input/output ไงครับ ของ DAC มันครบเครื่องกว่าทั้ง USB, Coaxial, Optical, Analog เอาเชื่อมต่อกับคอม, มือถือ, TV, DVD, Android Box, Chromecast, Apple TV และอื่นๆได้หลากหลายกว่า

ถ้าราคาเท่ากัน ตามเสปคด้านเสียง dac ย่อมเหนือกว่าครับ  

ส่วนตัวเลือก DAC เพราะเรื่อง UI (user interface) ครับ เราสามารถเลือก source ได้ตามใจเลย ในขณะที่ถ้าเป็น DAP ขึ้นอยู่กับแต่ละเจ้าว่าจะออกแบบระบบปฏิบัติการ รวมถึง UI แบบไหนมาให้เราใช้

DAP ทุกเครื่องจะต้องมี DAC ในตัวครับ
http://www.jaben.co.th/blog/uncategorized/%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88-dac-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%84/
จริงๆต้องถามว่า ระหว่าง DAC ภายในเครื่องกับ DAC แยก มากกว่าครับ

ถ้าหมายถึง dac ที่เป็นแบบตั้งโต๊ะ(ไม่นับขนาดใหญ่หรือเล็กแบบอาศัยไฟเลี้ยงจาก usb) ก็ยังถือว่ามีข้อดีกว่า dap อยู่ครับ การแยกชิ้นทำให้แยกภาคจ่ายไฟต่างหากได้ การกวนกันของสัญญาณต่ำลง ช่องต่อมีความหลากหลายกว่า

ในขณะที่ DAP ที่มีภาค dac ดีๆต้องถือว่าได้เปรียบตรงพกพาไปได้ทุกที่ สามารถเอาไปใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆที่ไหนก็ได้ แต่ภาค DAC ใน DAP ก็จะต้องอาศัยพลังงานจากแหล่งเดียวกันคือแบตเตอรี่ ซึ่งตรงนี้เป็นคอขวดทำให้ประสิทธิถูกลดทอนลงได้ครับ

external dac ก็มีข้อเสียเปรียบนะครับ นั่นคือ jitter

ผมเปรียบเทียบกรณีนี้กับสุกี้ได้เลยครับ
DAP เปรียบเหมือนสุกี้ตามร้านอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วมาเสริ์ฟเป็นชามแบบอาหารจานเดียว 
DAC เปรียบเหมือนสุกี้หม้อไฟที่มีน้ำซุปตั้งไฟไว้ เสริ์ฟเครื่องสุกี้แยกชนิดเป็นจานๆให้เราเลือกปรุงเองตามชอบใจ 

ซึ่งตัวแปลก็มีมากมายมหาศาลครับ เช่น คุณภาพวัตถุดิบ พ่อครัว มาตราฐานร้าน ทำเลที่ตั้ง รสนิยม ราคา การบริการ ความสะอาด

ที่เหลือข้อดีข้อเสียก็เชิญมโน อุ่ย จินตนาการ กันต่อไปตามสบายนะครับ