ลองอันนี้ดีกว่าครับ ผมว่าน่าจะล่าสุดแล้ว แต่ไม่รู้ Windows 10 จะใช้ไห้หรือป่าวนะครับ
ลองอันนี้ดีกว่าครับ ผมว่าน่าจะล่าสุดแล้ว แต่ไม่รู้ Windows 10 จะใช้ไห้หรือป่าวนะครับ
ผมใช้ audio GD เหมือนกัน น่าจะ NFB 2.32 หรือไงนี่แหละ ตอนผมเปลี่ยนมาใช้ windows10 ใหม่ๆ ก็มีปัญหาครับ บางที windows10 ก็มอง DAC ไม่เห็นซะอย่างงั้น มักเป็นหลังจาก windows update ตัวเอง พอเปิดอีกที DAC หายไปเลย ตอนแรกคิดว่า DAC เสียแล้ว ตกใจอยู่พักนึง พอลอง uninstall update ออก DAC ก็กลับมาใหม่
ตอนหลังผมหันมาใช้ linux ซะเยอะ ปรากฎว่า linux ก็รู้จัก audio GD นะครับ ต่อ USB หาเจอกันชนิดไม่ต้องลงไดร์เวอเลย ผมว่าถ้ามีเครื่องคอมหรือโน๊ตบุุ็คเก่าๆ ลองเอามาลง linux เล่นเพลงกับ DAC ก็ดีนะครับ เครื่องเร็วจี๋เลยไม่งอแงเหมือน windows แถม linux ก็มี player หลายตัวให้เลือก ผมลองแล้วเจอตัวนึงชื่อ Amarok เสียงออกแนวคล้ายๆ foobar เลย หรือจะใช้ foobar เลยก็ยังมีวิธีครับ
linux เองเดี๋ยวนี้มีวิธี live boot คือขอให้เครื่อง boot จาก USB flash drive หรือ CD rom ก็พอแล้วครับ สามารถเปิดคอมดูหนังฟังเพลงเล่นเน็ตไม่ต้องยุ่งกับ harddisk ที่ลง windows ไว้ก่อนหน้าเลย คือพอถอด flash drive ออก boot ใหม่ก็เข้า windows ตามเดิม
1. วิธีแก้แบบแรก คือล่าสุดผมได้ M2Tech Hiface เป็น digital interface แปลงจาก USB เป็น Coaxial ไปต่อเข้าหลัง DAC ช่วยเรื่อง ภาค USB ของ Audio-GD รุ่นเก่าๆ ที่เขาว่าสู้รุ่นใหม่ไม่ได้ ก็ทำให้ได้เสียงดีขึ้น (หรือแย่ลงไม่รู้ แต่ว่าเสียงเปลี่ยนละกัน) M2Tech Hiface นี้เป็นแท่งเหมือน USB stick พอเอา ต่อเข้าช่อง USB คอมพิวเตอร์ linux ก็มองเห็นทันทีไม่ต้องลงไดร์เวอ (ส่วน windows ต้องลงตามระเบียบ) ถ้า audio GD ของ จขกท มีช่องรับ digital รับ coax ได้ลองหาอุปกรณ์พวก digital interface แบบนี้มาใช้ก็ได้
2. หรือประหยัดลงมาหน่อย เผมเคยมี external sound card ของ Creative X-fi 5.1 แบบ ในภาพ สามารถต่อเข้าช่อง USB ของคอม แล้ว เอาสาย optical ต่อตรงช่อง output มาเข้าหลัง DAC ของ Creative ตัวนี้น่าจะถูกกว่า Hiface ค่าตัวราว 2พันบาทกว่าบาท
https://www.advice.co.th/product/sound-card/external/sound-creative-x-fi-surround-5-1pro
3. หรือถ้า DAC Audio-GD ที่ใช้อยู่ต่อได้แค่ USB อย่างเดียวจริงๆ ผมว่าหาคอมเก่ามาลง linux หรือเอาแบบผมก็ได้ครับ ใช้แผงวงจรแบบในภาพ ยี่ห้อ Raspberry pi รุ่น 3 ถ้าซื้อแผงวงจรอย่างเดียวในไทยผมซื้อได้ถูกสุด 1500 บาท ราวๆนี้
http://www.satorshop.com/product/432/raspberry-pi-3-model-b
เป็น computer on single board ชิ้นเดียวครบทุกอย่าง มีช่องต่อ HDMI เข้าจอทีวี แล้วก็ USB slot 4 ช่อง ไว้ต่อ mouse keyboard ช่องต่อ USB นี้สามารถนำสาย USB type A<->B มาต่อเข้า Audio-GD ได้เลย ผมลองแล้ว มองเห็นกันชนิดไม่ต้องลงไดร์เวอครับ ส่วนไฟล์ wav flac mp3 จะนำไปใส่ไว้ใน microSD card ก็ได้เพราะมีช่องเสียบ หรือนำ external storage ,harddisk ,flash drive อื่นๆต่อเข้า USB ก็มองเห็นหมดครับ
อ้อลืมบอก Rapberry Pi3 นี้ทำงานด้วย linux เท่านั้น โดย download ไฟล์มาจาก web ผู้ผลิต แล้ว copy ใส่ micro SD card หลังจากเปิดเครื่องเชื่อม wi-fi แล้ว ระบบจะ install โดยดึงไฟล์มาเอง ไม่ต้องทำอะไรเลย มี linux ให้เลือกหลายรุ่น ส่วนผมเลือกรุ่น MATE คือพอลงระบบเสร็จเปิดติดก็เป็นคอมย่อมๆเลยครับ ดู youtube เล่นเน็ต ดูหนังได้ แต่เครื่องช้าหน่อย ส่วนถ้าฟังเพลงอย่างเดียวไม่มีปัญหาครับ ไฟล์ wav ใหญ่ๆ ก็เล่นได้สบายพอผ่าน Audio-GD แล้วเสียงดีหมด
-------------
คือแค่จะบอกว่าถ้า windows ไม่มีไดร์เวอสำหรับ Audio-GD ก็หันมาใช้ linux ก็ได้ครับ เครื่องคอมก็หาเครื่องเก่าๆที่ตกรุ่นในบ้านหรือซื้อ Raspberry pi ก็ 1500 บาท เอาไว้เป็นเครื่องเล่นเพลงอย่างเดียวได้เลย ระบบ linux นี้ตอนผมเริ่มใช้ก็เริ่มจากเหตุจำเป็นช่นกันครับ ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ แต่พอลองใช้จนเป็นแล้วง่ายมาก งอแงน้อยกว่า windows เยอะ ทำงานเร็วพอกันทั้งที่ hardware พวก CPU RAM น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง
ผมว่าถึง DAC Audio-GD จะด้อยกว่ายี่ห้อ Brand อื่นๆตรงการ support แต่คิดไกลๆ DAC ยี่ห้ออื่นๆน่าจะชะตากรรมไม่ต่างกันครับ รอแค่เวลาเท่านั้น คือพอผ่านไปหลายปีมากๆ windows มักจะบังคับ upgrade ระบบ จนสุดท้ายก็เลิก support hardware รุ่นเก่าๆ ส่วนบริษัทผู้ผลิตพอผ่านไป7-8 ปีก็มักลอยแพคนใช้ เป็นการบังคับกลายๆให้ซื้อรุ่นใหม่ นิสัยแบบนี้ของ windows แก้ไม่หายครับ เป็นมานานแสนนาน และก็ไม่ใช่เฉพาะกับ DAC แต่ hardware คอมอื่นๆก็เป็น ถ้าสามารถหัดใช้ linux สำเร็จจะเป็นการดัดหลัง Microsoft ทำให้สะใจเล็กๆ :-)
ขอให้ จขกท หาวิธีแก้ปัญหาได้สำเร็จครับ
ตัว Windows เองก็ทำได้นะครับ เข้าไปที่ Control Panel >> Sounds >> Playback
เลือก Properties ของ DAC หรือ Soundcard ที่ใช้ แล้วไปที่ Level กดปุ่ม Balance ครับ