้ดูสตาร์วอร์สครั้งแรก ในโรงภาพยนต์จึงเป็นอะไรที่ตื่นตามากๆ

แต่น่าแปลก ทั้งๆที่เทคโนโลยีด้านภาพสมัยนี้  ล้ำหน้ามากกว่าสมัยก่อนลิบลับ  แต่ผมกลับไม่เกิดอาการตื่นตาตื่นใจ แบบแต่ก่อนเลย เรื่องที่ดูแล้ว wow ล่าสุดคือ T2 ครับ555

คุณTangkoo อายุเท่าไหร่ครับเนี่ย

เกิดทันดูภาค A New Hope ด้วย


แต่เรื่องT2 เนี่ย ผมยอมรับเลยว่าสมัยนั้นมันสุดๆจริงๆในทุกๆด้าน แอ๊คชั่น ปรัชญา เทคนิคพิเศษ ความเท่(เกี่ยวไหม) ลงตัวไปหมดทุกๆด้านเลย ผมยังเสียดายอยู่เลยที่เกิดไม่ทันดูเรื่องนี้ในโรง

แต่เรื่องที่ผมว้าว ต่อจากT2 ก็คือ เรื่อง ID 4 แม้พวกปรัชญา สาระจะสู้ T2 ไม่ได้ แต่เทคนิคพิเศษ เนี่ยสุดยอดจริง ที่หนังสามารถทำฉากแอ๊คชั่นอลังกาล ถล่มทลายขนาดนั้นได้

ส่วนเรื่องที่ว้าว ต่อมาก็เรื่อง Mad Max Fury Road ยกให้เป็นหนังที่สมบูรณ์ในทุกๆองค์ประกอบ เหมือนT2 เลย และเป็นหนังที่ผมได้ใจมาก เพราะตอนนั้นไม่คิดว่าจะได้ดูหนังที่โชว์คิวสตั้นทแมน ในยุคที่CGครองเมืองแบบนี้

ส่วนเรื่องที่ว้าวล่าสุด คือ Blad Runner 2049 แม้พวกเทคนิคพิเศษต่างๆจะไม่ค่อยหวือหวาอะไร แต่หนังเรื่องนี้เนี๊ยบทุกระเบียบนิ้วมาก ดูแล้วรู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ในการสร้างของทีมงานทุกๆคนเลย ทั้งการกำกับ บทหนัง ดนตรีประกอบ การกำกับภาพ ลงตัวหมด ถ้าให้เปรียบ Blad Runner ภาคแรกเหมือน T1 สำหรับผม Blad Runner 2049 ก็เหมือนT2 เป็นภาคต่อที่มาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในภาคแรกให้สมบูรณ์ เหมือนๆกัน

ของแถม
อีกเรื่องที่ว้าว คือ Deadpool ครับ พึ่งได้ดูหนังแอ๊คชั่น รัก ตลก บ้าบอ เกรียนข้ามค่ายข้ามลิขสิทธิ์ ก็เรื่องนี้นี่แหละ
พอรู้ว่า ผู้กำกับ Deadpool  Tim Miller  โดน Jame Cameron ทาบทามมากำกับ Terminator ภาค3 ที่จะเดินเรื่องต่อจาก ภาคT2 Judgement Day (ล้างไพ่ภาค3 4 5) ผมก็ยิ่งว้าวเข้าไปอีก

555 ลืมไป ID4 ผมก็ว้าว555  จำได้ตอนนั้นไปดูเรื่องทวิตเตอร์  แล้วมีตัวอย่างหนัง ID4 มาฉาย  แค่ไม่กี่วินาที  แต่เป็นไม่กี่วินาทีที่ทรงพลังมาก  กับฉากยานบิน ค่อยๆเคลื่อนเข้าบดบังเกาะแมนฮัตตัน  ตอนนั้นดูแล้วขนลุกเลย  เพราะไม่เคยมีหนังเรื่องไหน  ทำฉากให้ดูอลังการยิ่งใหญ่ เท่านี้มาก่อน

ส่วน T2 ผมถือเป็นงานขึ้นหิ้งที่สุดแล้ว ของทั้งป๋าเจมส์ คาเมร่อน กับป๋าอานน  ชว๊ากเชวกเก้อ  คือนอกจากเซอร์ไพรซ์เรื่องตอนเปิดตัว  โรเบิร์ต แพรทริก ว่าไอ้เนี่ยพระเอกแน่  แต่พอเฉลยตัว T1000 นี่มันสุดๆจริงๆ  คาดไม่ถึงว่าจะจินตนาการตัวร้ายอะไรได้ สุดยอดขนาดนี้  จนถึงทุกวันนี้ผมยังยกให้ T1000 เป็นตัวร้ายที่ดีที่สุดตลอดกาลเลย  และป๋าเจมส์ก็เก่งมาก  ที่ต่อยอด เทคโนโลยีมาจากเรื่อง The Abyss  มาสร้าง T1000 ได้อย่างน่าทึ่งขนาดนี้ 

 เรื่องนี้ผมยังจำได้เลย ว่าไปดูที่โรงหนังเพรสซิเด็นท์(แยกราชเทวี)  ส่วนสตาร์วอร์นี่จำไม่ได้แล้ว  ว่าดูที่ไหน  ไม่พาราเมาท์(ตรงข้ามพันทิพย์)  ก็แมคแคนน่า(สะพานหัวช้าง)  หรือโรงหนังเมโทร(ตรงข้ามกรุงเทพการบัญชี)  โรงใดโรงหนึ่งนี่แหละ555

เกิดไม่ทันจริงๆ ค่ะ 

คือที่จริงเกิดทัน แต่ตอนหนัง ID4 ฉายไม่ได้ไปดู

ส่วน T2 น่าจะได้ดูทางทีวี เหมือนจำได้ว่าเคยเห็นโปสเตอร์หน้าโรงหนัง แต่ไม่ได้ดูในโรงเช่นกัน

ก่อนจะมาทำงานในเมืองกรุง เป็นเด็กบ้านนอกค่ะ เลยไม่ได้เข้าโรงหนัง (จริงๆ ก็ไม่เคยคิดว่าโตมาะต้องมาทำงานในกรุงเทพ 555+)

​และตอนเด็กจะสนใจการ์ตูนเสียมากกว่าหนัง โตมาหน่อยเริ่มมาเรียนต่อในกรุงเทพ แต่ก็ยังไม่สนใจ "การดูหนังแบบพิจารณา" เท่าไหร่
ชั่วโมงบินเลยยังน้อยอยู่

ว่าแต่ พี่ tangkoo. อายุเท่าไหร่คะเนี่ย (^ ^)

นกพัฟฟินครับ อ่านผ่านๆ เห็นกองถ่ายเค้าบอก สถานที่ถ่ายนกชนิดนี้เยอะมาก ไล่ไม่หมดด้วย เลยจัดเป็น CG ให้น่ารักๆอย่างที่เห็นด้วยเลยครับ

https://youtu.be/XtRbLHuWSHg