จริงสิครับ ผมเองก็ไม่ใช้ EQ ใน iPod
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้ ปรับ EQ ตามแบบที่ชอบ แต่พอหันมาเล่น Gadget พร้อมอุปกรณ์ ที่พร้อมในประมาณนึง เริ่มเปลี่ยนแนวทาง หลักจากได้สัมผัสรายละเอียดของเสียง ที่ได้เห็นได้ฟังมากกว่าเนื้อร้อง ทำนองเพลงตามปกติแล้ว สิ่งที่คุณจะได้ยิน หรือได้รับคือ เทคนิค MixDown ที่เป็นเสน่ห์ เห็นได้ชัดๆ ก็น่าจะเกี่ยวกับกำหนดจุดแหล่งกำเนิดเสียง และเทคนิค การแพน การย้ายจุดของแหล่งกำเนิดเสียงต่างๆ มากมาย(ถ้าเป็นแนว Electronic ที่เน้นเรื่องมิติ มากกว่าจุดเล่นของนักดนตรี) แค่นี้ก็สนุกพอ ไม่จำเป็นต้องปรับลักษณะเสียงให้หนักหรือ ส่วนผสมเสียงที่แปลกออกไป เดิมๆ ก็เหลือๆ แล้วครับ การปรับ EQ อาจช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ การเน้นเครื่องดนตรีบางเครื่องให้เด่นชัดออกมาได้บ้าง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ Producer , Sound Engineer , Mix Down คิดและออกแบบมาตั้งแต่แรก คือจุดที่คนเหล่านี้ ต้องการนำเสนอ ในรูปแบบ งานของเค้า ซึ่่งก็ทำให้ได้เห็นฝีมือของคนพวกนี้อย่างเป็นจริง เป็นจังมากขึ้นด้วย

อิอิ ไม่รู้อธิบายมา เรื่องเดียวกันป่าว อันนี้แค่ความเห็นส่วนตัวเน้ออออ

ลองเอาพวกหูมอนิเตอร์มาฟังสิครับ ต้องพึ่งEQในทันที ไม่งั้นเลี่ยนซะจะอ้วก มันจะflatไปไหน เพลงเค้าเน้นมามันก็ยังflat

EQ นั้นเป็นเหมือนพวงเครื่องปรุงของก๊วยเตี๋ยวล่ะครับ คือบางคนกินก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุงไม่ได้จริงๆๆ แต่หารู้ไม่ การปรุงรสชาติหนักๆๆ จะทำให้เราไม่รู้รสมือดั้งเดิมของแม่ครัวครับ

เพลงที่บันทึกมาดีๆๆ มักจะมีการซ่อนเทคนิคการบันทึก การวางตำแหน่งชิ้นดนตรี และรวมถึงการไล่น้ำหนักอ่อนแก่ของเสียงให้เราอย่างดี แต่พอจัดด้วย EQ มันจะโดนความเพี้ยนส่วนหนึ่งกลบไปทันทีเน้อ...

แนะให้ฝืนนิดนึงครับ คือขอให้ OFF ไปเลย แรกๆๆ จะรู้สึกว่าฝืดหน่อย คือจืดๆๆ แต่พักเดียวล่ะครับ รับรองว่ากลับมาเปิด EQ ต่อไม่ได้แน่ และผมกระซิบว่า พวกแผ่นดีๆๆ ที่ซาวด์เอ็นจิเนียระดับพระกาฬเวลาเค้าจัดวางให้เราฟัง มันให้รสชาติอร่อยสุดๆๆๆ เลยจ้า

ปิดเลย ปิดเลย EQ 5555

ขอบคุณครับ เฮีย ต้องไปฟัง Flat กันแล้ว...

ผมปิด EQ เพราะเฮียแนะนี่ล่ะครับ

รู้สึกเสียงซ่อนเร้นได้ยินชัดขึ้น ^^ แรกๆฟังแล้วทำไมเสียงอะไรมันขาดๆไปอยากปรับคืนมากๆ

ฝืดๆๆ หน่อยครับช่วงแรก ใครที่ติด EQ แล้วเลิกใช้ อาการก็พอๆๆ กับอดบุหรี่ล่ะ มือมันคอยจะเปิดอยู่ร่ำไป แต่พักเดียวกับ อาการลงแดงก็จะหายไปเอง

คราวนี้ฟังแผ่นที่บันทึกดีๆๆ ซาวด์เอ็นจิเนียเก่งๆๆ เค้าจัดวางตำแหน่งดนตรี วางไมโครโฟน โอ้ โฮ ฟังไพเราะกว่ากันเยอะจ้า 555

คนที่เล่นเครื่องเสียงมานานๆๆ ไม่มีใครใช้ EQ แน่นอนจ้า 555

เห็นด้วยกับเฮียครับ ผมเล่นเครื่องเสียงบ้านมา ก็ติดการฟังแบบ Flat เหมือนกันครับ

เห็นด้วยกับเฮียครับ โดยทั่วไปแล้วก๋วยเต๊่ยวที่รสชาดหวานน้ำต้มกระดูกที่อาเฮียเจ้าของร้านปรุงมาให้นั้นอร่อยได้อย่างกลมกล่อมเป็นที่สุดแล้ว ปรุงเพิ่มไปอาจจะทำให้รสชาดผิดแปลกไป ฉันใดฉันนั้น ในสภาพที่หูเรานิ่งสงบที่สุด ผมคิดว่าแผ่นที่บันทึกมาดีถ่ายทอดผ่านลำโพงดีๆเสียงที่ได้นั้นมักจะลงตัวและกลมกลอ่มเป็นที่สุดแล้ว จะปรับไปก็เสียของครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่ของแบบนี้ลางเนื้อชอบลางยาครับ บางคนหูหนัก หูนิ่ง หูสารพัดหูก็อาจชอบไม่เหมือนกันเป็นธรรมดา แต่สำหรับผมผมว่าปิดequalizer ไปเลยดีกว่าครับ

สมัยก่อนในไอพอดจัดแต่ เบสบูสเตอร์ ปัจจุบัน Off เรียบร้อย
แต่ ในไอทูน เปิด แบบปรับเอง เน้น เอามันส์ ฮ่าๆ

บอกตามตรง ผมเองเป็นคนกินอาหารแล้วไม่ยอมปรุงครับ ปรุงในที่นี้หมายถึง ประเภทเค้ายกก๊วยเตี๊ยวมาวางตรงหน้า ไม่ทันอะไร ยกน้ำปลา พริกน้ำส้ม น้ำตาล พริกป่นเติมเอาๆๆๆๆๆ

แบบนี้พ่อครัวเสียฟอร์มหมด 5555


จะบอกอะไรให้ การทำอาหารนั้น รสมือเดิมๆๆ ของพ่อครัวคือตัวตัดสินว่าพ่อครัวเก่งหรือไม่เก่ง การเติมความเค็มหวาน ทำให้รสชาติเพี้ยนไป ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าเราฟังเพลงแบบเปิด EQ เต็มๆๆ รับรองว่าฟังสนุกแค่แว่บแรก หลังจากนั้นก็เซ็งและเบื่อ

เอ้า มาร่วมรณณรงค์ให้ฟังกันแบบปิด EQ เน้อ 5555

แต่เรื่องกินอะไรไม่ค่อยปรุงเหมือนกันล่ะครับ (ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ครับ)

พอตอนหลังปิด eq แล้วรู้สึกเสียงเพราะขึ้นอ่ะครับ

พอกลับมาเปิด eq อีกครั้ง รู้สึกมันบวมๆ เหอๆๆๆ

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะตอนเบิร์น Grado sr80i ล่ะครับ

ที่ยิ่งใช้เสียงยิ่งเพราะนะรู้สึกว่า ไม่รู้หลอนรึเปล่า อิอิอิ

ผมว่า ฟังกันแบบปิด EQ ก็ไม่ flat เสมอไปครับ

เพราะหูบางตัวมัน color มากๆ เช่น ATH-ES7 ปิด eq เหมือนฟังแบบ เปิด eq rock