ใช้ lens fix เปิด F กว้างหน่อย ซัก F1.8 - F2 ก็พอได้ แล้วถ่าย แค่นั้นเองครับ

กล้อง sensor ซัก APS-C ก็ได้ไม่ต้องถึง FF ถ้าพวก compact ยาก เพราะ sensor เล็ก

ตั้งค่ารูรับแสงกว้างๆ จ่อเลนส์ให้ใกล้ลำโพง และวางลำโพงห่างจากฉากหลังครับ

และจะให้สุดต้องหาเลนส์ฟิก มาใช้ครับ เช่น 50mm f1.8 เป็นต้นครับ

ถ้า เลนส์ Fix ไม่มี  มีแต่เลนส์ Kit ที่ติดกล้องมาตั้งแต่ตอนซื้อกล้องนี่ถ่ายได้ไหมครับ 

ถ่ายได้ครับ ตั้งให้ F มีค่าน้อยๆไว้ครับ แล้วเน้นที่การจัดวางระยะลำโพงกับฉากหลังครับ เพียงแต่การเบลอจะไม่โบเก้สวยเท่าในภาพครับ 

ถ่ายได้แต่โบเก้และฉากหลังจะไม่ละลายเท่าเลนส์Fixครับ  ถ้าจะถ่ายก็ต้องซูมที่55 (fจะไหลไปที่5.6) แต่จะโฟกัสยากและฉากหลังต้องอยู่ไกลๆ

เลนส์50 f1.8เป็นเลนส์ดีราคาย่อมเยา น่าซื้อหามาติดกระเป๋าซักตัวครับ(ไม่รู้รุ่นใหม่ๆพัฒนาไปยังไงบ้าง ไม่ได้เล่นนานแล้ว555)

ได้ครับลองปรับไป Mode M นะครับ แล้วปรับ F ให้กว้างที่สุด ที่ระยะไกลที่สุด น่าจะที่ 55mm แล้วปรับ F-stop ไปที่ F5.6 ครับ แล้วลองถ่ายดูครับ

ตามที่ผมเข้าใจ  ผิดถูกไม่แน่ใจ :3

ตัวชี้วัดความสามารถในการเบลอหลัง
สัดส่วนของ 'focal lenght'ต่อ'ค่าF' มีค่าสูงที่สุด

เช่น ใช้เลนส์ kit 18-135 F3.5-5.6  
ถ้าผมใช้ระยะ 135  ใช้F5.6  = 135/5.6 = 24.1
กรณีระยะสัก 50   ใช้F3.5  = 50/3.5 =  14.3

หรือหากเป็นเลนส์เทพๆ   135/2.0  = 67.5  |   50/1.2 = 42

จะเห็นว่า ที่ระยะยาว ค่าสัดส่วนมากกว่า  จะละลายได้ดี
เรื่อง DOF ก็อีกส่วน :v

โหหห พี่สมเกียรติ พวกผมไม่ได้ถ่ายสวยไรเล๊ยยย 
ในรูปนี่ใช้ Canon 70D + 50 1.8 ครับ เลนส์ถูกๆนี่แหละ รูปนี้น่าจะถ่ายที่ 1.8 - 2.8 นี่แหละ จะไม่ได้แน่ชัด

แต่โดยปกติถ้าเลนส์ระยะ 50mm ขึ้นไป หลังจะเริ่มละลายแล้วครับ ส่วนรูปรับแสง ควรจะอยู่ไม่เกิน 4
ซึ่งส่วนใหญ่เลนส์คิทส่วนใหญ่จะทำไม่ได้สวยเท่าไรครับ 

พี่สมเกียรติหาเลนส์ 50 f1.8 มาใช้เลยครับ ราคาไม่แรง แถมระยะถ่ายคนสวยด้วยจ้าา

1. ปรับรูรับแสงให้กว้างๆครับ ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ เช่น F ต่ำสุดคือ F 3.0 ให้ปรับให้ต่ำสุดไปเลย

2. พยายามปรับระยะให้ไปไกลที่สุด ระยะยิ่งไกลยิ่งช่วยในการละลายหลังมาก ถ้ามันสุดที่ 60mm มันบิดไปที่ 60 เลย 

3. ขยับเข้ามาใกล้วัตถุอีกหน่อยจะช่วยได้

หมายเหตุ:: การปรับ F ต่ำเกินไปทำให้ Dept of field(มันจะน้อย) ทำให้ควบคุมการ Focus ยาก ให้ลองเพิ่มระยะเลนส์ดูครับตรงนี้ช่วยได้ 

หาเพิ่มระยะเลนส์มากเกินไปทำให้มุมมองภาพมันแคบ ดังนั้นให้ลอง Balance ระหว่างค่า F กับ ระยะเลนส์นะครับ โชคดี ครับผม

อันนี้เลนส์ 50mm F1.8  ถ่ายที่ 1.8 เลยครับ เน้นกล้องให้เข้าใกล้วัตถุมากๆหน่อย หาดวงไฟเยอะๆด้านหลังครับ

เอาตัวอย่างมาให้ดูครับ ใช้ Lens Kit ครับ ถ่ายมา ระยะจากหูฟังถึงจอ ประมาณ 1 ฟุตครับ
เป็นรูปดิบๆ หลังกล้องเลยครับ convert จาก RAW เป็น JPG แล้วย่อแค่นั้นครับ

ส่วนรูปนี้เป็น parameter ของกล้องครับ
ผมเปิด f/5.6 ครับ speed 1/30 sec ISO3200 (ไฟที่บ้านมืดไปนิดครับ)
ระยะเลนส์ kit ผมเป็น 28-50 f/3.5-5.6 ครับ เลยซูมหมดเลยครับ

Lr กับ photoshop โปรแกรมไหนแต่งภาพดีกว่ากันครับพี่. Macครับ กำลังหัดครับ

แต่งภาพต้อง PS ครับ เพราะ LR ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการแก้ไขภาพหรือตกแต่งจุดด้อยของภาพครับ แต่ก็ทำได้คับทว่าคงไม่ดีเท่า PS ครับ
LR ออกแบบมาเหมือนกับร้านล้างรูปสมัยก่อนครับ ที่ล้างจากฟีมส์ในม้วนออกมาเป็น Negative มากกว่า แลัวถึงอัดแตกตกแต่ง
ง่ายๆ ​LR ออกแบบมาเพื่อล้างฟีมส์ครับ แต่งต้อง PS ครับ

ปล. อันนี้ส่วนตัวล้วนๆ ครับ เพราะผม ทำภาพโยนกลับไป กลับมา PS กับ LR ตลอดครับ

Photoshop จะเน้นตกแต่งแก้ไขรายละเอียดภาพ แก้ฝุ่น แก้ Noise ตัดแต่งภาพครับ
ส่วน Lr เน้นแก้ไขสี แสง และให้ Picture Style ต่างๆที่เป็นสำเร็จรูปได้ง่ายกว่าครับ

หน้าชัดหลังเบลอ คือคำที่เราได้ยินบ่อยๆ ปกติส่วนมากการถ่ายภาพบุคคลมักจะชอบการถ่ายแนวๆๆนี้ครับ

ของใหญ่ขนาดลำโพงแบบนี้ก็จะคล้ายๆการถา่ยภาพคนครึ่งตัวครับ ต้องเลือกใช้เลนส์ที่ทางยาวมากหน่อย 35 มม.ก็กล้อมแกล้มเบลอได้ แต่ถ้า 50 มม หรือ 70-100 จะยิ่งทำให้ฉากหลังละลายได้ดีขึ้น

และที่สำคัญคือค่ารูรับแสงครับ เลนส์บางตัวรูรับแสงไม่กว้างพอ ระยะชัดตื้นมันจะไม่มากนัก รูรับแสงควรจะกว้า่งที่สุดเท่าที่จะหาได้ พวก F1.4, F2 รูรับแสงแถวๆนี้ถ่ายได้ดีทุกตัวครับ

ขอบคุณพี่ @พี่หมูหวาน และ@cafe ครับ

ตอนนี้กำลังหัดครับ. แต่งภาพ และทำสไลด์วิดีโอครับ

ภาษาปะกฤษ ก็ไม่แข็งแรง. ต้องเปิดดิไปทำไป มึนตึบครับ

เปิดรูรับแสงให้กว้างที่สุดเท่าที่เลนส์ตัวนั้นจะทำได้  จัดวางสิ่งจะจะถ่ายให้ห่างจากฉากหลังให้มาก  ระยะถ่ายไม่เกิน 1 เมตร  สปีดชัตเตอร์ให้เหมาะสมกับความยาวโฟกัสของเลนส์  iso ต่ำๆเพื่อให้ภาพไม่มีนอยส์

ใน p9 มีโหมดถ่ายแล้วมาปรับรูรับแสงให้แคบให้กว้างและเปลี่ยนจุดโฟกัสได้หลังจากถ่ายภาพครับ(น่าจะเป็นการปรับโดยใช้ซ้อฟแวร์)แต่ไม่เนียนเท่าDSLR

จะเลิกใช้ DSLR กะ Mirrorless เพราะ P9 นี้หละครับ 
บาดใจนัก

ช่วงหลังๆมาผมก็มักใช้ p9 plus มันละลายสวยไปอีกแบบ

V20 ก็พอไหวนะครับ ^^

P9 เพื่อนผมใช้อยู่ครับ เวลามันเบลอฉากหลังมันเหมือนใช้ Software แต่งให้ครับ
เลยดูแล้วเบลอแบบไม่มีตื้น ไม่มีลึก มันยังดูหลอกๆนิดนึงในสายตาผมนะ 

P9 plus จะใช้กล้องคู่ตัวนึงถ่ายชัด อีกตัวถ่ายเบลอแล้วมาประมวลผลรวมกัน อาจจะไม่เนียนเท่ากล้องโปร  แต่ก็ถือว่าเยี่ยมสำหรับกล้องมือถือ

ผมก็ใช้ huawei p9 ครับ 
เบลอด้วยซอร์ฟแวร์มันก็จะไม่เนียนเหมือนธรรมชาติเลนส์ครับ
ค่าที่กล้องเลือกให้เราจะเบลอเยอะแล้วรู้สึกหลอนๆ
แต่เราสามารถเลือกค่ารูปรับแสงให้แคบลงเพื่อทำให้ระยะเบลอด้านหลังมันดูสมจริงขึ้นได้อีกนิด
ค่าสัก f11 f13 จะรู้สึกใกล้เคียงกล้องจริงๆครับ

ส่งภาพใหม่  ลองปรับรูรับแสงค่าเบลอของ huawei p9 ที่ประมาณ f11 f13 ครับ 
จะดูเนียนขึ้น

p9 อีกทีครับ ค่ารูรับแสง  หรือปริมาณความเบลอ เลือกให้ f เยอะหน่อย ก็ดูไม่ขัดความรู้สึกมาก

จึ๋ย เดี๋ยวนี้มือถือหลังเบลอได้ด้วยหรือนี่ 555

iPhone ก็ทำได้. 

ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่4

ภาพนี้ถ่ายประมาณเดือนได้แล้ว

จำไม่ได้ว่าได้ใช้แอปแต่งภาพเปล่าครับ

IPhone 5s  
iPhone 7+ จะเบลอดีกว่านี้ครับ

หมดกันๆ ย้ายค่ายไป P9 เลยดีมะเนี๊ยะ
ว่าจะสอย DX200 ซะหน่อย ตอนนี้เริ่มลังเลละครับ 
ขี้เกียจแบกกล้องละ. หนักมาก

หลักการง่ายๆของ การชัดตื้น หรือ หน้าชัดหลังเบลอ ที่นิยมเรียกกัน ก็คือ ปรับกล้องไปที่ A mode หรือ Aperture Priority คือเราปรับ รูรับแสง (f stop) เอง ส่วนกล้องจัดการเรื่องความเร็วชัตเตอร์ (shutter speed) ให้อัตโนมัติครับ

ส่วนการปรับรูรับแสง ก็เปิดที่กว้างสุดที่เลนส์ตัวนั้นสามารถทำให้ได้ โดยส่วนใหญ่ก็จะ 1.8, 2.0 หรือ 2.8 เป็นต้น หรือพวกเลนส์ดีๆ เช่น ไลก้า อาจจะไปได้ถึง f1.4 หรือ f0.95 (ในเลนส์ 50mm) ครับ

วิธีการถ่ายที่ทำให้ได้ภาพหลังเบลอได้สวยก็คือ 
ให้ระยะกล้องกับแบบ อยู่ใกล้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือใกล้ระยะ minimum focus ของเลนส์ตัวนั้นๆครับ ส่วนฉากหลังก็ขอให้ห่างจากตัวแบบไปค่อนข้างมากหน่อย ก็จะเห็นความเบลอชัดเจน โดยเฉพาะด้านหลังห่างมีดวงไฟ หรือ ช่องแสงตามใบไม้ ก็จะได้ bokeh (โบเก้) ที่หลายๆคนชอบครับ

ส่วนความเบลอหรือ bokeh ก็จะเปลี่ยนไปตามทางยาวของเลนส์ด้วยครับ ยิ่งเทเลมาก เช่น 90, 135, 200 ก็จะเห็นชัดตื้นได้ง่ายขึ้น และแบบก็ไม่ค่อยผิดสัดส่วน เช่น หน้าบานเมื่อถ่ายใกล้ๆ เหมือนกับเลนส์ที่ทางยาวต่ำกว่าครับ
แต่โดยปกติ ระยะตั้งแต่ 50mm ขึ้นไปก็สามารถถ่ายให้เห็นหลังเบลอหรือชัดตื้นได้แล้วครับ (ต่ำกว่า 50mm ไม่แนะนำ เพราะจะเห็นความชัดตื้นไม่มาก และรูปจะผิดสัดส่วนได้มากกว่า)

ส่วนความสวยของภาพ ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการถ่ายของแต่ละท่าน (รวมถึงเบสิคการถ่ายภาพต่างๆ เช่น speed shutter, iso, etc) และคุณภาพของกล้องและเลนส์ที่ใช้ครับ :)

ตัวนี้คือเลนส์ Fix ที่บอกรึเปล่าครับ 

ใช่แล้วครับพี่สมเกียรติ รุ่นนี้เลยที่ผมใช้ที่ร้าน ปรับ F1.8-2.0 หาดวงไฟด้านหลังรับรองโบเก้มาแน่ๆจ้าา 555

ขอบคุณน้า Santa ด้วยครับ ที่เข้ามาช่วยแชร์วิธีการถ่ายภาพให้ได้โบเก้ที่สวยงาม ^^

อีกอย่างนึง  ถ้าใช้กล้อง FF จะเบลอและได้โบเก้ที่สวยงามกว่าครับ CANON 6D + EF135L 

ไปยืม Len Fix ของเพื่อนมาลองหัดถ่าย แต่ยังไม่มีโบเก้

เห็นกระทู้นี้แล้วอยากได้กล้องเลยอ่ะ 

ต้องมีหลอดไฟ  แสง ร่มไม้ที่มีแสงลอดผ่าน  และห่างจากฉากหลังให้มากขึ้นอีกครับ
อีกสักภาพ CANON 6D+ เลนส์ EF50 f1.2L

ปล. ผมก็ยังมือใหม่หัดถ่าย

ฉากโบเก้ข้างหลังที่เป็นดวงไฟสีสวยๆนี่ใช้อะไรทำครับ

ภาพนี้มันเบลอแบบไร้มิติอย่างพี่หมูหวานว่าเลยครับ จะใกล้หรือใกลก็เบลอเท่าๆกันหมด

ภาพหน้าเบลอ/หลังเบลอ มันคนละความหมายกับคำว่า DOF นะครับ
และการจะเบลอมากหรือน้อยก็ไม่เกี่ยว(โดยตรง)กับ DOF ด้วย(DOF คือระยะชัดของตัวแบบว่าจะชัดแบบแคบๆหรือกว้างๆ ..ถ้าชัดแคบจะคุมโฟกัสยาก ถ้าชัดกว้างจะคุมง่าย)
ส่วนการจะเบลอฉากหลัง/ฉากหน้ามากหรือน้อยหลักๆขึ้นอยู่กับ
1.ค่ารูรับแสงหรือค่า F เปิดกว้างจะละลายมาก เปิดแคบจะละลายน้อย
2.ระยะทางยาวของเลนส์
3.ระยะห่างระหว่างเลนส์กับตัวแบบ และตัวแบบกับฉากหลัง
และไม่ว่าจะเป็นเลนส์ฟิกซ์หรือเลนส์ซูม แต่ถ้าระยะของเลนส์เท่ากันและเปิด f เท่ากัน การละลายจะเท่ากันครับ เพียงแต่เลนส์ฟิกซ์มันจะให้ภาพที่ใส คม และมีมิติมากกว่า
ปล.ผมก็มือสมัครเล่นนะครับ แฮ่ๆ

v20 ของผมพยายามเล่นฉากโบเก้ข้างหลังครับ 555

ตามที่คุณ Salek ว่าเลยครับ เสริมนิดนึงว่าถ้าเป็น Lens Macro โดยเฉพาะ DOF มันจะชัดตื้นกว่าครับ
ผมเคยใช้ 60 Macro เปิด F8 มันยังชัดตื้นมากเลย ต้องเร่งแสง เร่ง ISO กันยกใหญ่เพื่อให้ดันไปถึง F11 ได้ 5555

พี่สมเกียรติครับ ที่เป็นไฟด้านหลัง มันจะเป็นหลอดไฟลำไยครับ เป็นพวงๆ มันจะมีสีส้ม สีขาว ส่วนสีฟ้ามันเป็นสีของ LED สีฟ้าครับ

ถ้าพี่อยากถ่ายโบเก้ ต้องพวกหน้า Central world ที่มีดวงไฟ หลอดไฟเยอะๆอ่ะครับ มาตรึมแน่ๆ

แค่ปรับ f stop ให้เลขน้อยๆ เข้าไว้ครับ นอกนั้นก็ตามที่หลายท่านได้กล่าวไว้แล้ว


ภาพนี้ถ่ายจากกล้องฟิล์ม OLYMPUS PEN EED เลนส์ Zuiko f1.7

ภาพนี้กล้องฟิล์มเหมือนกัน minolta AL-E  f1.8