เริ่มที่หน้าตาด้านหน้าครับ สำหรับผมนี่เป็น DAP ที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา แค่ได้จับได้ลูบยังไม่ทันฟังก็ฟินแล้ว พอสัมผัสปุ๊บอารมณ์ประมาณจับพวงมาลัย Benz CLS ยังไงยังงั้น วัสดุสวยแวววาวมากๆครับ ดูดีมีชาติ คุณค่าที่คุณคุ่ควรจริงๆ หลายๆคนหลงรักตั้งแต่ยังไม่ได้ฟังเสียงกันเลยทีเดียว อิๆๆๆๆ

ด้านหลังเป็น Kevlar ครับ คือ.....สวยมากกกกกกก

ด้านบนครับ ประกอบไปด้วย

- ปุ่ม Power กดค้างเพื่อเปิด-ปิดเครื่อง/ ในขณะเครื่องเปิดกด 1 ครั้ง เพื่อ เปิด-ปิด หน้าจอ
- ช่องหูฟัง 3.5
- ช่อง Balance 2.5

และวัสดุแวววาว ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็แยงตาเหมือนเพชรแยงตายังไงยังงั้น ปิ๊งๆๆ

ด้านซ้ายครับ

- ช่องใส่ SD card 1 ช่อง (support ถึง 128 GB/ ในตัวเครื่องมี internal storage อีก 256GB)
- ปุ่มเลื่อนเพลง และปุ่ม play/pause

ด้านล่างเป็นช่อง USB สำหรับใช้ดึงข้อมูลระหว่าง PC หรือใช้เป็น external DAC และสำหรับชาร์จไฟครับ

ด้านขวา กับปุ่มปรับ Volume ซึ่งเป็นส่วนที่สวยมากๆครับ

หน้า Home เหมือนกับ AK120ii ครับ มี menu ดังภาพ ใช้งานง่าย ใน play list มีการจัด Most playedสำหรับเพลงที่เราฟังบ่อยๆไว้ด้วย

จากทุกหน้าสามารถใช้นิ้วแตะหน้าจอด้านล่างตรงกลาง เพื่อมายังหน้า Home ได้ทันที (คล้ายๆปุ่ม Home ของมือถือ แต่เป็นระบบสัมผัส)

ใช้นิ้วแตะด้านบนแล้ว slide ลงมา จะเข้าสู่ Notification Bar (เหมือน AK120ii) ซึ่งเป็น key ลัดสำหรับตั้งค่าต่างๆ เช่น wifi, blue tooth, Lock ปุ่ม volume เมื่อปิดจอ, Safety remove SD card เป็นต้น โดยมี setting อยู่มุมบนขวาในหน้านี้

ใน Setting มีตั้งค่าต่างๆอย่างครบถ้วน (เหมือน AK120ii นั่นแหละ 555) สามารถตั้งค่าใช้ Line Out เพื่อต่อ Amp ผ่านช่อง Headphone 3.5 ได้ และตั้งค่า Balance Out ในนี้ด้วยเช่นกัน

มาที่เรื่องของเสียงของ AK240ss กันครับ

ผมทดสอบ AK240ss ด้วยหูฟัง Hifiman Edition X ต่อตรงบ้าง Line Out ผ่านแอมป์ Schiit Vali บ้าง รวมถึงใช้ Monk โมต่อตรงบ้าง โดยฟังเทียบกับ X5 gen1 และ AK120ii

เบื้องต้น หากเทียบกับ X5 gen1 ที่ผมฟังอยู่เป็นประจำนั้น พบว่า AK240ss ให้เสียงโดยรวมที่ค่อนข้าง Neutral ไม่มีย่านไหนโดดเด่นออกมาเป็นพิเศษ เนื้อเสียงมีความเนียน สมูทกว่ามากๆ สุขุม นุ่ม ฟังสบาย รายละเอียดดีมาก เสียงสูงนั้นใสแต่เหมือนถูกลบคมจนเนียน จุดโดดเด่นเป็นเกรนเสียงที่ละเอียดมากๆครับ โดยเฉพาะเสียงนักร้องหญิงนั้นมีความไหลลื่นต่อเนื่อง และเนียนมากๆ ฟังแล้วหวานฉ่ำเลยล่ะครับ (และแน่นอนทำให้ X5 มีเสียงร้องที่หยาบไปเลย) ส่วนเบสนั้นเป็นเบสที่เดินสวย มวลใหญ่ อิ่ม มี Deep Bass ให้ได้สัมผัสโดดเด่นกว่า X5 อย่างชัดเจน เป็นเบสคุณภาพจริงๆ ด้าน Sound Stage นั้นผมรู้สึกอารมณ์เดียวกับ AK120ii คือด้านลึกทำได้ดีกว่า x5

หากเทียบกับรุ่นน้องอย่าง AK120ii สำหรับนักฟังระดับทั่วๆไป หูไม่เทพ (เช่นผมเป็นต้น) ฟังแรกๆแทบจะแยกความแตกต่างไม่ออกเลยครับ เพราะเนื้อเสียงไปในทางเดียวกันเป๊ะๆเลย ผมฟังเทียบกันอยู่นานหลายวันมากๆ ถึงได้สัมผัสความแตกต่างเล็กน้อย คือ AK240ss คหสต. ผมรู้สึกว่ารายละเอียด micro detail นั้นทำได้ดีกว่านิดหน่อย แต่กลับพบว่าบรรยากาศโดยรวมเนียนกว่า ซึ่งเป็นสัมผัสที่แปลกว่าทำได้ยังไง คือสามารถทำให้มีรายละเอียดดีกว่า แต่กลับเนียนและสุขุมมากกว่าในคราวเดียวกัน ฟังสบายกว่า ซึ่ง AK120ii นั้นจะให้ความรู้สึกคึกคักและโจ๊ะกว่าเล็กน้อย

ทั้งหมดทั้งมวลขอสรุปว่า AK240ss เป็น DAP ที่ทั้งสวยมากๆ (ขอใช้คำว่าสวยโคตรๆเลยน่าจะเหมาะกว่า 555) และมีเสียงที่ฟังแล้วติดใจสุดๆครับ ตอนนี้มี DAP ที่ยืมมาลองในมือหลายตัว แต่เปิดฟัง AK240ss ยาวเลยครับ ตัวอื่นวางไว้เฉยๆไม่ค่อยได้แตะ 5555

ขอจบรีวิว AK240ss แบบบ้านๆไปเพียงเท่านี้ครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และยินดีรับฟังทุกคำแนะนำครับ รีวิวไปก็เกร็งไป เพราะเป็น DAP ตัว Topๆ ที่รีวิวโดยนักฟังที่อยู่ในระดับบ้านๆประสบการณ์น้อย อาจจะวิเคราะห์ได้ไม่ชัดเจนมากนักครับ

"ขอสตังค์จงสถิตอยุ่กับท่าน"

ขอบคุณครับ ถ้าว่างๆ รบกวน ak300 ด้วยนะครับ อิอิ

ฟังความแตกต่างยากเพราะไม่ได้ใช้ช่อง balance หรือเปล่าครับ

ของผมต้องฟังdsdถึงรู้ว่าต่าง กะรุสึกว่า120ii เสียงร้องมันพุ่งมาข้างหน้ามากกว่า 240มันเนียนกว่าไม่รุกเร้าเท่า

@cuteman : ยังไม่มีให้ยืมเลยครับ สงสัยต้องยืมเฮียมั่น 555555 แต่เห็นเฮียบอกว่าตัวนี้เฮียจะรีวิวเองด้วยนะครับ

@artpiggo : ใช่เลยครับ ผมยังไม่ได้ลอง balance 2.5 เลย เดี๋ยวไปยืมหูที่เป็น balance ก่อนนะครับ อิๆ

@ยาจกศิริราช : ผมใช้ flac หมดเลย เลยฟังไม่ค่อยออกครับ แต่เห็นด้วยเรื่องเสียงร้องพุ่งกว่าครับ

อีกเหตุผลที่แยก 120ii ออกจาก 240ss ได้ไม่มากก็เพราะใช้สายเดิมของ hifiman นะ
ถ้าได้สายอัพเกรดมาใช้แทน ก็จะสามารถเปล่งประกายของ 240ss ไปได้ไกลขึ้นอีกระดับนึงเลย ^^

@น้าชา : ขอบคุณมากครับน้าชา ถ้ามีโอกาสผมต้องหาลองละครับ อิๆ และคงต้องเอาหูฟังมาลองอีกหลายๆตัวด้วยครับ นี่เทสท์น้อยไป แหะๆ (รวมถึงยังไม่ได้ลอง balance)

วิชายืมแบบนี้ท่านได้มายังไงครับ อยากฝึกบ้างกิกิ

อยากยุให้ไปลอง Hifiman HM901s

รีวิวรอบนี้สั้นไปนิดนะครับ รอบหน้าจัดรีวิว AK120ii vs AK240ss vs AK300 vs AK320 vs AK380 แบบบ้านๆ ไปเลยครับ ให้มันรู้แล้วรู้แรดกันไปเลย ว่าที่ขยันซอยออกรุ่นมาทับไลน์กันเองนั้น นักฟังเพลงแบบบ้านๆ จะแยกความแตกต่างออกไหม และถ้ารุ่นราคาถูกดันเสียงดีกว่ารุ่นราคาแพงล่ะก็งานนี้มีเฮแน่นอนครับ :)

@cuteman : ไม่ได้ฝึกเลยฮะ เป็นความโชคดีที่อาจารย์ที่ผมเคารพท่านนึงเล่น Gadget อยู่ และอาจารย์ท่านเอ็นดูผมเลยได้ยืมครับ บางทีไม่ทันขอท่านก็ให้ยืมมาเลยครับ 5555

@nan79 : อยากลองฟังมากเลยครับคุณแนน มีแต่คนพูดถึงในแง่ชื่นชม

@Jack : ถ้ามาทีเดียวหลายๆๆตัวผมคงจะมึนครับ 555555

หลังจากชมไปเยอะ ผมทดลองใช้ไปเรื่อยๆก็เจอข้อติแล้วครับ แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่อาจสร้างความรำคาญได้นิดหน่อยคือ บางครั้งเราต้องการกดปุ่ม Back (มุุมบนซ้าย) แต่มือจะไปโดนปุ่ม Play All ซึ่งอยู่ใกล้กันมากครับ บางทีกด 2-3 ครั้งก็ไม่โดน Play All อยุ่นั่นแหละ ไม่ Back ซักที ต้องเพ่งนิ้วดีๆ 5555

ผมนี่รอรีวิว AK300 จากคุณ champ_korn ด้วยเลยฮะ เพราะว่าน่าจะเป็น AK ที่พอมีงบเอื้อมถึงสุดละ ซี่รี่ย์อื่นนี่ราคาแพงกว่าโน๊ตบุคผมอีก 555

@run15 : ผมยังหายืม AK300 ไม่ได้ครับ (ไม่มีตังซื้อเอง 555) ณ ตอนนี้รออ่านรีวิวเฮียมั่นครับ เห็นเฮียจะรีวิวเอง ผมนี่ปูเสื่รอเลยครับ เฮียรีวิวทีไรอ่านสนุกและฮามาก 55555