Housing สวยที่สุดเลยครับ ยังกะทำ custom

จะรออ่านเน้อ

ปูเสื่อค๊าบบ

มาไวๆนะครับ 555 อย่างกะเวบน้ำเงิน

เมื่อคืนสลบไป ยังงัยรอคืนนี้นะครับ เบิร์นเยอะขึ้นเสียงเริ่มชัดขึ้นครับ

กางเต๊นท์รอครับ

Lola หูฟัง Hybrid iem ตัวแรกของค่าย JH audio

ตัวนี้ทางเจอรี่ได้โปรโมทถึงเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างออกจากตัวอื่นๆในค่าย นอกจากนั้นโดยปกติหูฟังไฮบริดจะเอาไดนามิคมาคุมเสียงต่ำและโทนเบส เพื่อหวังให้เบสมีมวลปะทะมากขึ้น แล้วใช้บาลานซ์คุมโทนอื่นหวังเก็บรายละเอียด แต่คุณท่านเอาไดนามิคมาคุมย่านกลาง ซะงั้น !! 

นอกจากนั้นยังใช้ไดนามิคถึงสองอันต่อข้างตัวละ 4.9 mm หันหน้าเข้าหากัน (D.O.M.E technology) แล้วส่งเสียงออกมาตามท่อนำเสียงย่านกลางของตัวเอง เพื่อให้ได้เสียงกลางที่เป็นธรรมชาติและมีมิติ (เรื่องเบสค่ายนี้คงไม่กลัวมากเพราะเดิมทำได้แน่นดีอยู่แล้ว)

สรุปเสป็คคร่าวๆ คือ ย่านสูงมากใช้ BA 2 ตัว ย่านสูงใช้ BA 2 ตัว ส่งเสียงออกมาท่อนึง ย่านกลางใช้ไดนามิค 4.9 mm หันหน้าเข้าหากัน ส่งเสียงมาอีกท่อนึง ย่านต่ำใช้ BA อีกสอง ส่งเสียงมาอีกท่อนึง รวมมีท่อเสียงสามท่อ สูงกลางต่ำ

ลองจินตนาการเล่นๆก่อนของมาถึงมือ เบสมวลปะทะชัดๆหนักๆแน่นๆเดิมๆแบบของ JH ที่ถูกใจแฟนๆของค่ายอยู่อยู่แล้ว เสียงสูงก็ใสละเอียดครบถ้วนตามสไตล์ JH และได้เสียงกลางที่เป็นธรรมชาติจากไดนามิกสองตัว !!!!! ไม่อยากจะคิดแม่เจ้าถ้าทำได้ตามนี้มันต้องฟินมาก ฮ่าๆๆ

อันนี้คือภาพจากในเว็บ JH ที่อธิบายถึงเสป็คคร่าวๆ และเรื่อง D.O.M.E. technology ครับ

เดิมผมใช้ AK320 จับคู่กับแอมป์ FiioA5 เป็นบางครั้งถ้าอยากฟังเอามันส์ ส่วนหูฟังที่ใช้ประจำก็จะเป็น 
1 Cosmic ears CE4P กับสาย ARES2
2 Oriveti primacy กับสายเงินอัพเกรด
3 Bose sound link onEar 2 มั้ง

เวลาออกกำลังกายจะใช้ Bose soundsport wireless pulse (อะไรสักอย่าง) อีกตัวนึงไว้ฟังมันส์ๆเวลาวิ่ง

บางอารมณ์ก็ต่อกับแอมป์หลอดตั้วโต๊ะเล็กๆ แล้วค่อยเข้าหู บางทีก็ต่อลำโพง Iriver LS150 แล้วแต่อารมณ์

ช่วงหลังๆเวลาใส่หูแล้วมีคนโทรเข้า เวลาเล่น Tidal แล้วขี้เกียจถอดก็ไปซื้อ AK XT10 มาต่อไว้เพื่อจะเอาไมค์

ไฟล์เพลงที่ชอบก็มีครบ ทั้ง DSD 24bit 16bit เพลงก็ฟังทุกแนวจริงๆ Linking park, Elia Fitzgerald, Norah Jones, The Beatles , John Lennon , The Eagles, บลาๆๆๆ สรุปคือฟังหมดยกเว้นเฮวี่หนักๆ เพลงใหม่ๆก็เล่นทั้ง Tidal(สากล) กับ JOOX(ไทย)
 
ที่เล่าๆบ่นๆนี่คืออยากจะอธิบายถึงแนวไลฟ์สไตล์ว่าเป็นยูเซอร์ที่ชอบฟังเพลงทุกแนวแล้วแต่อารมณ์ และชอบปรับใช้เทคโนโลยีให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เรา อะไรทำนองนี้ ไม่ได้ไฮเอนด์มาก แต่ก็ชอบฟังเสียงละเอียดๆ มาครบๆ

ปัญหาคือ ใข้คัสค้อมแล้วไม่ค่อยชอบ เลยอยากได้ UIEM สักตัว

ลองมาเยอะมาก Michele, Angie, Roxxane ,Layla ,Witchgirl 12 ,อะไรอีกไม่รู้มากมายที่น้องๆเอาให้ลอง ปรากฏว่าหาที่ถูกใจไม่ได้ ชอบเบสอันนึง ชอบเสียงกลางอันนึง ชอบเสัยงร้องอันนึง เลือกไม่ได้  ได้ข่าวว่าจะมีโลล่า เลยรอจนเกิดเหตุดังที่เห็น .... ของมาฟัง15 นาทีรู้เรื่อง ...

ภาพกล่องด้านหน้า

กล่องด้านหลัง

กล่องด้านข้าง

กล่องอีกข้างนึง

เปิดกล่องเจ้าไปก็จะมีเจ้า โลล่า วางโดดเด่นอยู่ฝาบน พร้อมสายสต๊อกมาด้วยหนึ่งเส้น ขั้ว 3.5 stereo ปกติ และกล่องใส่อุปกรณ์ต่างๆ

ชอบตรงที่มีรายชื่อว่ามีศิลปินคนไหนเคยใช้แบรนด์เค้าบ้าง

ดูแกรนด์มากเวลาได้ใช้ของแบรนด์เดียวกับศิลปินเหล่านี้ จิตวิทยาและการตลาดล้วนๆ ฮ่าๆ

ข้างในมีคู่มือสั้นๆหนึ่งเล่ม แท่งทำความสะอาด ไขควงปรับเบส จุกซิลิโคนสามชิ้น จุกโฟมสามชิ้น SML ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นน่าจะใช้รุ่น T500 ได้ (อันนี้น้องมาร์ชบอก)

จุกหูอุปกรณ์คืออันนี้นะครับ

รูปบนคือสายสต๊อก เห็นว่าพัฒนาร่วมกับแบรนด์ Moon Audio

สำหรับเคส มันช่างแน่นหนามาก มีแม่เหล็ก แข็งแรง ทนทาน เวลาแฟนโกรธนี้เอาปาหัวรับรองว่ามีหัวแตก แนะนำให้เอาไว้ไกลจากมือสตรี ยิ่งถ้าบอกราคาของนี่ต้องระวังนะครับ หลบดีๆ มันแน่นมาก

สรุปเรื่องเคส เป็นอีกหนึ่งความประทับใจนะครับ ดูพรีเมี่ยมดี

เรื่องการสวมใส่นั้น ด้วยความที่ตัว Tube ขนาดคล้ายๆกับเจ้ามิเชล เล็กกว่ารุ่นอื่นเวลาใส่จะรู้สึกสบายกว่า น้ำหนักที่เบาเนื่องจากวัสดุไม่เหมิอนกับ Siren series ก็จะได้ความเบากระชับมากกว่า เมื่อวานผมใส่ฟังเพลงไปประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่รู้สึกล้าหรือปวดแต่อย่างใด แต่ใส่นอนไม่ได้นะครับ เบสแน่นจนไม่อยากนอน แฮ่

ใส่ไปทำงาน นั่งวินมอเตอร์ไซค์ขับปาดหน้าหลังก็ไม่หลุด ถ้าใส่แน่นๆเลือกจุกพอดีหู ก็พอมีเสียงลมเข้าบ้างแต่น้อย (ไม่เงียบเท่าคัสค้อม) แต่โดยรวมก็มีอรรถรสในการฟังเพลงขณะนั่งวินได้ครับ ฟินนนนน

ไม่แนะนำให้ใส่เดินถนนนะครับ บางทีมันไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเท่าไหร่ (ถึงไม่เงียบขนาดคัสต้อม แต่ก็แทบไม่ได้ยินเสียงอื่นๆ) มีอยู่วันนึงเกือบเดินโดนปิคอัพชนแถวๆบ้าน

ส่วนถ้าใครกะจะเอามาใช้ออกกำลังกายนี่ ขอความกรุณาคิดใหม่ไปซื้อรุ่นสปอร์ตใส่ฟังเอามันส์พอนะครับ (ปล คงไม่มีใครอุตริอยากฟัง Hi fidelity มากๆตอนออกกำลังกายมั้ง)

โดยรวม รีวิวเรื่องการใส่
1) ใส่สบายกว่า sirens series
2) ความแน่นแล้วแต่จุกที่ใช้ แต่โดยการออกแบบตัวนี้สบายกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะคนรูหูเล็กๆแบบผม ปล จุกผมใส่ s ทุกยี่ห้อ
3) ไม่หลุด
4) Witch girl, Campfire ออกแบบมาให้ใส่สบายกว่าโลล่านิดหน่อย
5) Shure SE846 หรือแม้กระทั่ง Oriveti เองก็ใส่สบายกว่าโลล่า
6) รู้สึกแน่นกว่า Noble Kaiser 10

เรื่องการใส่นั้นแนะนำให้ไปลองเอาครับ ที่พารากอนกับเรือธง

มาถึงเรื่องสำคัญ เสียง

ผมปรับเบสเกือบสุด ด้วยความที่ฝักใฝ่ในเบสของ JH อยู่แล้ว แห่ะๆ

ใช้สายสต๊อกนะครับ

แรกฟัง ... ยังไม่ได้เบิร์น

เสียงกลางมาดีมาก มีมิติ มีความเป็นธรรมชาติ เสัยงกีตาร์เสียงเปียโนเสียงร้อง รุ้สึกเป็นธรรมชาติมากๆ มิติเครื่องดนตรีดีมาก แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าเบสยังมาไม่ค่อยเท่าไหร่ รายละเอียดแยกชิ้นดนตรีได้ดี แต่ยังมีความขัดๆหูนิดหน่อย  เลยตั้งใจยังไม่ฟังมันมาก และยังไม่รีบรีวิวอะไร รอเบิร์นก่อน ....

แต่ที่แน่ๆ ผบ ที่บ้านได้ลองนั่งฟัง (หลังจากที่โดนด่าและภาคทัณฑ์ไปแล้ว ) ในรูปคือไปนั่งจิบกาแฟร้านนึง ชงโดยหมอผ่าสมองที่หล่อและเก่งในระดับเป็นแนวหน้าของประเทศไทย (จะเกี่ยวไหม) ร้านตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินซอย 11 ตรงข้ามทางเข้าถนนประดิพัทธ์ซอย 12 ชื่อร้าน Doctor Roaster Coffee Clinic เลือกซื้อกาแฟเอง นำเข้าเอง คั่วเอง บดเอง ชงเอง แต่งร้านเอง เล่นดนตรีเอง โดยคุณหมอผ่าสมอง (อาจารย์ผมเอง) ..... รสชาติสุดจะพรีเมี่ยม ว่างๆเชิญพี่ๆน้องๆ ไปแวะทานกาแฟที่ร้านนะครับ (นั่นรวดโฆษณาแฝงซะ) ผมรู้ว่าโฆษณาได้เฮียไม่ว่าหรอก ฮ่าๆๆ

ปล ด้วยความติสต์และกลัวจะรวยเกินไปของอาจารย์ผม ท่านขอเปิดแค่เสาร์อาทิตย์นะครับ

กลับเข้าเรื่องหูฟังครับ

หลังจากกลิ่นกาแฟอันหอมหวน กับภาพอาจารย์หมอสุดหล่อที่ยืนบดกาแฟอยู่ เธอก็บอกว่า เสียงดีมาก ฟังแล้วเพลินดี ดีนะที่ให้ลองฟังท่แรกจะเอาไปทิ้งขยะหน้าบ้าน ดูสิ่ !!!! ต้องขอบคุณอาจารย์นะครับที่ช่วยเบี่ยงประเด็นให้ผม อิอิ >>>>>> ปล ผบ บอกว่าอาจารย์แซ่บ เฮ้ย กาแฟแซ่บมาก เดี๋ยวมาบ่อยๆ


ตอนนี้เบิร์นไปได้ระยะนึงแล้ว เสียงเริ่มคงเส้นคงวาเริ่มน่าฟังขึ้น

เดี๋ยวข้อความต่อไป ผมจะสาธยายเรื่องคุณภาพเสียงเท่าที่ผมสัมผัสได้นะครับ ขอเขียนใส่กระดาษแล้วค่อยๆพิมพ์ให้อ่านกันคืนนี้นะครับ ผมจะรีวิวสั้นๆประมาณห้าเพลงฮิต เทียบกับหูฟังของตัวเอง กับหูฟังเดโม่และของคนอื่นๆที่แอบฟังมา (ทุกครั้งที่ลองหูฟังจะฟังเพลงเดิมเสมอครับ)

จะรอนะครับ เดี่ยวจะเอารวบรวมขึ้นด้วยนะคร้าบบ 55

เปลี่ยนใจครับพี่น้อง

ขออีกสองสามวันดีกว่าครับ อยากเบิร์นให้ครบๆอีกสักนิด รู้สึกได้ว่าเสียงมันดีขึ้นรายวันเลยหลังเบิร์นครับ

ป.ล. ตอนนี้เบิรนด้วย AK320 ทุกคืนเวลานอน กลางวันไม่ฟังก็เปิดทิ้งไว้

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ หูฟังสวยมาก แต่สวยกว่านั้นต้องที่แขวนหูฟังใน คห19 ครับ :p

รอฟังด้วยครับ เขียนรีวิวอ่านเพลินมากครับ :)

ที่แขวนหูฟังตัวท๊อป รุุุ่่นนี้ไม่มีขาย ครับ Limited Edition  ;P

รออ่านคะ จากที่เจอกันงานมีทติ้ง ak ปีที่ได้ก้าวกระโดดไวมากคะ เป็นกำลังใจรออ่านอยู่นะคะ ^^/

รอรวบรวมขึ้นอยู่นะครับ 555

หลังจากที่ได้เบิร์นมาประมาณห้าวัน เบิร์นด้วย AK320 ไฟล์ DSD พยายามเลือกเพลงทุกแนวมาเบิร์น ถ้าอยู่ที่ทำงานก็เปิดด้วย Tidal Hifi ทิ้งไว้ในตู้ เน้นเพลงที่ชอบ ก็แทบจะเปิดทั้งวันทั้งคืน

ผมจะเปรียบเทียบเฉพาะตัวที่ราคาสูสีกันเฉพาะกลุ่ม IEM และอาจเปรียบเทียบกับรุ่นพี่บางรุ่นนะครับ

ที่เขียนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ อาจไม่ประทับใจนักฟังหูทองทุกคน แต่หวังว่าใครที่ชอบแนวเดียวกันอาจใช้เป็นแนวในการเลือกหูฟังครับ

โดยบุคลิกผมเองที่ชอบหูฟังแนวตลาดนิดๆ ฟังเพลงสนุกๆ มิติชัดๆ บางทีก็ฟังเพลงเก่า ร๊อคคันทรี่ EDM pop R&B  แต่ก็ชอบหูฟังที่มีความ Sensitive ระดับดีมาก เพราะมีความชอบรายละเอียดของเสียง เช่น เสียงสายเบสที่สั่นอยู่ หรือสายหนังกระเดื่องกลองที่กำลังกระเพื่อม เสียงหายใจไม่ทันของนักร้อง ชอบฟังตำแหน่งของเครื่องดนตรี ง่ายๆคือมีความสุนทรีย์ปนจับผิดและโรคจิตนิดๆนั่นเอง แฮ่!!!

หลักๆขอเปรียบเทียบ Rox2 Layla2 16V2 กับสายสต๊อก ปรับเบสเกือบสุดนะครับ ช่วงนั้นจ้องจะสอยสามสี่ตัวนี้เลยไปเทสบ่อยหน่อย เจ้าภูกับมาร์ชเป็นพยานปากเอก ฮิฮิ

เพลงแรก Storm on the ocean - Amber Rubarth (DSD)

ฟังเพลงนี้ก็เป็นการทดสอบมิติของเครื่องดนตรีล้วนๆ
ได้ความรู้สึกของมิติที่ค่อนข้างกว้าง เหมือนเคริ่องดนตรีอยู่รอบตัว เสียงกลางออกสดใสและมีมิติเป็นธรรมชาติ งดงาม มิติอาจจะไม่ได้กว้างเป็นเอเคอร์เท่าเลย์ล่า (ขนาดนั้น) แต่ก็กว้างพอตัว ความเป็นธรรมชาติของชิ้นดนตรีจะดูเป็นธรรมชาติกว่า เลย์ล่า นิดหน่อย แต่ได้ความรู้สึกถึงหัวเสียงโน๊ตดนตรีที่มาช้ากว่ารุ่นพี่ แต่ก็ยังบอกอะไรมากไม่ได้เพราะเพลงนี้ไม่ได้เด่นเรื่องมวลเสียง

สรุปเรื่องมิติการวางชิ้นดนตรี ถือว่ามีมิติที่กว้างพอสมควร แบ่งแยกซ้ายขวาหน้าหลังได้สบายชัดเจน  และเป็นธรรมชาติฉีกจากรุ่นอื่นๆในค่าย ถึงแม้ลํกพี่เลย์ล่าจะกว้างกว่าเป็นเอเคอร์แต่ก็ไม่ให้ความเป็นธรรมชาติเท่ารุ่นน้องโลล่านี้ แต่ถ้าเทียบกับ Roxanne ซึ่ง Rox จะให้ความชัดเจนจะแจ้งของชิ้นดนตรีกว่า แต่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าใครชอบฟังเพลงเวทีแคบๆแทบจะนักร้องมาเลียหูหรือเสียงกลองอยู่ข้างลำตัว ก็จัด Rox ครับ

เพลงที่เด่นเสียงสูง เช่นเสียงฉาบ เสียงแหลม Billie Jeans , หรือนักร้องเสียงสูงๆ เช่น Celine Dion เป็นต้น

เรื่องเสียงสูงก็ต้องยอมรับตรงๆว่าพี่เลย์ล่าทำได้ดีกว่ามาก ไม่มีความฟุ้งแลกความแตกของเสียง เสียงแหลมมาครบชัดเจนไม่บาดหู ในส่วนของโลล่า ผมประเมิณว่าทำคุณภาพเสียงสูงได้พอๆกับ Rox เสียงมาครบ แต่หัวโน๊ตอาจจะฟุ้งเล็กน้อย ยิ่งถ้าลองเอาสายเงินเสียงฟุ้งๆจะมีค่อนข้างบ่อย แต่ก็ไม่ได้แหลมจนบาดหูอะไร แต่โดยความเป็นธรรมชาติและฟังสบาย รู้สึกว่าเสียงแหลมนั่นออกนุ่มกว่า Rox เล็กน้อย แต่พอฟังไปนานๆจะรู้สึกได้ว่าถ้าเจอเพลงแหลมๆก็อยากจะเปลี่ยนเพลงหนีมันเหมือนกัน

โดยสรุป เสียงสูงทางพี่เลย์ล่าชนะขาด แต่พอสูสีกับ Rox แต่ความอิ่มของนักร้องเสียงสูง คิดว่าโลล่าเอาอยู่ในระดับที่ดีมาก

เครื่องดนตรีและเสียงกลาง

โดยส่วนตัวผมชอบเสียงกลางอยู่แล้ว เจ้าโลล่านี้มีจุดขายที่ D.O.M.E tech ผมบอกสั้นๆว่าชนะเลิศในทุกหูฟังแนวมอนิเตอร์ที่ฟังมา ไม่ได้อวยนะครับ ผมซื้อเจ้านี่เพราะเสียงนี้จริงๆ เสียงกลางมีมิติที่ดีมาก เสียงเปียโน เสียงกีตาร์ รู้สึกเป็นธรรมชาติ อิ่ม กว้าง ซึ่งบอกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้ฉีกแนวไปยากรุ่นอื่นๆในค่าย รวมไปถึง IEM แบรนด์อื่นๆด้วย อันนี้อยากรู้มาลองเองครับ ฮิฮิ ตอนมาก็ระวังเผลอสอยกลับบ้านไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบผมนะครับ มันดีจริงๆ

สรุปเสียงกลาง "The Midrange Beauty" ชนะพี่เลย์ล่าสบายๆ

ย่านต่ำ

เป็นจุดเด่นของค่ายนี้อยู่แล้ว ซึ่งผมจะไม่พูดอะไรมาก การปรับเบสไม่กวนย่านอื่น แบบฉบับของเจอรี่เค้า ผมอาจจะเบิร์นไม่เสร็จ แต่แรงปะทะ กับความเร็ว จังหวะ จะมาน้อยและช้ากว่า Rox และ Layla นิดหน่อย

เป็นหูฟังที่มีความมอนิเตอร์ มีความละเอียดและเซนซิทีฟระดับแนวหน้า แต่สามารถทำเสียงกลางออกมาได้ไพเราะและฟังสนุกจับใจ เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงแนวบันเทิงปนจับผิดนิดๆ ฟังได้ทุกแนวจริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าอยากได้แนวเรียบๆเพลนๆหวังจะเอาไปแกะเพลง แนะนำไปจัด Rox หรือ 16V2 จะดีกว่า ยิ่งถ้าชอบเวทีแคบๆ แทบจะถูกนักร้องเลียหูผมแนะนำ Rox

เหมาะกับคนที่อยากมีหูฟังคู่นึงที่แทบจะทำได้ทุกอย่างฟังได้ทุกแนว "และจบ" แนะนำตัวนี้เลยไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าใครมีเลย์ล่าไว้ในครอบครองอาจจะต้องคิดดีๆเพราะมันมีจุดดีกับด้อยที่ต่างกันจริงๆ แต่รวมๆผมให้คะแนนพี่เลย์ล่าไว้สูงกว่านิดหน่อย แต่ผมชอบเสียงกลางของโลล่า เลยเลือกลงที่โลล่าครับ

ขอรีวิวไว้เท่านี้ก่อนนะครับท่านผู้ฟังทุกๆท่าน ขอบคุณเฮียที่ให้โอกาส ขอบคุณเพื่อนๆในเพจที่คอยอ่านและให้กำลังใจนะครับ สุดท้ายขอบคุณที่แขวนหูฟังใน คห19 เป็นกำลังใจให้กันมาตลอด ไปส่งผมไปเที่ยวงานมิตติังของเฮียแทบทุกงาน

ถ้าหลังจากนี้เบิร์นแล้วมีอะไรเพิ่มเติมจะโพสไว้เรื่อยๆครับ

ปล วันนั้นไปลองใส่สาย Freiya มา บอกเลยว่าอิ่มและเด็ดมากกกกก แนะนำให้ฟังแล้วสั่งคู่กันไปเลยนะครับ !!!!

Lola The Midrange Beauty

สวยจริงๆครับ และเบาสบายพอสมควรครับ

ขอบคุุณ ครับ เฮีย ขอรางวัลสัก สองล้าน พ้อย หรือสิทธ์ผ่อนบัตร 0% 10 ปี ครับ  แฮ่

555 จัดไป เดี๋ยวผมให้แพะติดต่อไปหานะคร้าบบบ จัดผ่อน 30 ปีแบบบ้านให้เลยดีกว่าครับ 555

รีวิว ดีมากครับ อ่านสนุกจริงๆ ที่สำคัญกล้าให้ ผบ ลองด้วย 

ก่อนลองบอกราคาจริงไป ..... เกือบไปอยู่ในถังขยะแล้วครับ แฮ่ๆ

รีวิวเขียนได้ดีมากๆ เลยครับ 

ตอนผมไปลองต่อกับ iphone แล้วเสียงจัดมากๆ เลยครับ ยิ่งกว่า katana เสียอีก (สำหรับหูผม) แสดงว่าเป็นหูที่ค่อนข้างขี้ฟ้องพอสมควรเลย  แต่อ่านจากรีวิวแล้วคงต้องหา dap ดีๆเข้าไปลองใหม่อีกทีว่าจะเป็นยังไง ราคาเท่า rox2 ที่กำลังเล็งไว้ด้วยอีก 

เห็นด้วยกับความขี้ฟ้อง ครับ

ป.ล. ฝากร้านกาแฟ ของ อาจารยํของผม Doctor Roaster Coffee Clinic ถนนพหลโยธิน 11 ไว้ใน อ้อมอก อ้อมใจ ด้วยนะครับ

ขอบพระคุูณ เฮีย มากๆครับ 

ยินดีครับ เดี๋ยวอีก 1-2 วัน รีวิว Lola จะเอาไปเก็บขึ้นในส่วนของเว็บหลักครับ และรีวิวในเว็บบอร์ดก็จะอยู่ตรงนี้เหมือนเดิมทุกอย่างครับ 555

ใช่คะ งานak ปีนี่ไม่ได้ไป เลยไม่ได้เจอกัน รีวิวสนุกน่าสนใจมากคะ อ่านแล้วเกิดอาการคันอยากลองขึ้นมาซะแล้ว สงสัยต้องไปลองฟังที่ร้านเฮียในเร็ววันนี้แน่เลยคะ ^^

เตรียมใจมาดีๆนะครับ อิ อิ 

อ่านรีวิวแล้วทำให้รอคัสต้อม Lola ไม่ไหวละ 555

คัสตอม น่าจะเพอรํเฟคครับ ^^//

CIEM กับ UIEM ราคาเท่ากันมั้ยครับ

ciem น่าจะแพงกว่คร้าบ

คุณเต้เตือนแบบนี้กลัวใจตัวเองเลยคะ แหะๆ ^^;;

ว่าแต่ lola ตัวนี้ถ้าเทียบเสียงกับ Cosmic ears CE4P เป็นยังไงบ้างคะ ^^

เอารีวิวขึ้นไว้หน้าแรกเว็บแล้วนะคร้าบบบ คลิกเข้าไปอ่านได้เลยจ้าๆๆๆ

https://www.munkonggadget.com/ContentHome/content_3785.html

เฮียครับ เห็นในเวบเฮียตั้งราคาไว้ 64,900 ไม่แน่ใจว่าเป็นราคาทั้ง CIEM กับ UIEM เลยมั้ยครับ 

64,900  เป็นราคา     UIEM  ครับ

ส่วน CIEM  ราคา 75,900 บาทครับ  ใช้เวลาในการสั่งราวๆ 6-8 สัปดาห์ครับ

เสียงของ Cosmic ears  CE4P จะออกไปทางแหลมใสโปร่งโล่งสบาย เบสมาพอประมาณแต่แยกรายละเอียดได้ชัด แยก มิติ การจัดวางเครื่องดนตรีได้ดี เหมาะกับแนวฟัง อะคูสติก ร้อง มากกว่า 

ในส่วนของโลล่า จะมี ความธรรมชาติของเสียงกลาง เสียงกลางจะอิิ่มหวาน มิติกว้างกว่าเล็กน้อย เรื่องเบสแล้วแต่ชอบ ถ้าชอบเบส โลล่า ชนะขาด 

โดยรวม ผมชอบโลล่า มากกว่าครับ เพราะฟังเพลงได้หลากหลายกว่า และในส่วนตัว ผมใส่คัสต้อม แล้วเจ็บหููููู ครับ ซึ่งตรงนี้บางคนไม่เป็น

กราบขอบพระคุณมากๆครับ

ราคาตามพี่หลุยเลยครัช

ขอบคุณคะ   

แต่แปลกจังที่ใส่ciemแล้วเจ็บหู ไม่พอดีหูรึเปล่าคะ ลองส่งรีฟิตไหมคะ อาจจะดีขึ้น

คือ ผมก็ปรึกษาหมอหู และ มือพิมพ์หู หลายๆท่าน รูหูผมเล็กมาก ใช้ จุก s  ยังแน่นๆ นอกจากนั้น ยังแคบนอก แต่บานออกด้านใน จะเจ็บเวลาถอดเข้าออก ครับ เลยไม่ค่อยชอบฟิลลิ่งคัสต้อมเท่าไหร่ 

น่าจะคล้ายๆ น้าชา Rockdragon ที่ชอบฟิลลิง ของ UIEM มากกว่า เหมือนกัน (พาดพิง) อิอิ

รบกวนเฮียมั่นสุดหล่อและเท่ห์ที่สุดและใจดีที่สุดสามภพครับผม (ขนาดนี้เฮียต้องช่วยละครับ)

พอดีหลังจากได้ดูคลิปนึงจากคุณพ่อเจอรี่ได้ลงในไอจี เป็นการเล่าถึงที่มาที่ไปของเคส และได้ใช้ซาวน์แบ็กกราวน์เป็นเพลงๆหนึ่ง เป็นเพลงเก่าๆที่ร้องถึงโลล่า โลโลโล โลล่าาาา อะไรทำนองนั้น เลยเชื่อว่าที่มาของชื่อน่าจะเพลงนี้ หลายท่านอาจจะทราบแล้วแต่ผมยังไม่ทราบ (เกิดไม่ทันจริงๆครับ)

https://www.youtube.com/watch?v=LemG0cvc4oU

ขออนุญติเฮียมั่นสุดหล่อและใจดีที่สุดเพิมเติมเนื้อหาในรีวิวให้ด้วยครับ >>>

"LOLA" หรือ โลล่า เป็น ชื่อเพลงที่แต่งขึ้นประมาณปี ค.ศ.1970 โดยศิลปินชื่อ Ray Davies ซึ่งเป็นนักร้องนำและมือกีตาร์ของวงร๊อคแดนผู้ดีชื่อ The Kinks โดยเพลงนี้เป็นไฮไลท์ของอัลบั้ม Lola versus Powerman  and the moneygoround,part one (1970) โดยมีชื่อเสียงโด่งดังใน US และ UK ในช่วงปี 1964-1996 ซึ่งออกอัลบั้มได้มากถึง 24 อัลบั้ม กับอีก 6 อัลบั้ม live 

มือกลองของวง "Mick Avory" เคยกล่าวว่าแรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ที่ได้เล่าต่อมาจากผู้จัดการของวงเขา

เพลงโลล่าเป็นลักษณะเป็นเพลงวงร๊อค เครื่องดนตรีตามพื้นฐานของวงร๊อค เพลงออกแนวสนุกสนานปนะความหมายเชิงประชดนิดๆ ได้อารมณ์เพลงแนวๆแซว โดยเนื้อหาของเพลง จะกล่าวถึงผับแห่งหนึ่งย่านนอร์ทโซโฮ ได้พบผู้หญิงคนนึงเข้ามาพูดคุยและชวนเต้นรำ โดยผู้หญิงได้บอกชื่อตน "ด้วยเสียงใหญ่ๆ" ว่าชื่อ Lola (โล-ล่า) โล ล่าาาา โลโลโลโล ล่าาาา ได้ให้เนื้อหาว่าถึงฉันจะเป็นผู้ชายล่ำสันแต่พอเธอกอดฉันรู้สึกว่ากระดูกแทบจะหัก!! ตัวเป็นหญิงแต่ทำไมเสียงใหญ่เหมือนผู้ชาย ในเนื้อหาของเพลงมีการเล้าโลมชวนกันกลับบ้านมีการพูดถึงกิจกรรมบางอย่าง เธอล้มลง ฉันคุกเข่า จ้องมองกัน ในอารมณ์ของเพลงที่เชิงล้อเลียนและฟังสนุก ... เชิงเปรียบเทียบและเปรียบเปรย ให้ความหมายในเชิงของความเข้มแข็งในความอ่อนโยน ความอ่อนโยนในความเข้มแข็ง ที่ผู้ชายอาจมีไม่ครบหรือผู้หญิงอาจทำได้ไม่ทั้งหมด

เจอรี่อาจจะพยายามเอาข้อดี ความละมุนละไม อิมแพคที่ไพเราะ ของ Dynamic driver มารวมกับความชัดเจน ความเที่ยงตรง ความละเอียดแหลมบาดใสและดุดัน ของ Balanced amature จนเกิดหูฟัง Hybrid เปรียบได้กับ ตัวเอกในเพลงที่ the kinks กล่าวถึงว่าเป็น Trans รวมเอาข้อดีของผู้หญิงและผู้ชายมาไว้ด้วยกัน เป็นไอเดียของการทำหูฟังจนเกิดเป็นเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ของ "LOLA the hybrid" นี้ครับ

<<< จบเนื้อหาเพิ่มเติม
ที่มาก็ wikipedia ธรรมดาๆครับ ไปค้นอ่านกันขำๆได้

ขอบพระคุณเฮียมั่นล่วงหน้าครับ
 

ผมก็เดาว่าชื่อ Lola นี้ต้องได้มาจากเพลง Lola ของ Ray Davies วง The Kinks แน่ๆครับ ^^

ถึงลุง Ray Davies จะอายุมากแล้วแต่พลังเสียงของลุงก็ยังไม่ตกเลยนะครับ 555
ผมชอบคลิปนี้มากเป็นตอนที่ลุง Ray ร้องสดต่อหน้า Queen Elizabeth II ในงาน Party at the Buckingham Palace เมื่อกลางปี 2002 ครับ


https://youtu.be/C4uLG_bGsLU

ขอบพระคุณน้าชา มากๆ ครับ ผมว่าเจอรี่ แกเฉลย ตรงกับที่น้าชา และหลายๆคนคิด

ความหมายก็ได้

เวอรชั่น นี้ไม่เคยฟัง  แต่สุดยอด มากๆครับ

พ้นระยะเบิรํนแล้ว รู้สึกชอบ มากๆ ครับ 

อธิบายไม่ถูููก

ต้องไปลองครับ