อันนี้เป็นสิ่งที่ผมสรุปจากข้อมูลที่มีให้อ่านในสื่อ online อยู่แล้วคิดว่าการมาย่อยสรุปใหม่ให้กระชับขึ้นน่าจะมีประโยชน์

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=215948

1. เรื่องชั้นวางสำคัญมาก คุณภาพการประกอบต้องดูให้ดี knot ถอดมาเช็คความสะอาดและขันใหม่ให้แน่นและตรงเกลียว เรื่องนี้ไม่ว่าจะชั้นถูกหรือแพงก็มีผลหมดครับ

2. ถอดสายต่างๆออกมาดัดใหม่ให้ตรงแล้วเช็คทำความสะอาดด้วย contact cleaner การใช้น้ำยา deoxit gold มีการผสมสารเคลือบเอาใจ audiophile ด้วย ถ้า strict เรื่องต้องการเก็บบุคลิกเดิมๆแนะนำใช้แบบ contact cleaner อย่างเดียวและใช้เมื่อจำเป็นจริงๆคือเห็นติดชัดเจนครับ

3. เช็คระบบไฟนั้นสำคัญมาก เริ่มจากไขควงวัดไฟก่อน จิ้มแล้ว ground ต้องไม่มีไฟรั่วเข้ามา ถ้ามีก็เดินไล่ใหม่แก้เสีย จากนั้นก็ดูว่ามีไฟรั่วจาก line มา neutral บ้างไหม ในห้างที่ใช้สายไฟแรงดันสูงเดินคู่กันมามักจะมีรั่วอยู่ 5-10% โดยเฉลี่ย ถ้าในบ้านเดิน breaker แยกไฟมาดีๆไม่น่ามีปัญหานี้

4. การต่อปลั๊กไฟนั้นต้องเน้นตัวนำที่สะอาด ก่อนต่อปลั๊กไฟตรวจสอบให้ดีว่าเนื้อทองแดงขึ้นสนิมหรือเกิดออกออกไซด์บ้างหรือยัง ถ้าจะให้ดีที่สุดแนะนำตัดปลายแล้วปอกฉนวนต่อใหม่ ไม่ก็ล้างสนิมกับออกไซด์ออกก่อนต่อใหม่ครับ

5. ระบบ absorb หรือฟองน้ำที่ไว้ช่วยกระจายการรับน้ำหนักจากพื้นไม้ที่แอ่นตามเวลาเพราะการใส่ absorb นั้นต้องการลดปัญหาการถ่ายน้ำหนักไม่เสมอกัน พอมีตัว absorb มารองก็ลดอาการเอียงของระดับน้ำได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าพื้น solid แข็งดีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นครับ

6. การทำความสะอาด contact เครื่องเสียง highend นี้ก็สำคัญนะครับ ของพวกนี้ตามหลักการแล้วล้างเสร็จต่อแล้วไม่ต้องถอดก็ทำครั้งเดียวจบเลย แต่ถ้าต่อๆถอดๆบ่อยๆก็สักปีสองปีทำอีกทีดูครับ

7. การตั้งระดับความสูงของลำโพงให้เสมอกันนั้นก็สำคัญครับเพราะลำโพงถูกออกแบบมาให้ฟังทีระดับเท่ากันบนพื้นที่เท่ากัน แต่ถ้าพื้นเอียงผมก็เคยคิดนะครับว่าตั้งระดับน้ำตรงแล้วข้างนึง spike ตั้งสูงกว่าก็น่าจะมีผลต่อเสียงต่างกัน เสียงเวลาตกลงพื้นแล้วสะท้อนมามันก็ไม่สูงเท่ากันอยู่ดี อันนี้ก็ฝากไว้ไปคิดหาทางประยุกต์ดูครับ

8. การใช้น้ำยาหล่อลื่นลง Spike เพื่อให้ปรับเลื่อนง่ายๆนั้นจะมีผลข้างเคียงคือเวลาที่ลำโพงเกิดการสั่นขึ้นมาแล้วแรงสั่นที่ลง spike ก็จะสัมผัสโดนน้ำยาหล่อลื่นนั้นด้วย แรงที่ถ่ายจากฐานลำโพงมาที่ spike ก็จะวิ่งผ่านน้ำยาเคลือบนี้ด้วยบางส่วน อันนี้คิดตามหลักฟิสิกซ์นะครับ

9. การตั้งลำโพงเครื่องมือสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องวัดระยะ จะใช้ตลับเมตรหรือยิง laser วัดก็ได้ แม้คุณลุง Stirling จะบอกว่าแกใช้แค่ " only my bare hands, my ears and my experience" แต่มีไม่กี่คนที่ตั้งได้จริงโดยไม่ต้องใช้ครับ

10. ระดับน้ำเป็นอะไรที่สำคัญมากๆครับเพราะการตั้งระดับน้ำตรงจะช่วยให้การกระจายน้ำหนักของตัวเครื่องลงชั้นวางทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ผมแนะนำตัววัดระดับน้ำของ insize ที่ไว้ตั้งเครื่อง cnc ที่มีความแม่นยำที่ 0.02mm เลยครับ ตั้งได้เป๊ะแบบสุดๆ แต่เก็บไว้ตั้งท้ายสุดละกันครับ ตอนแรกๆใช้แบบวัดคร่าวๆไปก่อนไม่งั้นเครียดตาย ฮาๆๆ

11. การอ่านคู่มือของลำโพงเป็นอะไรที่สำคัญมากถึงมากที่สุดเลยครับถ้ามี เค้าจะแนะนำการ setup ที่จำเป็นต้องรู้ไว้ที่คุณไม่รู้ไม่ได้ อย่างวันก่อนผมไปบ้านเพื่อนช่วย setup system แกใหม่ วันนั้นก็แก้หลายอย่างมากแต่จะขอเล่าแต่ตั้งลำโพง JBL DD66000 ก็พอว่าคู่มือบอกให้ตั้งระยะห่างระหว่างลำโพงกับจุดนั่งฟังพอๆกันครับ

12. การติดสก็อตเทปนั้นผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับเพราะบางทีเวลาเลื่อนไปมามันก็ไปทับไปโดนสก็อตเทปเกี่ยวติดบ้าง บางจุดที่อยากลองดันอยู่บนสก็อตเทปก็ทำเป็นมองผ่านไปบ้าง เป็นอุปสรรค์พอสมควรครับ แนะนำว่าวัดระยะห่างจากจุดอ้างอิงแล้วจำไว้ดีกว่าครับ ถ้าตั้งตรงจุด ค่าเดิม ตำแหน่งมันไม่เปลี่ยนหรอกครับ

13. การขยับโซฟานี่เป็นศาสตร์ที่ใช้อะไรหลายๆอย่างรวมกันมากกว่าที่คิดครับ บางคนคิดว่าขยับโซฟาเพื่อหาจุดนั่งฟัง แต่จริงๆแล้วโซฟาทำหน้าที่เป็น absorber ในตัวด้วยครับ ยิ่งพวกโซฟาดูดเบสนี่ บางทีผมให้เพื่อนช่วยโซฟาไปมาแล้วยืนฟังใกล้ๆแล้วบอกว่าวางไว้ตรงนี้แหละ ฟังเพราะสุดละก็มี

14. สูตรการ setup ลำโพง Wilson นั้นจะเริ่มจากการปรับมุม tweeter ให้เหมาะกับห้องและจุดนั่งฟังแล้วเริ่มตั้งลำโพงจากข้างเดียวที่มุมห้องก่อน แล้วค่อยๆขยับเข้ามาข้างเดียวที่ฟังในห้องแล้วดีสุดจากประสบการณ์ล้วนๆ ผมก็ได้ยินสูตรนี้มานานแล้ว ไม่คิดว่าคุณลุง Stirling ก็ยังใช้สูตรนี้เหมือนกัน

15. เรื่องวิธีการ set ของคุณลุง Stirling แกจะเริ่มจากทดลองฟังความถี่ต่ำๆดูก่อน อันนี้นักเซ็ตหลายๆคนก็ทำกันเป็นหลักสากลครับ คือเริ่มจูนจากเสียงต่ำให้ได้มวล ขนาด และพลังที่ดีที่สุด โดยไม่บวมเบลอ และไม่เล็กกระจิดริด จนไม่สมกับขนาดลำโพง (ขอก็อปข้อความคุณหมูหวานมาเลยละกัน)

16. เมื่อได้ตำแหน่งลำโพงแล้วก็เริ่ม toe-in ครับ เพื่อคุมการ project ของเสียงกับห้องให้ได้ stereo image ที่สมส่วนน่าฟัง แต่ลำโพงบางรุ่นหรือกับบางเคสอาจจะไม่ toe in เลยก็ได้นะครับ ต้องศึกษาดูให้ดีแต่แนะนำให้ toe-in ก่อน ถ้าลองแล้วไม่ work จริงๆค่อยไม่โทนะครับ

17. สาเหตุที่แกเซ็ตลำโพงจากข้างซ้ายข้างเดียวนั้นหลักๆเพื่อฟังเสียงของลำโพงที่้ทำงานกับห้องเต็มๆโดยไม่มีปัญหาจาก stereo image เข้ามารบกวน ถ้าห้อง symmetry ทุกอย่าง ทำข้่างนึงเสร็จแล้วตั้งอีกข้างก็สูตรเดียวกันมาหมดเลยครับ

18. เมื่อตั้งลำโพงเสร็จแล้วก็มาตั้งระดับน้ำต่อครับทั้งแนวตั้งและแนวนอน ใครที่มีที่ราบวางตัววัดระดับน้ำตรงๆได้ก็ตั้งง่ายหน่อย ถ้าไม่มีจริงๆจะยิง laser วัดเส้นขนานแทนก็ได้นะครับ

19. ช่วงทดสอบการฟังนั้นคุณภาพของ source สำคัญมากครับ ถ้าคุณมี reference source ที่ดี การ setup ก็จะทำได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ผมเคยเจอบางบ้านตั้งกับ macbook ฟังเพลงผ่าน DAC ไว้ พอยก CD Player ดีๆมาฟังไม่เพราะก็มี ขอเอา CD Player มาตั้งแทนนี่เสียงผิดจากเดิมเยอะมากครับ

20. ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยครับสำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำเอง ถ้าคุณไปช่วย setup ชุดบ้านเพื่อนหรือบ้านลูกค้าที่ไหนนะครับ ถ้าทำแล้วเจ้าของห้องที่ฟังไม่ชอบ ทุกอย่างก็คือจบครับ ส่วนนึงก็เกิดจากลูกค้าที่ชินกับชุดที่ setup ไม่ถูกมาก็มีอันนี้ก็น่าเห็นใจนะครับ ถ้าไม่ใช่ฝรั่งหรือมี cert ดังๆมาโน้มน้ามให้เขาเปลี่ยนความคิดก็ยากครับ