Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ประกาศหยุดเรียน 2-6 ส.ค. 60

somkiatr

02/08/2017 21:50:13
182
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

somkiatr

02/08/2017 21:54:55
182
คู่กรณีอุเทนถวายก็ปิดเรียนเหมือนกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

tangkoo.

02/08/2017 22:17:35
1,368
ปัญหาระดับชาติครับ(จริงๆไม่ประชด)  เหมือนไฟไหม้กองฟาง เกิดเหตุทีก็มานั่งแก้กันที  ผมว่าประเทศเราต้องทำจริงๆจังๆ กับความเปลี่ยนแปลงในสังคมทุกวันนี้แล้วครับ   ไม่เฉพาะเรื่องนี้  แต่หลายๆเรื่องที่ผู้ใหญ่คนมีอำนาจมองเป็นเรื่องเล็ก  แต่กำลังค่อยๆก่อค่อยๆบานปลาย  ในสังคมบ้านเรา ทั้งเรื่องปัญหาบนท้องถนน  แท็กซี่ ฯลฯ กับการควบคุมและจริงจังการใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด ให้เท่าเทียมกันทุกระดับชนชั้นในสังคมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 3

นายมั่นคง

02/08/2017 22:41:03
4,282
อยากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางแก้ครับ (อันนี้ไม่ใช่ประชดอีกเช่นกัน) ผมพบปัญหานี้ตั้งแต่ยังเด็กๆ ผมต้องนั่งรถเมล์ผ่านแถวสนามกีฬาแห่งชาติเป็นประจำ และก็พบเหตุการณ์ตีกันตั้งแต่หลายสิบปีก่อน จนถึงบัดนี้ปัจจุบันนี้ ไม่มีอะไรที่เบาบางหรือเปลี่ยนแปลงทิศทางแต่อย่างใด คู่ชกก็ยังเป็นคู่เดิม คือเด็กอุเทนกับเด็กช่างกลปทุมวัน

มันเหมือนกับว่าเด็กช่างกลมีดีเอ็นเอของไก่ชนอยู่ในเลือด คือเด็กที่ตัดสินใจเลือกเรียนทางช่าง ถ้าไม่แสดงออกในเรื่องนี้แล้วจะมาเรียนช่างทำไม ผมว่าทางการพยายามมาหลายวิธีการแล้ว ทั้งสลายพฤติกรรม ทั้งเอาไปเข้าค่ายทหาร ทั้งแลกเปลี่ยนนักเรียน ทั้งหาแนวทางในการลดปัญหาการตีกันแบบไร้เหตุผล เพียงเหตุที่ว่าอยู่กันต่างสถาบัน

บอกตามตรงให้ลุงตู่ลงมาแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเดียวเลยก็แก้ไม่ได้ครับ มันเป็นเรื่องวัย เรื่องฮอร์โมน เรื่องของสาขาวิชาที่ต้องเรียน เป็นเรื่องตัวเนื้องานที่เด็กต้องสัมผัส ต้องถูกหล่อหลอม ทุกอย่างมันถูกผูกโยงให้ต้องตีกันโดยที่ใครก็มิอาจจะตอบได้ว่าเพราะอะไร

เชื่อเถิดครับ ผ่านไปอีกไม่กี่เดือนกี่ปี ก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 4

Theeranai

02/08/2017 23:45:19
28

จับรวมเป็นสถาบันเดียวกันไปเลยครับ ^^

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 5

tangkoo.

03/08/2017 00:26:58
1,368
พี่อ๊อฟขอมันยังไม่ยอมเลยเฮีย555
https://youtu.be/SxUN-0rgJkE

ผมอยากให้บ้านเราลองเปลี่ยนระบบการศึกษาครั้งใหญ่ดูซักครั้งครับ  ไหนๆที่ผ่านมาก็แก้ปัญหาไม่ได้แล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 6

virusfowl

03/08/2017 08:46:31
42
เห็นทีต้องของบไปดูงานเมืองนอกซะแล้วสิครับ... ...

ฮะ? อะไรนะ เมืองนอกเขาไม่ตีกันเหรอ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 7

bonus79

03/08/2017 09:11:32
1,133
ถ้าประกาศปิดสถาบันแทนประกาศหยุดเรียน 
น่าจะแก้ปัญหาคู่นี้ได้แบบตลอดการนะครับ

ผมเชื่อว่าหากแก้กันจริงๆจังๆต้องแก้ได้นะครับ
เริ่มที่ยกเลิกชุดนักศึกษาทุกอย่างที่บ่งบอกสัญลักษณ์ของสถาบันหรือการเป็นเด็กช่างกล ประเภทหัวเข็มขัดเสื้อชอป แหวน พวงกุญแจหรืออะไรก็ตามแต่ ห้ามให้มีการจำหน่ายเลยครับ เท่านี้ผมว่ายี่ห้อสถาบันก็ไม่มีติดตัวแล้วนะครับ ใส่ชุดไปรเวทไปเรียนเลย กางเกงยีนก็ได้ ขาสั้นเสื้อยืดก็ได้ เหมือน อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ไม่มี uniform กันซักสถาบันในระดับอุดมศึกษา ไม่ต้องห่วงเรื่องความไม่เป็นระเบียบเพราะมันไม่จำเป็นเลยที่เอาขายาวสีดำเสื้อเชิดสีขาวมาใส่แล้วมันจะดูเป็นระเบียบ

ถ้ายังมีตีกันต้องเพิ่มโทษทางกฏหมายครับ จำคุก 5-30ปีแล้วแต่เคสหนักเบาแต่ไม่เบากว่า5ปี ห้ามประกันตัวก่อนส่งฟ้องศาล ไม่รอลงอาญา ไม่มีอภัยโทษ พกปืนประดิษต้องมีโทษหลายเท่าตัวกว่าปืนมีทะเบียน อะไรแบบนี้มันต้องช่วยได้ซิครับ

งานวันสถาปนาสถาบันจัดขึ้นเพื่อประโยชน์อันใด? ทุกๆปีมันก็ต้องมีวันครบรอบวันก่อตั้งอยู่แล้ว เป็นวันเรียกแขกที่จะค้นพบอาวุธได้ทุกครั้ง ทำไมยังต้องมีงานรำลึกอีก? โรงเรียนแก่ขึ้นอีกปีแล้วส่งผลดีต่อนศ.ยังไง? หยุดให้ความสำคัญอันไม่ก่อประโยชน์แบบนี้ได้หรือไม่? ผลพวงที่ได้คืออะไร? อันนี้คือความสงสัยของผมนะครับเพราะมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนจบมา ผมและเพื่อนในคณะไม่เห็นจะมีใครเคยสนใจเรื่องที่ว่าสถาบันมันจะครบรอบวันเกิดเมื่อไหร่ 

ผมเชื่อว่าหากตั้งใจแก้กันจริงๆจังๆ และแก้ทุกจุดทุกหน่วยยังไงก็ต้องแก้ได้ครับ แต่ที่แก้ไม่ได้ก็เพราะว่าไม่ได้แก้และปราบปรามจริงจังถึงขั้นเด็ดขาด อีกทั้งกฏหมายและการบังคับใช้ก็อ่อนเกินไป เผลอๆโพสรูปชวนดื่มแอลกอฮอล์ยังมีโทษหนักกว่าพกมีดไปในที่สาธารณะซะอีก 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 4
ความคิดเห็นที่ : 8

Art-Tik

03/08/2017 09:19:30
9
สมัยผมเรียน แต่ไม่ได้เรียน 2 สถาบันนี้ แต่นั่งรถเมล์ผ่านทุกวัน......ยังไงถ้า นศ 2 สถาบันนี้มีเรื่องเหมือนเดิม
บาดเจ็บ ตาย มีทุกเคส ถาม นศ จุฬาสิ ไม่กล้าเดินผ่าน อุเทนถวาย ถ้าไม้จำเป็น...

แนวทางแก้นะ ผู้ใหญ่เห็นว่าจะหาสถานที่เรียนสำรอง (คงมีแผน) แต่ไม่ได้ย้าย ณ ตอนนี้ เพื่อความปลอดภัยส่วนรวมจริงๆๆ นะ



*ผ่านมา 20 กว่าปี ปัญหายังไม่ได้แก้กันเลย วิบากกรรมคนเมืองกรุง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 9

18650

03/08/2017 09:59:01
736



น่ากลัวม๊าคค ผมเจอนักรบ เอ๊ย นักศึกษาอาชีวะพวกนี้ที่ไหน เดินหลีกให้ห่างไกลเลยครับ.. กัวลูกหลง



แต่ถ้าเป็น นิสิตนักศึกษาหญิงตีกันที่ไหน ผมจะรีบเข้าไปช่วยแยกคู่กรณีให้คับ เพราะทางฝ่ายหญิงตบตีกันน่ารักคับ อย่างมากแค่จิกหัวกัน กัดกัน ถึงทำร้ายกันก็ไม่รุนแรงเท่าฝ่ายชาย ไม่มีอาวุธหรือมีก็น้อยคับ

สงสารผู้ปกครองเค้านะ ส่งลูกไปเรียนหรือส่งลูกไปโดนทำร้ายกันแน่ 


ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 10

somkiatr

03/08/2017 10:01:52
182
ทางจุฬาเจ้าของสถานที่คงอยากได้ที่คืนใจจะขาด สมัยก่อนผมก็เดินผ่านบ่อยๆครับตอนเรียนที่นี่ จำได้ว่าป้ายหาเสียงของพรรคพลังธรรม ตอนนั้นเบอร์ 5   เลยทำเป็นป้ายรูปมือชู 5 นิ้ว ใหญ่ๆตั้งอยู่หน้าอุเทนถวาย ตรงเกาะกลางถนน จำนวน หลายป้ายติดต่อกัน  อย่างไรก็ตาม ทุกป้ายจะโดนหักนิ้ว โป้ง นิ้วชี้  นิ้วนาง นิ้วก้อยออกไปหมดเลยเหลือแค่นิ้วกลางนิ้วเดียว

 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 11

18650

03/08/2017 10:55:39
736



อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 10 - somkiatr
ทางจุฬาเจ้าของสถานที่คงอยากได้ที่คืนใจจะขาด สมัยก่อนผมก็เดินผ่านบ่อยๆครับตอนเรียนที่นี่ จำได้ว่าป้ายหาเสียงของพรรคพลังธรรม ตอนนั้นเบอร์ 5   เลยทำเป็นป้ายรูปมือชู 5 นิ้ว ใหญ่ๆตั้งอยู่หน้าอุเทนถวาย ตรงเกาะกลางถนน จำนวน หลายป้ายติดต่อกัน  อย่างไรก็ตาม ทุกป้ายจะโดนหักนิ้ว โป้ง นิ้วชี้  นิ้วนาง นิ้วก้อยออกไปหมดเลยเหลือแค่นิ้วกลางนิ้วเดียว

 
ยังไม่หมดสัญญาเช่าหรือติดขัดอะไรตรงไหนก็ไม่รู้แฮะ ทีแถวโซนสามย่าน ทุบซะไม่เหลือ

ถ้ายุบสถาบันไม่ได้ ผมแนะนำให้ย้ายไปอยู่ไกล ๆ แบบคนละภาคเลยดีไม๊ฮะ แบบ อุเทนย้ายไปเชียงราย

ปทุมวันย้ายไปยะลา ให้ห่างๆ กัน จะได้ลดการตีกันไปได้มั่ง แบบเจอกันยาก ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 12

bonus79

03/08/2017 11:22:22
1,133
ต้องค่อยๆย้ายครับ
ตัวอย่างเช่นเด็กธรรมศาสตร์ปีแรกๆต้องไปเรียนรังสิตก่อนย้ายเข้ามาท่าพระจันทร์ สองสถาบันนี้ควรใช้วิธีคล้ายคลึงกัน อาจจะเป็นว่าปีการศึกษา 2561 เด็กที่เพิ่งเข้าใหม่ต้องไปเรียนแคมปัสใหม่ที่ปัตตานี ขึ้นปีสองไปแคมปัสที่ยะลา ปีสามไปที่นราธิวาส อุปกรณ์การเรียนครบครันทั้งภาคทฤษฐีและภาคสนาม แล้วค่อยเข้ามาแคมปัสที่กรุงเทพเป็นปีสุดท้าย ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแบบนี้ดีกว่าปุ๊บปั๊บย้ายทั้งสถาบันทีเดียวมันจะเกิดการแอนตี้หนักเกินไปครับ นักศึกษาในแคมปัสปทุมวันก็จะค่อยๆลดจำนวนลงไปทุกปีเองด้วยครับ ทำแบบนี้ภายในปี 2564 เชื่อว่าเหตุการระหว่างสองสถาบันจะหมดไปกว่า 95%

@18650 ผมสงสารน้องผู้หญิงที่โดนรุมมากครับ ซูมใหญ่เลยว่าน้องเค้าจะเป็นอะไรมากมั้ย ต้องขอโทดด้วยที่ผมเป็นต้นเหตุทำให้พวกเค้าต้องแย่งกัน :p
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 13

tocking

03/08/2017 11:28:26
42

จับรวมให้กลายเป็นสถาบันเดียวกันเลยครับ 

หมดปัญหายกพวกตีกันระหว่างสถาบันแน่นอน

แต่มันจะตีกันเองในสถาบันเดียวกันรึเปล่า นั่นค่อยว่ากันต่อไปครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 14

somkiatr

03/08/2017 13:36:13
182
ผมว่าต้องเปลี่ยนหลักสูตรให้มันซอฟท์ลงครับ เอาแต่วิชาช่างกลอย่างเดียวจิตใจมันกระด้างครับ หลักสูตรที่ควรมีเพิ่มเข้าไปคือ
1. เย็บปักถักร้อย ตัดเสื้อ
2. คหกรรม สอนทำเบเกอรี เค้ก คุกกี้
3. แต่งหน้าทำผม 

อีกอย่างคือ เวลารับสมัครนักศึกษาใหม่ ให้รับเพศที่ 3 เข้าไปเยอะๆครับ เพื่อละลาย DNA ของพวกหนุ่มกลัดมันทั้งหลาย



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 15

18650

03/08/2017 14:33:54
736



อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 14 - somkiatr
ผมว่าต้องเปลี่ยนหลักสูตรให้มันซอฟท์ลงครับ เอาแต่วิชาช่างกลอย่างเดียวจิตใจมันกระด้างครับ หลักสูตรที่ควรมีเพิ่มเข้าไปคือ
1. เย็บปักถักร้อย ตัดเสื้อ
2. คหกรรม สอนทำเบเกอรี เค้ก คุกกี้
3. แต่งหน้าทำผม 

อีกอย่างคือ เวลารับสมัครนักศึกษาใหม่ ให้รับเพศที่ 3 เข้าไปเยอะๆครับ เพื่อละลาย DNA ของพวกหนุ่มกลัดมันทั้งหลาย



เห็นด้วยง่ะ แบบรับน้องนักศึกษาใหม่แบบนี้เข้าไปสัก ครึ่งห้อง น่าจะซอฟท์ลงนะฮะ....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 16

tangkoo.

03/08/2017 15:25:45
1,368
555 ผมว่าไม่ต้องถึงกับเย็บปักถักร้อยหรอกครับ   จริงๆควรปลูกฝังสิ่งที่ถูกที่ควรให้มากกว่า

ผมเห็นปัญหาหลักๆของเด็กช่างคือ  ถูกปลูกฝังแบบผิดๆมาตลอด  ผมมีเพื่อนเรียนช่าง(ไม่รู้รอดมาได้ไง555)  มันบอกไอ้พวกเก๋าๆเนี่ยมันเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน  แต่ไม่มีไม่ได้เพราะพวกนี้มันเหมือนเป็นการ์ด  คอยปกป้องเพื่อนเวลาโดนคนอื่นมาตี  ยิ่งโดนคนอื่นมาบอกเป็นพ่อตามฝาผนังยิ่งยอมไม่ได้ใหญ่  มันคือศักดิ์ศรีที่ถูกปลูกฝังมารุ่นต่อรุ่น ยิ่งกว่าดีเอ็นเอ  

การที่ใครคิดจะถอนรากเหง้าความคิด  ที่ฝังรากลึกอย่างนี้ออกมาแทบเป็นไปไม่ได้  ผมเห็นด้วยกับหลายท่านที่บอกให้ยุบ  เพราะต้นตอมันมาจากชื่อสถาบัน ที่ไล่ตี ไล่ยึดหัวเข็มขัด  มันเป็นความเชื่อเรื่องศักดิ์ศรีที่ผิดมาตลอด

ผมอยากให้ลองยุบทั้งหมด  แล้วเปิดเป็นศูนย์ศึกษาอาชีพ แบบที่กทมทำ กระจายอยู่ตามเขตต่างๆ แบบที่พวกสอนช่างตัดผม เย็บปักถักร้อย ทำอาหาร  ไม่ต้องมีชื่อสถาบันอะไรทั้งนั้น  ทุกคนที่เรียนจบมา รัฐบาลต้องให้การรับรอง ตามหลักกระทรวงศึกษาธิการ สามารถไปประกอบอาชีพได้

แต่ความคิดนี้คงไม่ได้ทำเสร็จได้ง่ายๆ ภายในสิบยี่สิบปี  แต่ต้องค่อยๆคิดค่อยๆเริ่มค่อยๆลอง  เพราะคนไม่เห็นด้วยต้องมีส่วนหนึ่งแน่นอน  คงต้องลองค่อยๆละลายพฤติกรรมกันจากรุ่นสู่รุ่นละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 17

taung2611

03/08/2017 19:03:39
25
ต้องเจออำนวยศิลป์โมเดล หรือไม่ก็กุลสิริโมเดล 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

นายมั่นคง

03/08/2017 21:53:35
4,282
ผมเคยมีน้าชายเรียนช่างกลปทุมวัน แกเอาปากกาเขียนหน้าปกสมุดตัวใหญ่ๆๆว่า "กูมันชั่ว"

ซึ่งจริงๆการเขียนนั้นไม่ใช่การแสดงออกอะไรที่ซับซ้อนเลยครับ เพียงแต่ผมว่าเด็กช่างนั้นโดยสติปัญญานั้นถูกมองจากสังคมว่าไม่สามารถเรียนในสายสามัญ ไม่สามารถเอ็นทรานซ์ถึงต้องมาเรียนวิชาช่าง ของพวกนี้มันถูกฝังเป็นปมในใจจากรุ่นสู่รุ่นครับ เด็กช่างเป็นเหมือนวรรณะที่ดูแล้วแย่กว่าเด็กที่เรียนสายอื่นหรือเรียนต่อในมหาวิทยาลัย

ถ้าเรามองปัญหากันให้ลึกๆก็จะทราบว่ามันเป็นอย่างที่ผมบอก เด็กวัยรุ่นนั้นมีแรงต่อต้านสังคมสูงอยู่แล้ว และสังคมไทยส่วนมากไม่ยอมแก้จากลบให้เป็นบวก แต่ส่วนมากจะแก้จากลบให้เป็นลบมากๆซะเลย คือถ้าไม่ได้ก็ประชดซะเลยทำนองนั้น มันเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของเด็กไทย ซึ่งผมบอกตามตรงว่ายากที่จะแก้ไข ขนาดผมเองเป็นคนที่เข้าใจคนแทบจะทุกรุ่นทุกวัย ก็ยังยอมรับว่าแก่ไขไม่ได้ครับ

วิธีที่เราคิดๆๆกันนั้น ส่วนมากออกแนวแก้ที่ปลายเหตุ ไม่ใช่ต้นเหตุเลยแม้แต่น้อย และเป็นการแก้ที่ปนอคติลงไปอีกด้วย

แต่ผมมีความคิดอยู่อย่างหนึ่ง คือเราแก้ไขจนรู้สึกว่าการเรียนสาขาช่าง นั้นมีความสำคัญไม่ต่างจากการเรียนแพทย์ เรียนวิศวะ เรียนบัญชี ผมว่าอาจจะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้ครับ ถ้าการเรียนช่างเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ ต้องเลือกเป็นตัวเลือกแรก ผมว่าอาจจะมีอะไรเปลี่ยนก็ได้

แต่คงยากชะมัด.......

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 19

เหน่งบา

04/08/2017 07:45:04
1,866
ย้ายสถานที่เรียน ยังไม่เห็นด้วยเสียทีเดียวครับ  อาจจะไปแพร่เชื้อชั่วที่ตำแหน่งอื่นให้เกิดการตีกันขึ้นที่นั่น แบบว่ากูไปล่าเมืองขึ้นก็เป็นได้
ผมอยากให้สลายมวลชนโดยการไล่ออกครับ  บางคนว่าทำลายอนาคตเด็ก  แต่โตกันป่านนี้ ถ้าเลือกจะทำแบบนั้น คุณไปสร้างอนาคตของคุณใหม่ที่อื่นครับ ไม่งั้นคุณจะทำลายอนาคตของคนอื่น แม้กระทั่งทำลายชีวิต...

หรือจะเลือกปิดรับบางคณะเป็นเวลาสามปี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 20

bonus79

04/08/2017 09:51:27
1,133
ผมยังค่อนข้างมั่นใจว่าการปฏิรูปและบังคับใช้กฏหมายให้รุนแรงขึ้นเป็นการแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเด็กวัยรุ่นเลือดร้อนที่มีพฤตติกรรมเป็นอันตพาลแบบนี้มักถูกหล่อหลอมมาจากสังคมรอบๆตัวที่ไม่ดี เริ่มตั้งแต่ครอบครัวเพื่อนฝูง สังคมที่เป็นอยู่ สังคมที่เรียน ซึ่งสิ่งรอบตัวของพวกเขาเหล่านั้นและวิธีคิดของพวกเขาเหล่านั้น เราไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ 

ในเมื่อทุกเมืองในโลกมีทั้งคนจนและคนรวยปะปนกัน มีคนชั่วและคนดี มีคนที่คิดได้และที่คิดไม่ได้ กฏหมายจึงมีบทบาทสำคัญที่จะควบคุมให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบขึ้น

ทุกวันนี้ตำรวจจราจรขยันทำหน้าที่เรียกตรวจรถป้ายแดงทุกคันตามท้องถนนและทางด่วน เรียกตรวจรถกระบะ รถขนของ รถบรรทุก รถมอเตอร์ไซด์ ไฉนเล่าจึงไม่เรียกตรวจค้นเด็กวัยรุ่นทุกคนที่ดูท่าทีเป็นอันตพาลเดินตามท้องถนนไปเสียเลย ตั้งจุดตรวจตามป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน ตรวจค้นอาวุธ ถ้าตรวจพบจับขังส่งฟ้องไม่ให้ประกันตัวก่อนขึ้นศาล เอากันแบบนี้ไปเลยน่าจะช่วยให้การพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ต้องมีการลาดตระเวนของตำรวจสมำเสมออยู่ตลอดเวลา 

ผมเคยอยู่ที่ออสเตรเลียมาหลายปี ไม่ว่าคุณจะไปที่เมือง Perth Sydney หรือ Melbourne คุณจะเห็นตำรวจลาดตระเวน เดินลาดตระเวนมาเป็นคู่ๆอยู่ทุกๆ 5-10นาที ทั่วเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งที่คนพลุกพล่าน ผมไปเที่ยวที่ฮ่องกงก็ยังพอเห็นตำรวจลาดตระเวนบ้าง สิงค์โปรก็มีเช่นกัน อเมริกามีแน่นอนไม่ต้องพูดถึง ดูไบไม่มีตำรวจเดินแต่มีรถตำรวจลาดตระเวนทั่วเมือง

แต่เมืองไทยบ้านเรา ผมเห็นแต่ตำรวจจราจรที่ขยันทำงานแบบที่ประชาชนมองเห็นได้ด้วยตาปล่าวทุกวันตั้งแต่เช้ามืดจนหลังผับปิด แต่ไม่เคย และย้ำว่า "ไม่เคย" เห็นตำรวจลาดตระเวนใส่เครื่องแบบเดินไปมาแถวสยามสแควร์ หรือที่ไหนๆเลย ที่ตลกกว่านั้นคือมีจ่าเฉยด้วย! (ผมคาดว่าราคาของจ่าเฉยแพงกว่าเงินเดือนตำรวจหนึ่งปี) นี่หละครับคือจุดอ่อนของประเทศไทย
ผมว่าเพียงแค่มีกำลังตำรวจพร้อมรับมือและสอดส่องอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ มันคงจะไม่หมดไปเสียทีเดียวเพราะขนาดที่เมืองนอกมีตำรวจกระจายกำลังขนาดนั้นมันก็ยังมีเรื่องได้ แต่ส่วนมากจะเป็นเพียงแค่ฉกชิงวิ่งราวและตีกันหน้าผับไม่ใช่นักศึกษาใส่ชุดนักเรียนยกพวกตีกันแบบนี้

เรื่องย้ายเรื่องยุบเอาไว้ทีหลังก็ได้ แต่ถ้าใครทำผิดหรือก่อความเดือดร้อน พกอาวุธไปในที่สาธารณะ กฏหมายไทยและการบังคับใช้เอาตาย (หมายถึงเอาให้หนักๆ) ก็น่าจะมีน้อยคนที่กล้าแล้วครับ ต่อให้จิตมันชั่วแค่ไหนแต่ถ้าริทำชั่วก็เตรียมรับโทษแบบรวดเร็วและรุนแรงกันไปครับ

ทุกวันนี้ที่ผมไม่เลือกเลี้ยงชีพโดยการปล้นแบงค์หรือขายของผิดกฏหมาย ก็เพราะว่ากลัวโดนจับดำเนินคดีนี่หละครับ ถ้าบ้านเมืองไม่มีกฏหมายก็เละเทะเพราะคนดีๆก็อาจกลายเป็นคนชั่วได้ แต่ถ้ามีกฏหมายอ่อนๆแบบนี้ พวกเราคนไทยก็เดินย่ำอยู่กับที่กันอยู่แบบนี้หละครับ 40-50ปี มันก็ยังตีกัน ข่มขืนกัน โกงกินกันอยู่แบบนี้ นี่ไม่ได้อัคตินะครับ แต่มันควรเปลี่ยนได้แล้วครับ หวังว่าจะมีผู้นำประเทศที่จะยอมลงมาทำเรื่องเล็กๆแบบนี้บ้างซักทีครับ 

หลังเขียนมาซะยาว สุดท้ายก็ต้องขอปิดท้ายประโยคแบบสิ้นหวังสไตร์คนไทย ว่า "คงแก้ได้ยาก" เพราะขนาดลุงตู่เป็นนายกอยู่ตอนนี้ ก็ยังแก้เรื่องนี้ไม่ได้เลยครับ ว่าแต่ผมเกิดไม่ทันนะครับ ได้ยินมาว่าสมัยจอมพล ป บ้านเมืองสงบสุข โจรไม่มีเพราะบทลงโทษแรงมาก อันนี้จริงไม่จริงผมไม่ทราบนะครับ แต่สมัยนั้นช่างกลเค้าตีกันมั้ยครับ? ใครรู้บ้างช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 21

18650

04/08/2017 10:32:56
736



...สมัยจอมพล ป นั่นเท่าที่ผมทราบ อันนั้นเก่าเกิน   ยังไม่มีการตีกันของนักศึกษาครับ

แม้แต่ยุคช่วงปี 2500  ยุคจอมพลผ้าขะม้าแดง สฤษดิ์ ธนะรัชต์  ก็ยังไม่มีนักศึกษาตีกัน  แต่เป็นแค่ยุคพวกอันธพาลตีกัน พวกโก๋หลังวัง แดงไบเล่ ปุ๊ระเบิดขวดอะไรพวกนั้น  
ยุคที่กฏหมายแรงมากคือยุค สฤษดิ์ครับ  อย่างพวกวางเพลิงนี่ แกจับได้ลากตัวเข้าตรอกแถว ๆ นั้น สั่งยิงกันตรงนั้นเลย แล้วก็ประกาศวันรุ่งขึ้นว่า " ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว "  ยุคนั้น โก๋ซ๋าส์ อันธพาลกวนเมือง ฯลฯ หัวหดหมดคับ บ้านเมืองเรียบร้อยมาก  แต่ตอนนั้นผมก็ยังเป็นเด็กไม่ค่อยรู้เรื่อง ฟังจากผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง

การตีกันของนักศึกษาสองสถาบันนี้ น่าจะมีมาราว ๆ ประมาณ 20 กว่าปีมานี้เอง ( ถ้าผมจำผิดขอพัย แก่แระ อิอิ..)

ฟามจริง การตีกันของนักศึกษาสถาบันอาชีวะ ไม่ได้มีแค่สองสถาบันนี้เท่านั้นครับ  สถาบันอื่น ๆ ก็มีบ้างประปราย แต่ไม่เป็นช่าวบ่อยครั้งนัก  แต่สองแห่งนี้ขึ้นชื่อสุดฮะ

ตอนสมัยผมเรียนพาณิชย์ ก็เคยถูกเกณท์ไปรบกะช่างกลอยู่ครั้งสองครั้ง  อาวุธสมัยผม ยังไม่รุนแรงขนาดใช้ปืนยิงกัน  ยุคผม พวกอาชีวะใช้ไม่ที  พวกพาณิชย์ใช้ลูกคิดคับ  ฝ่ายอาชีวะค่อนข้างได้เปรียบเพราะไม้ทียาวกว่า มีด้ามจับถนัดมือ  จึงใช้เคาะกบาลคู่ต่อสู้ได้ถนัด  ฝ่ายผมเสียเปรียบง่ะ เพราะลูกคิดมันสั้นใช้ตีระยะประชิดไม่ถนัด  ต่อมาผมเลยมีไอเดียแนะนำให้พรรคพวก ปรับปรุงความยาวของขนาดลูกคิดใหม่ ให้เป็น แบบ 13 แถวอย่างน้อย ดามขอบมุมด้วยแผ่นเหล็กเพื่อให้ขอบมุมแข็งแรงเวลาตีกบาลคู่ต่อสู้จะได้ มันส์ขึ้นอีกคับ

ยุคผมก็ไม่เอากันถึงตายเหมือนเด๋วนี้นะฮะ อย่างมากก็หัวร้างข้างแตก แล้วก็เลิกรากันไป  ตีกันครั้งเดียว จบฮะ ไม่ค่อยมีภาคสอง ภาคสาม ตามเพื่อนมาช่วยอะไรไม่ค่อยมี

สุดท้ายผมเลิกรบกะอาชีวะเด็ดขาด เพราะอาจารย์คาดโทษไว้  ถ้ามีอีก ไล่ออกสถานเดียว ฟามจิงผมไม่ค่อยกัว 'จารย์ เท่าไหร่หรอก แต่กัว ป๋ากะม้าที่บ้านมากก่า แห่ะ ๆ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 22

เหน่งบา

04/08/2017 11:14:17
1,866



            
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 23

tangkoo.

04/08/2017 13:15:33
1,368
น้า18650 ผมว่าสองโรงเรียนนี้ตีกันมาไม่น่าต่ำกว่าสี่สิบปีนะครับ555

พ่อผมชอบพลเอกสฤษดิ์มาก เวลามีข่าวอาชญากรรม มักจะพูดประโยคว่า "ถ้าเป็นสมัยพลเอกสฤษดิ์นะ" โจรสมัยนั้นหัวหดหมดครับ  เพราะเจอคนเด็ดขาดเอาจริง เป็นสมัยนี้คงไม่ได้ เพราะนักสิทธิเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด  

ขนาดฆาตกรฆ่าข่มขืน ยังอุตส่าห์ไปช่วยรักษาสิทธิพวกมัน  แล้วสิทธิของเหยื่อที่ถูกกระทำ คืออะไร   บางคนไม่ตายแต่ตกนรกทั้งเป็น  พวกนักสิทธิเคยโผล่กระบาลไปดูแลเยียวยาเขาหรือเปล่า  เหมือนเวลาทหารใต้ทำผิดพลาด ไปโดนประชาชนทั่วไป  พวกนี้โผล่หัวออกมาทันที   พอประชาชนทั่วไป ตำรวจทหาร ครู พระโดนฆ่า  พวกนี้ไม่รู้หดหัวอยู่ที่ไหน  (ขออภัยบางคำไม่สุภาพครับ  แต่พูดแล้วขึ้น555)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 24

นายมั่นคง

04/08/2017 22:54:36
4,282
2 โรงเรียนตีกันมาเกินกว่า 40 ปีเยอะครับ ตีกัน แทงกันตายไปเยอะ รัฐบาลแก้ไขกันไปทุกยุคทุกสมัย แต่ก็ไม่มีทางทำได้ ต้องบอกว่าช่างกลรัฐบาลที่เป็นแถวหน้าก็คือ 2 ช่างกลที่ว่านี้แหละครับ รองลงมาก็เป็นช่างกลเอกชน การตีกันไม่ใช่ตีกันเพราะหมั่นไส้ ไม่ได้ตีเพราะโกรธเคืองกัน แต่ตีเพราะมันเป็นค่านิยมที่ถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่น

ผมไม่เชื่อว่ากฏหมายรุนแรงจะแก้ไขอะไรได้หรอกครับ เด็กวัยรุ่นยิ่งต่างจากผู้ใหญ่มากมายนัก เด็กไม่รู้ร้อนรู้หนาว เด็กไม่รู้ว่าขับรถเร็วอาจจะคว่ำตายได้ เด็กไม่รู้ว่าตีกันแล้วโดนยิงกันอาจจะตายได้ หรือถ้ายิงเค้าอาจจะติดคุกได้ หรือแม้กระทั่งอาจจะโดนประหารได้ เด็กไม่รู้เรื่องเหล่านี้ครับ เด็กวัยรุ่นไม่กลัว เพราะไม่รู้ว่าความตายมันน่ากลัวหรือการทำให้ผู้อื่นตายมันน่ากลัว

เด็กสถาบันใหญ่อันทรงชื่อของรัฐ ก็มีเด็กไม่รู้กาละเทศะ ไม่รู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร แต่รู้เพียงอย่างเดียวว่าการต่อต้านหรือการไม่ยอมทำตามจารีตเดิมๆนั้นคือสิ่งที่เป็นสาระอันควรทำหรือไม่ควรทำ แยกแยะอะไรยังไม่ออกด้วยซ้ำ และแสดงออกด้วยโวหารแบบเด็ก และพยายามแสดงออกถึงความเป็นเด็กหัวรุนแรงก้าวหน้า ทั้งหัวหมอแจ้งความต่างๆนาๆ  ผมดูโทรทัศน์ยังนึกขำในใจว่า หากมีคนไปปฏิบัติกับคุณพ่อคุณแม่ของไอ้น้องคนที่ว่าด้วยเงื่อนไขแบบที่ผมอยากเสนอต่อรองมั่ง เค้าจะตอบว่าอย่างไร 555 เอาเป็นว่าแค่นี้ละกัน เพราะผมเองว่าอย่าวิจารณ์การเมือง แต่ตัวเองชักคันปากอยากจะออกโรงซะเอง 555  จริงๆเป็นแค่เด็กคนเดียวที่ไม่รู้กาละเทศะเท่านั้นครับ

จำคำพูดผมไว้นะครับ เด็กเหล่านี้ที่ปากกล้าเหล่านี้ โตขึ้นก็เปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนวิธีคิด เก็บอุดมการณ์ใส่ลิ้นชักฝากเมียไว้คอนโดหรูๆ แล้วก็โกงชาติ คอรัปชั่นต่อเป็นรุ่นต่อไป อย่าลืมนะครับ ยิ่งฉลาดยิ่งโกงเก่ง 555 และฝากคำพูดถึงน้องๆเพื่อนๆร่วมสถาบัน อย่าตกเป็นเหยื่อให้ชักจูงกันนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 25

นายมั่นคง

04/08/2017 23:00:18
4,282
ส่วนเด็กช่างกล ผมว่าการออกกฏหมายให้แรงขึ้นไม่มีผล เพราะเด็กเหล่านี้ไม่กลัวการลงโทษครับ เชื่อผมเถอะครับ ไม่กลัวแม้แต่น้อยนิด เพียงแต่มันเป็นเรื่องวัยและฮอร์โมนและเป็นผลพวงของหลักสูตรการศึกษา หรือแม้แต่ลักษณะวิชาที่ต้องศึกษา ล้วนแต่มีผลทำให้เด็กช่างกลต้องแสดงออกด้วยความรุนแรง

ควรต้องแก้ที่ต้นเหตุอย่างจริงๆจังๆซะที  ซึ่งผมเองก็นึกไม่ออกว่าคืออะไร อาจจะต้องระดมสมองนักวิชาการระดับประเทศมาช่วยกันคิดกันตั้งแต่ต้นเหตุกันเลยครับ เราแก้ปัญหาปลายเหตุมา 40 กว่าปีแล้วครับ ถึงเวลาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กันแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 26

เหน่งบา

04/08/2017 23:00:31
1,866
จำคำพูดผมไว้นะครับ เด็กเหล่านี้ที่ปากกล้าเหล่านี้ โตขึ้นก็เปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนวิธีคิด เก็บอุดมการณ์ใส่ลิ้นชักฝากเมียไว้คอนโดหรูๆ แล้วก็โกงชาติ คอรัปชั่นต่อเป็นรุ่นต่อไป อย่าลืมนะครับ ยิ่งฉลาดยิ่งโกงเก่ง 555 และฝากคำพูดถึงน้องๆเพื่อนๆร่วมสถาบัน อย่าตกเป็นเหยื่อให้ชักจูงกันนะครับ

ถ้าสิ่งที่เฮียคาดเดามันผิดก็จะดีหรอกนะครับ  แต่เกรงว่า เฮียจะเดาอะไรไม่ผิดเลยนี่สิ หึหึหึ...
แค่ไอ้การพยายามแสดงบทบาท สร้างฉากละครแล้วออกมาแถลงด้วยวิธีการปลิ้นปล้อนตอแหล แค่นี้ก็แลเห็นกำพืดที่เป็นมา และอนาคตที่จะเป็นไปได้แล้วครับ 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 27

tangkoo.

04/08/2017 23:05:40
1,368
ว่าจะไม่ขึ้นแล้วนะ  พอเฮียพูดถึงเด็กwane นี่ ขึ้นเลย555
ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 28

นายมั่นคง

04/08/2017 23:32:27
4,282
ผมขอพูดถึงอีกหน่อยก็แล้วกันครับ เพราะเรื่องนี้ผมไม่ได้กลัวอะไรกับเด็กเปรตนี่หรอกครับ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมระดับปัญญาชนเป็นพันๆถึงยอมให้คนไร้วุฒิภาวะมาเป็นผู้นำได้อย่างไร การต่อรอง การเถียงข้างๆคูๆ การจัดฉาก การเตรียมการ และต้องไม่ลืมว่าเด็กคนนี้ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีคนให้ท้าย (ผมใช้คำว่าให้ท้ายก็แล้วกันมันดูซอฟท์ดี)

จริงๆต้องบอกว่า เอ็งบอกจุดประสงค์ออกมาแบบแมนๆและลูกผู้ชายเลยว่าต้องการอะไรกันแน่ จะเอาระบอบหรือไม่เอาระบอบก็ขึ้นป้ายคัทเอาท์ใหญ่ๆไปเลย การออกมาหน่อมแน้ม เกี่ยงฝนตกฝนพรำ ยืนเคารพไม่ยืนเคารพ ห่วงเพื่อนเป็นหวัด ผมว่าเอาเปรียบเพื่อนร่วมสถาบันเกินไป อย่าไปลากคนที่ไม่รู้เรื่องหรือรู้ลึกซึ้งหรือรู้ไม่เท่าทันมาร่วมด้วย คือถ้าเจ๋งและเก่งจริง ต้องโดดออกมาเดี่ยวไมโครโฟนและอย่าให้เพื่อนร่วมสถาบันต้องเป็นโล่ให้โดยปริยาย หรือในการ์ตูนเค้าเรียกม่านบาเรียหรือไงนี่ล่ะ

ผมก็นักเรียน ม.ศ.3 เรียนก็น้อยแถมเกเรไม่เรียนด้วย สติปัญญาก็ไม่ได้มีมากอะไร แต่ผมคิดว่าผมไม่ได้โง่กว่าเด็กคนนี้แน่ๆๆ คอยจับตาดูไอ้เด็กเปรตนี่ต่อไปก็แล้วกัน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 29

RockDragon

04/08/2017 23:53:45
2,893
ผมมานึกถึงอดีตกาลตอนผมเรียน ม.ศ.4 ม.ศ.5 ผมเป็นเด็กดีนะถึงแม้สถาบันที่ผมเรียนอยู่จะมีขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
แต่ผมไม่ได้ร่วมอยู่ในกลุ่มนักรบเลยไม่ได้ไปด้วยในวันนั้นนะครับ 555





ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 30

นายมั่นคง

04/08/2017 23:57:03
4,282
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 29 - RockDragon
ผมมานึกถึงอดีตกาลตอนผมเรียน ม.ศ.4 ม.ศ.5 ผมเป็นเด็กดีนะถึงแม้สถาบันที่ผมเรียนอยู่จะมีขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
แต่ผมไม่ได้ร่วมอยู่ในกลุ่มนักรบเลยไม่ได้ไปด้วยในวันนั้นนะครับ 555





เกือบไม่ได้เป็นน้าชาในวันนี้ซะแล้ว 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 31

RockDragon

04/08/2017 23:58:32
2,893
โพสนี้ข้อมูลแน่นจริงครับ 555




ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 32

นายมั่นคง

05/08/2017 00:00:11
4,282
ผมไปสอบวิทยาลัยช่างศิลป์น่าจะปี 2523 แต่ไม่ติดครับน้า 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 33

tangkoo.

05/08/2017 00:13:24
1,368
เรื่องนี้พอเทียบกับน้องๆเด็กช่างทั้งหลายแล้ว  ผมว่าน้องๆช่างกลดูสูงส่งกว่าไอ้นั่นเยอะครับ

จริงอยู่สิ่งที่พวกเด็กช่าง(ตีกัน)ทำเป็นสิ่งผิด  ทำให้คนไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย  แต่ที่ทำเพราะการปลูกฝัง การรักสถาบันแบบผิดๆ  สังเกตุดีๆนะครับ เด็กพวกนี้เคารพพระวิษณุเทพ รู้จักกราบไหว้ครูบาอาจารย์  รักสถาบัน รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่เคยจาบจ้วงเบื้องสูง   

เด็กพวกนี้ที่ทำไปก็ตามที่เฮียวิเคราะห์นั่นแหละครับ  เป็นช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่าน อยู่ผิดที่ผิดทาง ใช้กำลังในทางที่ผิด โดนปลูกฝังกับความเชื่อผิดๆจากรุ่นสู่รุ่น

ต่างจากไอ้พวกต่ำตม  ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อผลโยชน์  โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 34

นายมั่นคง

05/08/2017 00:41:04
4,282
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 33 - tangkoo.
เรื่องนี้พอเทียบกับน้องๆเด็กช่างทั้งหลายแล้ว  ผมว่าน้องๆช่างกลดูสูงส่งกว่าไอ้นั่นเยอะครับ

จริงอยู่สิ่งที่พวกเด็กช่าง(ตีกัน)ทำเป็นสิ่งผิด  ทำให้คนไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย  แต่ที่ทำเพราะการปลูกฝัง การรักสถาบันแบบผิดๆ  สังเกตุดีๆนะครับ เด็กพวกนี้เคารพพระวิษณุเทพ รู้จักกราบไหว้ครูบาอาจารย์  รักสถาบัน รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่เคยจาบจ้วงเบื้องสูง   

เด็กพวกนี้ที่ทำไปก็ตามที่เฮียวิเคราะห์นั่นแหละครับ  เป็นช่วงวัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่าน อยู่ผิดที่ผิดทาง ใช้กำลังในทางที่ผิด โดนปลูกฝังกับความเชื่อผิดๆจากรุ่นสู่รุ่น

ต่างจากไอ้พวกต่ำตม  ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อผลโยชน์  โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น
ผมเพิ่งด่าไอ้เปรตนั่นให้ลูกชายสองคนฟัง ว่ามึงอย่าได้โง่ไปเชื่อไอ้เด็กเปรตตัวนี้นะ แล้วก็สอนให้ไอ้ลูกสองตัวผมรู้ว่าอะไรมันเป็นอะไร สอนให้หูตาสว่างว่า ไอ้น้ำผึ้งหยดเดียวที่ไอ้เปรตนี่มันพยายามหยอดให้มดมาตอมเป็นพันๆๆเป็นหมื่นมันคืออะไร ใครให้มันมา ใครวางงานให้ มันได้อะไรจากใคร และหวังจะได้อะไรที่มากขึ้นอีก

เศษขยะที่บังเอิญสอบติดเข้าไปครับ 555 ต่างจากผมพ่อเทพบุตรที่เรียนอะไรไม่ติดซักอย่างว่างั้น

ไอ้นี่มันตีฝีปากเก่ง บอกตรงๆถ้ารุ่นเดียวกันผมตบบ้องหูและชกปากปลิ้นเลยครับ 555 ผมอยากจะบอกว่าถ้าอยากจะเป็นผู้นำมันต้องกล้าหาญกว่านี้ การที่ดึงมวลชนเพื่อนฝูงเข้าไปเชื่อมโยงด้วย อันนี้ผมว่ามันถึงขั้นชาติชั่วเลยครับ เป็นผมๆผมจะเดินออกมาแล้วบอกว่าผมจะเอาแบบนี้ ผมไม่เอาสถาบัน ผมไม่เอาระบอบอะไรทั้งนั้น ตายเป็นตาย จะเอาอะไรก็พูดกันตรงๆ

และไอ้นี่มันออกลูกโง่ด้วย อ่านสถานะการณ์ไม่ค่อยออก เสือกทำเกินคำสั่งและทำผิดคิว จริงๆถ้าเหนือชั้นต้องรู้จักถอยหลัง ไม่ใช่ไปแจ้งความมั่วเลอะเทอะ จะจัดฉากอะไรก็ตามต้องเนียนตาเนียนหูกว่านี้ เล่นละครก็ได้แค่ระดับตุ๊กตาเสียกบาล และถ้าจะให้มุขเหนือชั้นหัดขอโทษความสัพเพร่า ความด้อยเขลาเบาปัญญาหน่อย หัดบีบน้ำตาอีกนิด รับรองได้ตุ๊กตาปลาออสการ์ทองคำแน่

ไอ้พวกนี้ถ้ามันโตได้มันก็โกงชาติอยู่ดี แล้วมันก็โกงไอ้เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกันอีกนั่นเอง 555

ลุงตู่ยังบอกว่าไม่อยากทะเลาะกับเด็ก ผมเองก็ได้แต่ด่าลมๆแล้งๆไปอย่างนั้น อยากรู้จังว่าเถ้าแก่ของไอ้เด็กคนนี้คือใคร 555


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 35

นายมั่นคง

05/08/2017 00:45:38
4,282
เด็กช่างกลสูงส่งกว่ามากครับ ตีกันเพราะสัญชาติญาณ ไม่ได้ไตร่ตรองวางแผนอะไรมากมาย เจอหน้าก็เหม็นหน้ากันแบบไม่ต้องมีเหตุผล แต่ไอ้พวกที่คิดอ่านเป็นฉากๆ วางงานเป็นตอนๆ เล่นกันเป็นทีละสเตป นับกันแบบทีละก้าว ไอ้ตัวนี้มันชาติชั่วกว่าเยอะครับ 555

ผมเชิดชูจิตใจทรนงของเด็กช่าง และก็หวังว่าอาจจะมีเด็กช่างซักคนช่วยเอาอีดาบไปฟันปากไอ้นี่ที เอาลวดผูกเหล็กเส้นไปช่วยดัดฟันให้มันที 555 จัดสวยๆซักดอกสองดอกน่าจะพอทุเลาความอึดอัดของคนในสังคมลงได้บ้าง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 36

นายมั่นคง

05/08/2017 01:07:30
4,282
ปล. เพิ่มอีกนิดครับ จริงๆไอ้เด็กเปรตนี่ไตร่ตรองมาดิบดี วางงานมานาน และก็อยากจะโดนลากอยู่แล้วนะครับ เรียกว่าพยายามยกระดับ แต่ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองยังพอรู้เท่าทันเหลี่ยมคูอยู่

นี่คือความพยายามหยดน้ำผึ้งหยดเดียวเพื่อขยายผลให้มดและแมลงเป็นพันเป็นหมื่นมาตอมให้ได้ ถ้าหยดแล้วมาก็คือได้ผล.......เถ้าแก่แจกทิปตบรางวัลจุใจงานนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 37

bonus79

05/08/2017 13:05:47
1,133
เอ ผมตกข่าว พูดถึงงานป่วนพิธีใช่มั้ยครับ? อ่านคอมเม้นแล้วเลยไปค้นข่าวมา เพราะนึกถึงเด็กเปรตอักษร น 

น้าชาสุดยอดเลยครับ เหตุการนั้นนั่นมันก่อนผมเกิดอีก! ไปหาหนังสือพิมพ์มาได้ไงครับเนี่ย? ข้าน้อยขอคารวะครับ _/\_

ผมคล้อยตามในหลายประเด็นที่เฮียกล่าวถึง จะมีประเด็นที่สงสัยคือเรื่องที่ว่าหลักสูตรการศึกหาและวิชาที่เรียนมีส่วนทำให้เด็กพวกนี้ต้องแสดงออกรุนแรง ผมไม่ทราบว่าเค้าเรียนอะไรกันแต่เท่าที่ผมเคยศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลียปี1996-2004ไม่เคยพบเจอเด็กนักเรียนสายวิชาชีพที่นั่นยกพวกตีรันฟันแทงกันเลย ไม่เคยเห็นแม้กระทั่งสีสเปรย์พ่นผนังว่า สถาบันอะไรพ่อใคร (จะมีก็แต่คนทั่วไปตีกันเพราะเหยียดผิว[racist]) ถ้าหลักสูตรไทยมีส่วนกระตุ้นทำให้เด็กตีกัน แสดงว่าหลักสูตรของเรามีข้อบกพร่องและต้องแก้ไข

ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ความคิดเห็นของแต่ละท่านอาจจะไม่ตรงกันซะทีเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่ตรงกันคือมันควรมีการเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างสำหรับประเทศไทยเพื่อสังคมที่ดีขึ้น ซึ่งทุกคนก็คงจะเอือมละอาเต็มที กับอะไรที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นยุคไหนๆก็ตาม บางทีปัญหาเล็กๆที่เรามองว่าน่าจะจัดการได้ แต่ก็ไม่จัดการกัน มันก็เป็นเรื่องหน้าเศร้านะครับ ถ้าพูดในกรอบระบบการศึกษา ระบบแป๊ะเจี๊ยก็มีกันมาไม่รู้กี่เจเนอร์เรชั่นแล้ว ระบบที่ครูตีเด็กนักเรียนนี่เลิกได้แล้ว ผมก็โดนตีมาเหมือนกัน แต่พอโตหน่อยได้ไปเรียนต่างประเทศจึงรู้ว่าบ้านเรามันล้าหลังและป่าเถื่อนควรจะพัฒนาจริงๆครับ ฝรั่งจะลงโทดเด็กดื้อโดยการให้อยู่หลังเลิกเรียนทำการบ้านหรืออ่านหนังสือเรียน (เรียกว่า detention) ทำแบบนั้นผมว่าได้ประโยชน์กว่าเยอะ ถ้ารุนแรงจริงๆก็พักการเรียน หรือให้ออก ไม่ใช่ว่าผมกระแดะบ้าฝรั่งและเห็นว่ามันทำอะไรดีกว่าคนไทยไปซะทุกอย่างนะครับ ผมเพียงแค่หยิบยก"เฉพาะ"สิ่งที่ผมเห็นว่าดีและเราควรจะเอาเป็นแบบอย่างมาเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง

กฏหมายที่นั่นรุนแรงมั้ย? ไม่มีอะไรหนักถึงขั้นประหารแต่ไม่มีอะไรอ่อนถึงขั้นรอลงอาญาไว้เฉยๆ การปฏิบัติบังคับใช้ แน่นอนและเท่าเทียมกันทุกชนชั้น การทำผิดกฏหมายเป็นเรื่องใหญ่ หรือแม้แต่เรื่องผิดระเบียบ เช่นแซงคิว ขึ้นบันไดเลื่อนไม่ยืนชิดขวา ส่งเสียงในโรงหนัง เปลี่ยนเลนรถไม่ให้สัญญานไฟ ไม่หยุดรถตรงทางม้าลาย ขึ้นลงรถเมล์ไม่ตรงป้าย กินข้าวในฟู้ดคอดแล้วไม่เก็บโต๊ะ เป็นเรื่องที่ประชาชนของเค้าไม่ทำกัน
เรื่องพวกนี้ถ้ามีใครพูดมากก็จะโดนคนไทยไล่ให้ไปอยู่ต่างประเทศเสียอีก หาว่าถ้าไม่ชอบเมืองไทยก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นซะสิ ไปซะงั้น แทนที่จะยอมรับว่าเออ เราควรพัฒนาจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 38

tangkoo.

05/08/2017 16:32:17
1,368
พูดถึงเปรียบเทียบกับต่างประเทศ  ไม่กี่วันนี้ก็เพิ่งมีข่าวน้องคนหนึ่ง โดนจัดชุดใหญ่  เพราะไประบายอารมณ์ทางโซเชี่ยล   กรณีนี้ผมเข้าใจนะ เพราะน้องยังเด็ก การแสดงออกอะไรก็เลยขาดความยั้งคิดไปบ้าง  และมันก็เป็นอีกปัญหาที่บ้านเรา  ไม่ว่าใครเข้ามาก็แก้ไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ปัญหา555(ตีกัน,จราจร) ผิดกับไอ้เปรตนั่น  พฤติกรรมที่ผ่านมา ส่อสันดารอย่างแท้จริง

ส่วนเรื่องช่างกล ผมว่าปัญหามันมีหลายมิติ  การที่เราเห็นไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา ตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน  แต่ทุกคนที่เข้ามาแสดงความเห็น ก็ปราถนาดีอยากให้เหตุการณ์พวกนี้มันหมดไปซักทีนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 39

นายมั่นคง

05/08/2017 23:37:34
4,282
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 37 - bonus79
เอ ผมตกข่าว พูดถึงงานป่วนพิธีใช่มั้ยครับ? อ่านคอมเม้นแล้วเลยไปค้นข่าวมา เพราะนึกถึงเด็กเปรตอักษร น 

น้าชาสุดยอดเลยครับ เหตุการนั้นนั่นมันก่อนผมเกิดอีก! ไปหาหนังสือพิมพ์มาได้ไงครับเนี่ย? ข้าน้อยขอคารวะครับ _/\_

ผมคล้อยตามในหลายประเด็นที่เฮียกล่าวถึง จะมีประเด็นที่สงสัยคือเรื่องที่ว่าหลักสูตรการศึกหาและวิชาที่เรียนมีส่วนทำให้เด็กพวกนี้ต้องแสดงออกรุนแรง ผมไม่ทราบว่าเค้าเรียนอะไรกันแต่เท่าที่ผมเคยศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลียปี1996-2004ไม่เคยพบเจอเด็กนักเรียนสายวิชาชีพที่นั่นยกพวกตีรันฟันแทงกันเลย ไม่เคยเห็นแม้กระทั่งสีสเปรย์พ่นผนังว่า สถาบันอะไรพ่อใคร (จะมีก็แต่คนทั่วไปตีกันเพราะเหยียดผิว[racist]) ถ้าหลักสูตรไทยมีส่วนกระตุ้นทำให้เด็กตีกัน แสดงว่าหลักสูตรของเรามีข้อบกพร่องและต้องแก้ไข

ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ความคิดเห็นของแต่ละท่านอาจจะไม่ตรงกันซะทีเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่ตรงกันคือมันควรมีการเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างสำหรับประเทศไทยเพื่อสังคมที่ดีขึ้น ซึ่งทุกคนก็คงจะเอือมละอาเต็มที กับอะไรที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นยุคไหนๆก็ตาม บางทีปัญหาเล็กๆที่เรามองว่าน่าจะจัดการได้ แต่ก็ไม่จัดการกัน มันก็เป็นเรื่องหน้าเศร้านะครับ ถ้าพูดในกรอบระบบการศึกษา ระบบแป๊ะเจี๊ยก็มีกันมาไม่รู้กี่เจเนอร์เรชั่นแล้ว ระบบที่ครูตีเด็กนักเรียนนี่เลิกได้แล้ว ผมก็โดนตีมาเหมือนกัน แต่พอโตหน่อยได้ไปเรียนต่างประเทศจึงรู้ว่าบ้านเรามันล้าหลังและป่าเถื่อนควรจะพัฒนาจริงๆครับ ฝรั่งจะลงโทดเด็กดื้อโดยการให้อยู่หลังเลิกเรียนทำการบ้านหรืออ่านหนังสือเรียน (เรียกว่า detention) ทำแบบนั้นผมว่าได้ประโยชน์กว่าเยอะ ถ้ารุนแรงจริงๆก็พักการเรียน หรือให้ออก ไม่ใช่ว่าผมกระแดะบ้าฝรั่งและเห็นว่ามันทำอะไรดีกว่าคนไทยไปซะทุกอย่างนะครับ ผมเพียงแค่หยิบยก"เฉพาะ"สิ่งที่ผมเห็นว่าดีและเราควรจะเอาเป็นแบบอย่างมาเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง

กฏหมายที่นั่นรุนแรงมั้ย? ไม่มีอะไรหนักถึงขั้นประหารแต่ไม่มีอะไรอ่อนถึงขั้นรอลงอาญาไว้เฉยๆ การปฏิบัติบังคับใช้ แน่นอนและเท่าเทียมกันทุกชนชั้น การทำผิดกฏหมายเป็นเรื่องใหญ่ หรือแม้แต่เรื่องผิดระเบียบ เช่นแซงคิว ขึ้นบันไดเลื่อนไม่ยืนชิดขวา ส่งเสียงในโรงหนัง เปลี่ยนเลนรถไม่ให้สัญญานไฟ ไม่หยุดรถตรงทางม้าลาย ขึ้นลงรถเมล์ไม่ตรงป้าย กินข้าวในฟู้ดคอดแล้วไม่เก็บโต๊ะ เป็นเรื่องที่ประชาชนของเค้าไม่ทำกัน
เรื่องพวกนี้ถ้ามีใครพูดมากก็จะโดนคนไทยไล่ให้ไปอยู่ต่างประเทศเสียอีก หาว่าถ้าไม่ชอบเมืองไทยก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นซะสิ ไปซะงั้น แทนที่จะยอมรับว่าเออ เราควรพัฒนาจริงๆ
ผมเล่าตามประสบการณ์ที่เคยมีน้าชายเรียนอยู่ช่างกลปทุมวันนะครับ^^

ผมว่าหลักสูตรและกิจกรรมต่างๆที่อาจารย์และรุ่นพี่ของเด็กช่างอันนี้ก็มีส่วน เพราะว่าเด็กช่างต้องอย่าลืมว่าเวลาเค้าเรียน เค้าไม่ได้นั่งในห้องอย่างเดียวเหมือนเด็กบัญชีหรือเด็กพานิชย์ เค้าต้องลงเวิร์คชอพ ลงมือตัดเหล็ก เชื่อมเหล็ก แม้กระทั่งใช้ค้อนทุบเหล็กหรือทั้งรื้อทั้งค้นเกี่ยวกับพวกเครื่องยนต์กลไกต่างๆ

โดยเนื้อหาของวิชา ผมว่ามันมีแต่เรื่องที่เป็นอะไรที่หนักหน่วงและปนความเป็นลูกผู้ชายลงไปมาก เวลาทุกอย่างมันกดดันก็เลยอาจจะต้องหาวิธีระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา และอีกอย่างก็คือมุมของที่ถูกปลูกฝังกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นที่รู้กันว่าเด็กช่างไม่ตีเด็กมหาลัย ไม่ตีเด็กพานิชย์ เพราะว่าเสียเชิงช่าง อันนี้เป็นเรื่องจริง

ก็เลยต้องเลือกตีกับคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ ซึ่งก็ไม่พ้นคู่เอกอย่างช่างกลปทุมวันและอุเทนถวาย ไปถามเถอะครับ พวกเด็กช่างทุกคนที่จบแล้วทำงานได้ดิบได้ดี ทุกคนจะบอกกันเป็นคำเดียวว่าเป็นบุญที่ตอนนั้นรอดมาได้ ถ้าเค้าย้อนได้เค้าไม่กลับไปตีกันหรอกครับ วุฒิภาวะมันมักจะมาตามอายุที่เพิ่มคิด ความรู้ผิดรู้ชอบ

ถ้ารัฐบาลจะแก้ไข ผมว่าเรื่องเด็กช่างกลตีกันเป็นอะไรที่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมด และเป็นการนับหนึ่งที่อาจจะไม่ได้ผลเลยก็ได้ หมดเวลาที่จะมาปลอบใจและหลอกกันเองว่าเข้าใจเด็ก จริงๆภาครัฐและเอกชนต้องพยายามลงไปศึกษาถึงรากเหง้าของปัญหาก่อนครับ การจะมายุบโรงเรียนหรือให้ใส่เครื่องแบบเดียวกันก็ไม่ใช่การแก้ที่ต้นเหตุ

เด็กช่างกลผมยังเห็นใจ ดีเอ็นเอนั้นถูกฝังมาเหมือนไก่ชนเหมือนปลากัด ที่เจอกันไม่ได้ต้องตีกัน อันนี้เกิดจากฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านและการอยากแสดงออกถึงพละกำลัง ซึ่งอันนี้ผมเข้าใจได้ดี เพราะมันตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อนอะไร หมั่นไส้ กวนตีน ล่อกันตรงๆ ฟันกบาลกันตรงๆ ยิงกันตรงๆ

ต่างจากไอ้เด็กเปรตที่มันถูกเพาะพันธุ์ให้เป็นเอเลี่ยนแล้วมาแฝงอยู่ในสถาบันอันทรงเกียรติ จะเอาอะไรมันก็ไม่บอกตรงๆ จะแก้ไขอะไรก็ไม่กล้าพูดตรงๆ อยากเอาอะไรไม่เอาอะไรมันก็กำกวมต่อรองเหมือนพนันบอล แล้วก็พูดคำโกหกคำ กลัวคนลอบทำร้าย กลัวจนต้องแจ้งความ ผมไม่ได้ติดและข้องใจประเด็นเรื่องเด็กจะเอาสถาบันหรือไม่เอาสถาบัน แต่ผมชิงชังเด็กที่มันไม่พูดความจริง มันพูดโกหก มันโกหกเพื่อน โกหกคนอื่นๆ โกหกสังคม บิดเบือนต่างๆ

รับรองว่าผมไม่ใช่พวกแก่จนไม่เข้าใจอะไรกับโลกยุคใหม่ หรือเป็นพวกอนุรักษ์หรือขวาจัด แต่จะบอกว่าผมทันสมัยมากจนรู้เท่าทันเด็กชั่วตัวนี้แน่ๆๆ เราไม่คุยเรื่องอยากถวายหรือไม่ถวายความเคารพ เอาเป็นว่าคุยกันว่าตกลงว่าไอ้นี่มาสร้างสรรค์อะไรให้กับประเทศชาติหรือคนอื่นๆในสังคม หรือเพียงอาศัยสถานการณ์พรางตัวเพื่อเตรียมก่อการใหญ่ พวกเด็กชั่วเหล่านี้อีกหน่อยก็ได้ดี เพราะลูกพี่หนุนหลัง มึงทำดีกูตบรางวัลใหญ่ให้ อีกหน่อยมันก็โกงชาติบ้านเมือง หนังชีวิตต้องดูยาวๆครับ.........

เด็กช่างกลอยู่ไหน ทำเรื่องดีๆคืนให้กับสังคมซักเรื่องเหอะครับ 555


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
"ประกาศหยุดเรียน 2-6 ส.ค. 60"