ความคิดอ่านลึกซึ้งครับ
เกินสติปัญญาผมไปแล้ว  
นึกถึงผู้อาวุโสอย่างน้าชา รอท่านมาให้ความกระจ่าง

เบิร์นเพื่อให้สัญญาณเสียงวิ่งผ่านคือว่าเพื่อให้อิเล็กตรอนเรียงตัวไปในทิศทางเดียวกันครับ เสียงไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทเปะทุกอย่าง 

555 ไม่รู้จะตอบยังไงเลยคับ

แต่คำถามน่ารักมากคับ :D

อ่านจบ นึกในใจว่า
" เออหว่ะ " จิงของเขา

คำถามแบบนี้แสดงว่า ผบ. ของคุณ InLimbo คงจะมีความรู้ทางด้านเครื่องเสียงอยู่ไม่น้อยนะครับ 555

และมันก็น่าจะจริงตามที่คุณ ผบ. กล่าวมาคือถ้าไม่ใช้สัญญาณ mono แล้วซ้ายกับขวามันจะออกทำงานเท่ากันได้อย่างไร

แต่ในความเป็นจริงของการใช้งานแล้ว เพลงทั่วไปสมัยนี้คงไม่มีใครทำเป็นแบบโมโนออกมาให้ฟังกันแล้ว นอกจากจะเป็นพวกการบันทึกเสียงเฉพาะทางเท่านั้น ดังนั้นการเบริน์หูฟังหรือลำโพงจึงไม่จำเป็นถึงขนาดต้องเบริน์ด้วยสัญญาณโมโนครับ

มันก็เหมือนกับการเบริน์เครื่องยนต์รถหรือมอไซด์เพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆมันเข้าที่เข้าทางเคลื่อนตัวได้ลื้นไหลมากที่สุดเท่านั้นเอง


ส่วนในคห.2 ของคุณ pussy ก็มีส่วนอยู่ด้วยเหมือนกันเพราะชิ้นส่วน voice coil ก็ประกอบไปด้วยเส้นใยทองแดงเป็นขดๆที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นสนามแม่เหล็กและเกิดปฎิกิริยากับแม่เหล็กทำให้ชิ้นส่วนอื่นๆขยับตัวและเกิดเสียงออกมาให้ได้ยินครับ

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ ตอนนี้ผมเสริมไปด้วยว่า ช่างมันเถอะเพราะยังไงเวลาฟัง เสียงมันก็ไม่กลับข้างอยู่แล้ว มันคงจะทำหน้าที่ได้ดีในข้างนั้นๆอยู่แล้ว

สมองซีกซ้ายและขวาเรา มีประสาทสัมผัสรับรู้ต่างกัน
ธรรมชาติสร้างเรามาให้ เป็นแบบนั้น เพื่อให่คนเรารับ
เสียงที่ต่างความถี่ ที่ต่างกัน 

หูฟังจึงถูกจำลอง เสียงให้ ให้ เสียงที่ต่างกัน ต่างคลื่นความถี่
เรียกว่าระบบ Stereo
ถ้าเป็นแบบMOno เราจะเกิดความเบื่อหน่า
เพราะทุกอย่างมาในระนาบเดียวกัน

อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เราจึงใช้ระบบ Stereo ในการฟัง
และเบิร์นกัน

เพื่อให้หูฟังได้รับความต่างคลื่นจนคุ้นชิน
เพราะโน๊ตเพลงแต่ละเพลง ไม่ได้มีแค่โน๊ตเดียว คีย์เดียว

สรุปง่ายๆ พา ผบ. เข้าห้องมืด เบิร์นให้เสร็จ
ถามเมื่อไหร่ เบิร์นเมื่อนั้น เดี๋ยวก็เลิกสงสัยไปเอง

ญ. คิดคนแบบกับ ช. จริงๆ เป็นคำถามที่ดีจริงๆ ผมก็ไม่เคยนึกถึงเหมือนกัน55555 น่าคิดๆ มีเหตุผล

จนคำตอบเลยครับ รอท่านต่อไปครับ

ท่าน ผบ.ของคุณมีตรรกะอันสูงส่งมากครับมันควรจะเป็นแบบนั้น briver ทั้งสองข้างจะใด้ทำงานได้เท่ากันพูดงายๆคือ burn ทั้งสองข้างให้ทำงานเท่าๆกัน และเมื่อ briver สองข้างถูกใช้งานเท่ากันจนเข้าที่คือการยืดหยุ่นของ ไดอาแฟม มันก็จะความเป็น Stereo สมบูรณ์แบบขึ้นนั่นหมายถึงเสียงที่ดีขึ้นด้วยในแง่ของมิติตำเหน่งขออดนตรี มีคนพูดว่ายังไงหูคนเราสองข้างการใด้ยินไม่เท่าอันนั้นมันถูกชดเชยตอนทำมาสเตอร์อยู่แล้วตามหลักวิชาเกี่ยวกับการได้ยิน burn mono ไปจนฟังจาก mono แล้วได้ระยะหน้าหลังไม่แบนเป็นกระดานแต่ละหูใข้เวลาไม่เท่ากัน ถือว่าผ่านแล้วก็เอากลับไปฟัง Stereo ปรกติอาจฟังแล้วบอกไม่ได้ว่าแตกต่างแต่สักอาทิตย์เสียงที่ไม่ต่าแต่ทำให้รู้สึกได้ครับ จากแวบแรกที่คิดเหมือนท่าน ผบ.และได้ลอง ขั้นตอนจะ burn Stereoก่อนแล้วmonoอะไรก่อนก็ได้หรือใช้มาแล้วเป็นปีก็ลองทำmonoได้เช่นกัน อันนี้ประสพการส่วนตัวนะครับ บางครั้งยังไม่แน่ใจว่ามะโนไปเองหรือเปล่าแต่ม้นก็เป็นมะโนที่ไพเราะและสวยงามสำหรับผม :))

อีกนิดครับตามความเชื่อของผมเอง ถึงแม้หูสองข้างจะได้ยินไม่เท่ากันแต่ตัวสร้างเสียง Stereo ที่ดีต้องให้เสียงเท่ากันครับ

จริงๆถ้าคิดตามนั้นก็จริงครับ

อย่างใบหูคนเรา หากโดนดึงทุกๆๆวันด้วยน้ำหนักมือที่ไม่เท่ากันทุกวั๊นทุกวัน ผมว่าใบหูน่าจะยานไม่เท่ากันเหมือนกัน 555

เดี๋ยวช่วงวันหยุดยาวอาทิตย์นี้ จะลอง mono ก่อนครับ เอาหูราคาถูกๆใหม่ 2 ตัว
ขอหา playlist ก่อนครับ 

นึกว่า ผบ จะถามว่า burn แต่หูอยู่นั่นแหละ....