การที่แถมตัวแปลงมานั้น มองในแง่ดีคือไม่อยากให้ผู้ใช้เกิดอาการสะดุด คือยังไงก็ยังสามารถใช้อุปกรณ์เดิมๆไปก่อน ผมยังเชื่อว่าจะยังคงแถมไปอีกจนถึงไอโฟน 9 หรือ 10 555

และรอจนกว่าตลาดหูฟังไวร์เลสเบ่งบานเต็มที่ ผมเชื่อว่าคราวนี้ตัวแปลงก็ไม่แถมแล้วครับ

ผมคิดว่าแอปเปิ้ลนั้นยังคงมีความกล้าในการจะเปลี่ยนแปลงครับ เพราะถ้าไม่ปรับออก จินตนาการต่างๆที่กำลังพรั่งพรูก็จะถูกจำกัดด้วยพันธนาการของรู 3.5 มม.ครับ เราถือว่าเราเล่นไปเปลี่ยนตามเค้าไปก็แล้วกันนะครับ 555

ผมเองก็ไม่ซื้อไอโฟน 7 เพราะว่ายังขี้เกียจปรับตัวตอนนี้ 555

คือแทนที่จะใช้ช่อง usb ผมว่าพัฒนาเป็น 2.5 balance ดีกว่าเยอะ ไม่เข้าใจเหมือนกันจริงๆ

ถ้าต้องปรับตัวจริง ผมก็คงซื้อ DAP android แยกแทน ส่วนมือถือก็ใช้แค่ฟังก์ชั่นมือถือไป

หลังๆเค้าคงเน้นการใช้งาน การปรับแต่ง EQ ทาง APP ในหูฟัง และลูกเล่นพวก Noise Cancelling มากขึ้นครับ

ก็ดีครับ จะได้มีการพัฒนาทางด้าน Bluetooth สำหรับ Audio Grade มากขึ้น อย่างเช่น  Aptx HD จะได้แพร่หลายมากขึ้น

ต้องถามผู้ผลิต DAP ตัวละ 30K มากกว่าทำไมถึงไม่ยอมทำให้มันโทรได้
ถ้า Dap โทรได้ก็จบ

ก็เห็นว่ามี onkyo มี prototype ว่าจะทำครับ แต่ไม่รู้จะผลิตปีไหนแน่ 

ถ้าถึงยุคหูหังไร้สายจริงคงจะได้เห็นนักร้องใช้กันครับ
ถ้านักร้องนังต่อ 3.5 ต่อไปผมคงใช้ Hero +dap แทนดีกว่า

เห็นด้วยมากๆครับ เชื่อว่าสักวันต้องมาถึง

DAP ที่โทรได้กับ โทรศัพท์ที่ฟังเพลงดีๆได้มันต่างกันตรงไหนครับ คือผมก็เป็นโทรศัพท์ที่ใช้ชิพวงจนเหมือน DAP ออกมาหลายรุ่นแล้ว บางตัวถึงขั้นใส่ dac sabre 9018k2m กับ opamp ดังๆแบบ DX90 ใส่ clock แยก CPU/44.1/48 แบบ Sony ZX2 เลยก็มี

เกลียดดดดด คับ 555 เหมือนโดนบังคับให้ไปซื้อ DAP มาใช้มากขึ้น (อ้าง ผบ. ง่ายขึ้นนะเนี่ย)

ยังดีที่ทุกวันนี้ DAP มีเยอะ หลากหลาย ต่อไปคงรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนสมัยก่อนที่ต้องพกสองอย่างอยู่แล้ว มือถือกับ mp3 player/cd player

ก็แค่กลับไปเป็นเหมือนเมื่อวันก่อนๆ แต่ DAP เสียงดีขึ้นเย้ออ ใช้งานง่ายขึ้นเยอะด้วย แค่คิดว่าไม่ต้องกรอตลับเทปให้ยืดก็เป็นสุขใจแล้ว XD