Kinera H3 นั้น เป็นหูฟัง UIEM รุ่นใหม่หลังจากออก BD005 มาได้ 2 version
ตัว H3 นั้นมี 3 ไดรเวอร์ เป็น 2BA + 1 Dynamic ครับ
หน้าตานั้นสวยงามมาก ทั้งตัวหูฟังและสายถัก 4 (ตัวที่ผมได้มาหูฟังสีดำสายถักออกสีสนิม งามแต๊ๆ)
สเปคบอกว่า impedance 48 Ohm และ Sensitivity 101dB ดูตัวเลขเหมือนจะขับยากแต่ผมทดลองแล้ว ฟังกับมือถือได้ไม่มีอาการอั้น ฟังกับ DAP ทั่วไปได้สบายๆ ลองเสียบกับ LYR ปรากฏว่า noise มาเพียบ 55555555 นั่นแสดงว่าขับง่ายครับ ถ้าขับยากจริงเจอ LYR ต้องไม่มี noise อิๆ
ถามว่าสวยแค่ไหน.....มาดูกัน
นี่มัน Aroma Witch Girl 12 หูฟัง UIEM ที่ผมลองแล้วชอบมากๆๆ หลอนหูมาทั้งเดือนนี่นา เหมือนมาก เหมือนจริงๆ ฝาแฝดแน่นอน 55555ขออภัย ขอเบรคก่อนนะครับ อยู่ดีๆก็ง่วง คาดว่าพิมพ์เรื่องเสียงตอนง่วงๆคงไม่ดี น่าจะมั่วแน่นอน เดี๋ยวเสียงแหลมลงได้ลึกก็งานนี้ล่ะ 555555
พรุ่งนี้มาเขียนต่อนะครับ ^^
สวัสดีสายๆวันเสาร์ครับ ขออภัยที่ให้พี่ๆต้องรอ เมื่อคืนพิมพ์ๆไปจะหลับเอา (ไม่ได้เข้ายิมมาเป็นเดือน เมื่อวาน Squat มา เลยเพลีย 5555) ตื่นเช้ามาก็มีงานด่วน เพิ่งว่างครับ
มาต่อที่เรื่องเสียงของ H3 กันเลยครับ
-ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว ของ User ธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์ของแต่ละท่านอาจแตกต่างกันไป บกพร่องประการใดก็เป็นด้วยประสบการณ์การฟังของผมเอง น้อมรับทุกคำติชม-
ทดสอบโดยใช้จุก : Spin Fit Size M
ทดสอบกับ DAP : AK240
ระหว่างทดสอบหูฟังยังไม่พ้นเบิร์น คือเบิร์นแล้วนิดหน่อย แต่น่าจะยังไม่ครบระยะ
เพลงที่ใช้ทดสอบ :
Beat of Siam - Bangkok Acoustic
Chunky - Bruno Mars
Don't You - Amber Rubarth
Spanish Harlem - Rebecca Pidgeon
Show Quality Bass - HIS 10Hz
Senbon Sakura - Wagakki Band
Laid to Rest - Lamb of God
หลังจากใส่หูฟังโดยการอ้าปากไว้ ยัดหูฟังให้สุด แล้วปิดปาก (ยัดเข้าหูนะ ไม่ใช่ยัดลงปาก 55555) ซึ่งเป็นวิธีปกติ สำหรับใส่ IEM ทุกตัวของผม เพราะ สำหรับผมมันเข้า Sweet Spot พอดี และเบสจะมาแบบครบๆ
เบื้องต้นโทนเสียงของ H3 นั้น จัดเป็นหูโทนไบร์ท ถ้าใครชอบสายดาร์ค, warm น่าจะข้ามไปได้เลย นี่คงไม่ใช่หูฟังที่คุณจะชอบครับ ส่วนใครชอบเสียงโทนไบร์ท สว่างๆ น่าจะถูกใจ โทนเสียงมีความคล้าย KC06 แบบ อยู่พอสมควร (แล้ว upgrade ขึ้นไปอีก)
เบส : เป็นเบสที่มี upper Bass เด่น Mid Bass ฟังสนุก คุณภาพดี ลูกปานกลางไม่โต อิมแพครุนแรงและเด่น หัวโน้ตชัดมาก เบสเก็บตัวไว ทำให้ฟัง Metal โดยเฉพาะกระเดื่องคู่ได้มันดี เพราะมีแรงปะทะที่ดี และสปีดไว กระแทกเป็นลูกๆ ตับๆๆๆๆ จังหวะปะทะหนังหน้ากลองทุกลูก ทอมทอมทุกใบ ได้ฟีลลิ่งที่ดีเยี่ยม มีน้ำหนัก (แต่ลูกไม่โตมาก)
เสียงร้อง : เสียงร้อง ตำแหน่งกลางๆไม่หลบ ไม่ forward โฟกัสเสียงร้องนิ่งดี มีความอิ่มระดับกลางๆไม่มาก (อิ่มหนาและเนียนกว่า KC06) ปลายเสียงร้องเวลาขึ้นสูงนั้นลากได้สุดหางเสียงและพริ้วดี แต่ยังมีติด sibilance เล็กน้อย
อิมเมจ : อิมเมจชิ้นดนตรีขนาดปานกลาง ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ โฟกัสนิ่ง หัวโน้ตทุกชิ้นดนตรีชัด ติดคมเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงตัวตนและตำแหน่งที่ชัดเจน นิ่ง มีแรงปะทะที่ดี
เสียงสูง : H3 เป็นหูฟังโทนไบร์ทที่มีบุคลิกชัดเจน รายละเอียดดี สว่าง เสียงสูงไปได้สุด เสียงไฮแฮท แฉ ฉาบ ลากไปได้สุดปลายเสียง เสียงแฉสั่นค้างจนสุดจริงๆอย่างที่หูตัวอื่นๆไม่มี คือหูตัวอื่นเสียงแฉจะจบไปก่อน แต่ H3 ยังไม่จบ กลางแหลมเปิดพุ่งติดคมเล็กน้อย อาจจะบาดหูสำหรับบางท่านได้ ซึ่งตรงนี้น่าจะจูนได้ด้วยจุกโฟม เปลี่ยนสาย หรือแมทช์กับ system อิ่มๆหนาๆหรือเนียนๆ mellow ซักหน่อย
เวธี : เวธีกว้างระดับปานกลาง บุคลิก เปิด โปร่ง Airy เวธีด้านลึกทำได้ดีพอสมควร แต่ด้านกว้างเด่นกว่า
สรุป
ข้อดี : สวย, เบา, ใส่สบายมากๆๆๆ, ปลายแหลมไปได้สุด ฉาบแฉ สั่นจนสุดปลายเสียง, รายละเอียดดีเยี่ยม, อิมแพคดี, สปีดไว, รายละเอียดดี, คม, ปลี่ยนสายได้, ราคาไม่สูง.....ย้ำอีกครั้งว่าใส่โคตรสบาย
ข้อเสีย : มี sibilance เล็กน้อย, กลางแหลมอาจบาดหูสำหรับบางท่าน น่าจะปรับจูนได้ด้วยจุกโฟม, เปลี่ยนสาย หรือ DAP ที่เสียงอิ่มหนา เนียน หรือแอมป์หลอด และคาดว่าพ้นเบิร์นอาการคมจัดน่าจะลดลง
โทนเสียง : เป็นหูฟังโทนไบร์ท
จบรีวิวเพียงเท่านี้ ครับ
- ขอสตังจงสถิตอยู่กับท่าน -
ถ้าไวๆ ผมว่าH3 ทำได้ดีกว่านะครับ เพราะ speed ไวด้วย รายละเอียดดีด้วย
แต่ถ้ารวมๆ ผมชอบเสียงของ tfz ex5 มากกว่า ถูดจริตมากกว่าครับ เบสอย่างแจ่ม อิๆ
update
หลังจากเปิดเบิร์นต่อเนื่อง วันละ 10 กว่าชั่วโมง หลายวัน
ตอนนี้พบว่าอาการ Sibilance ลดลงแล้วครับ ลดลงอย่างสัมผัสได้ รวมถึงกลางแหลมเปิดพุ่งนั้นลดความคมลง ไม่ค่อยบาดหูแล้ว ฟังสบายขึ้นเยอะเลย และยังคงฟังสนุกเหมือนเดิม เพราะเบสมวลกำลังดี หัวเบสชัด เดินสวย และมีรุ่นพี่ท่านนึงได้ลองเปลี่ยนสายทองแดง แจ้งมาว่าเสียงกลมกล่อมขึ้นมาก เบสดีขึ่น ความคมจัดลดลง ตอนนี้กำลังเบิร์น เดี๋ยวยังไงจะขอให้พี่ท่านนั้นมาอัพเดทให้ทุกท่านอ่านนะครับ
ผมไม่มีสูตรเบิร์น และไม่เชื่อเรื่องเบิร์นอภินิหารลดนู่นเพิ่มนี่ได้ดังใจเลยครับ (แต่ผมเคยทดลองนะครับ เบิร์นอภินิหารมันได้ผลแบบชั่วคราว เช่นเปิดเบิร์นด้วยกลางแหลมเด่นๆ หูจะตอบสนองกลางแหลมดีขึ้น ชั่วคราว, เบิร์นด้วยเบส หูก็จะมีเบสดีขึ้นมาแบบชั่วคราวเท่านั้น)
เท่าที่สังเกตุ หูฟังส่วนใหญ่หลังเบิร์น เสียงจะกลมกล่อมมากขึ้น พวกสากเสี้ยน อาการคมขึ้นขอบ และ sibilance มักจะลดลง และตัว Kinera H3 ก็เป็นเช่นนั้น แค่ลดลงนะครับ ไม่ได้หมดไปเลย บุคลิกยังเหมือนเดิมครับ แต่ข้อด้อยลดลง
ผมเบิร์นแบบบ้านๆด้วยเพลง Audiophile หลากหลายอัลบั้ม เปิดเบากว่าที่ฟัง วันละ 8-16 ชั่วโมงครับ
ขออภัยที่คำตอบไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ แหะๆ
ผมไม่มีสูตรเบิร์น และไม่เชื่อเรื่องเบิร์นอภินิหารลดนู่นเพิ่มนี่ได้ดังใจเลยครับ (แต่ผมเคยทดลองนะครับ เบิร์นอภินิหารมันได้ผลแบบชั่วคราว เช่นเปิดเบิร์นด้วยกลางแหลมเด่นๆ หูจะตอบสนองกลางแหลมดีขึ้น ชั่วคราว, เบิร์นด้วยเบส หูก็จะมีเบสดีขึ้นมาแบบชั่วคราวเท่านั้น)
เท่าที่สังเกตุ หูฟังส่วนใหญ่หลังเบิร์น เสียงจะกลมกล่อมมากขึ้น พวกสากเสี้ยน อาการคมขึ้นขอบ และ sibilance มักจะลดลง และตัว Kinera H3 ก็เป็นเช่นนั้น แค่ลดลงนะครับ ไม่ได้หมดไปเลย บุคลิกยังเหมือนเดิมครับ แต่ข้อด้อยลดลง
ผมเบิร์นแบบบ้านๆด้วยเพลง Audiophile หลากหลายอัลบั้ม เปิดเบากว่าที่ฟัง วันละ 8-16 ชั่วโมงครับ
ขออภัยที่คำตอบไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ แหะๆ
เบิร์นอภินิหาร ไม่ถาวรครับ แก้ไปแก้มาปวดหัว พอทิ้งไว้เดือนนึงกลับมาเหมือนเดิม
ตอนนี้เบิร์นผมใช้ XLO Reference Recordings แทรค 7 8 9 ผสมกับ เพลงบันทึกเสียงดีๆรวมกันได้15-20นาที เปิดวน
หรือ XLO ทั้งแผ่นวนก็ได้ครับ
ถ้ามีแอมป์แรงๆต่อตลอดครับ เพราะถ้าขับสุดเสียงเปลี่ยนไวมาก
เอียร์บัด kinera คลอดแล้วนะครับ แต่เป็นลิมิเต็ด 90 อัน ไม่รู้จะมีอีกไหม