มันน่าขัดใจอยู่นิดหน่อยที่สายยี่ห้อดีๆ หลายๆยี่ห้อไม่ยอมทำสายที่เป็น A-micro ในรุ่นสูงๆสักที ในขณะที่ DAC รุ่นใหม่ๆมันก็ชอบออกมาเป็น micro กันจัง ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้ลองเปรียบเทียบผมจึงเลือกใช้สาย USB รุ่นสูงกว่าที่เป็น A-B แล้วใส่ตัวแปลงเป็น micro เอา หนึ่งก็คือประหยัดไม่ต้องซื้อใหม่ 55 และสองคือลองฟังแล้วมันก็ยังดีกว่ากันอยู่
วันนี้ในเมื่อได้ซื้อมาลองแล้วก็พบว่ามันมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่มาก ในราคาไม่เกินเอื้อม เลยแนะนำเป็นทางเลือกให้เพื่อนๆอีกสักเส้นนึง (ซึ่งต้องขออภัยเฮียไว้นะที่นี้ด้วยเพราะไม่ได้เป็นสินค้าที่เฮียมีขายครับ แต่แอบเชียร์ให้เฮียเป็นตัวแทน..อิอิ)
Curious Cable
เป็นแบรนด์ของผู้ผลิตจากออสเตรเลีย ที่การออกแบบมีการแยกสายสัญญาณกับสายไฟออกจากกัน จากรูปจะเห็นว่ามีเส้นสีทองแดงเล็กๆ แยกอยู่อีกเส้นนึง ซึ่งเท่าที่อ่านๆมาก็มีรีวิวจากฝรั่งเปรียบเทียบกับตัวท๊อปๆในตลาดอยู่พอควร ไอ้ตอนอ่านรีวิวของฝรั่ง มันทำให้ Curious ได้ตามชื่อมันจริงๆ แต่ด้วยตัวสายยาว A-B ราคาก็ไม่ใช่เล่นๆ สั่งมาโดยไมได้ลองก่อนนั้นไม่กล้าแน่นอน แต่พอมีเสียงยืนยันจากพี่ๆที่ค่อนข้างจะเซียนทางเครื่องเสียงบ้านว่าชอบมากกว่าทั้ง Diamond, Heimdall2 จึงกระตุ้นต่อมคันหนักเข้า และพอดีเห็นว่ามี USB A-micro ด้วยราคาก็ไม่แรงนัก มันโด๊นโดนใจพอดีเลยจัดมาซะ
การเปรียบเทียบคราวนี้ใช้ Auralic aries mini เป็น Source ต่อเข้า mojo แล้วใช้หัวแปลง 3.5 – RCA ต่อเข้า power amp ไปออกลำโพงบ้าน ที่นั่งฟังแบบ Near field หน้าคอม เทียบ Curious USB 280mm Hugo link(Type A-micro B) กับ AQ Diamond ยาว 0.75cm, Nordost Heimdall2 ยาว 1m. ซึ่งเป็น A-B แล้วต่อตัวแปลงเป็น micro ทั้งคู่
Diamond
สำหรับท่านที่ชอบความสมจริงของเครื่องเคาะโลหะ ประกายเสียงแหลมมีบรรยากาศทอดตัวยาวไกล เสียงหนังกลองตึงเปรี๊ยะ แยกเสียงเคาะหัวโน้ตจากเสียงต่ำออกมาอย่างชัดเจน และทนเสียง ซ จากเสียงนักร้องไหว(ในเพลงที่บันทึกมาแล้วมีแบบนั้น มันก็จะมีแบบนั้นชัดๆ)
ให้เสียงนักร้องออกมาแหลมสุด และมีฐานเสียงลมมากสุด
Heimdall2
สำหรับท่านที่อยากจริงจังกับการฟังจับผิดน้อยลงนิดนึง(นิดเดียวนะ) ให้ความรู้สึกลื่นไหลได้มากกว่า ให้ความสมจริงของเครื่องเคาะโลหะน้อยกว่าเล็กกกน้อย ความยิบย่อยปลายเสียงแหลมน้อยกว่าเล็กน้อย เสียงเคาะหัวโน้ตรายละเอียดน้อยกว่าเล็กน้อย แต่นี่ทำให้เบสอิมแพคโตกว่า มีน้ำหนักมากกว่า ทำให้ฟังมันกว่าในเพลงสนุกๆ แต่เสียง ซ ผมว่าไม่น้อยหน้ากันกับ Diamond
ให้เสียงร้องแหลมน้อยกว่าเล็กน้อย มีฐานเสียงลมน้อยกว่า
Curious
ปลายแหลม roll off มากกว่า Diamond, Heimdall2 ความสมจริงของเครื่องเคาะโลหะน้อยกว่าแบบไม่ต้องเพ่ง เสียงแส้เคาะฉาบที่ฟังออกอย่างชัดเจนว่ามีแส้หลายเส้นใน Diamond นั้น สำหรับ Curious จะแยกไม่ชัดขนาดนั้น แต่ก็ยังแยกออกชัดเจนว่าแต่ละครั้งเคาะหนักเบาไม่เท่ากันและคนละจุดบนฉาบ แต่ที่เด่นสุดของเส้นนี้กลับเป็นรายละเอียดเสียงกลาง โดยเฉพาะเสียงร้อง มันยังให้รายละเอียดมาได้ชัดๆเต็มๆ การเอื้อนเสียงร้อง การเล่นริมฝีปาก ยังมาให้ได้ยินแบบชัดๆ ไม่แพ้ 2 เส้นข้างต้น โดยที่เสียง ซ และเสียงลมลดไปได้มาก ทำให้เสียงร้องนวลเนียนน่าฟังดีจริง หัวโน้ตและเบสอิมแพค ผมว่าพอๆกับ Heimdall2
ในสรรพคุณของสินค้าที่แนบมาและในเว็บ บอกว่าเค้าออกแบบมาโดยเน้นที่เวทีเสียง โดยเฉพาะการแยกชั้นในด้านลึก และความเป็น musical ลองดูตามรูปแนบ
น่าเสียดายที่ผมตั้งลำโพงแบบ Near field จึงไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องความลึกของเวทีเสียงได้ แต่ก็ได้ยินจากผู้ใช้ในไทยยืนยันเรื่องนี้อยู่ ส่วนข้ออื่นๆผมเห็นด้วยตามนั้นเลย เช่น สะอาด สมูธและรายละเอียดดี เสียงร้องมีเนื้อ กลมมนกว่า มียกเว้นข้อสุดท้ายที่ คหสต ผมว่ายังแพ้ Diamond, Heimdall2 อยู่
ผิดถูกผิดพลาดยังไงขออภัยไว้นะที่นี้นะคับ คิดซะว่าเอามาแชร์กัน :)
ปล. http://www.curiouscables.com เว็บนี้สั่งให้ส่งมาถึงบ้านได้เลย ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แค่แนะนำเฉยๆ
ปล2. ขอขอบคุณคุณเหน่งบาที่ได้กรุณาส่งแผ่นเบิร์นในตำนานมาให้ยืม ผมเอามาเบิร์น Curious นี่พอดี แถมมีตัวกรองไฟและอื่นๆ ทำให้การเปรียบเทียบครั้งนี้ฟังง่ายขึ้นอีกมากเลยคับ