Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

earbud vs in ear vs fullsize อั้นไหนทำลายหูน้อยสุดครับ

Taptoyp

05/01/2017 22:56:38
รบกวนเปรียบเทียบให้ทีครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

นายมั่นคง

05/01/2017 23:15:04
4,294
ถ้าตอบตรงๆเลย ทั้ง 3 อย่างทำลายหูได้พอๆๆกัน ถ้าเปิดดังจนเกินระดับการฟังปกติครับ เพราะโดยปกติแล้วรูปทรงหรือขนาดที่ใช้กลับไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่ปัญหาหลักที่ทำลายก็คือการเปิดดังนี่แหละ

และถ้ามามองเรื่องการสวมใส่ ความสบาย  Fullsize อาจจะทำอันตรายน้อยกว่าพวก inear ซึ่งพวกฟูลไซส์มันไม่ไปยุ่งอะไรกับภายในหู แต่พวก inear นั้นบางทีอาจจะสร้างความระคายเคืองในการสวมใส่ครับ

ดีที่สุดคือต้องเช็คเรื่องความดังในการฟัง ไม่ว่าหูฟังประเภทไหนก็ตามทีครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 4
ความคิดเห็นที่ : 2

NonXtreme

06/01/2017 01:38:28
11

ถ้าเกี่ยวกับการได้ยิน
ผมว่าไม่ต่างกันครับ ถ้าเปิดด้วยระดับความดังที่ได้ยินเท่ากัน
เพราะแก้วหูมันไม่สนใจหรอกครับว่าหูฟังที่ใส่มันรูปร่างเป็นยังไง อยู่ใกล้หรือไกลจากแก้วหูแค่ไหน ตราบใดที่เสียงที่ถึงตัวแก้วหูมันดังเท่ากันจะเป็น earbud, inear หรือ full size ก็ทำลายหูเท่ากัน

แต่ถ้าด้านอื่นด้วย บางคนอาจจะใส่ in ear ไม่ได้เพราะรำคาญ ไม่สบาย ขี้หูไหล อันนี้ก็แล้วแต่คน

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

TTPOD ZERO

06/01/2017 09:50:28
11
ถ้า จะ เซฟแก้วหู ก้ ฟังบ้าง พักบ้าง ถอดหูฟัง ออกมพัก หูบ้าง ไปทำ ธุระอื่น กิจกรรมอื่น บ้าง ก้ ได้ เช่น ห้องน้ำ รับประทานอาหาร + น้ำ พอ 1-10 นาที ค่อยมาฟังต่อ ก้ ได้ เป็นการ พักแก้วหู ไปในตัว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

ake9199

07/01/2017 02:19:10
228
ผมว่าระดับเสียงที่ฟังและระยะเวลาที่ฟัง มีผลต่อการทำลายหูมากกว่าลักษณะหูฟังครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 5

คนที่ผ่านทางมา

07/01/2017 02:29:00
ผมว่า in ear น่าจะทำร้ายหูเราน้อยสุดนะครับ เพราะเหมือนจิ้มเข้าไปในหูลึก ทำให้ไม่ต้องเปิดเสียงดังมาก

เทียบกับ earbud ที่ใส่เข้าในร่องหู ทำให้มีเสียงสอดแทรกเข้ามามาก จับรายละเอียดไม่ค่อยได้ ต้องเร่งเสียงดังๆช่วย (จะเห็นได้ว่าคนรอบๆข้างแทบจะได้ยินเราด้วย ถ้าเปิดในที่แออัดแบบ BTS แทบจะได้ยินทั้งหัวขบวน)
ให้กำลังใจ 1
หยิกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 6

Narishane

09/01/2017 00:02:37
158
ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ถูกผิดไม่ยู้นะคับ ผมแค่พยายามสังเกตและหาข้อมูลอ่านด้วยความสงสัยมาอยู่เนืองๆ โดยสรุปแล้วตัวผมเองมีปัญหากับ dynamic driver ทั้งแบบ earbud และ IEM ครับ ฟังในระดับเสียงดังปกติ (เมื่อเทียบกับ full size และ earbud, iem ด้วยกัน) แต่กับ dynamic driver ที่เป็น full size อันนี้ยังไม่แน่ใจเท่าไร คิดว่ามีปัญหาน้อยกว่าโดยเปรียบเทียบกับ earbud, IEM ครับ

อาการที่เป็นปัญหาของผมนะครับ คือจะมีเสียงวิ้่งๆให้ดู ไม่รู้เป็นอะไร้... จริงๆก็รู้แหละ มันคือประสาทหูเสื่อม อธิบายตามนี้ครับ ของผมเป็นประเภทหนึ่งคือได้ยินเฉพาะตัวผู้ป่วยเอง

http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=805

มีช่วงนึงใช้ pk1 pk2 มากไป (ราวปี 2014) หูวิ้งดังมาก คิดว่าต้องเลิกฟังหูฟังไปตลอดชีวิตละ แต่พอพักหูไปประมาณครึ่งปีก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ไปหาหมอ หมอบอกว่าโชคดีที่ประสาทหูฟื้นฟูตัวเองได้ (บางคนได้บางคนไม่ได้) หลังจากนั้นเลยเปลี่ยนมาเล่น full size แทนครับ ใช้ LCD-X อยู่ประมาณปีกว่า เปิดฟังแบบดัง และนานมากเลยนะ 5-6 ชม เลยครับบางวัน ผลปรากฏคือ เออ มันไม่วิ้งเลย สบ๊ายย สบายยยหู (แค่หนักคอ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ตระกูล LCD) ทีนี้เลยคิดว่า COME BACK! แล้วสินะชั้น เลยกลับมาเล่นหูฟังเต็มตัวช่วงปีที่แล้ว

โดยในปี 2016 ได้ขาย LCD-X ไปแล้วมาสาย IEM ต่อครับด้วยหน้าที่การงานมันพอฟังระหว่างวันได้เรื่อยๆ ใช้ SE846 ตามด้วย Noble K10 มาเกือบทั้งปี ชีวิตดีนะ เสียงวิ้งไม่กลับมาแล้ว แต่สุดท้ายพอขาย K10 ไปเพื่อทำคัสต้อม ช่วงเดือน ธค ที่ผ่านมาเลยเปลี่ยนไปเล่นหูต่างๆหลายตัว ซึ่งล้วนเป็น Dynamic driver ทั้งนั้นเลย ทั้ง earbud และ IEM ... ปรากฏไม่ถึงเดือน เสียงวิ้งมันกลับมาอีกแร้ววว ล้อนน หลอนนนน เลยเลิกฟังยาวเลยครับ ขายทิ้ง,ยกให้แฟนไปใช้เลย

ผลจากการพักหูมาเดือนนึงก็ให้ผลดีนะครับ เสียงวิ้งเริ่มหายไป นานๆทีมีแอบฟัง ATH W3000 บ้างเล็กน้อย แบบพยายามฟังไม่นานครับ

ข้อสรุปจากประสบการณ์ส่วนตัว ที่ฟังเสียงดังปานกลางและนาน มาหลายปี มีดังนี้ครับ

1. Planarmagnetic driver ดีต่อหูผมม้ากมากก (เท่าที่เคยอ่านหลักการมา เดาว่าเป็นเพราะไม่มี distortion หรือความเพี้ยน ที่ทำให้เกิด sibilant หรือเสียงเสียดแทรก พวก ซ ทร สสส เลย)

ข้อสังเกตหนึ่งของผมคือ พวกหูฟังชนิดๆอื่นๆบางตัวอาจมี sibilant เยอะแต่ด้วยวิธีการจูนเสียงที่ดี ด้วยการเพิ่มเนื้อเสียงกลางหรือเบสมากลบ sibilant เหล่านี้ไป จะทำให้เรารู้สึกว่าฟังแล้วสบายไม่แสบหู แต่จริงๆแล้วเสียงเสียดแทรกเหล่านี้ยังคงถูกผลิตออกมาอยู่ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่โดนความคลื่นถี่ต่ำมากลบไปนั่นเอง (อันนี้ คหสต นะครับ ลิ้งด้านล่างบอกแค่ว่าด้วยหลักการแล้ว Planar แทบจะเป็น distortion free ซึ่งมันก็ดี๊ดี แฟนๆ Audeze, Hifiman คงเข้าใจกันอยู่)

Ref: http://www.trustedreviews.com/opinions/dynamic-vs-planar-magnetic-drivers






2. Balanced Armature ก็ยังปลอดภัยสำหรับหูผมอยู่ เดาว่าเป็นเพราะขนาดที่เล็กและประสิทธิภาพที่สูงของ driver (efficiency ที่สูงคือการบริโภคพลังงานที่น้อย และสามารถ reproduce เสียงที่ดีได้ คือมีส่วนสูญเสียน้อยนั่นเองแหละครับ) ด้วยความที่มีส่วนสูญเสียน้อย ผมเลยเข้าใจว่าคลื่นความสั่นสะเทือนอันเป็นผลพลอยได้ (หรือส่วนสูญเสีย) ก็น่าจะน้อยลงเช่นกัน เลยทำให้หูผมได้รับพลังงานจลน์จากเสียงน้อยลง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายน้อยลงเมื่อเทียบกับ Dynamic driver

Ref: http://www.innerfidelity.com/content/how-balanced-armature-receiversdrivers-work#TVXO1b8zvGx6LLH9.97






แล้วลำโพงล่ะ? ผมใช้ KEF X300A ครับ วางเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าจากตัวผมด้วยระยะประมาณ 1.2 เมตรต่อด้าน ถ้าเปิดดังๆล่ะก็ ชิบหายอยู่ดีครับ 555 หูวิ้งมันไปอีกสักสามวัน ข้อนี้สรุปว่าสำหรับผม ต่อให้ไม่ใช่หูฟังแปะข้างหู ถ้าฟังเสียงดัง (คือดังเลยนะ เปิดแบบโต๊ะแทบสั่น) หูที่น่าทะนุถนอมของเรามันก็โบยบินไปได้อยู่ดี (T- T'')






โดยสรุปแล้วพยายามหัดฟังเสียงเบาๆดีกว่าครับ ได้ผลดีในระยะยาว อยู่ฟังกันไปนานๆเนอะ

ps. ตามข้อสังเกตที่ผมได้พูดมา เทรนด์ใหม่ของ IEM แบบระบายเสียง (หรือระบายแรงสั่นสะเทือน) เพื่อถนอมหู น่าจะเป็นวิธีแก้ไขที่ดีและตรงจุดนะครับ สังเกตจาก series ใหม่ของ Westrone AM series และ 1964 Adel แต่ตัวที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นความหวังที่สุดสำหรับคนหูอ่อนแอแบบผม คงต้องเป็น Audeze iSINE แน่ๆ! เพราะมันเป็น open IEM เลย แถมยังใช้ Planarmagnetic driver จากผู้ผลิตชื่อเก๋าที่พวกเราไว้ใจ ถ้าไม่ติดว่าสั่งคัสต้อมไปแล้วยังไงก็คงต้องซื้อแน่ๆ แถมแนวเสียงยังเป็นแบบ LCD-X อีกจากคอมเม้นท์บางท่านที่ผมอ่านมา :D
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 26
ความคิดเห็นที่ : 7

Salek

09/01/2017 21:25:32
187
ความดัง(เดซิเบล)ที่เกินระดับปกติคือตัวทำลายหูเราครับ
ถ้าเปิดในที่เสียงดัง เอียร์บัดและฟูลไซส์(แบบเปิด)น่าจะทำลายหูมากกว่าอินเอียร์และฟูลไซส์(แบบปิด) เพราะต้องเร่งเสียงให้ดังมากกว่าปกติ(เพื่อที่จะให้ได้ยินเสียงเพลง)แข่งกับเสียงที่ดังรอบข้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอินเอียร์และฟูลไซส์(แบบปิด)ก็ควรจะพักหูเป็นระยะๆด้วยนะ
แต่ถ้าฟังในที่เงียบผมว่าเอียร์บัดและฟูลไซส์แบบเปิดน่าจะเวิร์คสุด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 8

ตั้ม ตั้ม

09/01/2017 23:05:30
94
ขอซักคำถามน่าจะพอไปได้กับกระทู้นี้

ผมมีรุ่นน้องไม่ได้เล่นหูฟัง แค่ชอบฟังเพลง เค้าขอฟังชุดของผมซึ่งผมคิดว่ารายละเอียดมันค่อนข้างชัดเจนนะคับ ผมก็เปิดไฟล์ 24bit ให้เค้าฟัง เค้าบอกเสียงมันตีๆกัน พอดูน้องเค้ากดความดังเกือบสุด

แล้วเค้าก็ยืมหูฟังผมไปฟัง joox ที่ความละเอียดแบบต่ำ แล้วบอกว่าเอ่อของพี่ดี

ผมสงสัยว่าเค้าฟังดังไปจนหูมันแยกรายละเอียดไม่ได้ หรือเค้าไม่รู้จะจับรายละเอียดเสียงตรงไหนกันแน่คับ

พึ่งเจอคนแรกที่บอกว่า Mp3 Joox เพราะกว่า 24bit "นี่ผมจะเสียเงินซื้อไฟล์มาทำไมเนี่ย"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

Bank Piti

10/01/2017 10:48:39
1
ตอนนี้ ผมกำลังเจอปัญหาอยู่เลย ผมใช้ inear เป็นคนเปิดเสียงดัง และฟังนาน ตอนนี้หมอให้งดใช้ชั่วคราว อาการตอนนี้เสียงวี๊ดตลอดเวลา บางจังหวะเหมือนเอาไมล์ไปจ่อลำโพงจนสดุ้งเอียงหลบเสียงในหูตัวเอง เรื่องเสียงนี่สำคัญจริงๆ แต่ไม่รู้จะฟังให้สนุกยังไงถ้าไม่ฟังเสียงดัง.คงพักหลายเดือนเลยตอนนี้ 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

httBankenstein

11/01/2017 17:53:43
14
ผมใช้ A25 แรกๆผมเปิดระดับ 12 หลังๆมา ลดเหลือ 9 แล้วครับ
รู้สึกแบบ จริงๆไม่ต้องเปิดขนาดนั้นก็ได้นี้หว่า 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"earbud vs in ear vs fullsize อั้นไหนทำลายหูน้อยสุดครับ"