ลิงก์ข่าวครับ
https://www.blognone.com/node/84857

ไม่มีรูอะไรเลยซักกะรูก็ไม่เดือดร้อน เพราะฟังเพลงจาก DAP แฮร่...!

ผมไม่ใช้ iPhone มาตั้งแต่ iPhone เปลี่ยนจากหัว 30 pin เป็นหัว Lightning ที่ไม่มี analog fixed line out โน้นแล้วจ้าาาาาา 555

มันมีตัวช่วยเยอะนี่ครับ ตัว Aqua micro dac/amp กับ Audioquest Dragonfly หรืออื่นๆอีกหลายตัวในท้องตลาดขณะนี้

ผมชอบไร้สายครับ เสียงแบนหรือไม่ ผมไม่รู้อ่ะครับ รู้แต่ว่าชีวิตไร้สายมันสะดวกสบายกว่ามากๆๆๆ

ผมว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องทำเครื่องให้บางเลย
ขอทรงไอโฟน SE ขนาดหน้าจอสัก 4.5-5.5 แบตเยอะขึ้น ในราคาที่ถูกลง ลูกค้าก็พอใจแล้ว

จริงๆน่าจะทำมาตรฐานใหม่เป็น 2.5 balance ให้หมด ได้ทั้งเครื่องบางลง ทั้งกำลังขับดี อ้า ฟิน

เห็น intell บอกว่า จะใช้ USB-C แทน 3.5 ด้วย

ผมเหมือนกับน้าชาเลยครับ ตั้งแต่เปลี่ยนเป็นหัว lightning ก็ไม่ได้ใช้ iphone อีกเลย

ผมเลิกใช้ iPhone เพราะไม่มีปัญญาซื้อครับ รู้สึกมันแพงโดยไม่มีเหตุมีผล เลยต้องใช้ Samsung แทน

ตัดออกแล้วแบบนี้พวกหูฟังปกติ ก็ใช้ไม่ได้ใช่มะ ><

ถะะะถูกต้องนะคร๊าาาบ ใช้ได้เฉพาะแจ๊คที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ แต่จริงๆเดี๋ยวก็มีอแดปเตอร์ ออกมาให้ใช้ได้เองแหละครับ ข้อเสียอีกอย่างก็คือฟังไปชาร์จไปไม่ได้ครับผม

ตั้งแต่ไม่มี 30pin หลุยส์ว่า ไอโฟนเป็นอะไรที่กากขึ้นเยอะ
แล้วอย่าลืมยัดแบตมาให้พอสำหรับไร้สายด้วยนะครับมันกินแบตมากกว่าปกติ

อีกอย่าง หูฟังแบบ บลูทูธ แบตเตอรี่ในตัวหูฟังไว้ใจอายุการใช้งานยากมา
น่าจะเข้าทาง apple ที่เน้นขาย accessory พ่วงน่าจะทำยอดขายearpodบลูทูธได้เยอะ

ปกติแบทไอดฟนก็หมดไวอยุ่ละนะ ชาร์จไปฟังไปไม่ได้นี่แย่เลย >< แบบนี้หูฟังบลูทูธขายดีแน่ๆเลย

นี่ผมแอบเหนื่อยใจเลยครับ 555

เพราะถ้าไอโฟน 7 ไม่มีแจ็คหูฟังมาให้ใช้ คราวนี้ความเป็นสมาร์ทโฟนก็จะลดลงทันที กลายเป็นความไม่สะดวกมาแทนที่ไปเลย สำหรับผมคงอาจจะไม่เปลี่ยนโทรศัพท์ เพราะเปลี่ยนปุ๊บ เจ้า Dita ที่ผมติดกระเป๋าไว้ฟังตลอดก็หมดสิทธิ์ใช้แล้วครับ 555

คาดว่าช่อง 3.5 มม.นี้ไม่มีแน่ๆๆ และไม่มีการกลับมามีอีกแน่ๆๆเช่นกัน โลกต้องหมุนครับ แต่ช่วงรอยต่อแบบนี้อาจจะเป็นอะไรที่ลำบากสำหรับทุกๆคนนะครับ ส่วนเรื่องจะไปพึ่งอะไรมาเสียบต่ออีกทอดนึงเพื่อแปลง lightning ให้เป็น 3.5 มม. ผมว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากๆ 555

แต่ค่ายใหญ่ๆก็ปรับเกมส์มาด่วนแล้วนะครับ อย่าง AK ก็ออกตัว Bluetooth ที่ส่งไฟล์ละเอียดจากมือถือได้ โดยแทนที่จะเอามือถือเสียบกับหูฟัง ก็เอาหูฟังเสียบกับไอ้เจ้า AK ลูกกลมๆ เท่านี้ก็จบ ตอนนี้ผมมีเดโมอยู่ในมือแล้ว ไว้จะมาเล่าให้ฟังว่า โลกยุคต่อไปมันจะไร้สายกันอย่างไรนะครับ 555

Alex หายเป็นห่วงเรื่องนี้แล้วครับ 555

555 น้าชารู้ไวมากๆๆครับ 555

ไอ้ตัวเล็กนี้ผมได้จาก Alex มาเมื่อ 2 เดือนก่อนแล้วครับ แต่ Alex บอกว่าให้เก็บเป็นความลับ ห้ามเล่าจนกว่าเค้าจะโพสเอง 555 ผมเพิ่งทราบเหมือนกันว่าเค้าจะเรียกว่า AK XB10

ตัวนี้เป็นบลูทธ และทาง Alex อาจจะต้องมาคุยกับทาง Operation ค่ายโทรศัพท์ในไทยด้วยตัวเอง เพราะโปรเจกต์นี้ เค้าคาดว่ามันจะต้องเป็นแพคเกจที่ขายรวมกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ไม่มี 3.5 มม.ครับ ซึ่งยอดว่ากันเป็น 10,000 ตัวโน่นเลย

ราคาผมคาดเดาเล่นๆๆว่าราวๆ 7-8 พันบาทบวกลบ ซึ่งไม่น่าจะใช่ของเล่นสำหรับคนหมู่มาก แต่ชนกลุ่มน้อยอย่างคนเล่นหูฟัง ผมว่าถ้าได้ฟังแล้วตกใจแน่นอนครับ เพราะคุณภาพเสียงมันอัพไปดีจนแตะกับการเสียบสายเลยก็ว่าได้

เดี๋ยวเอามาให้ดูครับ 555

สำหรับผมไม่มี 3.5 ก็ดีครับ ปกติผมไม่ค่อยได้ฟังเพลงจากไอโฟนอยู่แล้ว แต่จะเป็นข้ออ้างให้ผมขอภรรยาซื้อน้องทรายได้อีกตัวนึงครับ อิอิ

ราคานี้น่าจะขายได้ชนกลุ่มน้อยจริงๆ คือคนเงินเหลือ กับคนที่ติดฟังจากiphoneจริงๆ กลุ่มคนเล่นจริงจังเพิ่มอีกนิดซื้อ dap เลยดีกว่าหรือเปล่า

ส่วนคนกลุ่มใหญ่ก็ฟังจากหูแถม แล้วก็หูที่ทำพอร์ตรองรับ

หลายคนน่าจะเข้าใจนะครับว่า iPhone ทุกวันนี้ไม่ได้ออกแบบมาไว้ฟังเพลงเน้นคุณภาพ ตลาดมันเปลี่ยนไปแล้ว ลูกค้าหลักสมัยนี้ใส่ใจความสะดวกสบายมากกว่าคุณภาพที่จับต้องไม่ได้ ลูกค้ายุคนี้โตมากับสินค้า iPod ฟังเพลงจากไฟล์ digital มากกว่า analog ฟังเสียงจำลองมากกว่าเสียงดนตรีจริงๆ

Steve Wozniak ก็แสดงความเห็นตามทัศนคติของเขาได้ แต่ถ้า Apple จะเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักในยุคนี้มากกว่าก็ไม่แปลกอะไรครับ กลุ่มลูกค้าที่จะฟังเพลงแล้วบ่นเสียงแบนไม่มีมิติแบบ Steve Wozniak นั้นมีน้อยมากๆครับ แลกกับการที่ iPhone แทน module อื่นลง headphone jack และลดการใช้ไฟในส่วน analog output แล้วนับว่าคุ้มครับ

มันก็แค่การเปลี่ยนจากแจ็ค 3.5 เป็น lightning เท่านั้นเองครับ ผมว่าเสียงอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

ผมเห็นด้วยกับเมนท์บนเลย