ต้องเข้มแข็ง เดินหน้าต่อไป แม้ 1มม. ก็ยังดี ทั้งหมด จะเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ล้ำค่า และเข้าใจชีวิตลึกซึ้งขึ้น คนร่ำรวยก็หามีโอกาสเช่นนี้ไม่

สงสัย เสาร์,ราหู เล็งลัคน์ ก็ค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละเรื่องละกันครับ แล้วสักวันนึง มันก็จะดีขึ้นเอง ไม่มีใคร บนโลกนี้ มีความสุข หรือทุกข์ ไปตลอด มันต้องมีควบคู่กันไป แต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับกรรมเก่าล่ะครับ

ผมซวยมาทั้งชวิตครับทำอะไรก็มีอุปสรรคแต่ทนทนทนได้เวปเฮียเป้นที่พึ่งทางใจครับเป็นกำลังใจให้ครับมีปันหาเราก็ค่อยๆแก้แก้ไม่ได้ก็อยู่เฉยๆมันก็ทนมาได้ครึ่งชวิตละครับขอแค่กินอิ่มนอนหลับไม่ต้องพึ่งพาใครเบื่อก็ดูหนังฟังเพลง

เรื่องอื่นไม่รู้จะแนะยังไง ยังไม่ว่าพิมพ์ด้วย เพราะมีข้อความค่อนข้างยาวแล้วคิดว่าดี

เอาว่าเรื่องแฟน บอกสั้นๆแค่ว่า อย่าตัดสินใจทำอะไรตอนคุณกำลังเสียใจ และอย่าด่วนตัดสินใจตอนโกรธครับ

"รสชาติของชีวิต" ก็มักมีทั้งหัวเราะและร้องไห้แบบนี้แหละครับ
พยายามแก้ปัญหาไปทีละอย่าง ทีละเรื่อง บางเรื่องถ้าหนักมากหรือเกินกำลัง ก็อาจจะต้องลองปล่อยวาง

ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง .. ยิ่งปัญหารุมเร้ามากเท่าไหร่ เรายิ่งเครียด พอเครียด เรามักจะคิดปะปนกัน เอาเรื่องโน้นมาคิดผสมกับเรื่องนี้ สุดท้าย ก็ไม่ได้แก้อะไรเลย นอกจากจะเครียดขึ้น

เป็นกำลังใจให้แล้วกันครับ .. ทุกชีวิตต้องมีบททดสอบเสมอ ขอให้คุณผ่านมันไปได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง

สู้ๆๆๆ นะ เจ้ามดแดง ถนนยังอีกยาวไกล

ปีนี้ปีชงหรือป่าวครับ ไปไหว้พระขอพรสะเดาะเคราะห์ที่วัดเล่งเน่อยี่ดูสิครับ ผมไปทุกปีใหม่เลย หรือขยันไปทำบุญที่วัดดู แล้วก็พยายามทำใจให้สบายมีปัญหาอะไรก็ค่อยๆแก้ไปทีละเรื่องนะครับ

ฟันแตกถึงรากยังไงก็ต้องถอนครับฟันปลอมมีหลายแบบแบบถอดได้. แบบสะพานฟัน ราคาถูกกว่ารากเทียมแต่ต้องการดูแลรักษาความสะอาดมากกว่ารากเทียมครับ

ผมเองฟันแตกมาแล้วทำเรียบร้อยแล้วครับ
มีร้านถูกมาแนะนำแถวพระรามสองครับ
028768065 จำชื่อหมอไม่ได้ครับ หลังจากถอนมีเวลาอีกสามเดือนกว่าจะเริ่มปักรากได้. มีเวลาเก็บเงินครับ
แต่หมอร้านนคิวทองครับ เพราะปกติเค้าทำที่รพแพงกว่านี้ครับ. ถ้าจะทำรีบนัดเลยครับ รอเป็นสองเดือนเลยคิวยาว

ช่วงที่มีปัญหาวุ่นวายยุ่งยากเข้ามาในชีวิต สิ่งที่ทำดีได้ที่สุดคือต้องทำใจให้ได้ก่อนครับ ต้องอย่าโทษความโชคร้ายของตัวเอง จนทำให้จิตใจเราหดหู่ หรือท้อแท้เพราะคิดว่ามันเป็นความซวยของเรา ผมว่ายิ่งคิดทำนองนี้ก็รังแต่จะสร้างความกังวล และเกิดความวิตกในดำเนินชีวิตจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเราไป

วิธีแก้ ลองมองรอบข้างตัว ลองมองคนอื่นที่ตกที่นั่งลำบากทุกข์ยากกว่าเราครับ พอเรามองไปเห็นคนที่ประสบปัญหาที่ลำบากกว่าเรา แต่ทำไมเค้าอยู่ได้ แก้ไขได้ เราจะรู้สึกว่าปัญหาของเรานั้นเล็กมากเมื่อเทียบกับคนอื่นครับ ผมว่าน่าจะทำให้จิตใจสงบและเยือกเย็นลงได้อีก

และอย่าไปมองคนที่สบายกว่าเรา ยิ่งมองคนที่สบายกว่ามากๆ ใช้เงินจ่ายแลกความสะดวกได้ทุกอย่างในชีวิต ผมว่ายิ่งมองยิ่งท้อครับ ยิ่งเปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่นมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับดูถูกตัวเราเองไปเรื่อยๆๆ ครับ

ให้มองต่ำอย่ามองสูงครับ........

รู้จักกฏดึงดูดใหมครับ เพราะเราคิดว่าซวยๆมันก็ดึงความซวยเข้ามาครับ คิดเรื่องดีๆหาเรื่องดีๆเข้าตัวครับ มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือทีม 80% เพราะมองจากตัวเราของเราทั้งนั้นครับไม่มองที่ทีม

ลองไปสมัครเป็น อาสาสมัคร ช่วยผู้ด้อยโอกาส ดีไหมครับ

1. ได้มีอะไรทำ ทำให้ลืมความเครียด
2. ได้ออกไปพื้นที่ใหม่ๆ เจอเด็กๆ ที่บริสุทธิ์
3. ได้ช่วยเหลือคนที่ด้อยกว่าเรา ได้กุศลแรง

ที่ผมเห็นประกาศรับอาสาสมัคร จะมีเป็นไปช่วย 1 วัน และ 2 วันครับ ตามสะดวกว่าค้างคืนได้หรือไม่ได้ จะเป็นกิจกรรมสอนหนังสือเด็กด้อยโอกาส กิจกรรมสร้างบ้านดินให้ผู้ยากไร้ และอื่นๆ

กิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่ทุกคนจะต้องสอนหนังสือนะครับ ในหน้างานจะแบ่งหน้าที่กัน บางคนก็ทำอาหารอย่างเดียว หั่นผักหั่นแตงกวา บางคนก็กวาดถูที่พัก บางคนขับรถรับส่งเพื่อนๆ ก็มี เราก็เลือกทำกิจกรรมที่เราถนัดและพอใจจะทำ ได้บุญทั้งนั้นครับ กลับมาสิ่งดีๆ จะเข้ามาหาครับ

ช่วงนี้ผมก็แย่เหมือนกันครับ มีหลายเรื่องให้ว้าวุ่นกลุ้มใจ ฟังเพลงที่เคยฟังก็ไม่เพราะ แต่ทำไงได้ มีปัญหาก็ค่อยๆ แก้ไขไปทีละเรื่องตามสถานการณ์ครับ

มันเป็นจังหวะของชีวิตครับ T T

ทุกวันนี้ผมต้องพยายามเตือนสติตัวเองว่าชีวิตมีขึ้นก็มีลงได้ มันเป็นโลกธรรม 8

แนะนำแบบที่ผมเองก็พยายามทำอย่างสม่ำเสมอ คือ
ให้ใส่บาตรทุกเช้า ก่อนนอนสวดมนต์ นั่งสมาธิแผ่เมตตา มีเวลาว่างก็เข้าวัดทำบุญ หรือจะบริจาคอาหารให้เด็กๆที่ขาดโอกาส หรือสมทบทุนสร้างโรงพยาบาล หรือกองทุนช่วยผู้ป่วยยากไร้ เป็นต้น

พอพยายามทำสม่ำเสมอแล้วช่วงหนักๆในชีวิตผมที่เคยเจอมาจะค่อยๆผ่านไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับครับ :D

ไปดู captain america ครับ แล้วจะรู้ว่ายังมีคนอื่น ที่มีปัญหาหนักกว่าของคุณอีกเยอะ

แก้ปัญหาที่พ่อ แม่ งานก่อน แฟนไว้ทีหลังครับ ตั้งสติให้อยู่กับตัวให้มั่นคง ขอให้โชคดีครับ

ขอบคุณทุก ๆ ท่านมากครับ จะลองสู้ดูครับ

ฟังเพลงจาก ms1i ครับชีวิตจะดีขึ้นเอง

ลองซื้อโลงศพบริจาคตามมูลนิธิก็ดีนะครับ ส่วนเรื่องรากเทียม ผมทำที่สถาบันของผมราคาครึ่งเดียว(35,000)เองครับ สนใจก็เมล์มานะครับ

ที่สำคัญ คิวไม่ยาวด้วยครับ

ลืมไปเลย 555 ผมเองก็ใช้วิธีของคุณหมอทัตเทพมาตลอดเหมือนกัน

เวลาช่วงไหนรู้สึกว่ามีเรื่องวุ่นวายมามากๆๆ ผมก็จะไปที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊งหรือร่วมกตัญญู ไปบริจาคเงินซื้อโลงศพพร้อมผ้าดิบ ชุดละ 650 บาท จะซื้อกี่ชุดก็ว่าไปตามแต่สะดวก แล้วก็เอาใบบริจาคไปเผาในที่เผากระดาษ และอย่าลืมหยิบกระดาษสีแดงๆ เขียนว่าอุทิศส่วนกุศลให้ใคร แล้วเอาไปหย่อนในโลง (ปอเต๊กตึ๊งใช้หย่อนลงในโลง) หรือเอากาวทาหลังกระดาษและติดที่ตัวโลง (ร่วมกตัญญู) ทั้งหมดจะมีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน

ผมว่ามันเป็นการสะเดาะเคราะห์อย่างหนึ่ง ทำแล้วสบายใจดีครับ ^^

นอกจากทำบุญ ให้ทาน แนะนำให้ทำสมาธิครับ เบื้องต้นคงเป็นสมถะกรรมฐาน

เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น
เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น
(พุทธพจน์)

มีสติอยู่"ทุก"ลมหายใจเข้าออก ไม่ใช่อยู่"กับ"ลม หรือเพ่งลมนะครับ ไม่ต้องฝืนบังคับ ลมหายใจจะสั้นหรือยาวให้เป็นไปโดยธรรมชาติ มีสติรับรู้ด้วยความเป็นกลาง ไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง

หรือจะเป็นกำหนดสติกับอะไรสักอย่างตามถนัดก็ได้ ขอเริ่มต้นแค่วันสิบหรือสิบห้านาทีก็พอ แต่ขอให้ทำทุกวันนะครับ

ไม่มาก แต่ต้องสม่ำเสมอ

วันนี้ไปทำบุญปอเต็กตึ้งมาแล้วนะครับ
ขอบคุณทุก ๆท่านจริง ๆ ครับ หวังว่าชีวิตจะดีขึ้นและจะนำคำแนะนำทุกท่านไปปฏิบัตินะครับ
ขอบคุณครับ

ยินดีด้วยครับ ขอให้เรื่องวุ่นวายต่างๆผ่านพ้นไปด้วยดีครับ

การไปทำบุญบริจาคโลงและผ้าดิบที่ปอเต๊กตึ๊ง ผมว่าคนที่เคยไปน่าจะซึมซับกับบรรยากาศ ณ เวลานั้นได้ดี คือมันเป็นช่วงที่กังวล เซ็ง เครียด แต่หลังจากค่อยๆเดินไปจุดธูปอธิษฐาน เดินไปเคาน์เตอร์บริจาคเงิน นำใบกระดาษแดงมาหย่อนในโลงเพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร

พอทำครบกระบวนการ ผมเชื่อว่าทุกคนรู้สึกว่าดีขึ้นทันที อย่างน้อยที่สุดรู้สึกว่าโล่งอก อันนี้ท่านที่หัวสมัยใหม่อาจจะฟังแล้วงมงาย แต่ผมอยากจะบอกว่านี่คือกุศโลบายที่ทำให้ความเครียดทุกอย่างคลายลง และเดินต่อไปได้ครับ