จับรวมให้กลายเป็นสถาบันเดียวกันเลยครับ
หมดปัญหายกพวกตีกันระหว่างสถาบันแน่นอน
แต่มันจะตีกันเองในสถาบันเดียวกันรึเปล่า นั่นค่อยว่ากันต่อไปครับ
...สมัยจอมพล ป นั่นเท่าที่ผมทราบ อันนั้นเก่าเกิน ยังไม่มีการตีกันของนักศึกษาครับ
แม้แต่ยุคช่วงปี 2500 ยุคจอมพลผ้าขะม้าแดง สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็ยังไม่มีนักศึกษาตีกัน แต่เป็นแค่ยุคพวกอันธพาลตีกัน พวกโก๋หลังวัง แดงไบเล่ ปุ๊ระเบิดขวดอะไรพวกนั้น
ยุคที่กฏหมายแรงมากคือยุค สฤษดิ์ครับ อย่างพวกวางเพลิงนี่ แกจับได้ลากตัวเข้าตรอกแถว ๆ นั้น สั่งยิงกันตรงนั้นเลย แล้วก็ประกาศวันรุ่งขึ้นว่า " ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว " ยุคนั้น โก๋ซ๋าส์ อันธพาลกวนเมือง ฯลฯ หัวหดหมดคับ บ้านเมืองเรียบร้อยมาก แต่ตอนนั้นผมก็ยังเป็นเด็กไม่ค่อยรู้เรื่อง ฟังจากผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง
การตีกันของนักศึกษาสองสถาบันนี้ น่าจะมีมาราว ๆ ประมาณ 20 กว่าปีมานี้เอง ( ถ้าผมจำผิดขอพัย แก่แระ อิอิ..)
ฟามจริง การตีกันของนักศึกษาสถาบันอาชีวะ ไม่ได้มีแค่สองสถาบันนี้เท่านั้นครับ สถาบันอื่น ๆ ก็มีบ้างประปราย แต่ไม่เป็นช่าวบ่อยครั้งนัก แต่สองแห่งนี้ขึ้นชื่อสุดฮะ
ตอนสมัยผมเรียนพาณิชย์ ก็เคยถูกเกณท์ไปรบกะช่างกลอยู่ครั้งสองครั้ง อาวุธสมัยผม ยังไม่รุนแรงขนาดใช้ปืนยิงกัน ยุคผม พวกอาชีวะใช้ไม่ที พวกพาณิชย์ใช้ลูกคิดคับ ฝ่ายอาชีวะค่อนข้างได้เปรียบเพราะไม้ทียาวกว่า มีด้ามจับถนัดมือ จึงใช้เคาะกบาลคู่ต่อสู้ได้ถนัด ฝ่ายผมเสียเปรียบง่ะ เพราะลูกคิดมันสั้นใช้ตีระยะประชิดไม่ถนัด ต่อมาผมเลยมีไอเดียแนะนำให้พรรคพวก ปรับปรุงความยาวของขนาดลูกคิดใหม่ ให้เป็น แบบ 13 แถวอย่างน้อย ดามขอบมุมด้วยแผ่นเหล็กเพื่อให้ขอบมุมแข็งแรงเวลาตีกบาลคู่ต่อสู้จะได้ มันส์ขึ้นอีกคับ
ยุคผมก็ไม่เอากันถึงตายเหมือนเด๋วนี้นะฮะ อย่างมากก็หัวร้างข้างแตก แล้วก็เลิกรากันไป ตีกันครั้งเดียว จบฮะ ไม่ค่อยมีภาคสอง ภาคสาม ตามเพื่อนมาช่วยอะไรไม่ค่อยมี
สุดท้ายผมเลิกรบกะอาชีวะเด็ดขาด เพราะอาจารย์คาดโทษไว้ ถ้ามีอีก ไล่ออกสถานเดียว ฟามจิงผมไม่ค่อยกัว 'จารย์ เท่าไหร่หรอก แต่กัว ป๋ากะม้าที่บ้านมากก่า แห่ะ ๆ