น้ำตาลในเลือดสูงเฉยๆ หรือ หมอบอกว่าเป็นเบาหวานเลยครับ
ถ้าน้ำตาลในเลือดสูงเฉยๆ ก็คงไม่ได้ร้ายแรงมากเพราะตอนนี้ผู้ใหญ่ในบ้านก็เป็นกันครับ
แต่ต้องระวังอาหารที่มีน้ำตาลมากๆ(คงรู้ๆกันอยู่แล้ว) พวกขนมไทยนะครับตัวดีเลย คงต้องงดของหวานไปซักพัก ไปบริโภคผลไม้(แบบไม่หวาน)หรือพวก ข้าว แป้ง คือให้น้ำตาลมันค่อยๆดูดซึมเข้ากระแสเลือดทีละช้าๆจะได้มีเวลาให้ร่างกายนำน้ำตาลที่มีอยู่ไปใช้ให้ทันก่อน อย่าปล่อยให้ระดับน้ำตาลมันเกินไปนานๆตรงนี้อันตรายมากเลยเพราะถ้าระดับน้ำตาลสูงนานๆจะทำให้เป็น..อีกหลายโรค (รอคุณหมอมาตอบละกัน)
ส่วนเบาหวานก็มี typeI กับ typeII ถ้าเป็นหมอคงบอกวิธีการดูแลอย่างละเอียด+แจกยา เพราะสาเหตุมันเกิดกันคนละที่วิธีดูแลก็ต่างกัน

ความดันสูงยังไม่ได้เรียนอะครับ แต่ที่บ้านก็มีคนเป็น กินก็ตามปกติแต่ไม่ควรกินของเค็ม ของปรุงรส ผงชูรส เพราะมันมีโซเดียมเยอะมั้งนะ แล้วก็ควรลดอาหารจำพวกไขมันสูงด้วย กะทิและอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนผสมนี่อย่าพยายามทานครับ

อาหารก็คงเน้นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์บ้าง(ระวังเก๊าท์ด้วยถ้าเป็นพวกเป็ดไก่) งดอาหารรสจัด พวก เผ็ด เค็ม หวาน รับประทานอาหารให้ครบ5หมู่และตรงเวลา การออกกำลังกายก็สำคัญนะครับแต่ควรเหมาะสมกับวัยเช่น ให้ท่านเดินเล่นช้าๆทุกวัน

อย่าพยายามให้ท่านเครียด วิตกกังวล ไม่สบาบใจ หรืออยู่บ้านเฉยๆคนเดียว เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้ามีผลต่อความดันโลหิต ผมแนะนำว่าให้ดูแลท่านแบบ Holistic Approch หรือแบบองค์รวมจะดีที่สุดนะครับ คือดูแลทั้งกายและใจไปพร้อมๆกัน

ขอบคุณมากเลยครับ มีปัจจัยหลายอย่างที่ผมสังเกตุ คือ

1. ยายผมชอบทานกาแฟทุกเช้าครับ แต่น้ำตาลกี่ช้อนไม่ทราบ บางทีลุงก็ซื้อน้ำเต้าหู้มาให้
2. ท่านเป็นคนที่ชอบทานเค็มพอสมควรครับ สังเกตุได้จากไข่เจียวที่ทอดให้ประจำ กับ ชอบหยอดน้ำปลากับข้าว
3. นอนดึกแต่ตื่นเช้ามากๆ และชอบหางานในบ้านทำมากๆ
4. ติดหนังเกาหลีมาก เช่น my sassy girl และ F4อะไรทำนองนั้น แย่งผมดูข่าวกะการ์ตูนทุกที (ข้อนี้ไม่เกี่ยวครับ..เอามาแฉ อิอิอิ)

*ใครที่รู้เรื่องอะไรอีกขอความรู้เพิ่มเติมนะครับ...ตอนนี้หาอากู๋เพิ่มเติมอยู่)*

อาการลักษณะนี้พ่อผมก็เป็นครับ หลักๆก็คือคุมอาหารพวกแป้งของหวาน ของทอด น้ำผลไม้ น้ำหวานทั้งหลาย และอย่าทานเค็ม(เป็นของที่เราทั้งหลายชอบๆทานทั้งนั้น) ออกกำลังกายเบาๆบ้าง ถ้าเป็นเยอะ หมอจะจัดยาให้ครับ ถ้าดูแลดีก็จะค่อยๆลดปริมาณยาจนถึงไม่ต้องทานยา(แล้วแต่อาการของแต่ละคนนะครับ) น้ำตาลในเลือดสูงนี่ตัวดีเลยเพราะมันจะลากความดันโลหิตสูงตามไปด้วย ลองซื้อเครื่องวัดความดันโลหิต ติดบ้านซักเครื่องซิครับ ไปซื้อแถวร้านขายยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์แถวโรงพยาบาลศิริราชก็ได้ ผมใช้ยี่ห้อ omron ราคาไม่แพง ใส่ถ่าน AAA ให้ลูกๆหลานๆที่บ้านคอยวัดความดันโลหิตให้คุณยายทุกวัน หรือคุณยายจะทำเองก็ได้ครับ ไม่ยาก (ถ้าคุณยายชอบทานกาแฟแล้วใส่น้ำตาล ลองเปลี่ยนไปใช้สารที่ให้ความหวาน ทดแทนน้ำตาลดูซิครับ เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องน้ำตาลในเลือด มีจำหน่ายทั่วไป) ที่เหลือคงต้องรอให้คุณหมอทั้งหลายมาแนะนำแล้วละครับ

ถ้าความดันต้องลดอาหารเค็มสถานเดียวเลยครับ เพราะร่างกายจะพยายามขับเกลือที่ไม่มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายนอกจากอร่อย ออกจากร่างกายให้หมด แถมยังมีผลไปถึงไตด้วย เคยมีคนไข้รายนึงไปหาหมอเป็นลุงอายุมากพอสมควร มีอาการความดันสูงและไม่อ้วน หมอก็พยายามหาสาเหตุว่าทำไมหลังให้ยาแล้วความดันไม่ค่อยลด ปรากฏว่าลุงแกชอบกินน้ำพริกกะปิซึ่งต้องทานทุกเย็น ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่ากะปิมันเค็มเลยต้องขอให้แกปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร
ส่วนเบาหวาน อันนี้ต้องควบคุมปริมาณแป้งและน้ำตาลเป็นหลักครับ น้ำเต้าหู้นั่นก็ตัวดีเลยควรทานให้น้อยที่สุด เพราะน้ำเต้าหู่คือแป้งที่ขจัดกากออกไปแล้ว การดื่มน้ำเต้าหู้จะทำให้ได้ปริมาณคาร์โบไฉเดรตที่สูง ถึงแม้ว่าเราจะได้โปรตีนจากถั่วเหลืองบ้างก็ตาม
ตอนนี้ลองควบคุมปริมาณแป้งและน้ำตาลไปก่อนครับ ค่อยๆลดอย่าหักโหมนะครับ และควรให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละมื้อเท่าๆหรือใกล้เคียงกัน

เอ้า กระทู้ความรู้สุขภาพล่ะครับ ดันๆๆๆ