Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เมื่อ .wav แปลงเป็น .flac จะสิ้นโลกมั้ย (ไม่ได้ประชดนะครับ ^^ พอดีเห็นถกเถียงงกันมาเยอะ(รอผู้รู้จร

bicklittleroom

09/02/2017 04:04:44
4



             พอดีเกิดความสงสัยครับ ริปเพลงมาจากซีดีสุดที่รักวง Black Beauty อัลบั้ม Black Beauty ทีนี้พอริปมามาแล้วเนี่ยได้ไฟล์ wav ครับ(ผมชอบริปเป็น wav โดยส่วนตัว) พอทีนี้เกิดสงสัยในการบันทึกรายละเอียดต่างๆครับ คือการใส่ปกการใส่ชื่อนักร้อง อัลบั้ม แทรกนัมเบอร์ และอื่นต้องยอมรับว่า flac มันยืดหยุ่นเรื่องนี้มากกว่า ฉะนั้น ผมเลยหัวใส(ไม่ได้ใสแบบเฮีย(ขอโทษคร้าบบบ(รักดอกจึงหยอกเล่น))) คิดจะแปลงจากไฟล์ wav ไปเป็น flac เลยลองใช้ dBpoweramp แปลง ทีนี้มันมีแบบตัวเลือก อันคอมเพรส ซึ่งในความคิดผมเข้าใจคำว่า "อันคอมเพรส" คือ ไม่มีการตัดออก เลยอยากลองว่าการแปลงครั้งนี้มันจะเหมือนเป็นแค่การกดสวิตซ์เปลี่ยนนามสกุลจาก wav เป็น flac มั้ย ลองเลยทำการแปลงครับ ทีนี้ออกได้ผลดังนี้ครับ

         เพลง    ขนาดไฟล์ .wav                       ขนาดไฟล์ .flac(Uncompressed)
           1       40,261 KB                           40,287 KB
           2       46,115 KB                           46,145 KB
           3       44,553 KB                           44,582 KB
             
             ประมาณนี้ละกันครับ จนครบถึงไฟล์เพลงที่ 12 ทุกเพลงจะเป็นแบบเดียวกันคือ flac จะใหญ่ขึ้นจากไฟล์เดิมที่เป็นไฟล์ wav ประมาณ 30 KB+- ประมาณนี้ครับ ซึ่งเอาจริงๆไฟล์ที่เพิ่มมาแค่ 30 KB ผมไม่ซีเรียสอ่ะครับ(ซึ่งใครๆก็คงไม่ซีเรียสอ่ะเนาะ - -') ทีนี้เรามาว่ากันถึงการที่คนถกเถียงกันว่า .wav ดีกว่า .flac แน่นอน แต่จะผลด้านตัวเลข ที่ออกมาข้างต้นที่ผมเอาให้ดู ความจุมันไม่ได้สูญเสียไปเลยกลับเพิ่มขึ้นนิดนึง ซึ่งถ้าให้เดาในหลักตรรกะของผมเอง มันคงไม่มีการตกหล่นเลยก็เป็นได้เพราะตัวเลขที่ออกมาแบบนี้มันก็มีเหตุผลว่ามันจะไม่มีการตกหล่นของข้อมูลเสียงจากไฟล์ .wav ซึ่งนั่นหมายความว่าภาระกิจครั้งนี้ของผมสำเร็จ และผมได้ลองแปลงไฟล์ .flac ที่ได้จากการแปลง .wav กลับไปเป็น .wav มันได้ขนาดไฟล์ .wav เท่าเดิมทั้งหมดเลยครับ ทุกอย่างเหมือนเดิมหมดเลย เหมือนไฟล์ .wav ต้นฉบับเป๊ะๆ เหมือนริปมาเลย

             ทีนี้ผมกดที่ Audio Properties เพื่อดูรายละเอียด ซึ่งไฟล์ .wav ที่ริปมาจากแผ่นเลยนั้น มีค่าบีบอัดหรือค่า Compressed อยู่ที่ 0% คือไม่มีการบีบอัดเลย และมาดูที่ไฟล์ .flac ที่แปลงจากไฟล์ .wav ต้นฉบับมีค่าบีบอัดอยู่ที่ 0% เช่นกัน และผมได้ลองแปลงไฟล์จากไฟล์ .wav ต้นฉบับตัวเดิมไปเป็นไฟล์ .flac ที่มีการบีบอัดที่ Level 8 highest ซึ่งพอแปลงออกมาแล้วไฟล์ .flac Level 8 highest นั้นมีค่าบีบอัดอยู่ที่ 33%(ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควร) ทีนี้ผมมาเขียนรายละเอียดแยกให้ดูแต่ละอันครับ


เพลงเดียวกันทั้งหมด

           ไฟล์ .wav                             40,261 KB     ค่าบีบอัด       0%
           ไฟล์ .flac                              40,287 KB     ค่าบีบอัด       0%
           ไฟล์ .flac (Level 8 highest)     26,962 KB     ค่าบีบอัด     33%



             สรุปเลยละกันนะครับ ในความคิดผม ผมว่ากับแปลงไฟล์ .flac ในแบบ Uncompressed หรือไม่มีการบีบอัดนั้นจะได้ไฟล์ที่ไม่มีการตกหล่นขาดหายเลยจากไฟล์ต้นฉบับ แต่ถ้าเลือก Level ของไฟล์ .flac ลดลงมา มันก็จะบีบอัดไปตาเลเวลของมัน ฉะนั้น ผมคิดว่าคงไม่มีข้อแตกต่างเลยระหว่างไฟล์ .wav และไฟล์ .flac ในรูปแบบ Uncompressed

             **ถ้าทั้งสองไฟล์เป็นไฟล์แบบ Uncompressed ข้อดีในเรื่องนี้คือ ไฟล์ .wav มันจะได้เปรียบ .flac ในเรื่องขั้นตอนการถอดรหัสเสียงนิดหน่อย(อ้างอิงจากคำตอบของพี่หมูหวานในกระทู้หนึ่ง) แต่ไฟล์ .flac จะได้เปรียบไฟล์ .wav ในเรื่องใส่ปกใส่รายละเอียดใน Description รายละเอียดต่างๆ และถ้าจะริปจากซีดี ริปเป็น .flac Uncompressed ก็จะได้คุณภาพไม่ต่างจาก .wav 16 bit 44.1 เลยแม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำยังได้ข้อดีใส่ปกใส่นู่นใส่นี่ได้อีกด้วย ประมาณนั้นครับ

             เห็นในเว็บบอร์ด(เว็บทั่วไปอ่ะนะครับทั้งพันทิปและอื่นๆ) ถกกันว่า .flac ยังไงก็คุณภาพดีไม่เท่าเมื่อเทียบ .wav ซึ่งในตรรกะที่ผมได้จากการทดลองครั้งนี้ผมว่ารหัสย่านเสียงของ .flac มันน่าจะครอบคลุมได้ทั้งหมดแบบที่ .wav 16 bit 44.1 ทำได้ ฉะนั้นแปลงจาก .wav bit 44.1 ไปเป็น .flac แบบ Uncompressed ไม่เป็นผลเสียอะไรแน่นอนในแง่ของข้อมูล แต่ที่เค้าเถียงกันอาจจะเป็นรเพราะว่าเถียงเรื่องไฟล์ .flac ในระดับที่ต่ำกว่า .wav 16 bit 44.1 ครับ ฉะนั้น สรุป .flac Uncompressed สามารถมีสิทธิ์มีศักดิ์ศรีเทียบเท่าเมียหลวงคนนึง มีสิทธิ์ได้รับมรดกกองนี้เช่นกัน ตึ่งโป๊ะ! 555

ยังไงใครมีข้อมูลอะไรลองมาเพิ่มเติมได้นะครับ
มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน

ปล.ถ้าได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ กดตรงแจกหูนิดนึงเน้อออ อิอิ ^^



                                ***************************
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 4
ความคิดเห็นที่ : 1

ClearSky_n_NiceBreeze

09/02/2017 06:30:48
214
wav ผมใช้ Foobar2000 ใส่ปกใส่ Tag ได้นะ

แต่ใส่เป็นภาษาไทยไม่ได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

artpiggo

09/02/2017 06:34:03
15
แล้วได้ลองฟังเทียบหรือยังครับ ว่าฟังต่างกันมั้ย

ถ้าเป็นไปได้ อัพโหลดตัวอย่างเพลง(แบบไม่ใส่ชื่อเพลง ศิลปิน tag ใดๆ) ขึ้นแล้วให้เพื่อนๆเทสดูมั้ยครับ แล้วให้เพื่อนๆเดากัน

1. CD > wav
2. CD > flac uncompressed
3. CD > flac compressed level8
4. WAV > flac uncompressed
5. WAV > flac compressed level8

ส่วนตัวเคยจับความต่างได้บ้าง แต่รู้สึกต้องเพ่งมากพอสมควร ส่วนตัวเลยจบที่ flac เพื่อประหยัดพื้นที่

ปล. แต่ผมมีคำถามพ่วงครับ ผมอยากรู้ว่าไฟล์ flac แปลงเป็น wav ถือว่าเป็นการแปลงที่สมเหตุผลไหม เหมือน ไฟล์ zip แล้วมาแตก zip ออกหรือเปล่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

Reizei_Mako

09/02/2017 08:15:33
23
Blind Test ครับ ถ้าแยกออกไม่เกินครึ่ง ผมแนะนำให้ Rip เป็น FLAC พอครับ

ไอ้ต่างนะมันอาจจะต่าง แต่ต่างขนาดได้ยินจริงๆ จังๆ โดยไม่อุปาทานหรือไม่ ต้องทดสอบโดยการปิดตาฟังถึงจะบอกได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 2
ความคิดเห็นที่ : 4

iNY

09/02/2017 11:02:55
2
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 1 - ClearSky_n_NiceBreeze
wav ผมใช้ Foobar2000 ใส่ปกใส่ Tag ได้นะ

แต่ใส่เป็นภาษาไทยไม่ได้
ใส่ภาษาไทยแล้วให้ผ่าน Mp3tag จะเป็นไทยแท้ๆเลยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 5

MaxxIE

09/02/2017 12:36:34
107
Compress Level มันแค่บอกระดับความบีบอัดนะครับ
ไม่ได้บ่งบอกว่ามันสูญเสียไปเท่าไหร่หรือไม่แต่อย่างใด

ยิ่งLevelเยอะยิ่งบีบอัดเยอะ  ขนาดไฟล์ยิ่งเล็ก  ยิ่งใช้พลังประมวลผลในการUncompressในการคลายการบีบอัดขณะเล่นมากยิ่งขึ้นครับ
ถ้าโปรแกรมwsoมันUncompressไม่เก่ง รายละเอียดเพลงมันก็จะหายไปได้ส่วนนึง

ผมเคยเอาไฟล์ WAV มาแปลงเป็น FLAC M4A ผมว่าผมค่อนข้างฟังออกครับว่าอันไหนWAV เพราะรายละเอียด ความสมูทของเสียงจะดีกว่าตัวที่บีบอัดมา แต่มันนิ๊ดเดียวจริงๆนะครับ  ไม่เพ่งไม่ฟังหลายๆรอบ ฟังไม่ออกเลย

ทีนี้ผมก็เลยสงสัยเหมือน จขกท. สูญเสียคุณภาพรึปล่าว เลยจับทั้ง FLAC และ M4A มาแปลงกลับเป็นWAV ขอตั้งชื่อว่าWAVF กับ WAV4แล้วกัน

เอามาลองฟังเทียบ ปรากฏว่าผมแยก WAV , WAVF , WAV4 ไม่ออกเลยครับ จากนั้นมาผมก็ไม่เก็บไฟล์ในรูปแบบWAVอีกเลย เพราะแม้มันจะคุณภาพเสียงดรอปลง แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด เมื่อเทียบกับขนาดไฟล์ที่ลดลง(มาก)ครับ ไฟล์WAVขนาดมันใหญ่ เปลืองเนื้อที่จัดเก็บเกินไปครับ 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 6

Salek

09/02/2017 13:03:44
187
Lossless แปลตามตรงคือไม่สูญเสียใดๆทั้งสิ้นครับ และมันก็มีทั้งแบบบีบอัด(เช่น .flac)และไม่บีบอัด(เช่น .wav)
และในเมื่อมันไม่สูญเสียใดๆเลยมันก็ควรจะเหมือนกันสิ
ส่วนการบีบอัดที่มีการสูญเสียหรือมีการลดทอนตัดทอนคือ Lossy ครับ เช่น .mp3 .aac .ogg
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

YCHM

09/02/2017 14:18:44
แหม ผมว่าแค่ชื่อกระทู้นี้คนมีความรู้เขาก็แทบไม่อยากจะเข้ามาคุยด้วยละครับแหม ไม่สิ้นหรอกครับโลกแหมๆๆ

มันเป็นเรื่องของการเข้ารหัสและการถอดรหัสที่ต่างกันครับ เราไม่รู้หรอกครับว่าไอ30KBที่มันเพิ่มเข้ามานั่นคืออะไร อาจจะเป็นเพียงแค่ค่าของตัวรหัสที่ยาวกว่านิดหน่อย ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีกว่าครับ ส่วนเรื่องปกกับTag ผมไม่เข้าใจนะครับว่ามันใส่ไม่ได้ยังไงwavเนี่ย เพราะผมRIPเอง ผมก็ใส่มันได้ตลอดนะครับตรงมุมขวาล่างของdBpoweramp หรือดูกระทู้คุณหมูหวานก็ได้ครับ

จริงๆมันเป็นเรื่องของแต่ละคนว่าสะดวกใจจะเก็บไฟล์ไหนมากกว่าครับสำหรับยุคHDD10TBนี้ สำหรับผมแล้วผมยังยินดีจะRIPไฟล์ตัวเองเป็นWAVอยู่ดีครับ เมื่อจะเก็บแล้วก็อยากจะเก็บไฟล์ที่คุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุดอยู่ดี บางทีเราก็เอาใจคนอื่นมาใส่ใจเรามากไปนะครับผมว่า มันเลยมีการกระทบกระทั่งกันปกติของวงการนี้แหละครับ อย่าไปคิดมากเลย

ผมว่าคนที่เก็บMP3พอมาเห็นกระทู้นี้ก็คงหัวเราะกิ๊กกั๊ก แล้วก็คิดเหมือนกันแหละครับว่า MP3ก็ไม่เห็นต่างกับ WAV Flac  55555 ประมาณนั้นครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

bicklittleroom

09/02/2017 15:09:15
4
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 7 - YCHM
แหม ผมว่าแค่ชื่อกระทู้นี้คนมีความรู้เขาก็แทบไม่อยากจะเข้ามาคุยด้วยละครับแหม ไม่สิ้นหรอกครับโลกแหมๆๆ

มันเป็นเรื่องของการเข้ารหัสและการถอดรหัสที่ต่างกันครับ เราไม่รู้หรอกครับว่าไอ30KBที่มันเพิ่มเข้ามานั่นคืออะไร อาจจะเป็นเพียงแค่ค่าของตัวรหัสที่ยาวกว่านิดหน่อย ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีกว่าครับ ส่วนเรื่องปกกับTag ผมไม่เข้าใจนะครับว่ามันใส่ไม่ได้ยังไงwavเนี่ย เพราะผมRIPเอง ผมก็ใส่มันได้ตลอดนะครับตรงมุมขวาล่างของdBpoweramp หรือดูกระทู้คุณหมูหวานก็ได้ครับ

จริงๆมันเป็นเรื่องของแต่ละคนว่าสะดวกใจจะเก็บไฟล์ไหนมากกว่าครับสำหรับยุคHDD10TBนี้ สำหรับผมแล้วผมยังยินดีจะRIPไฟล์ตัวเองเป็นWAVอยู่ดีครับ เมื่อจะเก็บแล้วก็อยากจะเก็บไฟล์ที่คุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุดอยู่ดี บางทีเราก็เอาใจคนอื่นมาใส่ใจเรามากไปนะครับผมว่า มันเลยมีการกระทบกระทั่งกันปกติของวงการนี้แหละครับ อย่าไปคิดมากเลย

ผมว่าคนที่เก็บMP3พอมาเห็นกระทู้นี้ก็คงหัวเราะกิ๊กกั๊ก แล้วก็คิดเหมือนกันแหละครับว่า MP3ก็ไม่เห็นต่างกับ WAV Flac  55555 ประมาณนั้นครับ
         555 ไม่เป็นไรครับ ถึงผู้รู้ไม่อยากเข้ามาตอบ คนมีความรู้ไม่มีความรู้ก็มาคุยกันได้เนาะ ^^ ที่ผมตั้งกระทู้เหตุผลหลักเพราะผมไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง เลยทดลอง และคาดการณ์ตามที่ทดลองดู แค่อยากรู้จากคนที่เค้าตอบเชิงลึกได้ ผมจะได้เลือกเก็บและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับตามข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบไฟล์ ^^ ไม่ได้จะประชดหรือสร้างความเอือมให้กับผู้รู้จริงๆ หรือไม่ผู้รู้เค้าอาจจะไม่อยากเข้ามาตอบแบบที่คุณ YCHM พูดก็ได้ครับ ^^ แต่ที่ผมตั้งกระทู้เพราะแค่อยากรู้ข้อมูลเชิงลึกที่ผู้รู้หรือใครที่พอจะมีข้อมูลมาตอบได้ในหลายๆมุมแค่นั้นเองครับ


         ส่วนที่ว่าไม่เห็นว่า dBpoweramp มันจะใส่ไม่ได้ตรงไหน อันนี้ผมตอบเลยละกันครับว่าอันนั้นผมทราบดีครับว่ามันใส่ได้ทั้ง Tag  หรือว่าภาพปกหรืออะไรต่างๆมันใช้ dBpoweramp ใส่ได้ ที่ผมตั้งเรื่องนี้ขึ้นเพราะไม่ใช่ทุกเครื่องที่จะมี dBpoweramp ฉะนั้นในเครื่องคอมธรรมดาตาสีตาสาทั่วไป flac เลยยืดหยุ่นกว่า นั่นคือประเด็นที่อยากจะถกกันว่า ถ้าสรุปแล้วไฟล์สองไฟล์นี้สามารถเก็บคุณภาพได้เท่ากันย่านเสียงเท่ากันเป๊ะๆ ถ้ามันไม่ต่างกัน จะเลือกอันไหนดีกว่ากัน


         ซึ่งอันนี้คนที่เข้ามาอ่านข้อมูลจากทุกๆคนจะเลือกเก็บอันไหนก็แล้วแต่คนไปครับ จะเก็บ mp3 m4a wav flac aiff ฯลฯ อันนี้มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับไปขำเขาไม่ได้หรอก เหตุผลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมเก็บ flac wav aiff ก็เยอะ มันแล้วแต่คน อ้อจะหัวเราะก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะถ้าเพลเยอร์ดีๆไฟล์ดีๆหูฟังดีๆหน่อยผมฟัง mp3 กับพวก flac wav ออกว่าอันไหนคืออันไหน

ตามนั้นครับ


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

bicklittleroom

09/02/2017 15:17:04
4
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 2 - artpiggo
แล้วได้ลองฟังเทียบหรือยังครับ ว่าฟังต่างกันมั้ย

ถ้าเป็นไปได้ อัพโหลดตัวอย่างเพลง(แบบไม่ใส่ชื่อเพลง ศิลปิน tag ใดๆ) ขึ้นแล้วให้เพื่อนๆเทสดูมั้ยครับ แล้วให้เพื่อนๆเดากัน

1. CD > wav
2. CD > flac uncompressed
3. CD > flac compressed level8
4. WAV > flac uncompressed
5. WAV > flac compressed level8

ส่วนตัวเคยจับความต่างได้บ้าง แต่รู้สึกต้องเพ่งมากพอสมควร ส่วนตัวเลยจบที่ flac เพื่อประหยัดพื้นที่

ปล. แต่ผมมีคำถามพ่วงครับ ผมอยากรู้ว่าไฟล์ flac แปลงเป็น wav ถือว่าเป็นการแปลงที่สมเหตุผลไหม เหมือน ไฟล์ zip แล้วมาแตก zip ออกหรือเปล่า
อันนี้น่าสนใจครับ ว่าคนที่ฟังจะฟังออกมั้ย เดี๋ยวผมจะเอาไปลองในกลุ่ม Lossess แล้วให้เค้าแยกกันเองว่าอันไหนคืออันไหน จะถูกต้องมากน้อยขนาดไหน เดี๋ยวจะมาบอกนะครับ หรือจะตามไปดูในกลุ่มก็ได้นะครับ ว่าจะป็นยังไง Lossess Thailand ก็ลองดูครับ เดี๋ยวผมต้องใช้เวลาอัพไฟล์หน่อย แล้วจะให้พวกเค้าทดลองฟังกัน 

ส่วรที่ว่าเรื่องหลักในกา่รเอาไฟล์ที่บีบอัดกลับมาเป็น wav เหมือนเดิม จะสมเหตุสมผลมั้ย อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ในการทำไฟล์ปกติที่ผมเคยบีบใส่ zip ที่ไม่ใช่ไฟล์เพลงนะครับ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ แต่ถ้ามาพูดถึงเรื่องว่าไฟล์เสียงที่ถูกบีบ เอามาแปลงแตกออกเป็น wav อันนี้จะสมเหตุสมผลมั้ยต้อง รอผู้รู้ด้านนี้มาแจงอีกทีครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

Vekit

09/02/2017 18:48:39
1
ลองบีบอัด wav ให้เป็น flac เก็บค่า checksumไว้ แล้วถ้า uncompress flac ออกมาเป็น wav แล้วค่า checksumเหมือนเดิม ผมว่าก็ไม่มีความต่าง นอกนั้นน่าจะคิดไปเองมากกว่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

NonXtreme

09/02/2017 19:17:28
11
บีบอัดแบบ lossless เช่น FLAC นี่ข้อมูลไม่หายนะ
คือจากที่ผมเข้าใจคร่าวๆ จะอธิบายการบีบอัดแบบง่ายๆ ยกตัวอย่างคือ
เช่นข้อมูลไม่บีบอัดคือ 111111111(หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง)
พอบีบอัดอาจจะเขียนเป็น 1x9 (หนึ่งเก้าตัว)
จะเห็นว่าแบบบีบอัดจะให้ข้อความสั่นกว่าแต่มีความหมายเหมือนกัน

ข้อเสียอย่างเดียวของไฟล์บีบอัดคือจะต้องมีการประมวลผลที่มากกว่าเวลานำข้อมูลมาใช้ ทำให้อาจจะกินแบตมากกว่าเวลาเล่นเพลง แต่อุปกรณ์ electronic สมัยนี้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงมาก ข้อเสียนี้เลยมีผลค่อนข้างน้อย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

torhifi

09/02/2017 20:05:23
219
ไฟล์Losslessที่มีการบีบอัดอย่างFlac ตรงนี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเสียคุณภาพก็จริง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเวลาในประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างที่คุณNonXtremeว่ามาคับ ตรงนี้มันมีเรื่องค่าLatencyที่เพิ่มขึ้นเข้ามาเกี่ยวด้วยซึ่งมีผลต่อเสียง เพียงแต่ว่าแต่ละคนจะรู้สึกถึงความต่างได้มากแค่ไหนก็อีกเรื่องนึง

อย่างASIOเวลาปรับLatencyเป็น1MSกับ20MS ก็มีทั้งคนที่ฟังออกและไม่ออก

(โปรแกรมต่างกัน แม้จะRIPเป็นWAVเหมือนกัน เสียงก็สามารถต่างกันได้)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

Vekit

09/02/2017 21:02:58
1
เรื่อง latency มันเกี่ยวกับประมวลผลในการอัดเสียงหรือการส่งสัญญาณเสียงครับ
อย่างเช่นผมอัดเสียงเปียโนผ่าน audio interfaceเข้าคอม จะวามารถตั้งค่า latency input ในโปรแกรมอัดเสียงได้ครับ เช่น เสียงตอบสนองพร้อมหรือทันทีที่เวลาผมกดคีย์เลยหรือไม่ ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงที่เกี่ยวกับ latency ผมว่าน่จะเกี่ยวกับพวก stuttering มากกว่า เช่นตั้งแค่ buffer ไว้ต่ำหรือมากแค่ไหน สัมพันธ์กับความสามาถของhardwareเช่น cpu มากแค่ไหน เช่น ถ้าตั้งbuffer ไว้ต่ำมากcpu ถ้าไม่ดีมาก ก็อาจจะเกิดอาการ stutter หรือแตกๆที่เราได้ยินกัน
ส่วนเรื่องเสียงที่latency ไม่เกี่ยวกับคุณภาพ wav หรือflac ครับ  ใช้ EAC rip แล้วเข็ค log ก็ได้ครับว่า ไฟล์ที่เรา ripมามันมีค่า accuracy เท่าไร
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"เมื่อ .wav แปลงเป็น .flac จะสิ้นโลกมั้ย (ไม่ได้ประชดนะครับ ^^ พอดีเห็นถกเถียงงกันมาเยอะ(รอผู้รู้จร"