ใช้บัตรเดบิทก็พอแล้วจ้า.....

ความเห็นผม ผมว่าไม่ควรมีครับ ไม่ใช่ของจำเป็นสำหรับวัยขนาดนี้เน้อ 555 การใช้เงินจากอนาคตมันเป็นดาบสองคมเหมือนกันล่ะ

การถอนตู้ถอนเงิน ผมแนะให้ใช้บัตร ATM ครับ หรือทำบัตรเดบิตไว้ใช้จ่ายสินค้าตามร้านก็ยังได้เหมือนๆๆ กัน เช่นสั่งอาหารก็จ่ายด้วยบัตรเดบิท การถอนเงินสดมาใช้จากบัตรเครดิต มันจะต้องเสียดอกเบี้ยทันทีครับ ร้อยละ 20% ต่อปีหรือไงนี่ล่ะ ไม่แน่ใจครับ 555

อย่าเพิ่งคิดเรื่องเป็นหนี้ในตอนนี้เลยครับ ผมแนะนำจากใจจริง ยิ่งการซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิต แล้วมาตามจ่ายกันทีหลัง ผมว่าไม่เหมาะสำหรับท่านที่ยังเป็นเยาวชนเน้อ 555

เฮียแนะนำอย่างจริงใจเลยล่ะครับ.....

หุหุ ผมเองทำงานมาจะเป็นสิบปีแล้ว ยังไม่มีบัตรเครดิตเป็นของตัวเองสักใบเลยครับ ^^ ส่วนตัวกลัวเรื่องการบริหารจัดการเงินของตัวเองด้วย มีเงินที่ใช้ง่ายๆ อยู่กับตัวมันเสี่ยงเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะถ้ายังไม่มีวินัยในการใช้เงินด้วยแล้ว

อ๊ากกกก อยู่ ม.ปลาย จะคิดกดเงินสดจากบัตรเครดิตแล้วหรือครับ

อย่าทำโดยเด็ดขาดครับ
โดนดอกอานเลย ค่ากดก็ 3% เต็มๆ บวกดอกเบี้ย 20% (ต่อปี) อีกต่างหาก

ห้ามแม้แต่จะคิดเลยนะครับ
ผู้ใหญ่ (เพื่อนที่ทำงานนี่แหละ) เสียคนมามากแล้ว

อ่านความข้างบนอย่างมีสติ

ยังเป็นเด็ก ไม่มีรายได้หรือมีรายได้แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่แบงค์ชาติกำหนดธนาคารผู้ออกบัตรรวมถึงผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ไม่ช่ธนาคารไมสามารถออกบัตรให้ได้(เว้นแต่เป็นเด็ก V.I.P.ที่อาจจะทำได้เป็นกรณีพิเศษนอกกฎ)
ผู้ถือบัตรเครดิตนั้นสามารถใช้บัตรกดเอาเงินสด(ค่าธรรมเนียม3%ดอกเบี้ย20%)หรือซื้อสินค้าภายได้ตามยอดวงเงินที่ผู้ออกบัตรกำหนดให้แต่เมื่อป็นหนี้แล้วผู้ถือบัตรต้องชำระคืน(ขั่นต่ำตามประกาศของแบงค์ชาติ)ตามรอบการตัดบัญชีที่ตกกันถ้าชำระไม่ได้โดนดอกเบี้ยในส่วนที่เป็นหนี้
คนเป็นจำนวนไม่น้อยเลยที่ตัดสินใจเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพราะกิเลสมากความจำเป็นนำมาซึ่งความทุกข์

อ่านความข้างบนอย่างมีสติ

โหะๆ แค่จะทำยังทำไม่ได้เลยครับ แล้วมันเปรียบเหมือนเราไปกู้เค้ามาแล้วค่อยจ่ายคืนนั่นล่ะ ตอนรูดนี่ก็ดีหรอกได้ของ แต่มันจะลำบากตอนจ่ายเน้อ คนเค้าโดนฟ้องล้มละลายเพราะบัตรเครดิตนี่มีเยอะแยะไป

ถ้าอยากใช้ก็ใช้เดบิทเอาสิครับ รูดไปๆหมดก็หมดแต่ไม่เป็นหนี้เขา(แต่ก็ไม่ควรไปรูดหรอกครับ) เป็นเด็กเก็บตังค์เอาดีกว่าครับ เก็บตังค์ซื้อมันได้คุณค่ากว่ากู้มาแล้วผ่อนตั้งเยอะเน้อ(เพราะในวัยเด็กมันก็ไม่ควรซื้ออะไรเกินตัวขนาดนั้นนี่นะ โตแล้วก็ว่าไปอย่าง)

จำไว้ครับ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ 555+++

ไว้หาเงินได้ด้วยตัวเองค่อยใช้ดีกว่าครับ (ผมยังไม่มีใช้เล้ยบัตรเครดิตเนี่ย อิๆ^^)

เกณฑ์คร่าว ๆ เฉพาะบัตรเครดิต ไม่รวมบัตรสินเชื่อนะครับ
มีงานทำและมีรายได้ประจำ และต้องแสดงแหล่งที่มาของรายได้ ได้ด้วย
อย่างต่ำ 15,000 บาท ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ครอบครัวให้เดือนเท่านี้
แล้วจะเรียกว่ารายได้ประจำนะครับ

อีกอย่างนึง การใช้บัตรเครดิต ควรเป็นช่องทางสุดท้ายของการใช้จ่ายนะครับ
ถ้ากลายร่างเป็นเสือเหิม แล้วจะลำบากครับ

เต็มเหนี่ยวไปเลยครับ ทั้งกดทั้งรูด
ถ้าอยากได้เงินสดไปหาร้านค้าซี้ๆที่มีเครื่องรูด แล้วรูดเอาเงินสดมาซะ รูดได้ยันโคนเลยล่ะคร้าบ ต่อจากนั้นเวลาใบทวงหนี้มา ก็หาพาราเซตมากินแกล้มน้ำเปล่าได้เลยครับ

ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเชิญครับ คิดดีๆนะครับผม
ผมใช้ช่วงเวลาตั้งแต่ช่วงอายุ 22 จน 26 ถึงจะปลดหนี้บัตรเครดิตหมดล่ะครับ

ว่าแต่ อายุแค่นี้ทำบัตรเครดิตได้หรือครับ

เฮ้ยคุณเต้ จริงเหรอ ปลดตั้งแต่ 22 ยัน 26 เลยเหรอ 5555


นี่คือตัวอย่างชั้นดีเลยครับ สอบถามคุณเต้ได้เลย รสชาติเป็นไง เต้รู้หมด 555

ไม่มีรายได้ ทำได้แค่บัตร เดบิต ครับ ซึ่งก็ต้องมีเงินอยู่ในบัญชี ถึงจะกดได้ครับ

เรื่องยังงี้

ต้องถามป๊ะป๋าโหน่งอะครับ

พ่อผมเปนพนักงานเเบงค์

แต่ หลับไปเเล้ว

555+

^^

อย่าไป มีมันเลย ครับ มันเหมือนดาบ 2 คม ล่ะ ครับ ถ้า มีวินัยในการใช้เงินก็ ดี ไป ครับ แต่ถ้าเป้นคนไร้ วินัย ละ ก็ อย่าเลย ครับ เดี๋ยวมาแก้ ปมทีหลัง มันจะไม่ทันการณ์ นา ......ฮิ อิ อิ

ไม่แนะนำเช่นกันครับ ขนาดผมทำงานต่างประเทศบ่อยๆยังไม่ค่อยใช้เลย นอกจากจ่ายหนักๆเช่นค่าโรงแรม การใช้บัตรถ้าขาดวินัยปัญหาจะตามมามากมาย ยิ่งรับผิดชอบรายรับเองไม่ได้ด้วยไม่แนะนำเลย

ขึ้นชื่อว่า Credit เราก็ต้องมีเครดิตให้เค้าเชื่อได้ว่าเรามีกำลังจะชำระ\"หนี้\"ในภายหลังได้
รูดบัตรเครดิตก็คือการเอาเงินในอนาคตมาจ่าย แต่ถ้าอนาคตมันอนาถา ก็คงจะเป็นไปไม่ได้นะครับ

เป็นหนี้ไม่สนุกนะครับ ถึงจะมีกราโด้ PS1000 แต่เป็นหนี้อยู่
ยังไงก็ฟังไม่เพราะเท่ากับตอนไม่มีหนี้หรอกจ้า

เป็นนักเรียนอย่าเพิ่งเป็นหนี้เลยครับ
บัตรเครดิตให้มีงานทำก่อนแล้วค่อยทำก็ได้

เรื่องการรูดนี่เป้นอะไรที่ง่ายแต่บทเรียนที่ตามมาหลังจากนั้นราคาแพงทีเดียว ถ้าเราไม่รู้จักยั้งคิด

ด้วยความที่มันง่าย บางทีเราก็จะใช้เพลินเกินไปจนกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้วอ่ะครับ

เคยได้ยินข้่าวเมืองนอกมีคนฆ่าตัวตายเพราะเป้นหนี้เครดิตเหมือนกันนะ
เห้นว่าไปทำไว้หลายเจ้าเลย พอหนี้มันสุมๆรุมๆเข้ามาก็ใช้ไม่ได้ ตายดีกว่า คร่อก


ก่อนจากกันอยากถาม
อยากรู้จังว่าน้องเอาความคิดเรื่องบัตรเครดิตมาจากใครครับ - -;

ผมแยกแยะบัตรให้ละกัน

บัตร ATM ใช้กดเงินจากบัญชีของเรา โดยเราต้องไปกดมาเองนะครับ ไปตามร้านค้าแล้วยืนบัตร ATM ให้มีหวังโดนตบกบาลแน่ๆ เสียค่าทำบัตรปีละ 200 แล้วแต่ธนาคาร ตามปกติใช้กดข้ามธนาคารได้ แต่มีจำนวนครั้งต่อเดือนกำหนด ถ้าเกินก็เสียค่าธรรมเนียม แต่ถ้ากดจากธนาคารตัวเองจะกดกี่ครั้งก็ได้
บัตรเดบิต ใช้จ่ายตามร้านค้าต่างๆที่รับบัตรได้ เพียงแต่เราต้องมีเงินจำนวนอยู่ก่อนในบัญชีเรา หากไม่มีแล้วยืนให้พนักงานไปใช้ชำระเงิน ก็จะโดนเด้งกลับจ่ายเงินไม่ได้
บัตรเครดิต หากเป็นเด็กไม่มีทางมีได้แน่นอน ยกเว้นเป็นบัตรเสริมของผู้ปกครอง เนื่องจากต้องมีรายได้ประจำ ไม่แน่ใจว่าต้องมากกว่า15000 หรือ 20000 บัตรนี้เหมือนเราใช้เงินในอนาคตของเรา พูดง่ายๆก็คือเป็นหนี้อย่างหนึ่ง ข้อดีก็คือได้ point บางส่วนจากธนาคารไว้แลกของได้ และบางร้านค้าจะมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษสำหรับบัตรนั้นๆอยู่
ps ผมพึ่งจบเมื่อต้นปีมีงานทำเป็นโปรแกรมเมอร์เงินเดือนสองหมื่นกว่าๆ ก็ยังไม่มีบัตรเครดิตเลยครับ ไปซื้อของร้านเฮีย แล้วก็ถามว่า atm อยู่ไหน แล้วเดินไปกดเอาง่ายกว่าครับ

อย่ามีเลยครับ อยากได้อะไรเก็บเงินแล้วซื้อเงินสดดีกว่าครับ
ไม่มีเงินก็ยังไม่ต้องซื้อ

แต่ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่นะครับ แต่ไม่ระห่ำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อก่อนนี้เงินทองหาง่ายครับ เรียนจบปริญญาเงินเดือนเริ่มต้น 20,000 แล้วครับ เดือนแรกผ่านไปใบสมัครบัตรเครดิตมาถึงโต๊ะเลย ผมสมัครมันทุกใบ ตั้งแต่สามทรราชย์ Amex, Diner, City และ อื่นๆ วงเงินสามเท่าของเงินเดือนครับ ทุกใบมีอยู่เจ็ดใบ ใช้ไปจนเรียกได้ว่า ควักมาทุกใบ ส่งให้บริกร แล้วบอกว่า น้องใบไหนรูดได้เอ็งรูดไปเลย วงเงินเต็มทุกใบครับ เงินเดือนรวมสวัสดิการ โอที (ที่ปั่นแล้วปั่นอีก) สามหมื่นห้าเอง จะเอาเงินที่ไหน มาใช้หนี้ สี่แสนกว่า ดอกมีแต่วิ่งไม่มีลดเลย ไปทาบทามขอลูกสาวเขาไว้อีกแน่ะ พอดีปี 41 ต้องระเห็จไปนอกครับเนื่องจากงานของบริษัทผมในเมืองไทยโดนรับทั้งหมด เจ้านายเลยส่งไปต่างประเทศตระเวนไปตั้งแต่ไต้หวันไปทะลุตะวันออกกลางถึงกลับมาใช้หนี้เขาได้

แบงค์ไทยๆ ไม่มีปัญหาครับเขาประนีประนอมมากมาย เอาแต่เงินต้นคืน แต่ไอ้สามทรราชย์นี่สิให้ผ่อนเดือนละ 4000 ทุกเดือน เจรจายังไงก็ไม่ลดผมเลยบอกว่างั้นฟ้องผมเลยละกัน เนื่องจากเพือ่นผมบอกว่าถ้าเรามีเจตนาจะใช้หนี้ศาลจะสั่งให้จ่ายแค่เงินต้นและค่าเสียหายนิดหน่อนเอง ไอ้สามทรราชย์ เลยยอมครับบอกว่าเอางี้จากเงินต้น ใบละ 65000 รวมดอก เป็นแสนนิดๆ ลดให้เหลือ ใบละแปดหมื่นเศษ นับจากวันที่เซนต์ประนอมหนี้ไม่มีการคิดดอกอีก หยวนป่าว ผมตกลงครับ

แต่ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีแบบผมนะครับ เพราะปีนั้นใครๆก็แย่ทุกคนแย่หมด แต่ก็อีกนั่นแหละครับฐานะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เป็นแบบ รวยคอดๆ ไม่รู้จะเอาเงินไปไว้ไหน ก็บอกให้คุณพ่อหรือคุณแม่ทำบัตรเสริมให้สิครับ คราวนี้ขึ้นอยู่ตัวท่านเองแล้วครับว่าน้องจะใช้มันอย่างไร

ต้องอายุ 18 ขึ้นไปนะครับถึงจะทำบัตรเสริมได้ เพราะว่าทางกฎหมายแล้วถ้าถึงศาล กลายเป็นผู้เยาว์ ครับแบงค์มีสิทธิ์สูญเงินฟรีๆครับ

ไม่แนะนำเหมือนกันครับ มันเหมือนเงินกู้ที่ไม่ต้องรออนุมัติมากเลย แถมทำให้วินัยการเงินเราเสียอีก

ทุกวันนี้ผมก็ใช้แต่เงินสด ขนาดไปซื้อแลปทอปพนักงานถามว่า \"จ่ายเป็นบัตรใช่ไหมครับ\"

พอผมบอกว่าจ่ายเงินสด เขาทำหน้างงกันเลย ไอ้ผมก็งงเหมือนกัน เผลอคิดไปเลยว่าตัวเองตกยุคด้วยซ้ำ

โอ้ น้องสมัยนี้คิดจะใช้เงินทีทำไมมันเร็วยังงี้ครับ คิดให้ถี่ถ้วนลองดูให้รอบๆก่อนครับ เงินหามาทุกบาทเราต้องแลกมาด้วยสมองและกำลังนะครับ ไอ้การจะซื้อความสุขให้ตัวเองบ้างไม่ผิดหรอก แต่มันก็ต้องมีขอบเขตบ้างคับ

ว่าแต่เงินเดือนปริญญาจบใหม่ ไมมันสูงงี้ล่ะคับ คุณZolaRNeW น่าอิจฉาจัง ผมจบมาปี 45 เริ่มทำงานปีเป็นกราฟฟิคดีไซด์ ได้แค่ 8000 กว่าจะได้ 20000 ก็ปี 50 มาปีนี้เองที่หาได้ 5xxxx แต่ทำแบบแทบไม่มีวันหยุดเลยนะ แต่ไม่ได้ทำกราฟฟิคดีไซด์แล้วนะ หันมาทำหนังไทย

ทำแค่ เดบิต ก็พอครับผม

ผมก็ใช้อยู่ แหะๆ

ผมทำงานเกี่ยวกับพวกนี้อยู่ครับ

ต้องอายุ 18 ขึ้นไป
เงินเดือน 15,000 ครับ
อายุงานอย่างน้อย 6 เดือน 1ปี ครับแล้วแต่เจ้า

ในกรณีไม่มีรายได้ ก็เป็นบัตรเสริมของพ่อแม่ได้ครับ

แต่....อย่าใช้เลยครับ เด็กอยู่ ยิ่งเรื่องกดเงินสดเนี่ยะ อย่าเลยครับ
ผู้ใหญ่ยังเสียเลย ไม่อยากให้เสียเด็กเด้ออ
แต่ถ้าพ่อแม่ให้ใช้เพราะไม่มีเวลาดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ก็แล้วแต่ครับ
ผมเป็นคนนึงละที่มีบัตรใช้ตั้งแต่อายุ 18-19 แต่ไม่เคยเอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยครับ
ใช้บัตรจนแก่แล้ว ไม่่เคยเป็นหนี้ด้วยครับ
ตอนเด็กๆ พอดีอยู่ห่างกับพ่อแม่ เค้าก็ให้เอาไปใช้เผื่อเหตุฉุกเฉินครับ

ถามพ่อแม่ดูครับ ท่านจะรู้ว่าเราจำเป็นต้องใช้มั้ย ถ้าท่านทำให้ ต้องรู้จักควบคุมตัวเอง ไอ่ PIN ATM นี่ผมได้ปุ๊บผมฉีกทิ้งเลยครับ ไม่จำเป็น

เก็บเงินแล้วไปซื้อดีกว่าจร้า
ต้องรายได้เราด้วยว่ามีเท่าไหร่
ดอกเบี้ย 2% ถ้าจ่ายช้า โดนไป 22% ถ้า2เดือนนี่โดนทบต้น คิดดอกใหม่อีกต่างหาก
สมมุติซื้อ 10000 จ่ายช้า ก็กลายเปน 12000
ถ้าเดือนหน้าช้าอีก ก็กลายเปน 14500 น่ะคร๊าบบบบ

ถามไว้เป็นความรู้เฉยๆ ครับพี่ ยังไงอายุก็ไม่ถึง 18 ครับ ยังทำไม่ได้

ส่วนงานอะ ทำแล้วครับ ขายไก่ KFC เฉพาะ ช่วงปิดเทอมนะครับ 555

ที่ตั้งใจจะมีเพราะ เวลา พ่อโอนเงินมาให้ ขี้เกียจไป เบิกธนาคารครับมันรอนาน

ไม่ได้กะไป ซื้อของ อะไรให้ สิ้นเปลื้องหรอกครับผม

ดีแล้วล่ะซันชิโร่ เชื่อเฮียดิ...555

ถ้าไม่ติดว่าใช้บัตรเครดิตซื้อของต่างประเทศ บางทีเฮียจะไม่ยอมมีบัตรเครดิตเลยด้วยซ้ำไปจ้า....

อ่านเรื่องของคุณเต้เป็นตัวอย่างได้เลยเน้อ




อย่าขี้เกียจ ขยันไปธนาคารก็จบเรื่องล่ะ 555

แนะนำให้ทำเป็น บัตรเดบิต ครับ
รูดได้เหมือน บัตรเครดิต
แต่ตามวงเงินที่มีในบัญชี
แล้วถ้าจะใช้ซื้อของในเว็ป
แนะนำกสิกรครับ จะมีบริการ บัตร K-Web Card
ใช้แทนบัตรเคดิต บนอินเตอร์เน็ตได้เลย

ATM + Debit ดีสุดแล้วครับ
ผมเป็นอาจารย์สอนเรื่อง Smart Money ให้ชาวบ้านอยู่

คุยไปคุยมา สรุป อย่าใช้เลยครับ ถ้าไม่ได้มีรายได้ประจำหลายๆหมื่น
ซื้อของหลายๆพันบ่อยๆ

เก็บเงินในบัญชี เอาบัตร Debit รูด หรือถือเงินสดไปกองเลยครับ

ประโยชน์อีกอย่างคือ เงินสด เวลาเราซื้อของเป็นหมื่น มันจะดูตกใจ ทำให้เราต้องกลับมาคิดอีกที ถ้าใช้บัตรเครดิต มันจะหายแว๊บไปโดยไม่รู้สึกตัว

ไม่แนะนำเลยครับสำหรับวัยขนาดนี้ อายุของน้องคงเท่าๆ กับหลานผม
อยากได้อะไรก็อาศัยความอุตสาหะ เก็บเงินซื้อเอาดีกว่าครับ ถึงแม้จะช้า
แต่ได้ความภูมิใจ และเราจะเห็นคุณค่าของของสิ่งนั้นด้วย อย่าให้ความอยาก
สร้างปัญหาในการเป็นหนี้ให้ในภายหลังเลย

บัครเครดิตมีไว้ใช้เพื่อความสะดวก แต่เมื่อเราใช้ก็ควรมีกำลังในการชำระด้วย
ไม่ใช่ใช้ไปก่อน มีไม่มีไปว่ากันทีหลัง แบบนี้ไม่ดีแน่

หลักของการใช้บัตรเครดิต แบบไม่ให้มีปัญหา ต้องจ่ายเต็มจำนวน ให้ทันตามกำหนด
เวลาด้วย มีอยู่ครั้งนึงผมพลาด มียอดอยู่ 40,000 กว่าเป็นเศษหลักร้อย แต่จำไม่ได้
ว่ากี่ร้อย ผมก็คิดว่า จ่าย 40,000 ก็ได้เศษที่เหลือ ประมาณ 2-3 ร้อย เอาไว้จ่ายรวม
กับเดือนหน้า ที่ไหนได้ แทนที่จะโดนดอกเบี้ยของเงินคงค้าง 2-3 ร้อย ซึ่งก็คงไม่กี่
บาท ผมโดนดอกเบี้ยจากยอดเต็มเลย โดนเฉพาะดอกเบี้ยไป 5-6 ร้อยบาทได้ เซ็ง
สุดๆ จากนั้นมา ผมไม่ให้พลาด จ่ายเต็มตรงเป๊ะ ตลอดเลย

อย่าเลยครับ โอกาสพลาดไปอยู่ในวงเวียนแห่งหนี้

มันง่ายมากเลยนะคับ บางคนใช้ไปใช้มามีหนี้เป็นแสน

ไปกับอะไรบ้างยังไม่รู้ตัวเลยคับ

นอกจากว่า มั่นใจในตัวเองจิงๆว่าใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ไม่มีค้าง

ก้อจะเป็นประโยชน์ครับ แต่ส่วนใหญ่จะทำไม่ได้ตามที่คิดน่ะคับ

ผมคนนึงล่ะ เึคยพลาดมาก่อน คิดดึๆก่อนทำนะคับ ^__^