เอาให้เห็นภาพง่ายๆ คุณใช้หูฟังตัวนึง รับรู้เครื่องดนตรี ตำแหน่ง จำนวน ได้ระดับนึง แล้วเมื่อคุณเปลี่ยนไปฟังหูอีกตัวนึง คุณได้ยิน เสียงอะไรบางอย่างเพิ่มเติมมาที่มันซ่อนอยู่ในเพลงเดียวกัน อาจจะเป็นเสียงลม เสียงเคาะเบาๆมากๆ มาจากด้านหลัง แต่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีอยู่ด้วยจากการใช้หูฟังตัวเดิมๆ หูฟังตัวที่คุณเปลี่ยนนั่นล่ะคือหูฟังที่ให้รายละเอียดดี 

เห็นด้วยกับท่าน artpiggo ครับ

ขอเสริมคือ โดยทั่วไปเสียงที่ละเอียดก็คือให้เสียงที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับของเพลงที่มีอยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น CD SACD หรือ ไฟล์เพลงต่างๆครับ ถ้าไฟล์เพลงมีความละเอียดดี แต่อุปกรณ์ไม่ถึงก็อาจจะทำให้ไม่สามารถขับรายละเอียดออกได้หมด ในทำนองกลับกันถ้าไฟล์เพลงไม่ดีหรือความละเอียดต่ำแต่อุปกรณ์ดีก็อาจจะทำให้รายละเอียดหายไปได้เช่นกัน  

ถ้าเปรียบกับภาพก็เหมือนภาพที่สามารถเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนครับ

ชุดที่รายละเอียดดีมันจะสามารถแสดงเสียงเล็กๆน้อยๆออกมาให้เราได้ยินแบบครบๆ ไม่คลุมเครือ

พี่หมูหวาน แบบนี้สินะครับที่เค้าเรียกว่าเปรียบเทียบซะเห็นภาพเลย 555

สวยร้อยเมตร กับสวยแบบใกล้ ๆ ชัด ๆ ไงครับ
ดูไกล ๆ เหมือนจะดี อาจเป็นกาเทียมก็ได้

ขออนุญาต ถามด้วยนะครับ 
"ช่องไฟ" คือยังไงครับ จะฟังยังไงว่าดีไม่ดี

รายละเอียดไม่ดี คือฟังชิ้นดนตรีต่างๆรวมกันหมด ไม่สามารถแยกออกเป็นชิ้นหรือแยกตำแหน่งออกจากกันได้ครับ หรือถ้าถ่ายทอดรายละเอียดได้ไม่ดีพอก็คือไม่สามารถแสดงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่อยู่ในอัลบั้มบันทึกนั้นๆออกมาได้ เช่นเสียงสะท้อนของห้องอัด เสียงหายใจ เสียงแบ็คกราวด์ตบมือจากคนฟัง

ส่วนข่องไฟก็คือการที่ชิ้นดนตรีมีตำแหน่งที่แยกห่างออกจากกัน เราเรียกว่าช่องไฟครับ กีตาร์ตัวที่ 1 กับตัวที่ 2 ถ้าฟังออกว่ามันอยู่คนละที่ แล้วดีดกันคนละครั้ง ไม่ทับตำแหน่งกัน แสดงว่ามีช่องไฟที่ดี ถ้าไม่มีช่องไฟ ทุกอย่างจะรวมกันหมด ไม่มีช่องห่างระหว่างกันครับ

ยังไม่ได้อ่านคคนอื่น แต่รายละเอียดดี ไม่เกี่ยวกับฟังเสียงทุกย่านชัดเจน  ครับ
หู Andromedra ฟังชัด  เรียกว่า Clarity ดี
แต่รายละเอียดดี ต้องหูอย่าง Layla II หรือ iSine20 เรียกว่า รายละเอียดดี (Detail)
Detail กับ Clarity คนละเรื่องกันครับ