Audioquest Dragonfly Black หรือ Red  ลองดูครับ

ขอถามอีกว่า ทำไมฟังเพลงผ่านมือถือต้องใช้ DAC/Amp เพิ่มอีกครับ เห็นพวกมือถือรุ่นท็อปๆ ก็โฆณาเรื่องชิปเสียงอยู่แล้ว ส่วน Amp มันช่วยอะไร มากกว่าการขยายเสียงครับ ถ้าไม่ได้ใช้กับหูฟังกรือลำโพงที่มีความต้านทานสูง มันจำเป็นขนาดไหน และที่สงสัยคือ มันสามารถปรับลักษณะเสียงออกไปเลย ใช่หรือเปล่าครับ ผมงงกับปุ่มเพิ่มเบส อะไรแบบนี้ ถ้าผมไปปรับ equalizer เพิ่มเบสเองในมือถือ เสียงจะเหมือน หรือต่างกันอย่างไรครับ แล้ว DAC/Amp ถูกกับแพงมันต่างกันยังไง จำเป็นไหมที่ต้องจ่ายแพง

ไม่ตอบแบบวิชาการมากนะครับ เพราะทุกเจ้าเคลมว่าต่อแล้วเสียงดีขึ้น เพราะหลักการโน้นนี้ เอาแบบเหมือนลูกค้ามือใหม่มาถามว่าซื้อไปเพื่ออะไรหรือแบบ Blind test แล้วรู้ว่าแบบนี้สิ มันจำเป็นต้องซื้อ ไม่ใช่คิดเอาเอง

Amp เก่าที่ขายไปคือ Fiio A1 ครับ ราคาถูกมาก ต่ำกว่าพันอีก สำหรับผมมันไร้ประโยชน์มาก (ตามความเห็นส่วนตัว) บางเว็บมันเขียนเวอร์ครับ แบบถูกแต่ดี ถ้าเสียบกล่องเล็กๆนี้ไป เสียงจะเป็นแบบนี้ๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือ ผมก็พยายามฟังครับ มันไม่เหมือนอย่างที่เขาอ้างมา ผิดที่ผมด้วยครับที่สั่งทางเว็บแล้วไม่ได้ลองก่อน พวกแอมป์ลูกกบ ลูกเจี๊ยบ เล็กๆเนี่ยอ่านรีวิวก็โดนเลย

AMP หูฟัง เช่น Fiio A1 มันเป็นแค่แอมป์ขยายเพิ่มกำลังขับเฉยๆครับ ถ้า source มันไม่ดีก็ขยายออกมาไม่ดีเช่นกัน โดยทั่วไปมันจะใช้คู่กับ DAP ครับถึงจะเห็นผล แต่ DAC/AMP มันทำหน้าที่ถอดรหัสแทนชิปเสียงในโทรศัพท์มือถือพร้อมกับขยายด้วยดังนั้นภาคถอดรหัสมันจะดีกว่าในตัวโทรศัพท์มือถือ ไม่งั้นมันคงขายไม่ได้เพราะไม่มีคนซื้อ 555 ชิพเสียงใน DAC/AMP แต่ละตัวมันคนละเบอร์ คนละนี่ห้อ แน่นอนต้องให้เสียงที่ต่างกันออกไปครับ ไม่สามารถบอกได้ว่าใครชอบอะไรตัวไหนต้องลองเอาเอง

DAC/AMP อีกตัวนึงที่อยากจะแนะนำคือ Meridian Explorer 2 ครับ แต่เหมาะจะเล่นกับ Notebook มากกว่า ให้กำลังขับดีมากคุณภาพเสียงออกมาเยี่ยมครับ ราคา 6000 บาทตอนนี้

ลองดูครับว่าเห็นความแตกต่างมั้ย?

ในราคาที่ไม่แพงเท่ากัน ควรซื้อ DAC/Amp ที่ใช้ได้หลายๆ devices ต่อ OTG ได้ หรือควรซื้อแบบ USB ใช้กับคอมอย่างเดียวไปเลย เน้นคุณภาพและความแตกต่างครับ ถ้าชอบผมคงใช้ยาวๆเลยครับ แต่ไม่ซื้อเผื่ออนาคตนะ

ของพวกนี้ไม่ต้องห่วงครับ อีกหน่อยจะมีให้เล่นมากมาย เพราะเทรนด์กำลังมาแนวนี้ ส่วนตัวถ้าฟังกับคอมใช้แมงปอดำ ,ฟังมือถือใช้ btr1 ราคาไม่แพงครับ ไม่เจ็บตัว เสียงดีหรือเปล่าแล้วแต่ความชอบ แต่แตกต่างจากต่อตรงแน่นอน

iPad เสียงดีจริงครับ เพราะ output impedance ต่ำมาก (1.2ohm) ทำให้เสียงแฟลตกว่าไอโฟน ไม่มี distortion จาก underdamping ครับ

แต่เห็นว่าช่องหูฟัง iPad เองก็ output voltage = 1V เท่ากับ lightning audio adapter A1749 เลย ซึ่งตัวนั้น output impedance ต่ำกว่า น่าจะเหมาะสำหรับพวกหูฟังโอห์มต่ำๆมากกว่าครับ

จริงๆของแถมแอปเปิลเสียงดีมากนะครับ ค่าความเพี้ยนต่ำมาก ราคาถูกด้วยครับ

http://www.kenrockwell.com/apple/lightning-adapter-audio-quality.htm
http://reference-audio-analyzer.pro/report/amp/apple-lightning-audio-adapter-a1749.php

ถ้าอยากได้แรงกว่า 1V ผมว่าต้องมองตัวที่มีแบตในตัวครับ

จากความเห็นที่ 5

เพลงแรก: ไม่ต่อเพราะกว่า เบสต่าง เปิดแล้วดีขึ้น
เพลงที่ 2: ไม่ต่างเลย
เพลงที่ 3: ไม่ต่างเลย
เพลงที่ 4: ต่าง เสียงคนร้องชัดขึ้น เบสต่าง แต่เปิดแล้วไม่เพราะ ออกบวมๆ
เพลงที่ 5: ต่างน้อยมาก เปิดเบสก็ต่างขึ้นนึดนึง

อาจเป็นเพราะฟังผ่าน youtube ด้วย เลยวัดกันจริงๆไม่ค่อยได้ คงต้องไปลองของจริง

BTR1: 1700 บาท
Q1 Mark ii: 3400 บาท
Dragonfly ดำ: 3900 บาท
Explorer 2: 6000 บาท
Dragonfly แดง: 6900 บาท

ขออนุญาตครับ
 
ส่วนหนึ่ง การฟังออกหรือไม่ออกว่าต่าง หรือไม่ต่าง ต้นทางคือไฟล์เพลงมีผลมากนะครับ ยิ่งชุดแพงๆนี่ ไฟล์ต่างกันจะส่งผลอย่างมหาศาล
ความกับข้อมูลในความเห็น 4 ของคุณsomkiatr คือ แอมป์มันจะไปขยายสัญญาณต่อเท่านั้น

ตามทฤษฎี แอมป์ที่ดีก็จะไม่ได้ไปสร้างความผิดเพี้ยนให้เกิดขึ้นมากมาย คือ จะขยายให้ไม่ผิดแผกจากต้นฉบับ ทีนี้ ถ้าต้นทางมันคุณภาพไม่สูง  มันก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรในความรู้สึกของคนฟัง เพราะมันทำหน้าที่ของมันแค่ ทำให้ดังขึ้น

บวกกับ หูฟังประเภทอินเอียร์ ที่ประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว(sensitivity) ซึ่งความจำเป็นของการใช้แอมป์จะน้อยลง  ตรงนี้ถ้าไปใช้กับหูฟังฟูลไซส์ ประโยชน์ของแอมป์จะเห็นมากขึ้นครับ  โดยยังขึ้นอยู่กับลักษณะเพลงที่ฟังด้วย ว่า ถ้าเพลงโหดๆมาก ฟังแบบอัดมาก นั่นจะรู้สึกว่า แอมป์มันมีประโยชน์ แต่ถ้า ที่เจ้าของกระทู้เล่ามา คือ '....ฟังเพลงสบายๆ ชิลๆ ถ้าเพลงมันส์ๆก็เอาสนุกครับ ไม่ได้ซีเรียสด้าน technical มากมายครับ แนวเพลงส่วนใหญ่ก็เพลงฝรั่งตลาดๆครับ ฟังตั้งแต่ bossa ยัน heavy metal...'

รวมทุกปัจจัยเข้าด้วยกัน ทั้งลักษณะการฟังเพลง หูฟังที่ใช้ เจ้าของกระทู้ก็น่าจะทำถูกสำหรับตัวเองแล้ว คือ ขายแอมป์ทิ้ง ^ ^

ลักษณะการฟังผมเองก็คล้ายเจ้าของกระทู้มากนะครับ คือ ฟังเพลงก็อารมณ์นึง  แม้จะมีแอมป์มากกว่าหนึ่งตัว มีสาย m2m หลายเส้น หลายลักษณะเสียง แต่บ่อยครั้ง ถ้า"ฟังเพลง" ผมก็ต่อตรงกับ DAP มั่ง กับโทรศัพท์มั่ง โดยเฉพาะพวกอินเอียร์ที่ไม่ใช่ตัวสูง

แต่ถ้าฟังแบบทดสอบหรือจับผิด ด้วยอินเอียร์ตัวสูง(สำหรับผม) หรือฟูลไซส์ แบบนั้นก็จัดแบบเต็มเซ็ทครับ

ถ้าความต้องการของเจ้าของกระทู้  ควรจะไปลอง DAC ตัวที่พี่ๆน้าๆแนะนำครับ ต่างหรือๆไม่ต่าง จะได้คำตอบเอง

ขอบคุณทุกคนมากครับ

ผมว่าไม่ต้องไปซื้อหรอกครับ คิดว่าหูคุณอาจจะแยกไม่ออก เพราะเท่าที่พูดมาว่ายังแยก flac ไม่ออกเลย ไหนจะเรื่องอาจชอบแนวเสียง ipadมากกว่าอีก ส่วนเรื่องเสียง ผมว่าแค่ตัวเล็กๆ btr1 ก็ต่างครับ ส่วนตัวผมว่าตบ iPad คว่ำตั้งแต่ยกแรกไม่เกินสอง ยิ่งถ้าเชื่อมต่อเป็น aptx ด้วยนี้ ตบคว่ำ ตั้ง 3 วิเลย

ก็ใช้อยู่

Android ดีขึ้นแน่นอน เสียงไม่ได้เปลี่ยนนะ แต่มันมีความเป็น 3 มิติมากขึ้น จะมากหรือน้อย ว่ากันอีกที
แต่ใช้พวกสตีมมิ่ง อันนี้ไม่แน่ใจว่า DAC มันจะรับหรือเปล่า ต้องลอง
ยูทูป ไม่น่าจะได้ ดันไปใช้โปรแกรม UAPP มันบล็อกหมดเลย ตอนแรกที่ใช้ HF Onkyo ใชัได้
Android จะมีปัญหากับ DAC เยอะ ต้องเอาไปลองเลยว่า มันเข้ากันได้ใหม

Ipad ไม่ได้ลอง ไม่มีสาย Camera Kit แต่รู้สึกว่าจะมีปัญหากับ DAC น้อยกว่า รวมๆ Ipad เสียงก็ดีอยู่เเล้ว อาจรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่น้อยกว่า

แนะนำ. GeekOut 1000 ครับ 
เล่นไฟล์ได้หลากหลายรวมทั้งไฟล์ความละเอียดสูงอย่าง Native DSD 128 ได้ พร้อมแอมป์ในตัวกำลังสูงถึง 1000mw
ใช้ขับหูใหญ่เล็กได้หลากหลาย
ผมใช้มาสองตัวแล้วครับ ชอบมาก รายละเอียดสูงเบสแน่นกระแทกกระทั้นลงลึก ฟังเพลงแล้วได้อารมณ์จากฐานเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ซึ่งบางตัวหลายหมื่นยังไม่มีให้เห็น(บางตัวนะครับ)
ราคาก็น่าซื้อมากครับ

ไปลองที่ร้านมาแล้วครับ ชอบ BTR1 มากที่สุด จริงๆเอามาทำเป็น bluetooth receiver ก็คุ้มแล้ว ส่วนเสียง ถ้าเป็น apple music นี่ไม่ค่อยต่าง แต่ถ้าเป็น tidal hifi อันนี้ชัดครับ ตอนไม่ต่อมันจะได้ยินเป็นเสียงอั้นๆ ต้องเปิด volume ในมือถือให้ดังๆ ถึงจะได้ยินรายละเอียด แต่พอต่อปุ๊ป มันเหมือนเสียงถูกยืดออกมา ได้ยินรายละเอียดเครื่องดนตรีมากขึ้นครับ เสียงร้องชัดขึ้นด้วย เปิดไม่ต้องดังก็พอแล้ว พอกลับไปเทียบกับ apple music อีกที มันเหมือนเราดึงภาพออกมาแล้วภาพแตก ไม่เสียบยังเพราะกว่า ยังเนียนๆฟังได้ครับ สรุปจอง BTR1 ไปแล้วครับ ของหมดทุกสาขา ส่วน explorer 2 ที่ร้านบอกหมด ไม่มีขายแล้ว อีกอย่างมันต่อคอมได้อย่างเดียวด้วย

ปล. ต่อกับ note5 นะ ไม่ได้เอา ipad กับคอมมา

aptx นอกจากเสียงดีแล้ว
เวลาปรับ vol สเกลมันละเอียดขึ้นด้วยครับ

มีใครเคยใช้ Avantree Priva iii bluetooth 4.2 transmitter บ้างครับ เห็นรองรับ aptx กับ aptx low latency

http://www.avantree.com/bluetooth-audio-transmitter-avantree-priva-iii.html

ถ้า จขกท. สนใจเป็น bluetooth ผมว่า BTR1 น่าสนใจสุดแล้วครับ ในระดับล่างถึงกลาง ตัวอื่นไม่น่ามองแล้วล่ะ

แต่ถ้าอยากได้เป็น DAC แบบต่อสาย จากที่อธิบายความชอบมา ผมว่า Q1 mk II ก็ดูจะเหมาะกับจขกท.นะครับ จากโทนทรี่ชอบ จากแนวเพลงที่ฟัง แถมต่อกับ iPad ได้ด้วยอีกต่างหาก

แต่ยังไงคือต้องหาเวลาไปทดลองครับ ของแบบนี้ ไม่ลองก็ไม่รู้ 55

รบกวนถามเพิ่มครับ Geelout 1000 มันต่างจาก V2 Infinity ยังไงครับ

ความเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ

จริงๆก็ไม่ได้สนใจฟังชั่น bluetooth อยู่แล้วครับ แต่ตอนไปฟัง พวก q1 mk ii กับ dragonfly ดำ/แดง ต่อแล้วมันดึง volume ลงหนักมาก โดยเฉพาะ dragonfly ทั้ง 2 ตัว ต้องเปิด volume ในมือถือจนเกือบเต็ม แล้วค่อยปรับที่ DAC/Amp งงเหมือนกันครับว่าทำไมต่อ Amp แล้วเสียงเบาลง ต่อ micro usb ไฟเลี้ยงไม่พอเปล่า? หรือมือถือแรงไม่พอ โดนความต้านทานดึงไป เห็น พนง. ที่ร้านบอกว่ามันดึงไฟจากมือถือ แบตอาจจะหมดเร็วขึ้น ยิ่ง dragonfly ไม่มีแบตในตัวยิ่งดึงไฟใหญ่เลย อันนี้ผมไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า Q2 mk ii นี่ถูกใจตั้งแต่อ่านสเปค ดูรีวิวแล้วครับ แต่พอลองแล้วทำไมเป็นแบบนี้ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆเลยครับ ส่วน dragonfly ชอบที่มีไฟสีๆบอก bitrate

ความคิดเห็นที่ 15

รุ่นนี้ก็น่าสนเหมือนกับ เน้นต่อคอมใช่ไหมครับ เดานะรุ่นนี้คงต่อมือถือไม่ได้แบบ explorer 2 แต่ผมก็ไม่ได้ลำบากอะไรที่จะฟังผ่านคอม ขอเสียเงินแล้วได้ความฟินพอครับ

ถ้าจะใช้ q1 mk2 เอาโทรศัพท์ไปลองได้ยิ่งดีเพราะว่าเวลาใช้กับ Android มันจะไม่ตัดมาใช้แบตที่ตัวมันเหมือน ios มันจะดึงแบตจาก Android มาใช้แบบลดฮวบ แทบจะนาทีละเปอร์เซ็นต์ส่วน DragonFly ต้องลงโปรแกรม USB Audio Player Pro ถึงจะเป็นการใช้ Bit Perfect ครับ แก้ปัญหาเรื่อง วอลลุ่มด้วยครับ

ผมอ่านดูแล้วคุณเปลี่ยนหูฟังที่ดีขึ้นน่าจะตอบโจทย์กว่านะครับ การเพิ่มแอมป์เพิ่ม DAC คงไม่ใช่ทางแก้ที่ถูก คุณใช้หูฟังถูกๆถึงเอาแอมป์หรือdacมาต่อมันก็ไม่ต่างเท่าไหร่เพราะไปอั้นที่หูฟัง ลองเปลี่นหูฟังใหม่มันคือเปลี่ยนแนวเสียงเลยอันนั้นจะเห็นผลมากกว่าแถมไม่ต้องพกอะไรรุงรังด้วย