Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

สายอัพเกรดหูฟัง Full Size ทำไมไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงครับ

Tonpv

06/12/2017 19:25:01
18
รบกวนสอบถามสายสัญญานอัพเกรดของหูฟังขนาด Full Size หรือ สายที่เชื่อมต่อหูฟังกลุ่ม Wireless ครับ

เห็นแต่นิยมเปลี่ยนและกล่าวถึงแต่แบบ Inear ซะส่วนใหญ่  แบบ 3.5 to 3.5 ส่วนมากก็เชื่อมต่อเครื่องกับเครื่องหรือลำโพง แต่สายสำหรับหูฟังทำไมมีน้อยครับ

ปกตินิยมเปลี่ยนกันมั๊ยครับ 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

paperman

06/12/2017 19:46:30
120

ผมเล่นเเต่FS ก็อัพทุกตัวที่เล่นนะครับ ส่วนนึงเพราะคนส่วนใหญ่เล่นอินเอียด้วยเเหละครับทำให้บางทีคนพูดถึงสายอินเอียร์เยอะ

FSก็อัพสายกันเยอะครับเเต่มันค่อนข้างที่จะเป็นสูตรตายตัวครับ เพราะด้วยความที่หูมันมีน้อย สายเองก็ไม่ได้มีให้เลือกเยอะเหมือนกัน ยกเว้นเเต่จะสั่งทำพิเศษ คนเล่นส่วนใหญ่เค้าก็จะมีสูตรของเขาอยู่เเล้วว่าเล่นตัวนี้อัพสายตัวนี้สายตัวนั้น เลยอาจจะไม่ค่อยเห็นคนมาถามเท่าไหร่

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 2

tangkoo.

06/12/2017 20:00:51
1,368
อย่าว่าแต่สายเลยครับ  แม้แต่หูฟังฟูลไซส์ช่วงสองสามปีนี้ก็ค่อนข้างเงียบ  คือไม่มีตัวไหนที่มันเป็นกระแสแบบโดดออกมาเลย  อะไรที่เป็นตำนานก็เป็นอยู่อย่างนั้น

ไม่นับพวก ออดิสซี่ เซนไฮเซอร์ ไฮไฟแมน อะไรแบบนั้นนะครับ  อันนั้นเขามีกลุ่มอยู่แล้ว   ที่ร้านเขาก็มีตัวเลือกให้เพื่อจัดชุดอยู่แล้ว  

ทั้งนี้ทั้งนั้น น่ามาจากกลุ่มคนเล่นตั้งโต๊ะ แบบจริงๆจังๆน่าจะน้อยลง  กลุ่มพกพาเพิ่มขึ้น  พวก dac/ampตั้งโต๊ะ จากแต่ก่อนมีตัวเลือกหลากหลาย มากกว่านี้  เดี๋ยวนี้ audio gd ยังต้องใช้พรีออเดอร์เลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

MaOdA

06/12/2017 20:44:02
55
Full Size ผู้ใช้ต้องแบกน้ำหนักด้วยนะครับ
แล้วคนที่เขาจัดทรงผม หรือคนที่ onstage เข้าจะใช้ยังไง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

sangka

06/12/2017 21:31:59
48
Grado เฮียบอกไม่ต้องเปลี่ยน ไม่ต้องดัดแปลง 55 สายเดิมก็เสียงดีแล้วจริง sen hd600 ผมใช้สายอัพเกรดคุณภาพพอๆกับของเดิมแต่สั้นลง(1.2M)ก็เสียงดีขึ้นแล้ว ผมว่า full size สายที่แถมมาค่อนข้างดี มีขนาดใหญ่อยู่แล้ว สายอัพเกรดจึงมีไม่มาก รวมถึงคนใช้น้อยกว่าพวกอินเอียด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

นายมั่นคง

06/12/2017 22:52:21
4,282
สาเหตุที่สายอัพเกรด Fullsize ไม่ค่อยมีคนถามถึง ก็เพราะช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงขาลงของหูฟังขนาดใหญ่ที่พกพาไม่ได้นั่นเองครับ 555 เมื่อตลาดมันหดตัวลง ผู้ผลิตก็ลังเลที่จะทำออกมา เพราะว่าทำแล้วก็จำหน่ายได้แบบกระปริบกระปรอย ซึ่งอันนี้ผมว่าหลักใหญ่มันเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์คนเล่นมีการเปลี่ยนไป

แต่ไม่แน่ครับ ของพวกนี้พลิกไปพลิกมาได้ครับ ใครจะรู้ว่าปีหน้าหรือปีนู้น เทรนด์อาจจะเปลี่ยนมาเล่น fullsize กันอีกก็ได้ครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

Furch

07/12/2017 11:00:04
624
เข้าใจว่าเป็นขาลงเฉพาะไทยรึเปล่าครับเฮียมั่น เพราะผมเปิดอ่าน head fi ก็ยังมีถามทั้งเรื่องหูฟังและสายของ full size กันเรื่อยๆ
ซึ่งผมก็เจอหลาย brand ที่น่าลองและราคาไม่แรงมากจาก head fi แต่ในไทยก็ไม่มี dealer เลย 

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Sunriverss

07/12/2017 12:03:39
143



ผมเล่นแต่ FS และชุดตั้งโต๊ะเท่านั้น และยังสนใจเฉพาะชุดตั้งโต๊ะต่อไป
ผมเป็นคนนอกกระแสเหรอครับเนี่ย ต้องไปหาข้อมูลชุดเคลื่อนที่เร็วบ้างแล้วล่ะครับ เด๋วตกกระแส
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 8

somkiatr

07/12/2017 12:29:30
182
ผมก็อีกคนที่เล่น Full Size มาตั้งแต่ต้น และตอนนี้ยังไปไม่สุดทางครับ อยู่ระหว่างทางเหมือนพี่ตูนบอดี้สแลม 555 แต่ก็มี inear และ DAP/DAC/AMP พกพาสลับเล่นด้วย แต่ชอบ Full Size มากกว่าเพราะฟังแล้วเสียงมันมีพลังมากกว่าและชอบเล่นเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่าจาก DAP 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 9

prolang

07/12/2017 14:46:42
23
   ผมก็ชอบ Full Size มากกว่าคับ อาจจะพกพาไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก
แต่เสียงที่ได้นี่มีอรรถรสมาก  ฟังแล้วเต็มอิ่ม ได้น้ำได้เนื้อ  เสียงมี impact สั่นสะเทือน
ถ้าได้ต่อ DAC ตั้งโต๊ะนี่เสียงพุ่งทอดตัวไกลลิบลับ :P

   ช่วงนี้ก็นั่งฟังนอนฟังอยู่กับบ้านไปก่อน ^o^    
ออกนอกบ้านก็ใช้ Earbud หรือ ClipEar แทนคับ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

Peob18c

07/12/2017 17:28:51
61
ผมมาจาก พกพา แล้วขยับขึ้นตั้งโต๊ะ ครับ ตอนนี้แทบจะไม่ได้หยิยพกพามาฟังเลย ครับ ความ สงัด สะอาด มิติ มันคนละเรื่องเลยครับ แต่ผมว่าอีกอย่างนึงคือ ตั้งโต๊ะ มีอะไรให้เล่นเยอะกว่า พกพาครับ พกพา คือ dap หรือ สาย usb + dac/amp หรือ สาย usb +dac + amp + m2m พ่วงสาย และ หูฟัง จบเลยครับ เพราะงั้น สาย มันเป็นสิ่ง ที่สามารถ up ได้ในระบบ เพียงไม่กี่อย่าง เลย ถึงเวลา up ได้เร็วครับ แต่พอ up เสร็จ หมด แล้วครับ ไม่มีของเล่น แล้วอ่ะครับ 

แต่ตั้งโต๊ะ นี่ หุๆๆ บานครับ จาก ที่ตอนแรกเคยอ่านเจอว่า ตั้งโต๊ะ ด้วยงบ ที่เท่ากัน คุณภาพเสียง ควรจะดีกว่า พกพา แต่พอเริ่ม แล้ว ก็จริง ครับ มันดีกว่า แต่งบ บานไปไกล เพราะ แค่เล่นกับระบบ ไฟ นี่ ก็ มีที่ให้เล่นเยอะแล้วครับ กว่า จะ ไป ถึง สาย หูฟัง มัน มีที่ ให้ เล่นเยอะกว่า ครับ ผมเอง ก็จะเก็บ สาย upgrade ไว้ท้ายสุดครับ คือรอให้ system มันได้ไปได้เต็ม ศักยภาพก่อน แล้ว เก็บสาย ไว้ จูนเสียงสุดท้าย 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 11

JuneyJa

07/12/2017 17:51:27
733



ผมก็โดนพี่หลุยส์ล่อลวงอยู่เสมอๆ แต่ก็ไม่ผิดหวังครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 12

JuneyJa

07/12/2017 18:15:57
733



แมชกับหูฟังเลย ครบเครื่อง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 13

เดียว

07/12/2017 18:17:44
1,067
FS มันค่อนข้างสำเร็จรูปมาจากการออกแบบอยู่แล้วมั้งครับ มันจบในตัว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

Sutad

07/12/2017 19:34:26
95
ผมใช้งาน Full size เป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่สายหูฟังใช้แต่สายเดิม  สายอัพเกรดหูฟัง จากที่ลองๆ ฟังแล้ว ชอบสายเดิมมากกว่า (แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน) สายอัพเกรดจะไปลงสายไฟ สาย XLR สาย RCA และสาย USB ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

NonXtreme

07/12/2017 22:11:13
11
ถ้ายึดตามสาย objective ผู้เชื่อการวัด/หลักวิทยาศาสตร์เป็นหลัก โดยปกติแล้วสายที่ไม่ได้เสียอะไรจะไม่ทำให้เสียงเปลี่ยนหรือเปลี่ยนก็น้อยมาก
แต่ก็มีอย่างนึงที่ทำให้สายเปลี่ยนเสียงหูฟังได้คือเรื่อง Impedance matching ระหว่างหูฟัง(+สาย)กับแอมป์ ซึ่งเป็นปัญหา/ลักษณะที่อาจส่งผลอย่างมากกับหูฟังที่ค่า impedance ไม่นิ่ง(ค่าเปลี่ยนตามความถี่เสียงที่เล่นอยู่) และมีค่า impedance ต่ำ ซึ่งพบได้มากในหูฟัง IEM แบบหลาย drivers
แต่ไม่ค่อยพบในหูฟังฟูลไซล์เพราะค่า impedance จะค่อนข้างสูง หรือไม่ก็ค่า impedance จะค่อนข้างนิ่ง ถ้ามี impedance ต่ำ
ทำให้หูฟัง full size เสียงไม่ค่อยเปลี่ยนเวลาเปลี่ยนสาย

ปล. ผมอ่านจากเว็บต่างประเทศอีกที
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

MaxxIE

07/12/2017 22:17:18
107
ผมว่า Full Size เสียงมันดีในตัวอยู่แล้วนะครับ เพราะมันมีเนื่อที่ให้ออกแบบระบบเสียงเยอะกว่าเพื่อน

ว่าแต่ In ear ที่อัพกันเยอะๆเนี่ย มันสู้ Full Size ในเรื่องมิติ ความอิ่ม ความใหญ่ของเสียง ได้รึยังครับ

หรือว่ามันก็ยังดีอยู่แค่ในระดับ In Ear อยู่ดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

นายมั่นคง

07/12/2017 22:44:35
4,282
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 6 - Furch
เข้าใจว่าเป็นขาลงเฉพาะไทยรึเปล่าครับเฮียมั่น เพราะผมเปิดอ่าน head fi ก็ยังมีถามทั้งเรื่องหูฟังและสายของ full size กันเรื่อยๆ
ซึ่งผมก็เจอหลาย brand ที่น่าลองและราคาไม่แรงมากจาก head fi แต่ในไทยก็ไม่มี dealer เลย 

จริงๆถ้าโดยรวมทั่วโลกเลย ผมว่าฟูลไซส์แบบไฮเอนด์ลดลงนะครับ แต่ในไทยเราน่าจะชัดเจนกว่า เพราะว่าคนเล่นจริงจังยังคงเป็นกลุ่มที่เล็กเหมือนเดิม และเล็กลงเพราะเปลียนพฤติกรรมไปเล่นแบบพกพากันเป็นส่วนใหญ่

แนวโน้มคนเล่นทั่วไปเน้นฟังก์ชั่นมากกว่าควอลิตี้ไปซะงั้น 555

แต่ผมก็ยังไม่ได้ทิ้งตลาดไฮเอนด์ฟูลไซส์นะครับ ทุกวันนี้ก็ยังคงหา ยังคงสั่งสินค้าไฮเอนด์มาขาย เพียงแต่พยายามคัดเลือกหน่อย เรียกว่านักเล่นแบบตั้งโต๊ะยังสบายใจได้ครับ เพราะผมยังคงทำตลาดตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถึงตัวเลขอาจจะไม่มาก แต่ผมเชื่อว่าคนเล่นกลุ่มนี้ยังคงติดตามกันตลอดแน่ๆๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 18

เอก

07/12/2017 22:47:29
7
โดยส่วนตัวผมชอบเล่น full size มากกว่าเพราะเนื้อเสียงใกล้กับลำโพงบ้านมากกว่า (ผมมาจากสายชุดลำโพง) ... ผมลอง in-ear+dap แล้วที่ว่าดีมากๆ เสียงยังห่างไกลกับ ชุด full size ที่ราคาใกล้เคียงกัน มากพอสมควร สำหรับสาย fullsize ที่ต่างประเทศมีตัวเลือกให้เยอะมากกว่าที่เมืองไทยมาก เท่าที่ผมเข้าใจคือบ้านเราฮิตเล่นพกพา แต่ ฝรั่งนิยมเล่นชุด full size มากกว่า สาย fullsize เองก็มีหลายยี่ห้อ ทั้งจาก แบรนเนมรุ่นใหญ่ ทั้งในฝั่งอเมริกา และ ยุโรป และ บริษัทเล็กๆที่ทำ customize ให้เลือกเล่นกัน เยอะพอควร แต่ราคาสาย fullsize จะค่อนข้างโหด บางเส้น สองเมตรกว่าๆ ฟาดไปเกือบแสนต้นๆ แต่เส้นที่ราคาย่อมเยาและวคุณภาพดีก็มีเยอะครับ เสียคือต้องสั่งเองจากเมืองนอก ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

es_ciro

28/12/2017 12:35:01
16
ฟูลไซส์ขั้วไม่ค่อยมาตรฐานน่ะครับ มีหลายแบบเหลือเกิน
ซื้อมาถ้าไม่ใช้กับตัวนี้ๆก็แทบจะทิ้งไปเลย
แถมสายก็ต้องยาว 6ft 8ft แพงงงงได้อีก


Iem มาตรฐานกลางดีกว่ามากๆ หลักๆก็ 2pin หรือ mmcx , คู่กับ3.5 หรือ 2.5
4แบบนี้ซื้อได้ไม่ต้องคิดมาก ถ้านอกเหนือจากนี้ ไม่เกินหมื่นก็โอเคอยู่ แต่ถ้าเกินหมื่นก็จะเริ่มต้องคิดก่อนซื้อละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

Artnoi

28/12/2017 20:17:58
425
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 15 - NonXtreme

ถ้ายึดตามสาย objective ผู้เชื่อการวัด/หลักวิทยาศาสตร์เป็นหลัก โดยปกติแล้วสายที่ไม่ได้เสียอะไรจะไม่ทำให้เสียงเปลี่ยนหรือเปลี่ยนก็น้อยมาก
แต่ก็มีอย่างนึงที่ทำให้สายเปลี่ยนเสียงหูฟังได้คือเรื่อง Impedance matching ระหว่างหูฟัง(+สาย)กับแอมป์ ซึ่งเป็นปัญหา/ลักษณะที่อาจส่งผลอย่างมากกับหูฟังที่ค่า impedance ไม่นิ่ง(ค่าเปลี่ยนตามความถี่เสียงที่เล่นอยู่) และมีค่า impedance ต่ำ ซึ่งพบได้มากในหูฟัง IEM แบบหลาย drivers
แต่ไม่ค่อยพบในหูฟังฟูลไซล์เพราะค่า impedance จะค่อนข้างสูง หรือไม่ก็ค่า impedance จะค่อนข้างนิ่ง ถ้ามี impedance ต่ำ
ทำให้หูฟัง full size เสียงไม่ค่อยเปลี่ยนเวลาเปลี่ยนสาย

ปล. ผมอ่านจากเว็บต่างประเทศอีกที

U got it right krub
แต่ wire impedance ก็น้อยมากอยู่แล้ว และเวลามองจากมุมหูฟัง มันคือ source impedance และเวลามองจากมุม source มันคือ load impedance ครับ
ถ้าจะเน้นสาย low impedance ซื้อ source ที่ near-zero ohm จะดีกว่าครับ เช่น objective2 หรือ magni3 หรือ violectric เพราะคุ้มค่ากว่า ใช้ได้กับหูฟังหลากหลายกว่าครับ สาย impedance ต่ำ แต่ source impedance สูงเช่น OTL tube amps ก็ไม่มีประโยชน์ครับ ยิ่งใช้กับ multi-ba iems ที่โอห์มต่ำๆ และ impedance and phase มันเปลี่ยนหวือหวาๆ ยิ่งควรใช้ source impedance ต่ำๆครับ

โอ้ และตาม basic common sense แล้ว cut the wire in half = double the performance ALWAYS ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

สงสัย

28/12/2017 20:56:12
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 15 - NonXtreme

ถ้ายึดตามสาย objective ผู้เชื่อการวัด/หลักวิทยาศาสตร์เป็นหลัก โดยปกติแล้วสายที่ไม่ได้เสียอะไรจะไม่ทำให้เสียงเปลี่ยนหรือเปลี่ยนก็น้อยมาก
แต่ก็มีอย่างนึงที่ทำให้สายเปลี่ยนเสียงหูฟังได้คือเรื่อง Impedance matching ระหว่างหูฟัง(+สาย)กับแอมป์ ซึ่งเป็นปัญหา/ลักษณะที่อาจส่งผลอย่างมากกับหูฟังที่ค่า impedance ไม่นิ่ง(ค่าเปลี่ยนตามความถี่เสียงที่เล่นอยู่) และมีค่า impedance ต่ำ ซึ่งพบได้มากในหูฟัง IEM แบบหลาย drivers
แต่ไม่ค่อยพบในหูฟังฟูลไซล์เพราะค่า impedance จะค่อนข้างสูง หรือไม่ก็ค่า impedance จะค่อนข้างนิ่ง ถ้ามี impedance ต่ำ
ทำให้หูฟัง full size เสียงไม่ค่อยเปลี่ยนเวลาเปลี่ยนสาย

ปล. ผมอ่านจากเว็บต่างประเทศอีกที

คุณได้เคยลองฟังเทียบกันระหว่างสายอัพเกรดที่เป็นสายเงินกับสายทองแดงหรือยังครับ ถึงบอกว่าไม่ทำให้เสียงเปลี่ยนหรือเปลี่ยนก็น้อยมาก ส่วนใหญ่สายอัพเกรดในซีรี่ส์เดียวกันมักมี 2 ถึง 3 ตัวเลือก คือสายทองแดงที่เน้นเบสและแรงปะทะ สายเงินที่เน้นปลายแหลมเป็นประกายระยิบระยับ และอาจจะมีสายทองแดงชุบเงินที่เน้นความสมดุลเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เอาไว้แก้ทางหูฟัง เช่นหูฟัง HD800 มัน bright เกินไปต้องเอาสายทองแดงไปแก้ทาง LCD3 มัน warm เกินไป ต้องเอาสายเงินไปแก้ทาง คุณจะบอกว่าสายทุกแบบเสียงไม่ต่างกัน ?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

tintin3274

28/12/2017 21:10:30
2
นั่นสินะครับ ของมันไม่ค่อยมีด้วย ก็เลยไม่รู้จะแนะนำอะไรกัน ถ้าจะอัพก็เลือกไม่ยากมาก เพราะไม่มีให้เลือก 5555+
แต่ถ้าถามผม ผมก็อัพครับ ไม่อัพเดี๋ยวดูไม่จัดเต็ม ถถถถ=w=
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

RORONOA

28/12/2017 23:15:25
ผมเพิ่งถอย Ultrasone HFI 2400 มา สายเจ้ากรรมที่มากับกล่อง ดันเป็น 3.5 to 6.5 ซะงั้น กำลังคิดว่าจะทำยังไงดี ระหว่างซื้อแจ้คแปลง กับ ซื้อสายอัพเกรด 
ป.ล.ตั้งใจซื้อมาดูหนังจากคอม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

ผมว่านะ

29/12/2017 08:55:11
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 23 - RORONOA

ผมเพิ่งถอย Ultrasone HFI 2400 มา สายเจ้ากรรมที่มากับกล่อง ดันเป็น 3.5 to 6.5 ซะงั้น กำลังคิดว่าจะทำยังไงดี ระหว่างซื้อแจ้คแปลง กับ ซื้อสายอัพเกรด 
ป.ล.ตั้งใจซื้อมาดูหนังจากคอม

ถ้าเสียบฟังจาก sound on board ไม่ได้ใช้ USB DAC แค่หัวแปลงก็พอครับ เปลี่ยนสายไปก็คงไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"สายอัพเกรดหูฟัง Full Size ทำไมไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงครับ"