http://www.headphone.com/images/Bal&unbal.jpg" />

ตามนี้ครับ

จากด้านบน จะได้ประโยชน์จริงจังก็ต่อเมื่อใช้กับ Source และ Amp ที่เป็น Balanced แท้

ข้อดีของระบบแบบ Balanced แท้
ฝั่ง Source --> Noise จะหักล้างกันทำให้สัญญาณชัดกว่าระบบแบบ Single-ended
ฝั่ง Amp --> ขับแยก ซ้าย ขวา ทำให้กำลังมาเต็ม Cross Talk น้อยมาก หรือ แทบไม่มี ทำให้แยก ซ้าย ขวา ได้ดีกว่าทำให้ได้ Stereo image ที่ดีกว่าระบบแบบ Single-ended

แล้วหูฟังที่มาพร้อมสายแบบ Single-ended มันทำเป็น Balanced ได้ไหม?

ตอบ - ถ้าสามารถเปลี่ยนสายหูฟังเป็นแบบ 4 ตัวนำ (2 ตัวนำต่อข้าง คือ R+, R- และ L+, L-) ได้ก็สามารถทำได้ แต่จะได้ประโยชน์จริงๆเมื่อ "ระบบ" ที่ใช้เป็น Balanced ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง

แล้วขาเข้าต่อ RCA ซึ่งเป็น Unbalance ส่วนขาออกเป็น XLR กับ Single end แบบไหนเสียงจะดีกว่ากันครับ 

ขอบคุณคุณ weerapats มากครับ 
แจกหูรัวๆ 

เข้าใจมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวครับ

แอมป์ตัวใหม่กำลังจะมา dac/amp ในตัวเดียว และมี balance headphone output แต่หูฟังที่มี กลับมีแต่แบบ 2 ตัวนำ 1/4" เข้าใจละครับว่าเอามาเปลี่ยนหัวทำ balance ไม่ได้ 

คงได้ลองหาหู balance มาลองเล่นดูแล้วครับ 

ขอบคุณครับ 

อะแฮ่ม มีหู balance แนะนำด้วยไหมครับ จะได้เริ่มอ่าน :D

ขอบคุณครับ 

กรณีจะทำจากสายเดิม

ถ้าผู้ผลิตหูฟังแยกสาย กราวด์ ไว้ให้แล้วตั้งแต่ต้น(ส่วนใหญ่จะเจอกับพวกที่มีสายคู่ยาวถึงแจ๊คตัดหัวแจ๊คแล้วเจอ 4เส้น)
ก็จับเข้าหัว 4pole ต่อเป็น Balanced ได้เลยครับ

ถ้าตัดหัวแจ๊คแล้วเจอ 3เส้น แล้วหูฟังเปลี่ยนสายไม่ได้ก็ต้องแกะออกมาบัดกรีตรงจุดหูฟังแล้วทำสายใหม่ครับแล้วก็เขาหัวเป็น Balanced ได้เลย ถ้าหูฟังเปลี่ยนสายได้ก็จับเปลี่ยนสาย Balanced ครับ

พวกที่ทำ Balanced จากสายเดิมได้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มีสายคู่ติดยาวจนถึงแจ๊ค ตัดสายออกมา
จะเจอข้างละสองเส้น ครับ

ที่สำคัญจะให้เห็นผลที่ดีจริงๆทั้งระบบต้องเป็น balance อย่างที่ความเห็นบนว่าไว้ครับ

เพิ่มข้อความตรงประโยคนี้ครับเดียวจะ งง

พวกที่ทำ Balanced จากสายเดิมได้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มีสายคู่ติดยาวจนถึงแจ๊ค ตัดสายออกมา

จะเจอข้างละสองเส้น (รวมทั้งหมดสองข้างก็ 4เส้นนั้นเอง) ครับ

dac/amp ตัวนี้คนผลิตบอกว่า balance ครับ

dac ใช้สองตัว 

schiit Jotunheim. 
JOTUNHEIMCONFIGURABLE BALANCED DESKTOP HEADAMP & PREAMPhttp://schiit.com/products/jotunheim

ถามเพิ่มหน่อยนะครับ 

spec amp Schiit Jotunheim ตัวนี้ ระบุว่า จาก 1/4" ไป Balance Maximum Power เพิ่มขึ้นไปเกือบอีกเท่านึง 

การที่เรามี Power reserve เยอะๆ มีผลต่อเสียงไหมครับ เพราะเท่าที่ดู SE out ก็เยอะมากอยู่แล้วครับ 
Balanced Headphone Output:
Maximum Power, 16 ohms: 7500mW
Maximum Power, 32 ohms: 5000mW
Maximum Power, 50 ohms: 3000mW
Maximum Power, 300 ohms: 900mW
Maximum Power, 600 ohms: 500mW
Single-Ended Headphone Output:
Maximum Power, 16 ohms: 2500mW
Maximum Power, 32 ohms: 1500mW
Maximum Power, 50 ohms: 800mW
Maximum Power, 300 ohms: 350mW
Maximum Power, 600 ohms: 175mW

คุณ Razr
ความต่างขึ้นอยู่กับวงจรภาค Amp ของช่อง Balanced กับ Single-ended ครับ
ถ้าเป็น Balanced แท้ ก็จะดีกว่า Single-ended ในเรื่องของ กำลัง (ขับแยก ซ้าย ขวา) และ Cross Talk ครับ

คุณ ShaneP
ตอนนี้ใช้หูฟังรุ่นไหนอยู่ครับ?
ส่วนหูฟังที่เป็นแบบ Balanced นั้นมีเยอะมากครับ หลายแบบ หลายระดับราคา
แต่โดยคร่าวๆจะมีลักษณะตามนี้ครับ
- in-ear ที่ถอดสายได้ (mmcx, 2-pin, fitear) หาสาย Balanced มาใส่ได้ทั้งหมด (เกือบทั้งหมดเป็น TRRS 2.5 mm.)
- in-ear ที่ถอดสายไม่ได้ ถ้าแกะตัวหูฟังได้ ช่างไทย Mod ได้สบายมาก
- on-ear และ full-size ที่ถอดสายได้ "แต่" มีสายหูฟังเข้าเพียงด้านเดียว (เป็น TRS 3.5 mm. หรือ 2.5 mm.) จะไม่มีสาย Balanced ขาย ต้อง Mod ลูกเดียวครับ
- on-ear และ full-size ที่ถอดสายได้ "และ" มีสายเข้าทั้งด้านสองด้าน มีสาย Balanced ขาย ซื้อมาใส่ได้เลย (หรือถ้ามีฝีมือทางอิเล็คทรอนิก จะทำเองก็ได้ไม่ว่ากัน)

คุณ ShaneP
Schiit Jotunheim นี่ผมก็สนใจอยู่ว่าจะสั่งมาเหมือนกัน เห็น Review ของ Jude (Head-Fi) แล้วคันเลย
โดยส่วนตัวที่มีประสบการณ์กับ Amp ของ Schiit มา (Asgard 2, Valhalla 2, Lyr 2, Mjolnir, Mjolnir 2, Ragnarok) เสียงจะออกแนวสดๆ รุกเร้า กระแทกกระทัน ฟัง Rock นี่สนุกเลย แต่ Sound Stage อาจจะแคบกว่า Amp หลายตัวในตลาด (ยกเว้น Ragnarok ซึ่งราคาสูงกว่าตัวอื่นๆ)
ขออนุญาตแนะนำว่าก่อนซื้อหูฟังอันใหม่ ให้ Burn-in Amp ให้ได้สัก 200 ชั่วโมงก่อน แล้วหิ้ว Amp ไปฟังกับหูฟังที่ร้านเลยจะดีที่สุด
อีก 2 อย่างที่ควรพิจารณาคือ
1. ระบบไฟฟ้าภายในบ้านเรา มีการเดินสายแยกจาก Main มาต่างหาก มีระบบ Ground ที่ถูกต้อง
2. การ Matching อุปกรณ์ต่างๆ หูฟัง สายหูฟัง สายไฟ สาย USB สาย interconnect (RCA, XLR) ให้เข้ากับแนวที่เราชอบ (ตั้งแต่เล่นมา การ Matching นี่ล่ะ ยากที่สุด)

khun weerapats, 

หูย... schiit fanclub ตัวจริงเลย จะครบทุกตัวแล้วครับ ถามถูกคนเลย 

ผมเพิ่งเริ่มได้ไม่นานครับ ขยับมาจาก HomeTheater ตอนนี้ใช้ AKG K7xx Massdrop, แล้วก็ beyer T90.
ใช่คู่กับ Fiio e10k ครับ ตอนแรกกะซื้อมาลองเล่นๆ ใช้ทำงาน ฟังเล่นนิดๆหน่อย แต่กลับหูฟังใช้ง่าย ฟังได้บ่อยขึ้น
สนุกไปอีกแบบ สรุปคือชอบครับ 

amp ตัวใหม่เดินทางมา น่าจะถึงก่อนปลายเดือน ชุดนี้ไว้ห้องทำงาน ฟังตอนทำงานครับ 

เรื่องภาคไฟ ไม่น่ามีปัญหาครับ ได้วิชามาจาก hometheater ทั้ง ground loop, จิกกรองไฟ และ 
สายสัญญาน หัว มาใช้ร่วมกันได้ครับ งานละเอียด 

สนใจหูสองตัวนี้ครับ HD800/ Beyer T1 balance ราคาที่ดูไว้ประมาณ 1000USD ครับ
ไม่ทราบว่ามีตัวอื่นแนะนำไหมครับ 

ผมไม่ค่อยชอบพวก Inear IEM เท่าไหร่ครับ มัดอึดอัด ชอบหูฟังครอบหัว ใส่สบาย open จะดีมากครับ 

คุณ ShaneP

ผมตีว่างบ 35,000 บาทนะครับ ของใหม่ก็จะมี

Audeze
- EL-8 Opened Back/Closed Back/ Titanium Closed Back

Hifiman
- HE-6
- HE-560

Mr.Speakers
- Alpha Prime
- Alpha Dog

Sennheiser
- HD700
- HD650

มือสองก็มีน่าสนใจหลายตัว ถ้าสภาพสวยจริง ราคาดีหรือเหมาะสม ผู้ขายน่าเชื่อถือ (ทางที่ดีนัดเจอรับของ อย่าโอนเงินเลย..)

จด​ๆ​ he6  น่าสนใจครับ​ เรื่องแม็ชชิ่งคงต้องอ่านเยอะๆก่อนซื้อครับ

อ่านกระทู้นี้แลัว เห็นกระเป๋าตังแฟบลงทันที สำหรับ HE6 

http://www.head-fi.org/t/529873/amps-that-can-drive-the-hifiman-he-6-planar-headphones/3240

Jotunhiem 
3W @50 

แต่ตัว recommend Hifiman EF6

5W @50... 


เหมือนจะไม่ไหวครับ 

พอหวังไหมครับ อ่านแล้วผมเหมือนเด็กอยากลองของ

HE6 ขับยากขนาดนั้นเลยหรือครับ ?  



http://www.head-fi.org/t/818323/schiit-jotunheim-review-preview-head-fi-tv/855#post_12862878

Jotunheim is more transparent, more detailed and overall better refined.

 

It is, however, more upfront and brighter, which could be too much for some.

 

FWIW, Jotunheim is one of the (very) rare headphone amp that does a good job at driving the HE-6. A feat.

คุณ ShaneP

amp ขับลำโพง ต่อเข้าตัว protector กันหูฟังระเบิด :")

ถ้าจะขับยากจริงๆครับ ;D