Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

มินิรีวิว Beyerdynamic : DT 990 PRO

JuneyJa

30/07/2017 18:12:34
733



มินิรีวิว :
Beyerdynamic : DT 990 PRO

บ่ายวันจันทร์ที่ฝนรินๆ ผมได้มีนัดไปรับสินค้าของ clef ตัวนึงที่ร้านเครืองเสียงร้านใหญ่ร้านนึงในจังหวัดอุบล เลยมีโอกาสได้คุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านก็พอทราบอยู่แล้วว่าผมชอบฟังเพลงจากหูฟัง ก่อนจะกลับเจ้าของร้านก็ได้ยื่นหูฟังกับแอมป์ชุดนึงมาให้ แล้วบอกพี่หมีเอาไปลองฟังดูครับ เป็นหูฟังและแอมป์สาย studio ซึ่งผมไม่ค่อยได้ฟังแนวนี้ นั้นคือ Beyerdynamic dt990pro และแอมป์ Rupert Neve Designs (เสร็จหมี

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 1

JuneyJa

30/07/2017 18:14:23
733



ขอเริ่มเล่าถึงแอมป์นิดนึงครับ แอมป์ RNHP นี้เป็นแอมป์ขนาดไม่ใหญ่นัก แต่กำลังขับดีมาก ต่อกับหูฟัง beyer dt990pro ที่มีโอมห์สูงถึง 250ohm บิด volume สีแดงๆไปที่เที่ยงวันก็ดังลั่นแล้วครับ รับ input ได้3แบบคือ A.balance xlr, B.rca และ C.แจ๊ค3.5 ซึ่งถือว่าครบครัน วีธีเลือก input ก็ง่ายๆครับ กดปุ่ม A, B หรือ C หน้าเครื่องก็จะมีไฟติดขึ้นมาก็ใช้ได้เลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 2

JuneyJa

30/07/2017 18:16:25
733



มาต่อกันที่หูฟังเลยครับ เจ้า Beyerdynamic dt990pro เป็นหูฟัง fz แบบ open ตัว pad เป็นฟองน้ำหุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่ การสวมใส่สบายมากๆครับ หูฟังน้ำหนักเบามาก สายหูฟังทำแบบขดๆป้องกันการกระชาก เป็นแจ๊ค 3.5 แต่มีตัวแปลงเป็นแจ็ค 6.3 หมุนใส่เข้าไปแข็งแรงดีมากครับ แต่สายแบบขดๆนี้แอบหนักไปหน่อยครับ การสวมใส่รวมๆผมถือว่าดีมากครับ นุ่ม เบาสบาย

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 3

JuneyJa

30/07/2017 18:17:01
733



มาต่อด้วยเรื่องเสียงเลย หูฟัง dt990pro ที่ผมอยากเอามาเล่าเพราะผมแปลกใจกับเสียงมากเลย เนื่องจากเป็นหูฟังแบบ open ปกติจะเสียงใส กว้าง รายละเอียดดี เบสจะน้อย แต่เจ้า dt990pro นี้เสียงเบสเด่นมาเลย เป็นเสียงเบสที่นุ่มๆ แอมแพ็คแรงดี ฟังตุบๆ ตับๆดีเลยครับ ส่วนสเตทก็กว้างตามแบบหูฟัง open รายละเอียดดี ชิ้นดนตรีไม่ทับกัน เสียงร้องจะถอยไปนิดนึง ย่านกลางแหลมไม่เด่น ทำให้ฟังได้เรื่อยๆสบายๆไม่ล้า

ส่วนตัวผมว่าหูฟังนี้ เสียงดีมากๆเลยครับ แต่หูฟังนี้มีความต้านทานสูงถึง 250ohm จะขับยากนิดนึง ต้องใช้แอมป์นะครับ แล้วหูฟังที่เจ้าของร้านว่าเป็นสาย studio นี้ผมว่าไม่เหมาะกับ monitor นะครับ ผมว่าเหมาะกับเอามาฟังเพลงทั่วๆไปซะมากกว่า ในราคาต่ำกว่าหมื่นนี้ อยากให้เพือนๆพี่ๆได้ลองกัน ผมว่าต้องโดนกันแน่ๆหละ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 4

Artnoi

31/07/2017 01:59:21
425
รายงานตัวครับผมผมก็ dt990 250ohm ครับ เดี๋ยวช่วยออกความเห็นส่วนตัวนะครับ
ใช้งานกับ xduoo x3 + fiio a5 ที่ low gain ก็เสียงดีฟังได้นะครับ แต่ค่อนข้างขี้ฟ้องเลยละ หูไวต่อเสียงสูง พวกเพลงที่ compress มาเยอะๆดังๆนี่จะแสบบ้างครับ

Presentation
ตัวนี้โดยรวมให้เสียงที่ไม่ค่อยปรุงแต่งมากครับ ออกแนว v-shaped คือ เสียงย่านต่ำกับสูง มันจะดังกว่าเสียงกลาง ทำให้เสียงกลาง/ร้อง ถอยหลังนิดนึง แต่จะให้ความรู้สึกในเรื่องของซาวน์สเตจกับมิติดีขึ้น และไม่รู้สึกรุกเร้า (engaging) เกินไป ทั้งที่มันออกไบรท์ๆหน่อยครับ สเตจกว้างมาก ดีเทลดีเยี่ยม แยกชิ้นดนตรีกับวางตำแหน่งค่อนข้างเป้ะตามสไตล์มอนิเตอร์ ผมว่าดีกว่า MS Pro อีก ใครที่คิดว่าตัวนี้จะเป็นเหมือนมอนิเตอร์อย่าง ATH M50X ที่โยนเอาทุกอย่างมาใส่หน้าเรา เหมือนนักร้องมาร้องจ่อหน้า รุกเร้าสุดๆ บอกเลยว่าตัวนี้ไม่ใช่ครับ

เบส
เบสเป็นเบสที่ลงได้ลึก (มาก) แต่ mid bass มันถูกบูสต์ในช่วง 60-100Hz ขึ้นไป 6-7dB ทำให้จะบวมไปบัง sub bass ครับ จริงๆเจ้าตัวนี้ให้เบสที่ครบมากเลยนะ ติดแค่มันบวมมาตรงกลางๆเบส ทำให้บางทีไม่ได้ยิน sub bass ถ้าไม่เพ่ง ยิ่งในแทร็คที่เครื่องดนตรีเยอะๆ จะสัมผัสได้แต่ไม่ได้ยิน sub bass ครับ

เสียงกลาง
เสียงกลางจะแฟลต เสียงร้องสำหรับคนไม่ฟังมอนิเตอรฺ์จะบอกว่าบาง แต่จริงๆคือมันเที่ยงตรงครับ เสียงกลางจะถอยหลังนิดนึง และไม่เด่นเท่าเบสกับเสียงสูงครับ เจ้า 990 นี่เสียงกลางถอยที่สุดในซีรีส์ 770/880/990

เสียงสูง
ส่วนเสียงสูงในช่วง 8-10kHz จะมีบูสต์ขึ้นไป 5-6dB ทำให้โดยรวมเป็นหูฟังที่ฟังสนุกมากครับ แต่ก็ทำให้แสบหูได้บ้างในแทร็คที่บันทึก/มาสเตอร์มาไม่ดีได้เช่นกัน

เทียบกับพี่น้อง beyer
ในซีรีส์ 770/880/990 นั้น เจ้า 880 (semi-open)ถือว่าอยู่ตรงกลางและเที่ยงตรงที่สุดครับ แปลว่าเบสแหละแหลมจะน้อยกว่า 770, 990 ซึ่งทั้ง 2 ตัวจะ V-shaped ครับ และ 880 เคยเป็นหนึ่งใน 3 เทปหูฟังในยุค 2000 ครับ (K701, DT880, HD650)

หลายๆแหล่งอ้างว่า 990 คือ 880 ที่เอามาทำให้เป็นแบบเปิด และปรับไดรเวอร์จากทำมุมเอียงกับหูของ 880 มาเป็นขนานกับหู ทำให้เบสบวมขึ้น แหละแหลมสดขึ้น เพราะการ attenuation ลดลงครับ และด้วยความ open ของ 990 ทำมให้ซาวน์สเตจ 990 จะกว้างกว่า 990 และดีเทลมันเท่าๆกัน แต่ 990 มีการบูสต์ย่านแหลม ทำให้รู้สึกว่ารายละเอียดดีกว่าครับ โดยทาง bveyer ชี้แจงว่า 770 (closed) เป็น tracking headphones (ฟังตอนเล่น/ร้อง เลยจำเป็นต้องมีเบสและแหลมดังหน่อยเพื่อตามจังหวะระหว่างร้องได้), 880 เป็น mixing (reference monitors ต้องเที่ยงตรง เพื่อมิกซ์เสียง), และ 990 เป็นหูฟังสำหรับ critical listening หรือหูฟังจับผิด (เหมือนเจ้า Sony MDR7506 นั่นเองครับ) โดยจะมีเสียงสูงที่แหลมขึ้นมา เพื่อบ่งบอกข้อผิดพลาดในการบันทึก/mix อีกทีนึง คนที่ฟัง 880 แล้วมาฟัง 990 จะบอกว่า 770/990 มับเบสบวมแหละแสบหูกว่าครับ โดยเฉพาะ 990

770/880/990 ปกติจะมีให้เลือก 4 รุ่น ไม่นับ edition/PRO คือรุ่น 32 80 250 600Ohm โดยเซียนๆจะบอกว่า 600 เสียงดีสุด เพราะการที่มันต้านทานเยอะๆหมายความว่า
1. ลวด voice coil มันเล็กกว่า ทำให้มวล(น้ำหนัก)เบากว่า จึงขยับและ 'หยุด' ได้ง่ายกว่า ลดค่าความเพี้ยนที่เกิดจากการกระพือ และเมื่อ voice coil มันเล็กกว่า มันก็แนบกันได้ชิดและดีกว่า อากาศเข้าไปแทรกได้น้อยกว่า
2. เพิ่ม damping factor ตามหลัก "the 1/8th rule" หูฟังควรมีความต้านทานสูงกว่า output impedance ของ source เช่นแอมป์/เพลเยอร์ ขั้นต่ำ 8 เท่า เพื่อให้ไฟฟ้าวิ่งไปควบคุมไดรเวอร์ได้ดีมากขึ้น ส่งผลให้ไดรเวอร์ 'เริ่ม' และ 'หยุด' การเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ลดความเพี้ยน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พึงปราถนาของการมิกซ์เสียง และการที่มี headphone impedance สูงๆ จะทำให้ใช้งานกับอุปกรณ์ที่มี output impedance สูงๆ เช่นเครื่องเล่น CD ได้ดีขึ้นครับ ทำให้บางคนคิดว่าหูฟังโอห์มเยอะๆยิ่งดี
อ่านเพิ่มได้จากบล็อกของ NwAaGuy ผู้ออกแบบแอมป์ Objective2 (O2) ครับ http://nwavguy.blogspot.com/2011/02/headphone-amp-impedance.html

แต่สาเหตุที่ผมเลือก 250Ohm เพราะความสะดวกมากกว่าครับ และซอร์สผมส่วนใหญ่มี output impedance ที่ 0.2-0.3Ohm อยู่แล้ว จึงไม่ต้องแคร์ damping factor มากครับ ตอนนี้ผมกำลังเก็บเงินซื้อ DT880 250Ohm เพราะลองแล้วชอบมากก คนละอารมณ์ครับ ตัว 990 ฟังสนุกกว่าเยอะ แต่ 880 จริงจังกว่า และชุดปกติของผม Xduoo X3 ใช้ Cirrus ให้เสียงสะอาดเที่ยงตรง บวกกับ A5 ที่ให้เสียงสะอาดเช่นกัน ทำให้ 990 มันแสดงความชัดเจนออกมาเต็มที่ ผมเลยสั่งซื้อ Fiio E17K ใช้ชิป PCM5102 มาทำหน้าที่ DAC แทน เพื่อช่วยให้จัดจ้านน้อยลง (มาใช้ต่อคั่นกลางระหว่าง Hidizs AP60 กับ A5 อีกที เพราะ Xduoo X3 ผมไม่มี digital out ครับมีแต่ line out) หวังว่ามันจะแสบน้อยลงนิดนึง นี่คงจะเป็นอีกเหตุผลว่าทำไม Head-Fi ชอบยั่วให้คนซื้อแอมป์หลอด มาใช้กับ DT990 ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 1
แจกหู 5
ความคิดเห็นที่ : 5

butnotforme

31/07/2017 11:24:19
333
คุณ Artnoi ครับ วันหลังมา review หูบ่อยๆนะครับ แบบนี้แหล่ะดี
@June ขอบคุณมาก ที่ช่วยมาแนะนำหูฟังเสียงดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

JuneyJa

31/07/2017 16:05:38
733
สุดยอดครับพี่ Artnoi อธิบายละเอียดมากๆเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Artnoi

31/07/2017 19:40:34
425
ขอบคุณครับ ผมแค่จับแพะชนแกะน่ะครับ
เรื่อง impedance มีอีกเรื่องคือ พวกมืออาชีพจะนิยมโอห์มเยอะเพราะ
1. ต้านทานเยอะ=กระแส(A) น้อย กิน 'กระแส' น้อย (แต่กินแรงดัน (V) เยอะ) ทำให้แอมป์ไม่เครียด (stress) เวลาเสียบหูฟังหลายๆอันเข้าอุปกรณ์ ละอุปกรณ์พวกนี้มันแพง(มาก)
2. ต้านทานเยอะ=damping factor สูง ละอุปกรณ์ของพวกโปร มักจะมี output impedance สูงกว่าของเล่นออดิโอไฟล์อย่างเรา เพราะฉะนั้นการที่ headphone impedance เยอะย่อมดีกว่า เพื่อชดเชย output imp ที่สูงกว่า

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม หูฟัง multi BA ที่โอห์มต่ำๆ ถึงมักจะแสดงความถี่ย่านต่างๆเพี้ยนไปแบบรู้สึกได้ เมื่อใช้กับต้นทางที่มีความต้านทานสูงกว่า 1/8 ของมันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
"มินิรีวิว Beyerdynamic : DT 990 PRO"