เจอหนังสือน่าสนใจ.....

         

ผมเคยไป เดินสะดุดพวกกระเป๋าลากนะ
เจอเยอะมาก
ผมว่าพื้นที่มันแออัดมากแล้ว
น่าจะหาที่กว้างกว่านี้

เพิ่งไปมาวันนี้ ว่าจะไปหาหนังสือดีๆ มาอ่าน คนเป็นล้าน บางช่วงไม่มีที่จะเดิน เพราะคนเต็มไปหมด  เดินแล้วไม่มีความสุขเลย เบียดกันไปมา จะเดินดูหาหนังสือก็ลำบากมาก  ผมว่าไม่ Work ครับ  กลับมือเปล่าครับ

ไหลๆไป

คริส สอนภาษาอังกฤษ

ตรงนี้โล่งที่สุดแล้ว ร้านขายหนังสือเก่า

...

ผมพลาดตรงที่ เจอหนังสือที่อยากได้ แล้วไม่ได้ซื้อเลย พอวนกลับมา หาบู้ธไม่เจอครับ เสียเวลาเดินหาเป็นชั่วโมงกว่า ก็ยังไม่เจอ
ปกติผมใช้เงินในงานแต่ละเที่ยวประมาณห้าพันอัพ บางที(ส่วนใหญ่จะเกิน) เพราะซื้อฝากคนอื่นบ้าง
แล้วแบกกลับลพบุรีจนปวดท้อง(ปวดท้องจริงๆครับ ผมใช้เป้สะพายหลัง พอหนักมากขึ้นเรื่อย จะเริ่มเจ็บหน้าท้อง เพราะต้องคอยเกร็งสู้กับน้ำหนักที่หลังตลอดเวลา หนักสุดที่เคยชั่ง เฉพาะหนังสือสิบห้ากิโล เป้ต่างหาก รวมน้ำหนักเต็มที่ที่เคยแบกเกือบยี่สิบกิโล

มีเคล็ดลับอยู่อย่างนึงเวลาไปเดินงานสัปดาห์หนังสือ คือ ควรไปจุดวิกฤตก่อนทันทีที่เปิดงานตอนสิบโมงครับ
จุดวิกฤตได้แก่บู้ธอัมรินทร์ เพราะถ้าสายๆใกล้เที่ยงไปจนถึงเย็น จะแน่นจนเดินเข้าแทบไม่ถึงที่วางหนังสือ ไปเดินคนก่อนเยอะเป็นดีที่สุด
บู้ธของมติชนก็เกือบเหมือนกัน แต่ที่ทางกว้างกว่าหน่อย แต่ก็ควรไปเดินก่อนให้เสร็จเรื่อง

ส่วนที่แน่นมากอีกจุดคือ  Plenary Hall ครับ แต่อันนี้ผมยอม หลังจากกวาดดูทุกช่องของโซน C1 กับ C2 เสร็จ ผมถึงค่อยอพยพไป Plenary Hall

พี่สมเกียรติต้องไปบ่อยๆ ค่ะ จะชินไปเอง (^ ^)​

จะไปงานนี้ต้องเตรียมร่างกาย เตรียมตัว เตรียมใจไปให้พร้อม
ว่าต้องเจอกับผู้คนมากมาย เดินแบบไหลไป
เจอเขาวงกต หาทางกลับบูธไปซื้อหนังสือเล่มที่หมายตาไว้ตอนแรกไม่เจอ
แถมมีด่านอรหันต์ กระเป๋าลากมหาภัย
ประมานว่า ถ้าเดินไม่ดูเท้าตัวเอง อาจมีสะดุดล้มหัวทิ่มได้ไม่รู้ตัว 555

ไหนๆก็ไหนๆ ลงรูปให้หมดเลยดีกว่า

...

...

...

...

...

...

...

...

...

...

จริงๆผมไปเกือบทุกปีนะครับ ผมว่ารูปแบบของงานมันไม่เปลี่ยนเลยครับ เปลี่ยนแต่ชื่องาน ถ้าเสาร์-อาทิตย์ คนคงจะเยอะมากกว่าปกติเหมือนที่ผมบอก แต่ถ้าไปวันธรรมดาคนอาจจะน้อยกว่านี้ แต่ก็ดีใจที่คนไทยให้ความสำคัญกับหนังสือมาก และคนที่มีอาชีพอยู่ในแวดวงนี้ก็ยังมีอยู่มากและมีคุณภาพด้วยโดยแทบไม่ได้รับผลกระทบจากสื่อออนไลน์หรือ e-book  ต่างๆ หนังสือที่เป็นเล่มๆยังคงมีเสน่ห์และทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดีครับ

วงการสิ่งพิมพ์ตอนนี้แย่กันถ้วนหน้าครับ  ปีนี้ปิดหัวกันไปหลายเล่ม อยู่ไม่ไหวจริงๆ  ในงานนี้ถือเป็นการเคลียร์สต็อคซะส่วนใหญ่   ที่คนเยอะเพราะเป็นงานที่รวมตัว นักอ่านตัวจริงไปหาซื้อหนังสือที่ลดกัน  พอหมดงานร้านค้าข้างนอก  ซบเซาเหมือนเดิม   คนรู้จักผมบอก สมัยก่อนหนังสือหัวใหญ่ๆ  ขายกันหลักหมื่นต่อเดือน  ทุกวันนี้เหลือหลักพัน หลักร้อยแล้วจะอยู่กันยังไง  ถ้าหัวไหนสปอนเซอร์น้อย  สายป่านสั้น  ก็ม้วนเสื่อกลับบ้านกันหมด

คือต้องแยกระหว่างหนังสือ และ นิตยสาร นะครับ ถ้าเป็นนิตยสารที่เป็นเล่มๆได้รับผลกระทบแน่ๆครับ มีข่าวปิดไปเยอะแล้ว แต่หนังสือที่เป็นเล่มๆนี้ได้รับผลกระทบน้อยจาก e-book น้อยมากครับ อันนี้ confirm ครับ

เดี๋ยวนี้ ดูออนไลน์แทนแล้วครับ
เบื่อเบียดคน

ผมไปเจอการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง  Wingman  เป็นชุด 6 เล่ม แต่ไม่ได้ซื้อเพราะคนนี่แหละ  จำได้สมัยก่อนตอนเรียนมัธยมยังอ่านอยู่เลยครับ จำเนื้อเรื่องไม่ได้ล่ะ แต่จำได้ว่าสนุกดีครับ แนะนำเลย

เรื่องมันประมาณพระเอก เป็นเด็กนักเรียนช่างฝัน  ชอบออกแบบชุดฮีโร่  วันหนึ่งเกิดแปลงร่างเป็นฮีโร่ได้จริงๆ เลยตั้งชื่อว่าวิงค์แมน มีนางเอกสองคน คนหนึ่งเป็นต่างดาว(ผมสั้น) อีกคนเป็นนักเรียน  คอยสู้กับมนุษย์ต่างดาว  เป็นการ์ตูนยุคเดียวกับ ชูโอมารู  สนุกดีครับ

อันนี้ ชูโอมารู เผื่อนึกไม่ออก555  แต่ก่อนผมอ่านของวิบูลย์กิจทั้งสองเล่ม  ไม่รู้เดี๋ยวนี้เอามาตีพิมพ์ใหม่หรือเปล่า

กลายเป็นกระทู้ดัก...ไปแล้ว = =*

แอบมีกับเค้าภาพนึงครับ^^

ผมไปมาเมื่อวันเสาร์ คนเยอะจริง ๆ ให้ดิ้นตาย แอบมีหาบูธ VBK ไม่เจอ วนอยู่หลายรอบเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน โชคดีที่มีลิสต์หนังสือในใจแล้วเลยเดินแบบม้วนเดียวจบไม่ค่อยหงุดหงิดเท่าไหร่ แต่สำหรับงานหนังสือ รถเข็นผมเฉย ๆ นะ ที่น่ารำคาญมากกว่าคือบรรดาคนที่จับจองพื้นที่นั่งรอกันบริเวณโถงหรือทางเดิน เกะกะมากครับ

ราคาหนังสือปัจจุบันค่อนข้างแพง คนส่วนใหญ่เลยรอซื้อในงานแฟร์ลดราคา เคนเยอะเป้นเรื่องปกติ

แนะนำให้มาเดินวันธรรมดาครับ พอมีที่ว่างหน้าแผงให้ยืนเลือก ยืนอ่าน แต่ถ้าวันหยุดหล่ะก็

แค่แทรกเท้าไปหน้าแผงยังยากเลยครับ ผมเลยไปเฉพาะวันธรรมดาอย่างเดียว ยกเว้นว่าอยากได้อะไรเพิ่มถึงไปวันหยุด 

วันนี้กลิ้งเล่นได้เลย555

โล่งมากครับ  เทียบกับเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา