ความเเตกต่างขึ้นอยู่กับเเต่ละรุ่นด้วยครับ
อย่างของ ibasso  
Sharp ก็จะใสกว่า สปีดดีกว่าเล็กน้อย
Slow ก็จะสมู้ทกว่าแต่ปลายเเหลมลดลงเป้นต้นครับ

Lowpass Filter โดยปกติแล้วเจอในเครื่องเสียงและโปรแกรมคอมต่างๆ

มันเป็นตัวกรองความถี่ต่ำมากๆออกครับ เพราะบางทีความถี่ต่ำมากๆอาจจะทำอันตรายกับอุปกรณ์หรืออาจจะให้คุณภาพเสียงที่ไม่ดี อาจจะทำให้การควบคุม damping factor ไม่ดี เลยต้องมีตัวมาสกัดให้เบสไม่ต้องลงลึกมาก ซึ่งต้องขึ้นอยู่ว่ากรองที่ความถี่เท่าไหร่ ถ้ากรองในย่านความถี่ต่ำมากๆออก บางทีเราฟังไม่ออกครับ แต่ถ้าเค้ากรองสูงขึ้นอีก อันนี้พอฟังออกครับ

เฮียตอบคำถามที่เป็นชื่อของหัวข้อกระทู้ถูกแป๊ะเลยครับนั้น ถ้าเป็น lowpass filter ในวงจร crossover แบ่งแยกความถี่ต่างๆครับ ^^

แต่พอมาใน DAP ซึ่งเป็น digital filter ที่มีข้อเลือกให้อย่างน้อยก็ sharp roll-off กับ slow roll-off ก็ต้องเป็นคำตอบที่หลุยส์ให้มาครับ 555
ส่วนการทำงานของมันเป็นอย่างไรนั้นผมเองก็ยังไม่มีความรู้เหมือนกันนะ ^.^'

555 ผมเห็นหลุยส์ตอบแล้วตรงนั้น ก็เลยไปตอบตรงชื่อกระทู้แทนครับน้าชา 555

เมื่อกี๊ไปเหลือบดูชุดวินเทจของผม มันก็ยังดันมี Low pass และ Hi pass อีกด้วยครับ ผ่านไป 50 ปียังมีวงจรนี้ใช้เลยครับ 555

จูนเนอร์ปรีแมคอินทอชเลยนะเฮีย 55

ส่วน Lowpass Filter ใน โฟโนแอมป์ บางครั้งก็ถูกเรียกว่า Rumble Filter นะครับ ^^

หรืออีกชื่อนึงในวงการเครื่องเสียงรถยนต์ก็คือ Subsonic Filter ครับ ^^

ตอนนี้ไม่มีที่เดินแล้วครับน้า 555

ว่าแต่ผมต้องศึกษาวิชาจากน้าอีกหลายกระบวนยุทธเลยครับ 555 บางเรื่องผมเพิ่งทราบจากน้าชานี่แหละครับ

เอาของหน้าตาประหลาดมาให้ดูกันหน่อยครับ 555

Filters - LF กับ HF ที่เป็นสวิ๊ชให้เลือกอยู่หน้าแมคอินทอชของเฮียนี้ เป็น filter สำหรับจูนกรองคลื่นวิทยุ(radio frequency)ที่เป็นวงจรรับคลื่นวิทยุในยุคแรกๆเลยซึ่งถ้าเป็นในวงการ Ham Radio หรือพวกวิทยุติดต่อสื่อสารก็จะมีให้เห็นกันบ่อยๆอีกด้วยครับ ^^

จ๊ากกกกกก... นี่มันหม้อแปลงอะไรครับเฮีย
มันมีหัว TAP เยอะอย่างกับราวไข่คางคกเลย 555

อันนี้แปลกครับน้า ตอนแรกผมก็เข้าใจเหมือนน้าชา แต่ว่าตัวนี้มันไม่ได้กรองคลื่น FM ครับน้า แต่มันตัดความถี่ทุ้มกับแหลมเลยครับ ผมต่อ Phono หรือต่อช่อง Aux เล่นด้วยไฟล์ดิจิตอล มันก็ตัดครับ

อันนี้เป็น Filter ที่ตัดเสียงเลยครับ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าระบบ MPX ที่มันติดมาคืออะไรเหมือนกัน อันนี้เป็น Mcintosh MX110z ครับน้า (มีรหัส Z ต่อท้าย) 55

อันนี้ล่ะของแปลก เมื่อกี๊ไปลองโพสในเฟชบุ๊คดูว่าจะมีใครเคยเห็นเปล่า

น้าชาลองทายเล่นๆครับว่ามันคือหม้อแปลงอะไร 555 เดี๋ยวมาเฉลยครับน้า

ไม่ใช่แล้วครับ low pass filter คือวงจรกรองความถี่ต่ำผ่าน หมายความว่าจะยอมให้ความถี่ต่ำที่กำหนดไว้ผ่านได้เท่านั้น ถ้าสูงกว่านั่นจะขจัดทิ้งครับ

ส่วนใน dap หรือ cd บางเครื่องที่มีฟังก์ชั่นนี้เพราะเวลาแปลงจาก digital เป็น analog มันจะมีความถี่สูงที่ปนมาจากสัญญาณ digital เจอปนอยู่ วงจร low pass filter จะทำหน้าที่ขจัดสัญญาณเหล่านั้นให้หมดไปจนเหลือแค่สัญญาณเสียงที่เราได้ยิน ส่วนการเลือกรูปแบบ  sharp กับ slow น่าจะเป็นการเลือกรูปแบบของการกรอง ถ้า sharp ก็จะได้ความคมชัดของเสียง ถ้า slow ก็จะไปในแนวสมูทครับ

http://www.elec-za.com/วงจรกรองความถี่-filter-circuit/

ขอเอาคู่มือ MX110z มาแปะไว้ตรงนี้ก่อนนะเฮีย

http://www.vintagevacuumaudio.com/schematics-manuals/mcintosh/mcintosh-MX110-z-series-owner-manual.pdf

ผมต้องดูรายละเอียดว่าพวก Filters นั้นไว้ทำอะไรกันแน่ 555

คือจากที่ผมเข้าใจและทดลองดู ไอ้เจ้า Low Pass Filter ก็น่าจะประมาณว่ามันจะไม่ปล่อยความถี่ที่ต่ำกว่ากำหนดออกไปครับ ซึ่งในไฟล์เพลงหรือแผ่นเสียงต่างๆ มันจะมีเสียงต่ำที่บางครั้งต่ำจนทำให้ลำโพงทำงานหนัก หรือหูฟังทำงานหนัก โดยที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะเราไม่ได้ยินเสียงต่ำนั้นๆครับ

สมมุติว่า เสียงต่ำระดับมนุษย์ฟังได้ยินที่ 20Hz ตัว Low Pass Filter อาจจะกรองให้ตั้งแต่ 50Hz โดยไม่ปล่อยให้เสียงต่ำกว่า 50Hz ออกไป เหตุผลก็คือน่าจะเพื่อความเหมาะสมในการฟังแผ่นเสียงนั้นๆหรือเทปรีลนั้นๆครับ

555 แต่อันนี้ผมอธิบายเกี่ยวกับตัวกรองในเครื่องเสียงและโปรแกรมเล่นเพลงเช่น Roon นะครับ ส่วนใน dap เดี๋ยวให้น้าชาอธิบายดีกว่า แกเล่นเยอะกว่าผมแยะ 555

ผมคงทายว่าเป็น หม้อแปลง Step Up Transformer สำหรับหัวเข็ม MC
แต่ขนาดมันใหญ่เกินไปจริงๆ 555

หรือจะเป็น หม้อแปลง multi tap transformer ที่มีสารพัดโวลท์ในลูกเดียวเลยซึ่ง 3 ขั้วด้านหลังนั้นคือขั้ว AC-0V-AC input ครับ ^^

อันนี้ถ้าเล่าผิด ขอให้ยกประโยชน์ให้จำเลยละกัน 555

อันนี้ไม่เกี่ยวกับ DAP นะครับ แต่เป็นการกรอง Low Pass จากโปรแกรม Roon ที่เวลามันเล่นจาก DSD ไป PCM (ในกรณีที่ dac เล่น native ไม่ได้) เค้าจะมีตัวกรองหรือ Low Pass Filter มาให้ครับ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเซฟตี้ความปลอดภัยต่างๆ จะเห็นว่า Recommend ที่ 30Hz แต่ถ้าใครเป็นแนวฮาร์ดคอร์อนุรักษ์นิยมหน่อย ก็เลือกให้มันลงต่ำอีกได้ที่ 24Hz แต่ถ้าบอกไม่เลือกเลยหรือ Unfiltered  ถ้าไฟล์มันปล่อยความถี่ต่ำทีเ่กินจำเป็นออกมา มันจะออกมาหมดแบบไม่มีกั๊ก ซึ่งอาจจะเกิดความเสียหายกับเครื่องเสียงหรือลำโพงหรือหูฟัง เพราะทำงานหนักโดยไม่จำเป็นครับ^^

เอาคลิปมาแบ่งกันดูครับว่า พวกคลื่นความถี่ต่ำมากๆ(subsonic freq)ที่ออกมาจากหัวเข็มและถูกขยายผ่านโพโนแอมป์โดยไม่ได้ใช้ Low Filter เมื่อสัญญานไปถึงลำโพงแล้วดอกลำโพงจะเป็นอย่างไรบ้างครับ


https://youtu.be/EFxfxerJbQ0

ถูกเป๊ะเลยครับน้า ถ้าไม่มี Low Pass มีหวังลำโพงบรรลัยหมด 555
-------------

Low Pass ในสมัยก่อน จะต้องมีเพื่อมาตัดความถี่ต่ำที่เกินมาจากการใช้เครื่องเล่นอนาลอกอย่างเครื่องเล่นแผ่นเสียง เพราะบางทีโทนอาร์มกับหัวเข็มไม่แมทช์กัน มันจะส่งความถี่ต่ำส่วนเกินมาที่ปรีแอมป์หรือปรีโฟโน ซึ่งก็จะถูกปล่อยให้ผานไปที่ลำโพงตรงๆ ซึ่งสร้างความเสียหายโดยตรงกับลำโพงและแอมป์ขยายด้วยครับ (เพราะแอมป์ก็ทำหน้าที่หนักเหมือนกัน)

เฉลยจ้าๆๆๆๆๆ

เฉลย : มันคือหม้อแปลงแบบ isolated transformer ชนิด C Core ครับ ซึ่งเป็นหม้อแปลง step down คือสามารถลดแรงดันไฟลงมาได้หลากหลายตามความต้องการ เช่นเลือกให้เป็น 100V ได้ หรือเลือก 110V ได้ หรือ 120V ได้

และด้วยความที่เป็นหม้อแปลงที่ใช้แกนเหล็กแบบรูปตัว C พันด้วยลวดแบบแยกขด ทำให้ได้ไฟที่สะอาด น๊อยส์ต่ำ และที่สำคัญหม้อแปลงแบบ C Core ให้เสียงที่มีฮาร์โมนิค เสียงจะมีความกังวาน หวาน ไหลลื่นกว่าหม้อแปลงชนิดอื่นครับ

สมัยก่อนโน้นนนนนนนน....พวก isolated transfomer มันหายากมากๆ
ผมก็เลยฮาร์ดคอร์ใช้แต่พวก Variac transformer บิดเอาตรงๆเลยครับ 555



https://youtu.be/ybHl98OVEHg

ของน้าชานี่ถือว่าเป็นรุ่นเดอะ นวัตกรรมที่เกิดก่อนใครเลย 555

หม้อแปลงแบบน้าชานี่ดีนะครับ ใครมีเครื่องเล่นวินเทจที่ไม่ได้เปิดใช้นานๆๆ มาถึงจะเสียบปลั๊กใช้ไฟ 220V เลย อาจจะมีหวังเดี้ยงได้ง่ายๆๆ แต่ถ้ามีแบบน้าชา อันนี้สามารถค่อยๆเพิ่มแรงดันกระแสไฟขึ้นไปเรื่อยๆ โดยอาจจะเปิด 1-2 ชั่วโมงแรกที่ 50V แล้วหมุนปรับเป็น 70 -80 -100 ไปเรื่อยๆ ในชั่วโมงต่อๆไป จนถึงระดับคงที่ 220V

เป็นวิธีการปลุกให้เครื่องเล่นวินเทจที่หลับใหลไปนาน ฟื้นมาแบบไม่มีความเสียหายต่ออุปกรณ์ครับ

ผมอาจจะตั้งคำถามผิด จริงๆที่ผมสงสัยน่าจะเป็น digital filter มากกว่า  แต่ก็ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบครับ ได้ความรู้ไปเต็มๆเลย

ผมกดผิดอีกแล้ว T_T ขอโทษคร้าบ จริงๆจะแจกหู ดันกดผิดคร้าบ

ตอนเด็ก ๆ เห็นตู้แบบนี้อยู่ในบ้านครับ
แสดงว่า สมัยก่อน ไฟตกเป็นประจำ
เห็นรูปของน้าชาแล้ว เลยนึกขึ้นได้

Low-pass ชื่อก็บอกว่า low pass ครับ ความถี่ต่ำผ่าน ความถี่สูงกว่า cutoff f โดนตัด

ใช่ครับมีประโยชน์ใน d/a conversion ครับ อย่าง redbook ที่ 44.kHz ตาม nyquist theorem แล้วจะแปลงออกมาได่ 22.05 kHz ซึ่งไอส่วนที่เกิน 20kHz เรียกว่า transition band ให้พวก artifacts และ aliasing จาก d/a conversion ไปอยู่ครับ จากนั้นจะโดน LPF ตัดออกอีกทอดครับ

สำหรับ Digital filter แบบ sharp กับ slow นั้น ผมเองก็เคยสงสัยครับ เท่าที่ลองฟังเสียงเมื่อปรับแล้ว ก็ให้เสียงเหมือนที่ คุณหลุยส์ บอกครับ จนกระทั้งวันนึง ผมได้เห็นในเอกสารของเครื่องเล่น DAP (ต้องขอโทษด้วยครับ จำยี่ห้อไม่ได้จริงๆ ไม่งั้นจะหารูปมาให้ดูครับ) เขาอธิบายด้วย รูปภาพ เป็นกราฟเสียง (รูปคลื่นครับ) ซึ่ง

Digital filter : sharp นั้น จะเป็นรูปเหมือนคลื่น FM ครับ คือ มีเส้นกราฟ ที่ถี่ และเรียงชิดกันครับ
Digital filter : Slow นั้น จะเป็นรูปคลื่นแบบ AM คือมีเส้นกราฟ ที่ ห่างกว่าครับ
(ไม่แน่ใจว่า อธิบายแบบนี้ จะงงกว่าเดิมหรือเปล่าครับ)

ก็เลยทำให้ผมเข้าใจว่า คำว่า Sharp คือความหมายของคลื่นเสียงที่ ความถี่สูง (เคลื่อนที่ไว)ในหนึ่งช่วงoctave  ส่วน slow คือคลื่นเสียงที่จะมี ความถี่ที่ต่ำกว่า ในหนึ่ง octave  ดังนั้น เสียงที่ปรับ filter เป็น sharp ถึงได้ให้ โทนเสียง สว่าง มีรายละเอียด ที่มากกว่า แต่ขาดความละเมียด ละไม
ส่วน เสียงที่ปรับ filter เป็น slow จะให้โทนเสียงที่ smooth ไม่เร่งเร้า และมีรายละเอียด ที่ดูด้อยกว่า ครับ

อันนี้ เป็นความเข้าใจส่วนตัวครับ ถ้าท่านใดรู้ลึก และ นิยามได้ดีกว่า ช่วยเข้ามาแก้ไขเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยนะครับ  ถ้าที่เล่าให้ฟัง ผิดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ผมคิดว่าพวก slow, sharp roll-off filter ก็เป็น LPF เหมือนกันครับ แต่ slow roll-off คือ transition band กว้างกว่า และจะตัดกินเข้ามาใน pass band ครับ

จริงๆ slow roll-off ออกมาหลัง sharp ที่ใช้ใน DAC มานานแล้วครับ เพราะ sharp roll-off ทำให้เกิด ringing ตรงจุด transient ได้ และการตัดที่ไม่หวือหวาหรือรุนแรงแบบ sharp ยังอาจเพิ่ม impulse response ได้ครับ

https://en.wikipedia.org/wiki/Ringing_artifacts#Low-pass_filter

ใจเย็นๆครับ อ่านดีๆ ตัวเลือกนั่นเป็น kHz นะครับ ไม่ใช่ Hz เฉยๆ ซึ่งถูกแล้วครับว่าจะเป็นจุดที่ยิมให้สัญญานที่ความถี่ต่ำกว่าต่าที่เลือกผ่านได้ ส่วนที่ความถี่สูงกว่านั้นจะถูกกรองออก ส่วนความ Sharp / Slow / Brickwall / Roll-off ต่างๆ เรียกง่ายๆคือความเด็ดขาด และความผ่อนคลายของตัวกรองครับ ว่าตัวกรองนั้นจะเข้ามาจับสัญญาณที่ความถี่สูงเกินเร็วแค่ไหน และผ่อนผันออกไปเร็วแค่ไหน แบบที่คุณ Artnoi บอกน่ะครับ

Low Pass น่าจะหมายถึงให้ความถี่ต่ำผ่านไปมากกว่า (กรองความถี่สูง ไม่ใช่กรองความถี่ต่ำ)