หูฟังในอุดมคติผมคือ ไม่ว่าไฟล์ห่วยแค่ไหนก็ต้องให้เสียงที่เพราะครับ
อุดมคติของผมคือ
รายระเอียดต้องชัดทุกย่าน ใส่สบาย(ไม่หนัก และเทอะทะ) ออกเเบบสวยงาม อาจมีเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆบ้าง
ส่วนอุดมคติผมหูฟังต้อง จริงใจ มายังไปอย่างนั้นด้วยที่ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมันจะมีความจริงเฉพาะของตัวมันอยู่ ความจริงของหูฟังและลำโพงคือการถ่ายทอดความจริงของเสียงและรวมไปถึงเครื่องเล่นเครื่องบันทึก ในอุดมคติคือจริงแต่ที่ทำได้คือใกล้จริงมากที่สุดและใกล้ขึ้นตามองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้นจากอดีตจนปัจุปัน ส่วนตัวผมสิ่งที่ต้องใด้จากหูฟังคือ
1. ความจริงของเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง เครื่องดนตรี เสียงลมหายใจคนเล่นคนร้องและบรรยากาศรอบๆ จะเป็นแบบบันทึกจากการแสดงสดหรือในห้องอัดเล่นรวมกันในห้องหรือแยกห้องเล่นพร้อมกันหรือเล่นต่างกรนมต่างวาระ(คือต่างคนต่างเล่นแล้วเอามามิครวมกัน)มันให้ความรู้สึกของอัฐรสในการฟังต่างกันบางคนบอกจ้องมากไปเหนื่อยหมดความสุขในการฟัง ส่วนตัวผมว่าไม่เหนื่อยมันเหมือนไปนั่งฟังดนตรีวงใหนเล่นเพี้ยนร้องเพี้ยนเราฟังออก ก็เปลี่นวงอื่นที่เล่นดีกว่า สำหรับผมหัวใจอยู่ที่คำว่า “ฟังให้ออก” ไฟล์เพลง เครื่องเล่น แอม หูฟังและอื่นที่ประกอบในชุดฟังเพลง ก็เปรียบได้กับวงดนตรี1วง วงใหนเล่นดีไม่ดีอย่าฟังเขาว่าหรือฟังแล้วว่าตามเขาเพราะฟังไม่ออกเขาว่าก็ว่าตามเขา ฟังออกเองดีสุดสุขสุด
2. ความจริงของตำแหน่ง ณ.ปัจุบันเราฟังเพลงด้วยระบบสเตอริโอ, 5.1, 7.1 จะแบบใหนก็แล้วแต่เขาสร้างกันขึ้นมาเพื่อให้เกิดความสมจริงของสนามเสียง(เรามักจะเรียวว่า เวทีแต่ส่วนตัวผมชอบคำว่าสนามมากกว่า)ง่ายๆก็คือตำแหน่งจุดที่เสียงเกิด ใกล้ ใกล ซ้าย ขวา หน้า หลัง หรือตรงจุดศูนย์กลางหรือแม้แต่การเครื่อนที่ของตำแหน่งเสียงเช่นคนร้องกำลังร้องแล้วหันหน้าหลุดจาดไมค์ หูฟังต้องถ่ายทอดตำแหน่งได้ชัดเจนทุกชิ้นดนตรีตั่งแต่กลองกระเดื่องและเบสซึ่องเสียงต่ที่ยากจะระบุตำแหน่งจนถึงเครื่องตนตรีเสียงสูงๆที่ทับซ้อนกันอาทิ หมู่ไวไอลินที่โหมขึ้นมาพร้อมเครื่องเป่าต้องได้ตำแหน่งแห่งที่ไม่ตีแย่งตำแหน่งกันและกัน
3. ความจริงของระดับ ในเมื่อระบุเรื่องตำแหนงใด้แล้วก็ต้องระบุสูงต่ำได้ด้วยไม่ไช่ย่านเสียงนะครับแต่เป็นตำแหน่งเสียงหรือระดับของชิ้นดนตรี ถ้าเทียบกับคนเล่นดนตรีทั้งวงระดับความสูงของเครื่องดนตรีที่เล่นต่างกันตัวอย่างเช่น นักร้องเครื่องเล่นของเขาก็คือปากมือกีต้าคือกีต้าที่ห้อยคอหรือนั่งเล่นกับเก้าอี้สูงมือเปียนโนก็นั่งเล่นระเลียดไปมือกลองหวดไม้ตามจังหวะดังนั้นเมื่อเทียบเสียงที่ออกจากปากต้องสูงสุดต่อมากีต้าที่อยู่ของมันคือระดับเอวต้องต่ำกว่าเสียงร้องและระดับประมาณเดียวกับเปียนโนส่วนกลองจะมีอยู่สามระดับไล่กันไปตัวฉาบใหญ่จะระดับใกล้เคียงกับเสียงร้องกลองสะแนร์(น่าจะเขียนผิดจำไม่ได้คือกลองแต๊กที่อยู่ในชุดนั่นแหละ)จะระดับประมาณกีต้ากลองกระเดื่องอยู่ต่ำสุด(จริงแล้วเสียงกลองกระเดื่องจะไห้ทั้ระดับความถี่และระดับความสูงต่ำกว่าเสียงเบสอีกซึ่งบางคนเชื่อว่าเบสให้ความถี่ต่ำสุดหูหรือเครื่องเล่นที่ให้เสียงต่ำลึกๆได้ดีคือถ่ายทอดเสียงพวกกลองกะเดื่อง กลองใหญ่ในวงคลาสสิคหรือของญี่ปุ่นได้ดี)แบ่งคร่าวๆไว้สามชั้นถ้าหูใหนให้มากกว่านั่นคือเทพมาเกิดเลยทีเดียว
อุดมคติทั้งสามข้อถ้าที่กล่าวมาเอากันง่ายๆคือความเข้าใจ ธรรมชาติของเสียงที่ประกอบกันเป็นดนตรี การจัดวางรูปวงทำไมต้องตั้งวงแต่ละชิ้นใก้ลไกลต่างกันแค่ไม่ให้เล่นไปชนแขนกันเท่านั้นหรอหรือมีมากกว่านั้น ระดับของชี้นดนตรีแต่ละตัว คือแค่ฟังไห้ออกไม่ต้องไปจับผิดเอาเป็นเอาตายหรอกครับซึ่งถ้าเราใส่ใจเพิ่มเล็กน้อยรู้จักเครื่องดนตรีต่างๆมากขึ้นสิ่งเหล่านี้จะเติมภาพเข้าไปในเสียงที่เราฟัง(เหมือนอ่านหนังสือมันสวยงามและสนุกกว่าที่เอามาทำเป็นหนังให้เราดู) มันเพิ่มความไพเราะสวยงามของบทเพลงมากทีเดียว “เสียงจริงบางเสียงไม่เพราะ” สิ่งที่เรารู้เหล่านี้จะทำให้เราเข้าเข้าใจถึงเสียงนั้น เช่นถ้าอัดไม่เจ๋งจริงไม่ได้ยินหรือมันกลับช่วยให้สมจริงมากขึ้นไม่งั้นตอนทำมาสเตอร์เค้าลบออกไปแล้ว
สุดท้าย(เพราะเริ่มน้ำท่วมทุ่ง)อุดมคติคำเคียวคือ “ฟังให้ออก” แล้วเราแทบไม่ต้องไปใส่ใจจับผิดอะไรเลย มะนจะมีแค่เรากับดนตรีทีเรารักโดยมีเครืองเล่นและหูฟังเป็นตัวกลางถ่ายทอดเท่านั้นผมเคยพูดไว้ว่าที่เหลือคือ “เรามีความสุูขกับการเสพทักษะของนักดนตรี” ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะครับ
หูที่ใช้อยู่ hifiman he 500 หูพกพา EARBUD หูโม ราคาประมาณ2000 InEairหูข้างละสี่driverราคาพันต้นๆ ทุกหูทุกเครื่องเล่นถูกสร้างขึ้นมาให้ถ่ายทอดเสียงจริงของต้นฉบับไม่มากหรือไม่น้อยกว่านั้นไม่ว่ามันจะถูกกำหนดด้วยอะไรจุดหมายจุดเดียวกันคือให้ความสมจิงมากที่สุด แต่นิยามคำว่า”ที่สุด”มันไม่มีวันจบ เราเอาแค่ตรงตามอุดมคติเรา ถึงใด้ไม่หมดก็สดชื่นมากครับ ถ้าฟังออกและเข้าใจ:))