Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

มาคุยเรื่อสินสอดกันดีกว่า

nopphong

29/09/2009 13:17:12
4
พอดีสักเมื่ออาทิตย์ก่อน พนักงานหน้าร้านคุยกัน เขาบอกว่าที่บ้านเรียกสินสอด 200,000 ฟังแล้งโอว...

มี ความรู้สึกว่าอืม...เงินกว่าจะหาได้แต่ละพันแต่ละหมื่น กว่าจะได้สองแสนเนี่ยมันใช้เวลาหลายปีมากๆ (ผมเป็นสิบปีแล้วยังมีไม่ถึงสักที ได้เป็นของหมด) แล้วอยู่ดีๆต้องเอาเงินที่สะสมมาแทบตาย ไปให้พ่อแม่ผู้หญิงเนี่ยนะ ซึ่งภรรยานั้นก็เหมือนหุ้นส่วนชีวิต แต่งมาแล้วมันก็ไม่ใช่สมบัติของผู้ชายเหมือนสมัยก่อน แล้วก็ไม่ได้ซื้อลูก เขามาแล้วหายหัวไปเลยซะเมื่อไร แล้วก็ไม่ได้เอาลูกเขามาทำเป็นทาสด้วย ดีไม่ดีได้มาแล้วเราเป็นทาสเขาอีกต่างหาก ทำไมต้องเอาเงินมากมายขนาดนั้นให้กับทางพ่อแม่ผู้หญิงด้วย

อีกทั้ง เงินนั้นก็เป็นเงินใครที่ไหน ก็เงินสามีของลูกตัวเองในอนาคต คิดดูว่าจะตั้งครอบครัวใหม่ แต่ต้องเอาเงินที่สะสมมานานแสนนานไปให้พ่อแม่ผู้หญิงเสียหมด ไหนจะค่าจัดงาน แล้วชีวิตครอบครัวมันจะต้องทนลำบากสะสมเงินกันอีกนานแค่ไหน คิดหรือไม่ว่าลูกตัวเองจะต้องไปอยู่กับคนที่หมดตัวเพราะตัวเองเอาเงินเขามา เกือบหมดแล้ว

เฮ้อเศร้า สังคมไทยมันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน ไอ้เรื่องขายลูกกินเนี่ย

ของ ผมโดนไปแสนนึง กับทองอีกหลายบาท ยังสงสารแม่จนถึงทุกวันนี้ เพราะถ้าไม่ได้แม่ผมคงไม่มีปัญญาแต่ง เงินขนาดนั้นมันไม่ได้หาง่ายๆจริงๆสำหรับเศรฐกิจทุกวันนี้ นี่ยังดีที่รู้สึกผิดน้อยลงเมื่อมีหลานให้เพราะแม่อยากได้หลานนานแล้ว ตอนแต่งแม่บอกว่า ไม่เป็นไรสินสอดแม่ออกให้ แต่ต้องมีหลานให้แม่นะ ยังคิดถึงคราวลูกตัวเองว่าจะมีปัญญาหาสินสอดให้มันหรือเปล่าเนี่ย

ผมทำงานในห้างครับ วันๆเดินผ่าน เห็นคนมีแฟนสวยๆเดินมาด้วยกันผมเห็นแล้วคิดว่า...อืมขนาดหน้าตาอย่างพนักงานหน้าร้านยังเรียกกันสองแสน สวยขนาดนั้นจะเอาเงินสินสอดที่ไหนไปขอเขาได้ล่ะเนี่ย คบคนสวยน่ะคบได้แต่อนาคตน่ะคิดกันบ้างหรือเปล่า เตรียมหมดตัวกันหรือยัง เฮ้อ....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

Shure

29/09/2009 13:31:02
^
^
^
กำลัง ชักนำ ให้ คบ ผู้หญิงขี้เหร่ๆ เหรอท่าน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

nopphong

29/09/2009 13:39:44
4
พูดตามตรงหลังจากผ่านชีวิตบนห้างมาเป็นสิบปี
พบว่า ความสวยไม่คงทน พนักงานสวยวันนี้ อีกไม่กี่ปีก็แก่ ความสวยเป็นแค่ option เสริม คนที่นิสัยเข้ากันได้กับเราสิเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าครับ

แต่ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องสินสอดนะ เรื่องสินสอดคือไม่เข้าใจว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้หญิงไม่ใช่สมบัติของผู้ชายแต่อย่างใด แล้วทำไมพ่อแม่ฝ่ายหญิงถึงยังเรียกเงินมหาศาลในการ ขาย ลูกตัวเองเหมือนเมื่อร้อยปีก่อนอยู่เหมือนเดิม
ลูกก็ยังเป็นลูกตัวเองอยู่ ไม่ได้ซื้อแล้วหายไปเลยเสียเมื่อไร ไอ้ที่ส่งเสียให้เรียน ไอ้เรื่องที่เลี้ยงกันมาน่ะ ก็เลี้ยงลูกตัวเองทั้งนั้น แต่มาเก็บค่าเลี้ยงดูจากฝ่ายชายเนี่ยนะ หรือว่าจ่ายแล้วเป็นสมบัติของผู้ชาย เอาฝ่ายหญิงไปทำอะไรก็ได้ พ่อแม่ผู้หญิงป่วยก็ไม่ต้องไปดูดำดูดี จ่ายเงินซื้อมาแล้วนี่ แต่นี่ก็ไม่ใช่ลูกก็ยังเป็นลูกตัวเองอยู่ ยังดูแลพ่อแม่เหมือนเดิม ดีไม่ดีได้ลูกเขยมาช่วยดูแลด้วยอีกต่างหาก

ปล.ผมคงไม่บ่นเลย ถ้าจ่ายเงินแล้ว ผู้หญิงเป็นสมบัติของผู้ชายเหมือนสมัยก่อนนะครับ แต่นี่ยุคสมัยมันเปลี่ยน หญิงชายนั้นเป็นหุ้นส่วนชีวิตกัน แล้วทำไมฝ่ายชายถึงต้องเป็นฝ่ายหมดตัว พวกพ่อแม่ฝ่ายหญิงคิดกันหรือไม่ว่าชีวิตครอบครัวลูกจะเป็นยังไงในเมื่อสามี ของลูกต้องใช้เงินที่สะสมมาหลายปีหมดไปนะครับ จริงๆแล้วควรจะดูที่ว่าสามีของลูกในอนาคตมีคุณสมบัติดีหรือไม่ จะเลี้ยงดูครอบคัวได้หรือไม่ ถ้าจะเรียกสินสอดก็เรียกพอเป็นพิธีเพื่อดูว่าฝ่ายชายมีปัญญาหาเงินมาหรือไม่ แต่นี้เล่นเรียกกันโหดๆแล้วเอาเงินไปเลย ปล่อยให้ลูกตัวเองต้องก้มหน้าใช้หนี้กันต่อไป มันเศร้าใจจริงๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

iPrach

29/09/2009 13:47:22
28
อยู่ที่คนสองคนมากกว่า
ว่าคบกันด้วยเงิน หรือความรัก

แต่ก็เป็นประเพณีอย่างหนึ่งของไทยครับ
เป็นค่าน้ำนม ที่ฝ่ายชาย ให้เป็นทรัพย์สินแก่ บิดา มารดาหรือ ผู้ปกครองฝ่ายหญิง
เพื่อตอบแทน การที่หญิงยอมสมรสด้วย อนุรักษ์ไว้ไม่เสียหาย

ผมก็มีแค่สินสอดคนจนธรรมดาๆๆ เหมือนกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

Bank

29/09/2009 13:55:09
0
โอ้ เห็นด้วยกับพี่ nopphong อย่างแรงเลยพี่ บางทีผมว่าก็เรียกโหดเกินไปนะ
กะจะขายแล้วรวยเลยหรือไงเนี่ย อิอิอิ แต่ว่าก็ว่าเรียกพอเป็นพิธีก็พอแล้วครับ

บางครั้งที่ผมเคยได้ยินมา พ่อกับแม่ฝ่ายหญิงได้รับสินสอดแล้วยังไม่เอามาเป็น
ของตัวเองด้วยซ้ำครับ กลับให้เงินสินสอดนั้นให้กับลูกสาวและฝ่ายชายเอาไปตั้งตัวอีก

นี่แหละครับ \"ความรักของพ่อและแม่ ความรักที่ไม่หวังสิ่งใดๆ ตอบแทนเลย\"

ปล.บางทีผมยังเคยเจอแบบจับตะกร้าล้างน้ำแล้วมาเรียกเป็นแสน โอ้วแม่เจ้า
เห็นแล้วอยากจะบ้า นี่ล่ะมั้ง ที่เป็นสาเหตุ ทำให้ผมไม่ยอมมีแฟนสักที เฮ้อ คิดแล้วกลุ้ม
บางทีหามาได้แต่ถ้าเป็นของคนอื่นมาทั้งเมืองอันนี้ก็แย่นะ -*-
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

nopphong

29/09/2009 14:04:18
4
แต่ถ้าเรียกสินสอดไป แล้วให้ลูกสาวเก็บเอาไว้เผื่อกรณี ลูกเขยมันเลว อันนี้เห็นด้วยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

bankhalkdown

29/09/2009 14:18:13
0
บางทีผมว่าเรื่องพวกนี้ก็ต้องดูฐานะเราด้วยนะครับ

ไม่ใช่ว่าจะเรียกเท่าไหร่ก็เรียก ถ้าเรียกเยอะเกินผมว่ามันก็เหมือนการขายลูกกิน

แต่บางทีเขาก็ให้เป็นพิธีครับ ถ้าเรารักลูกเขาจริงๆ สิ่งใดมันก็ไม่สำคัญเท่าความรักหรอกครับ

ถ้าเป็นผมเรียกเยอะเกิน ผมพาหนีไปจดทะเบียนสมรสเลยอะ

อายุเกิน 20 ไม่ต้องได้รับความยินยอมจาก บิดามารดา

รักพี่ต้องหนีตามมมมม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Bank

29/09/2009 14:34:38
0
555+ นาย Bank ฮาได้อีก อิอิอิ (เหมือนเรียกชื่อตัวเองไงก็ไม่รู้ 55+)

แต่หนีตามไปแล้ว กลับมาจ่าย แค่ สามหมื่นเองง่ะ อิอิอิ

แต่พอคุยทะลึ่งๆ แบบนี้กับผู้หญิง ผู้หญิงก็จะบอกประมาณว่าถ้าทำแบบนั้น
ประมาณว่าไม่รักจริง อิอิอิ

เรื่องแบบนี้ดูฐานะสักหน่อยก็น่าจะดีครับ ถ้าให้สินสอดแล้วกัดก้อนเกลือกิน
ก็ไม่ไหว ถึงพี่จะรักน้องมากแค่ไหน ยังไงอยู่กับตังค์ก็คงดีกว่า 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

bankhalkdown

29/09/2009 14:46:40
0
ก็สวนผู้หญิงไปว่า รักจริง= เงิน หรอจ๊ะ

มีเงินให้เป็นค่าสินสอดแสดงว่ารักจริงงั้นหรอออ

งั้นถ้าพี่รวยเหมือนบิลเกต ก็รักสุดๆๆๆๆๆๆ เลยสิ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

bankhalkdown

29/09/2009 14:49:09
0
สมัยนี้ความรัก+ความเข้าใจอย่างเดียวมันอยู่กันไม่ได้หรอกครับ

ต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่าง เงินก็จำเป็นนะครับ จริงๆ

เงินมันไม่ใช่ของสำคัญหรอกครับ มันเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่า

คนที่เห็นเงินเป็นสิ่งสำคัญก็มักจะชอบโกงกินอะครับ

แรกๆก็โกงเพื่อน หนักหน่อยก็โกงประเทศ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

ryder2000

29/09/2009 14:52:47
0
อิอิ โดนใจ กระเป๋าแบนแฟนยิ้ม \\\"ถ้าเงินไม่มีสักบาทจะแต่งกันไหม กับรักที่ทรหดเกินไป กับชายคนหนึ่ง\\\"
ก่อนอื่นของแนะนำวิธีลดค่าสินสอดคับ
1.ทำให้ท้องคับ อันน่าจะทำให้ค่าสินสอดลดลงทันที่ (อันนี้ไม่แนะนำเสี่ยงกับการเข้าหน้าพ่อตา แม่ยายไม่ติด ที่สำคัญเสี่ยงลูกปืน)
2.อย่ารีบแต่งดึงเวลาให้นานนนนนนนนน (นานมาก) ที่สุดเท่าที่จะทำได้จนแม่ยายจะมาถามเองว่าเมื่อไหร่จะแต่ง อิอิ เข้าทางเราเลย บอกไปว่าเงินยังขาดอยู่ แม่ยายจะถามกลับมาว่าขาดเท่าไร บอกไปอย่างมั่นใจว่าขาดทั้งหมดขอยืมก่อน (วิธีนี้ใจต้องถึง หน้าต้องด้าน แล้วแม่ยายจะกรี๊ดเอง)
3.วิธีนี้น่าจะดีที่สุด ให้เก็บเงินด้วยกันทั้งหญิงและชาย จะได้เห็นค่าของเงิน จะเลิกกันก็จะได้คิดถึงตอนเก็บเงินด้วยกันกว่าจะได้ค่าสินสอด
คุณ nopphong ส่วนหนึ่งอาจเพราะฝ่ายหญิงต้องจัดงานแต่ง ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย (มองในแง่ดี)ส่วนในแง่ไม่ดีคือ อายข้างบ้านเวลาเขาถามค่าสินสอด หรืออีกอย่างจะได้ไปอวดข้างบ้านได้ว่าได้สินสอดเยอะลูกเขยรวย (ความจิง เจ้าบ่าวลากเลือด ชาติไหนจะใช้หนี้หมดวะ)อย่าไปคิดเขาขายลูก เปนค่าน้ำนมหรือค่าเลี้ยงดู (แล้วไอผู้ชายอย่างเรากินน้ำอะไร หรือเขาไม่ได้เลี้ยง พ่อแม่เราปล่อยตามยถากรรม)สุดท้ายชาติหน้าไปเกิดเปนชายอินเดีย หรือหญิงไทยนะคับ (จากคนมีประสบการณ์แต่งงานไม่น้อย)
ปล.คุณBank อย่าไปคิดอย่างนั้นถ้าไปเจอแบบที่เขาใช้กันทั้งเมืองแสดงว่าของเขาดีจิง คนติดใจใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง (เขียนไปได้ตูก็ไม่อย่าเจอ แต่ที่เจอมันของป้ายแดงเลยพูดได้)
อีกอย่างคับ คุณ Bank คนใต้ไม่แน่ใจว่าคนตรังหรือเปล่าคับ ถ้าไม่ใช่ขอโทษด้วยคับ ถ้าใช่ขอถามหน่อยคับ ผมผ่านตรังที่ไรหลงเข้าเมืองทุกที่ อันนี้เปนแผนการตลาดให้เราเข้าไปซื้อหมูย่างหรือว่าเค้กเมืองตรังหรือเปล่าคับ
อิอิ ล้อเล่นแต่อยากรู้จิงคับ แต่คนตรังใจดีเปนมิตรและน่ารักที่สุดในภาคใต้ ผมฟันธง อ้อผมคนหาดใหญ่คับยินดีที่ได้รู้จักคับ
สุดท้ายจิงๆ บอกความโง่ของตัวเอง ดันไปกดESC เวงเลยต้งพิมพ์ใหม่ทั้งหมด เวงเสือกไม่ได้ล็อกอินอีก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

อู๊ด Matrix

29/09/2009 14:56:31
0
ผมยังไม่ได้แต่งงานครับ แต่คบกับแฟนมานานแล้ว
เคยคุยเรื่องนี้กับว่าที่แม่ยายครับ เค้าพูดง่ายๆ ว่า

้เอามา 1,000,000 บาท ถึงจะยอมให้แต่ง

ผมเลยตอบกับ ว่าที่แม่ยายไปง่ายๆ เหมือนกันว่า

งั้นก็อยู่กันไปอย่างงี้แหละ รอแม่ตายก่อน ผมค่อยแต่ง
ปล.ทุกวันนี้ ว่าที่แม่ยายยังไม่หายโกรธผมเลยครับ ^_^

หมายเหตุ : สาเหตุที่ต้องพูดไปยังงั้นเพราะว่า ทุกวันนี้บ้านที่ผมกับแฟนอยู่
ผมก็ซื้อ ผมผ่อน แต่ทำประกันพิทักษ์สิทธิ์เป็นชื่อลูกสาวเค้า คือถ้าภายในระหว่าง
ที่ยังผ่อนไม่หมด ถ้าผมตาย บ้านจะตกเป็นของลูกสาวเค้าทันที ประกันชีวิตผม
ก็เป็นลูกสาวเค้า เป็นผู้รับผลประโยชน์ แล้วผมจะหาเงินสด 1,000,000 บาท
มาจากไหนเนี่ย เซ็งว่าที่แม่ยายตัวเองเหลือเกิน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

Tanan

29/09/2009 14:59:21
0
เป็นผมหรอไม่จ่าย ไม่สนด้วย ถ้ารักกันจริงก็แต่งเลยจบ

ถ้าผู้เล่นๆ ก็เดี๋ยวนี้ผู้ชายน้อย ต้องให้ผู้หญิงมาขอถึงจะถูก
ผู้ชายแต่งไปก็ไปเป็นทาสเขา อย่างที่คุณ nopphong ว่า
จริงไหมพวกเรา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

iAsa

29/09/2009 15:00:04
0
ตาปรัชญ์เตรียมใจไว้เลย สงสัยเช้าตอ้งเป็นคนไปขอ ไม่ใช่ตาปรัชมาขอ ไม่งั้นคงไมได้แต่ง

ขอพูดในฐานะครอบครัวคนไทยแท้ๆ แต่โบราณ + มุมมองของผู้หญิงนะคะ

ต้องขอท้าวความก่อนว่า บ้านเรา ค่อนข้างจะไทยข้าหลวงมากๆ ประเภทที่เรียกได้ว่าคุณทวดเป็นพระยา คุณย่าเป็นคุณหญิงทำนองนี้เลย

เราเคยเกือบได้แต่งงานก่อนหน้าคบกับปรัชญ์ แต่พอดีมีอันต้องเลิกกันไปเพราะเหตุผลอื่นๆ (ที่ไม่ใช่เรื่องแต่งงาน)

ตอนนั้นเค้ามาคุย เจอแบบนี้ไป \"คิดว่าเช้ามีค่าเท่าไหน ก็ลองเสนอมา เดี๋ยวพิจารณาเอง\" ไม่กล้าเสนอกันเลยทีเดียว

แต่จริงๆเท่าที่รู้คือทางบ้านเช้า ลูกพี่ลูกน้องอะไรงี้ไม่มีใครต่ำกว่า 200k หลัก M ยังมี ส่วนของมั่นส่วนใหญ่เป็นของที่ไม่ได้หาได้ด้วยเงินค่ะ (ทั้งไปขอเค้าและเค้ามาขอ)

ที่ที่บ้านทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าอยากได้เงินนะคะ อย่าคิดว่าคนทั่วไปเค้าจะขายลูกกิน ทั้งบ้านลูกพี่ลูกน้อง หรือคนที่เรารู้จัก เงินจำนวนเท่านี้ ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ยาก แล้วส่วนใหญ่มา เค้าจะมอบคืนให้ เมื่อมีหลาน หรือบางทีก็เก็บไว้ให้เป็นมรดกค่ะ ไม่ก็ไปซ์อของให้ แต่จริงๆแล้วมันเป็นการการันตีค่ะ ว่าถ้าเป็นลูกสาวโดนขอ ก็ต้องมั่นใจว่า บ้านที่จะขอลูกสาวไป อยู่ในสถานะทางสังคมที่ยอมรับได้ ไม่เอาลูกเราไปเกาะ หรือว่า ไปลำบากลำบน ส่วนถ้าไปขอลูกสาวเค้า ก็เป็นการบอกให้ทางผู้หญิงรับรู้ว่า ไม่ต้องห่วงนะ ลูกชายชั้นมีปัญญาพอเลี้ยงดูได้

พ่อเช้าเคยบอกว่า ถ้าให้ลูกไปแต่งกับครอบครัวที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิง หรือ ครอบครัวผู้หญิง แบบนั้นก็อย่าไปแต่งมันเลย รับรองว่าไม่ happy แล้วถ้าครอบครัวที่ฐานะไม่สมดุลกัน แต่งไปถ้าไม่โดนเอาเปรียบ เราก็อาจจะต้องไปลำบาก พ่อบอกว่าลูกสาวคนเดียว พ่อเลี้ยงได้ค่ะ ใช้ชีวิตให้สนุกดีกว่า อย่าไปหาภาระใส่ตัว

พูดง่ายๆมันคือการกลั่นกรองคนที่จะมาขอในระดับนึงค่ะ

เราอาจจะมีความคิดไม่เหมือนคนข้างบนหลายๆคน และอาจจะดูความคิดเห็นรุนแรง แต่เราอยากจะให้เข้าใจคนที่เรียกสินสอดแพงๆบ้าง เราไม่รู้ว่าคอรบครัวอื่นเป็นยังไง แต่ครอบครัวที่(ที่ดูเหมือนจะแพง) คิดกันแบบนี้ค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

ryder2000

29/09/2009 15:02:47
0
คุณ nopphong คับ เจอเพื่อนผมแล้วจะหนาวที่บ้านมันเรียกสามแสน อายุก็สามสิบ ดำยังกับถ่าน ดั้งก็ไม่มี (อ้อ เพื่อนผมผู้หญิงนะคับ)แฟนมันอย่างหล่อ สูง ขาว อายุ ยี่สิบหก พ่อแม่เพื่อนผมทำท่าไม่พอใจ (อย่างกับลูกเปนนางฟ้า (มีคนมาขอก็บุญแล้ว)เวง)แฟนเพื่อนผมเปนคนเวียนา ผมฝากไปว่าขออะไรตั้งสามแสน มันบอกว่าคนแถวบ้านมันขอกัน หลักสองแสนขึ้นทั้งนั้น (ทำยังกับเปนลูกเถ้าแก่มีกิจการใหญ่โต)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

Bank

29/09/2009 15:04:49
0
อย่างฮาครับ คุณ Ryder2000 ถ้าจะไปทางอื่นที่จะมุ่งไปนครนะครับ

จากหาดใหญ่จะมีถนนอีกเส้นนึงคือ สายเอเชีย เส้นทางนั้นจะไปยาวได้ถึง นครศรีฯ โดยไม่ต้องเข้า
ตรังเลยครับ แต่เส้นทางนั้นมันมีมานานแล้วนา.... เอ้ ..... ติดใจอะไรในเมืองรึเปล่า อิอิอิ
(ล้อเล่นนะครับ) ผมโชคดีที่เป็นคนมีเพื่อนค่อนข้างมาก เลยจะรู้อะไรแปลกๆ เยอะ เหอๆๆๆๆ
ผมถึงไม่ยอมมีแฟนสักทีลองนึกภาพว่าถ้าเป็นอย่างที่ผมเขียนไว้ แล้วเพื่อนมาเจอ ผมว่าชีวิตผม
เป็นหนังสยองขวัญที่สุดในชีวิตเลยนะครับ อิอิอิ

ปล.คุณ Ryder2000 จำถูกแล้วละคับ ผมคนตรังครับ อิอิอิ พฤศจิกายนนี้ ผมจะลงไปรับปริญญา
ที่สงขลาล่ะครับ อิอิอิ ค้างรับมาปีนึงแล้ว รับพร้อมกับน้องสาวทีเดียวกันไปเลยครับ อิอิอิ
หาดใหญ่ผมชอบไปนะ เที่ยวบ้างซื้อของบ้าง อิอิอิ สนุกดีครับ เมืองเค้าเจริญดี อิอิอิ เน็ตก็แรงเนอะ

อะๆ แต่บอกไว้อย่างนึงนะเรื่องสินสอดนี่ วันก่อนจะเล่าให้ฟัง มีผู้ชายคนนึงทำ ญ ท้อง แล้วตั้งสินสอดไว้
100K แล้วทีนี้ผู้ชายเอาเงินไปแค่ 20K แล้วบอกว่าเงินไม่พอ พี่ชายฝ่ายเจ้าสาวชักปืนขึ้นมายิง....
เหนี่ยวไกไป 2 ครั้ง .... เชื่อมั๊ยครับ ปืนไม่ลั่น เหอๆๆๆๆ วิ่งกันป่าราบเลยครับ ฝ่ายเจ้าบ่าว สุดท้าย
ไม่รุ้ลงเอยกันยังไง ประมาณว่าไล่ยิงกันเหมือนในหนังเลยล่ะครับ หุหุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

iAsa

29/09/2009 15:06:57
0
อะโห เพิ่งรู้ว่าตัวเองพิมพ์ยาวเหยียด

แต่เห็นความคิดเห็นแต่ละอันข้างบน นี่ดู = =\" มากๆ แบบว่าเป็นผู้หญิง เลยทำใจไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

Uthen

29/09/2009 15:07:23
0
จริงๆเรื่องนี้มันก็แล้วแต่กรณีล่ะครับ
แต่ส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงจะเป็นส่วนรับผิดชอบเรื่องจัดงานต่างๆ ต่ามประเพณี เงินสินสอดส่วนนึงก็เอามาจ่ายในงานเป็นค่าเลี้ยงแขก มันก็เยอะนะแล้วแต่ครอบครัว ของไหว้ก็หลายบาทเน้อ

ที่เหลือรวมกับซองช่วยงานก็ส่วนใหญ่จะพอดีล่ะ ขาดเกินนิดหน่อย

ถ้าไม่อยากให้เรียกเยอะก็พาหลานไปหาเลยครับ (อิอิ อันนี้ไม่แนะนำ) ไม่ต้องจัดงาน ดีไม่ไดีจะมีเงินทองผูกข้อมือหลานให้อีกนะ

อีกกรณีนึงก็เรียกตามแต่ฐานะทางสังคม จะเรียกน้อยก็กลัวอายชาวบ้านก็เลยเรียกเยอะหน่อย หลังงานหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็คืนเป็นทุนให้ลูกตั้งตัว

จริงๆเรียกเยอะหน่อยก็ดี ถ้าหามาได้ก็ทำให้พ่อ-แม่ฝ่ายหญิงมั่นใจได้ว่า ผู้ชายที่ลูกเลือกมีปัญญาหาเงินมากอง ไม่ใช่ไม่เอาถ่าน สามารถเลี้ยงดูลูกสุดที่รักได้เป็นอย่างดีครับ

ไม่อยากให้คิดว่าเป็นการขายลูกกินเลย เท่ากับดูถูก พ่อ-แม่ ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

Uthen

29/09/2009 15:12:40
0
ท่านลองนึกดูครับ บ้านฝ่ายหญิงยิ่งรวยยิ่งเรียกแพงเพราะอะไร

กลับกัน.. แทบจะผูกข้อมือยกลูกสาวให้ทันทีที่รู้ว่าเป็นคนดีครับ

ทำไมบ้านที่ถานะไม่ดีถึงไม่เรียกแพงๆ ล่ะ......
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

iAsa

29/09/2009 15:14:32
0
คุณ UTHEN ความคิดน่ารักที่สุดๆ!!!! ที่บ้านเช้าคิดอย่างนี้จริงๆคะ แล้วเช้าก็เห็นด้วยว่า การบอกว่าขายลูกกิน มันดูเหมือนดูถูกพ่อแม่ฝั่งหญิงเลย

อีกนิด ความคิดเห็นข้างบนที่อ้างอิงแบบว่า ผู้หญิงไม่สวยบ้าง เป็นแค่คนธรรมดาบ้าง ลูกสาวใครๆก็รักน่อ จริงๆจะบอกว่า ลุกใครๆก็รักดีกว่า ต่อให้ลูกหน้าหมาเมินเป็นฆาตรกรยังไง เราว่าพ่อแม่ก็รักแหละ อย่าไปดูถูกลูกสาวคนอื่นเค้าเลยค่ะ ในสายตาพ่อแม่ จริงๆลูกน่าจะมีราคามากกว่าเงินนะ (แต่มันก้แล้วแต่ครอบครัวด้วยแหละ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

Tanan

29/09/2009 15:14:55
0
คือในความคิดผม ถ้าอยากดูว่าฐานมั่นคงขอใบรับรองจาก ธนาคารซิ
Slipt เงินเดือน, หรืออื่นๆ ซึ่งถ้าจริงๆแล้วในความคิดผม

+++++ ควรให้ผู้ชายไปอยู่บ้านฝ่ายหญิงแบบอยู่ด้วยกัน พร้อมพ่อแม่ฝ่ายหญิงไปเลย
จะได้รู้นิสัยมัน อย่างน้อยน่าจะ 2 ปี

การแค่จะมาดูว่ามันมีเงินไหม จากสินสอดแล้วจะให้รับรองความสุขในชีวิตคู่มันคงไม่ได้
บางคนรักกันจริงถึงไม่มีเงินเค้าก็อยู่กันได้

ผมว่ามันควรเลิกได้แล้วสินสอดพวกนี้เนี้ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

iAsa

29/09/2009 15:24:21
0
จะกลายเป็นโต้วาทีมั้ยหว่า

ไม่เห็นด้วยเลยคุณ Tanan

มันไม่ได้ดูแค่ว่ามั่นคงอะค่ะ มันดูความใจกว้างด้วยแหละ แต่งงานไม่ใช่สมัครทำงานบริษัทน่อ เรียกไป แล้วกล้าจ่ายมั้ย ให้เกียรติกันแค่ไหน

ถ้าเอาใบรับรองธนาคารมา แล้วยังไง แต่งแล้วโอนออกใช้หนี้ก็เท่านั้น
Slipt เงินเดือน โดนไล่ออกก็จบกัน

ให้ผู้ชายมาอยู่บ้านฝ่ายหญิงผู้หญิงก็กลายเป็นขี้ปากชาวบ้านพอดีสิคะ พ่อแม่ฝ่ายชายเองก็คงไม่ happy เพราะว่าเหมือนต้องเอาลูกตัวเองไปรบกวนบ้านฝ่ายหญิง จะโดนบ้านฝ่ายหญิงดูถูกเอาไม่น้อย

การให้สินสอดมันไม่ใช่แค่วัดกันที่เงินหรอกค่ะ พ่อกับแม่เช้า บ้านคุณพ่อค่อนข้างจะฐานะการเงินและสังคมค่อนข้างจะแย่กว่าทางแม่มากค่ะ คุณพ่อไม่ได้ใช้สินสอดที่แพงมาก คือเรียกได้ว่าน้อยที่สุดในบรรดาพี่สาวคุณแม่ทั้งสามคน แต่ว่าของหมั้นเป็นเครื่องประดับประจำตระกูลสมัยตั้งแต่สมัยอยุธยาครบชุด ซึ่งพลอยก็ไม่ได้เม็ดใหญ่อะไร มูลค่าลักษณะแร่ธาตุไม่ได้เยอะเท่าของที่คุณยายมี แต่ว่าคุณยายก็ยกให้ค่ะ ถือว่าให้สิ่งที่เป็นเกียรติที่สุดของทางบ้านผู้ชายแล้ว จนบัดนี้ยายก็ส่งของให้แม่คะ เก็บไว้ในตู้ save ให้เช้าดูเล่นเป็นบุญตา

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

Tanan

29/09/2009 15:25:49
0
ทำไมไม่อวดแบบว่า \"ลูกเขยไม่กินเล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เทียวกลางคืน ไม่การพนัน ทำงานบ้าน
ซักเสื้อ รีดผ้า ถูบ้าน ลูกสาวผมวันๆแทบไม่ต้องทำอะไรเลยแบบนั้นหละ\"

อย่างผมเนี้ยผมไปอยู่บ้านแฟน 6 เดือนผมทำทุกอย่างซึ่งเป็นปกติ
แต่ผมไม่มีเงิน เป็นคุณจะยกลูกสาวให้ผมไหม ถ้าบ้านคุณรวย 10 ล้าน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

iAsa

29/09/2009 15:27:56
0
^
^
^
ต้องดูว่าลุกสาวรักคุณแค่ไหน + คุณรักลูกสาวแค่ไหน

ถ้าแค่ซักผ้ารีดผ้าถูบ้านให้ มีเงินก็จ้างแม่บ้านได้ 5555 ขำๆน้าๆๆ ถ้าคนดีจริงๆ ไม่พาญาติโกโหติกามาเป็นภาระ เงินน้อยก็ไม่ใช่ปัญหา (ในมุมมองเรานะ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

bankhalkdown

29/09/2009 15:29:35
0
วัฒนธรรมไทยกับฝรั่งไม่เหมือนกันหรอกครับพี่นัท

ถ้าสมมุติว่าเข้ากันไม่ได้ ฝ่ายชายไม่เสียหายหรอกครับ

แต่ฝ่ายหญิงโดนเต็มๆ เลย หาว่าไปอยู่บ้านผู้ชาย ประมาณนี้

และเรื่องพวกนี้เป็นขี้ปากชาวบ้านดีนักแหละครับ

แต่เห็นด้วยกับที่บอกว่าให้ยกเลิกเรื่องสินสอดครับ

หรือถ้าไม่ยกเลิกก็ควรจะพิจารณาจากฐานะของฝ่ายชายด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

yoyo

29/09/2009 15:39:08
30
ผมว่าขึ้นอยู่กับเจตนาของการเรียกเงินนั้นมากกว่าครับ

บางบ้านอาจเรียกแพงๆ แต่เสร็จงานแต่งก็ใส่บัญชีชื่อลูกสาวกลับไปให้ อันนี้ดีครับ พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวทำเพื่อให้มั่นใจว่าลูกสาวไปอยู่กับคนที่สามารถเลี้ยงลูกของเขาได้ และต้องการดูความตั้งใจ ความรักและความพยายามที่จะอยู่ร่วมกัน

แต่ก็มีบางบ้านเหมือนกันที่เรียกเยอะๆพอได้มาก็เก็บเงียบเลย ทำเหมือนกับคิดค่าเลี้ยงลูกที่เลี้ยงมาจนโตป่านนี้ แถมแต่งแล้วยังเอาโน่นเอานี่อีก แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เพื่อนผมคนนึงแต่งเมีย เหมือนแต่งกับทั้งบ้านเมียเลย เดี๋ยวต้องพาแม่ น้า ลุง ป้า หลาน ไปกินวันเกิด เดี๋ยวอยากได้ ทีวี เดี๋ยวตู้เย็น โดนแบบนี้อ่วมเลย ตอนนี้ก็เลยแยกกันแล้วครับสงสัยทนไม่ไหว

ผมว่าคงต้องดูเป็นกรณีๆไปนะครับ คงเหมารวมทุกๆครอบครัวไม่ได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

punkจัง

29/09/2009 15:41:04
0
เชื่อว่ากาลเวลา จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป จ้า

ผ่านไปอีก 10ปี 20ปี หรือ 30ปี วิธีการแบบนี้ อาจลดหย่อนลงบาง

เพราะคนรุ่นเก่าๆ ก็ร่วงโรยไปตามอายุไข เหลือแต่คนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งความคิดต่างๆ ก็คงใหม่ตามด้วย

อย่างเช่นเหมือนก่อน ผู้หญิงไทย ขี้อาย สงวนตัวมาก จะหาคนดื่ม เหล้า สูบบุหรี่ แทบจะไม่มี

แต่มายุคนี้ เสพไปซะทุกอย่าง จนผู้ชายต้อง ขอยกธงขาวยอมแพ้คุณเธอเลย


ยิ่งเรื่องคบแฟนไม่ต้องพูดเลย สมัยก่อนกับ สมัยนี้ ต่างกันเยอะ คบที 2-3คน

บางทีแต่งงานแล้วยังคบคนอื่นอีก

ยังไงคิดให้ดีๆ ก่อนจะแต่งงานกันดีที่สุด เพราะทุกวันนี้ คนหย่าล้าง กัน เยอะมากๆ

แม่ม่าย พ่อม่าย มีอยู่เต็มสังคมไปหมด สงสารเด็กตาดำๆ ที่เกิด

ก็ต้องมาทราบว่า พ่อหรือแม่ ตัวเองเสียชีวิตตั้งแต่ตัวเองยังแบเบาะ

ทั้งที่การเสียชีวิตมิได้เกิดขึ้นจริงเป็นเพียงแค่การโกหกของผู้ใหญ่ จากกรณีหย่าล้างกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

bankhalkdown

29/09/2009 15:41:06
0
^
^
^

เห็นด้วยครับ แต่ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับฐานะด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

bankhalkdown

29/09/2009 15:42:29
0
ผมหมายถึงความคิดเห็นของคุณ yoyo นะครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

iAsa

29/09/2009 15:42:43
0
ผู้หญิงกินเหล้า หัวสมัยใหม่ แต่ไม่มั่ว มันยังมีนะ อย่าเหมารวม แง่ง!!!!

5555

กลายเป็นกระทู้ HOT มั้ยเนี่ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

สมัครเล่น

29/09/2009 15:44:37
0
ฝรั่งเขามีเรียกสินสอดด้วยหรือเปล่าครับ
ใครรู้บ้างครับ
ยกตัวอย่างอเมริกาก็ได้

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

Bank

29/09/2009 15:44:56
0
จริงนะ ถ้าผู้ชายไปอยู่บ้าน ผู้ ญ กลายเป็นว่าผู้ชายคนนั้นไม่มีอะไรเลย
แม้กระทั่งบ้าน (เค้ามองกันแบบนี้จริงๆ นะ) แต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะเป็นแบบเดียวกัน
แต่จะพูดประมาณว่า เสนอตัว ซึ่งแย่กว่าของผู้ชายนะ นี่เป็นความคิดคนส่วนมาก

แต่ผมกลับมองว่า รวยจน ไม่สำคัญ ให้ขยันทำมาหากิน ก็ใช้ได้แล้วครับ

ประมาณว่า ไม่อดตายนั่นเอง เพราะ รวย - จน เราสร้างกันได้ แต่ความรัก สำคัญกว่า

แต่น่าแปลก ปัญหาที่เกิดในคู่รักในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องของความรัก แต่เป็นเรื่องเงินมากกว่า

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

iAsa

29/09/2009 15:48:10
0
อย่าเปรียบเทียบกับ USA ได้มั้ย T_T อันนั้นเราว่ามันเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ละเอียดอ่อนที่สุดในโลก

ยุโรปถ้าเป็นพวกตระกูลขุนนาง มีค่ะ

ถ้าทางฝั่งเอเซีย เหมือนจะมีเกือบหมดนะ (ถึงจะไม่ใช่ฝรั่งก็เหอะ) แต่ใครขอใครนี่อีกเรื่อง เช้าไม่แน่ใจเหมือนกัน

นี่ไง มีทางออกที่ดีแล้ว ใครไม่อยากเสียสินสอด จีบฝรั่งโลดดดดดดดดดดดด ไม่ต้องแต่งด้วยซ้ำ ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลย แล้วก็ทำตัวเป็น individualism ซะ ลืมๆวัฒนธรรม collectivism ของคนเอเซียไป ง่ายดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

Uthen

29/09/2009 15:55:51
0
คุณ tanan ครับ อย่าให้เรื่องอย่างนี้ต้องเป็นเรื่องที่ถึงกับต้องตรวจสอบ มีใบเสร็จขนาดนั้นเลย

เรื่องของความเชื่อมั่น เชื่อใจ มันวัดไม่ได้ด้วยเอกสารใดๆ ทั้งปวงครับ
พ่อแม่รักลูกต้องการสิ่งเหล่านี้ครับ

ที่พูดมันก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับ บ้านจนๆ เรียกแพงๆ ก็น่าเห็นใจเป็นบางครั้งนะครับ ถ้าลูกสาวทำงานหาเงินจุนเจือครอบครัวอยู่คนเดียว (เป็นกำลังหลักว่างั้นเถอะ) แต่งงานแล้วก็ต้องแยกไปช่วยกันสร้างครอบครัว ที่เคยช่วยเหลือก็จะไม่ได้ก็ถ้าได้ก็จะมีปัญหาครับ ไม่เชื่อลองดู ....
คราวนี้ถ้าเรียกแพงก็ถือซ่ะว่าเอาไปโป๊ะหนี้ที่มีอยู่ล่ะกันครับ


แต่กรณีที่พอจะเรียกได้ว่าขายลูกสาวนั้นก็น่าจะประมาณว่า มีเงิน กินอยู่สุขสบายไม่ถึงกับร่ำรวย พ่อแม่สาว กิน เล่น เที่ยวครบเครื่อง พอเงินหมดก็มาไถลูก หรือว่าขาย(บังคับให้แต่ง) ลูกให้กับคนที่ไม่ได้รัก แล้วเรียกเงินแพงๆ เพื่อเอามาใช้ อย่างนี้น่าจะพอเรียกได้ว่าขายลูกครับ

แต่ถ้าคุณไปขอแฟนแล้ว พ่อแม่แฟนเรียกสินสอดแพง ก็ต้องอธิบายกันไปครับ ... รึว่าคุณไม่ได้รักลูกสาวท่าน ถึงเรียกว่าท่านขายลูกสาว...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

ryder2000

29/09/2009 15:56:20
0
คุณ bank พอดีแต่ก่อนไปทำงานภูเก็ตนะคับ เลยไปทางตรังนะคับ งานรับปริญญา ถ้าหาโรงแรมไม่ได้มีโรงแรมแนะนำคับ อยู่หลังคาร์ฟู บรรยากาศดี อยู่ในเมือง เข้าซอยแล้วเงียบสงบ ที่สำคัญ ลูกเจ้าของ หล่อมาก(พิมพ์ไปอ้วกแตก) แสดงว่ากระทู้นี้ได้รับความนิยม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35

nopphong

29/09/2009 16:04:35
4
ผมมองว่า ขนาดสมรสพระราชทาน สินสอดหลายล้านบาท ไม่กี่ปีก็เลิกกันแล้ว ตกลงดูกันที่ผู้ชายมีเงิน หรือผู้ชายดี การเรียกสินสอดแพงๆกลายเป็นว่า กำจัดผู้ชายดี แต่สนับสนุนผู้ชายมีเงิน ไปนะครับ และหากให้ลูกสาวไว้ตั้งตัวอันนี้เหตุผลดี แต่ได้ไปแล้วเก็บหมดบอกเป็นค่าเลี้ยงดูลูก แล้วตกลงผู้ชายนี่พ่อแม่เขาปล่อยไว้ตามวัดหรืออย่างไร ผมว่าแย่ครับธรรมเนียมเรียกสินสอดแพงๆเนี่ย ถ้าเห็นว่าผู้ชายมันดี เรียกแค่ให้พอสมฐาณะของผู้ชาย แล้วได้ลูกเขยดีๆ ไม่ดีกว่าให้แต่งกับผู้ชายรวยๆมีเงินเป็นล้านแต่อยู่ไปไม่นานก็เลิกกันไปนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36

Bank

29/09/2009 16:04:53
0
ผมว่ามันเริ่มดุเดือดแล้วนะเนี่ย

หุหุหุ

แต่ยังไงเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอยู่ที่ความเชือใจแต่ในขณะเดียวกัน
ที่คุณเช้าพูดก็ถูกนะครับว่า ฝ่ายชายที่ต้องไปสู่ขอจะต้องมีฐานะใกล้เคียงกับฝ่าย ญ
ถ้าไม่งั้นกัดก้อนเกลือกินไป ชีวิตคู่ก็คงไม่มีความสุข แล้วก็ มีปัญหาเหมือนกับที่ผม
ได้พูดไป

ปล.ขอบคุณ คุณ Ryder2000 ที่แนะนำเรื่องทื่พักครับ อิอิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 37

bankhalkdown

29/09/2009 16:05:07
0
อย่างญี่ปุ่นก็มีสินสอดนะครับ

เห็นเขาบอกว่า เป็นจำนวน 3 เท่าของเงินเดือน ซึ่งผมคิดว่า

โอเคนะครับ เพราะว่ายังอยู่ในจำนวนเงินที่ พอรับได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 38

นายมั่นคง

29/09/2009 16:07:58
0
เอ้า เล่ามั่วๆๆ มั่ง ถ้าเป็นธรรมเนียมจีน....ปกติแล้วเวลาวันหมั้น เค้าจะเอาสินสอด แหวนหมั้น ทองหมั้น และทุกอย่างที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกไว้ มาจัดใส่พาน รองด้วยผ้าแดง แต่งให้สวยๆๆ

ถ้าเป็นเงินก็เอามาคลี่ และกางจนเป็นพัดเลยล่ะ สวยงามมาก........

แต่เวลาส่งตัวเจ้าสาวกลับหอ ก็มักจะเอาเงินสดหรือทองหยองที่รับมาตอนหมั้น คืนกลับไปให้ที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาว นัยยะว่าเพื่อเป็นทุนรอนในการหาเลี้ยงชีพต่อไปครับ 55

ส่วนใครจะคืนมากคืนน้อย อันนี้ตอบไม่ได้แฮะ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 39

nopphong

29/09/2009 16:08:39
4
ตอนผมไปขอแฟน แม่แฟนเรียกสองแสน แม่ผมอึ้งแล้วก็ค่ะๆขอคิดดูก่อนแล้วหนีกลับบ้านเลย เกือบไม่ได้แต่ง ดีที่ป้าของแฟนช่วยพูดให้ทีหลัง ยังคิดอยู่เลยว่าเกือบไม่ได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวเพราะธรรมเนียม ขาย ลูกกินเนี่ยแหละครับ
ปล.จัดงานผมเป็นคนออกเองทุกบาท สินสอดบาทเดียวก็ไม่ได้คืน แถมทุกวันนี้แม่ยายยังคอยยุให้เลิกกันทุกครั้งที่มีโอกาส แบบว่าอยากเตะก้านคอจริงๆ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 40

EmoMetal

29/09/2009 16:09:15
0
จากประเด็นนี้ ชี้ให้เห็นชัดเลยว่า ผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เพราะ ที่โต้ๆ กันมา มี คุณเช้า เป็นผู้หญิงคนเดียว ที่มาพูดเรื่องนี้ 5555+


เดี๋ยวผมจะแปลงเพศ ไปเป็น สาวเทียม ช่วยผู้หญิงในประเด็น ดีไหมค่ะ ^^

ยังไง เรื่องนี้ มันก็เป็นประเพณี ของไทย เรามาแต่ โบราณค่ะ

เรื่องสินสอด ถือเป็น \"หน้าตา\" ของพ่อแม่ฝ่ายหญิง

ก็รู้ๆกันอยู่นะค่ะ ว่า วัฒนธรรมของไทย เกือบทุกสิ่งทุกอย่างเน้น \"การมีหน้ามีตา\" ในสังคมเป็นหลัก

ไม่ว่า จะ งานแต่ง งานบวช หรือขึ้นบ้านใหม่ รวมไปถึง ตอนตาย

ทุกอย่าง ล้วนสร้างหน้าตาให้แก่ เจ้าภาพ ค่ะ


เรื่องสินสอดจะพูดกันไป ก็เหมือน \"ความสบายใจ\" แก่พ่อ-แม่ ฝ่ายหญิง ของแบบนี้ หากคุณมี ลูกสาวน่ารักๆ

คุณก็ต้องเรียกสินสอด ฝ่ายชายแพงเหมือนกัน ค่ะ (ต้องมีก่อนแล้วจะรู้ค่ะ) ^^

อีกอย่าง โดยส่วนมากแล้ว พ่อตา กับแม่ยาย เขาก็มิได้เอา เงินสอด คุณไปใช้ เพื่อความสุข ความสบายของเขาหรอกจ้า

บางคนก็ เก็บไว้ เป็นทุนการ ศึกษาให้หลาน บางคนก็คืนให้ทันที หลังแต่งงานกันแล้ว

จะมีก็แต่ พ่อตา แม่ยาย ใจดำ ที่เอาเงินของลูกไปใช้ สร้างความสุขความสบาย ให้ตัวเอง

มันไม่มีทุกครอบครัวหรอกจ้า ที่ ยึดเงินสินสอดไปหมด

มองโลกในแง่ดีกันหน่อยค่ะ เดี๋ยวสังคมจะมีแต่เรื่องไม่ดีไปหมด ^^


เรื่องสินสอดนี่ ถือเป็น กุศโลบาย อย่างหนึ่ง

ที่คนโบราณ อยากทดสอบ ลูกเขย ของตน ว่ามีความรักต่อลูกสาวของตนหรือไม่

และมีความขยันในการทำมา หากิน หรือเปล่า

อีกทั้งยังเป็นการ ซื้อระยะเวลาการแต่งงาน ทั้ง เจ้าบ่าว เจ้าสาว

ให้อยู่ในวัยทำงาน ไม่ใช่ อยู่ใน วัยรุ่นที่ยังต้องขอตังพ่อ แม่ แล้วจะมาทะลึ่งแต่งงานกัน จ้า

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 41

ยิม

29/09/2009 16:09:58
เคยคุยกับรุ่นน้องเล่นๆนะคับ เค้าเล่าให้ฟังว่า มีคนมาถามเค้าๆเรียกเท่าไหร่ แล้วก็ตอบไปว่า
4M. คับ ล้านไม่ใช่เม๊ก แล้วก็บ้านใส่ชื่อเค้า ผมฟังแล้วก็ขำเลยคับ แต่เค้าบอกว่าตอบไอ้นั่นแบบตัดรำคาญ

แต่ว่าถ้าแต่งผมจิง เงินคงมีไม่ถึงหลอก 4M อ่ะ แต่แต่งแล้วทุกอย่างจะเป็นชื่อเค้าคับ ทั้งรถ เงิน ยกเว้นบ้านที่พ่อแม่ให้ (แต่ก็จะซื้อเองใส่ชื่อเค้าอีกหลังคับ) แต่ทั้งนี้ต้องดูนิสัยด้วย

แม่ผมก็บอกนะ ผมเองไม่มีปัญญาซื้อบ้านเองง่ายๆหลอก สมัยมันเปลี่ยนแล้ว
แล้วก็บอกอีกอย่าง \\\"สมัยนี้ไม่มีใครมากัดก้อนเกลือกินกันกับเธอหลอก\\\"
จบกัน ท่าทางจะไม่ได้เมียซะแล้ววววว 555+

ปล. ส่วนมาก สินสอดจะพอให้เป็นพิธีไม่ใช่หลอคับ ?? ไอ้ที่เอามาใช้ด้วยกันเค้าเรียกว่าไรหว่า?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 42

iAsa

29/09/2009 16:11:28
0
คุณ noppong คนดีไม่ดีมันพูดยาก ส่วนคนที่สินสอดนิดเดียว แต่งไม่กี่ปีหย่าก็มีเหมือนกัน = =\" อันนั้นมันอยู่ที่บุคคล แต่คนดี ไม่มีเงินแล้วฝั่งหญิงรวยขนาดมีร้อยล้าน ต้องสมรสพระราชทาน แบบนั้นเช้าว่าผู้ชายที่ได้แต่งด้วยนี่แหละ น่าจะเป็นคนที่ต้องเครียดเรื่องความแตกต่าง ถึงบางคนจะไม่คิด แต่เชื่อว่าผู้ชายหลายคนก็คิด = =: ในมุมมองที่ตัวเองด้อยกว่า

และโอกาสเสี่ยงที่จะโดนผุ้ชายเกาะ ก็เยอะกว่า ไหนจะญาติติโกโหติกาอีก พอเห็นอีกฝั่งมีเงิน อะไรๆก็ยืม แล้วเป็นผู้หญิง ปกติเสทสามีมากๆ ขัดใจมากๆ โดนเคือง ดีไม่ดีไม่ให้ก็โดนญาติยุ โดนทิ้งขึ้นมาจะเสียชื่อพ่อแม่พอดีค่ะ = =\"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 43

iAsa

29/09/2009 16:13:38
0
คุณ EmoMetal 555 ขอบคุณค่า ที่แปลงเพศชั่วคราวมาเป็นเพื่อน

แต่เรื่องนี้มุมมองของผู้หญิงผู้ชาย + แต่ละครอบครัวมันต่างกันจริงๆแหละ ><
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 44

iPrach

29/09/2009 16:14:11
28
โอ้วว ยาวๆๆๆ
งั้นขายตูด..เอ้ย..ขายหูฟัง
เก็บเงินๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 45

Bank

29/09/2009 16:16:05
0
แต่พออ่านของพี่ nopphong ผมดันเป็นประเภทที่พี่ nopphong ว่า ด้วยสิ
เฮ้อ ทำใจลำบาก ถ้างั้นต้องถือคตินี้แล้วมั้งครับ \"รักแท้ต้องแย่งชิง รักจริงต้องปล่อยไป\"
เหอๆๆๆ ผมมีแค่ใจ ไม่ค่อยมีเงินด้วย อย่างที่บอก รวยจนไม่สำคัญมันสร้างกันได้จิตใจนี่ยิ่งกว่า
แล้วแต่จะมอง นี่ล่ะมั้งอาจจะเป็นเหตุผลที่แท้จริง ผมไม่ค่อยมีเงินด้วยมั้งสาวเลยไม่ค่อยสนใจ

เหอๆๆๆๆ แต่ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้นานแล้วนะ ผมคิดซะว่าถ้าเค้ารักเราจริงก็ต้องรับในสิ่งที่เราเป็น
จะให้ผมเปลี่ยนเพื่อใครนั้นผมคงทำไม่ได้ แต่ทุกคนที่ผมคบมาผมก็รักจริงนะ เพียงแต่ว่า.....
เค้าไม่เคยได้เข้าไปในโลกจริงที่ผมอยู่ซักทีนึงเลยครับ เค้าเห็นแค่ด้านนอกแล้วเค้า....ก็จากไป....


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 46

iAsa

29/09/2009 16:18:59
0
ปรัช บอกแล้ว เดี๋ยวเช้าไปขอเอง 5555555555 ทำตัวเป็นกุลสตรีที่ดีไว้นะจ๊ะ จบโทแล้วเดี่ยวไปขอ ฮ่าๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 47

HITMAN

29/09/2009 16:19:06
0
มันเป็นประเพณีไทยครับ ในอดีตเมื่อฝ่ายหญิงแต่งงานต้องไปอยู่กับสามี ต้องไปดูแล
สามีรวมทั้งพ่อแม่ฝ่ายสามีด้วย อีกอย่างการแต่งงานก็เป็นหน้าเป็นตาของพ่อแม่ฝ่ายหญิง
ถ้าสินสอดมากๆก็ยิ่งมีหน้ามีตามากขึ้นด้วย คนแต่ก่อนเขามีคติว่า ถ้ามีลูกชายขอให้ได้บวช
ถ้ามีลูกสาวขอให้ได้แต่งงานมีสินสอดทองมั่น ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของพ่อแม่เลยทีเดียวครับ ถ้าตรงกันข้ามลูกชายแทนที่จะได้บวชกลับไปติดคุกซ่ะ ลูกสาวก็หนีตามผู้ชายไปซะงั้น มันเป็นความอับอาย พ่อแม่แทบไม่กล้าออกจากบ้านเลยละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 48

bankhalkdown

29/09/2009 16:21:26
0
ผมว่าผมสรุปให้ดีกว่าครับ ขอแบ่งเป็นสองประเด็นนะครับ


1. ธรรมเนียมนี้เป็นธรรมเนียมที่พึงปฏิบัติ แต่ควรอยู่ในพื้นฐานของ

ความคิดที่ดี กล่าวคือ พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ได้คำนึงถึงแต่ว่าจะเอาเงิน

แต่มีเหตุผลดังที่คุณเช้ากล่าว


2. ไม่ควรเรียกค่าสินสอดที่แพงเกินควรเพียงเพราะพ่อแม่ฝ่ายหญิงมีเจตนาเพื่อ

อยากได้เงินแทบเลือดตากระเด็น ซึ่งผมว่านอกจากจะดูไม่ดีแล้ว มันยังทำให้

วัฒนธรรมนี้เสียไปอีกด้วย


ซึ่งผมเห็นด้วยกับทั้งสองความคิดครับ เพียงแต่เอาทั้งสองความคิดมาแชร์กันเท่านั้นเอง

เพียงแต่ผมคิดว่าที่คุณเช้าไม่ค่อยพอใจก็คือ ความคิดเห็นต้นๆ

อาจจะพูดเหมือนทำให้ผู้หญิงดูไม่ดีซึ่งก็จริงครับว่าความเห็นต้นๆไม่สมควรพูด

แต่ผมคิดว่าคนเราถ้าคบกันมาก็ต้องไว้ใจกันศึกษานิสัยกันมาพอสมควร ถ้าคิดเพียงแต่ว่า

กลัวโดนผู้ชายเกาะก็อย่าแต่งกันเลยครับ เพราะคนเราคบกันมาแล้วก็ต้องรู้แล้ว

ว่าผู้ชายเป็นคนนิสัยอย่างไง ถ้ารู้อยู่แล้วว่าผู้ชายขยัน เป็นคนดี แล้วยังจะกลัวเกาะอีก

ก็ไม่ไหวครับ แต่ผมเชื่ออย่างนึงว่า คนขยันไม่อดตายหรอกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 49

ฮิเดะจัง

29/09/2009 16:24:09
^
^
^
ความคิดเห็นต้นๆ ที่พูดไป เพราะลืมคิดกันว่า เวปนี้มีผู้หญิง มาแจม ด้วยหรือป่าว 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 50

iAsa

29/09/2009 16:25:07
0
^
^
เคสตัวอย่างที่เคยเห็นคอผู้ชายไม่เกาะหรอกค่ะ แต่เป็นคนขี้เกรงใจ

บ้านใครใครก็รัก บ้านเค้ามาขอ ก็ต้องมาขอบ้านฝั่งหญิงอีกที ไม่กล้าขัด พอผู้หญิงให้บ่อยๆเข้า พอไม่ให้ ก็กลายเป็นใจดำ ฝั่งชายก็เลยยุค่ะ ทีนี้บ้านก็ไม่ค่อยอบอุ่น = =\" C? ปัญหาที่มองไม่เห็นมันเกิดขึ้นได้สมอน่อ

BTW, เช้าว่าคุณ bankhalkdown พูดก็ถูกค่ะ คือเช้าไม่เชิงไม่พอใจ แต่แค่แสดงให้เห็นอีกมุมมองดีๆของวัฒนธรรมนี้เท่านั้เนอง คือถ้าทั้งหมดมันเป็นไปตามทำนองคลองธรรม มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ไม่ชอบจริงๆ ไอเดียที่ว่า ขายลูกกิน = =\"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 51

แพะ

29/09/2009 16:25:43
39
แอบมาเก็บข้อมูล....แบะๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 52

bankhalkdown

29/09/2009 16:29:07
0
จริงๆ ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันก็มีด้านที่ดีของมันแหละครับ

และผมเชื่อว่าคนที่คิดเรื่องสินสอดก็คิดในด้านที่ดีแหละครับ

อยู่ที่ว่าคนจะมองด้านไหน คือ อย่างตอนแรกๆ ผมก็รู้สึก

ถึงทางลบของเรื่องสินสอดนะครับ จนได้ฟังจากหลายๆ ความคิดเห็น

ผมก็ได้มองหลายๆ ด้านมากขึ้น ก็ได้เห็นถึงข้อดีเหมือนกัน

แต่ในปัจจุบัน คนเรามักจะใช้มันไปในด้านที่ไม่ดีจนทำให้วัฒนธรรมดีๆ

ถูกมองไปในแง่ลบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 53

Uthen

29/09/2009 16:31:22
0
ที่เฮียเล่าเหมือนงานแต่งผมเลย 555+ ตามนั้นเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 54

nopphong

29/09/2009 16:31:54
4
ผมยังคิดในแนวเอาตัวเองเป็นตัวตั้งนะครับ คือทุกวันนี้ ผมรักแฟน ไม่เคยนอกใจ ให้เกียรติเสมอกัน ทุกอย่างในบ้านผมเป็นคนจ่ายทั้งหมด ตั้งใจทำงาน เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบ ไม่เล่นการพนัน ฯลฯ
แล้วด้วยธรรมเนียมสินสอดมหาโหดนี้ แฟนผมเกือบจะไม่ได้แต่ง มันเยี่ยมมากเลยใช่ไหมครับธรรมเนียมนี้เนี่ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 55

bankhalkdown

29/09/2009 16:42:08
0
ยังงี้ก็น่าเห็นใจพี่นพพงค์นะครับ

แต่ถ้าจะโทษจริงๆ ผมว่าอย่าโทษธรรมเนียมเลยครับ

โทษพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะดีกว่าครับ เพราะก็อย่างที่บอกอะครับ

ธรรมเนียมนี้จริงๆ มีพื้นฐานที่ดีครับ เพียงแต่ คนที่เป็นผู้ใช้ใช้ไปในทางที่ผิด

ถึงธรรมเนียมจะดีแค่ไหนก็เอาไม่อยู่หรอกครับ

ผมขอเปรียบเทียบกับกฎหมายละกันครับ ประเทศที่พัฒนาแล้วที่กฎหมายเขาดู

มีความขลังจริงๆไม่ใช่เพราะตัวบทกฎหมายเขาดีไปกว่าของเราหรอกครับ

ของเราเองก็ไปคัดๆมาจากต่างชาติทั้งนั้น เพียงแต่ผู้ใช้กฎหมายของเขา

จริงจังและเอาจริงมากกว่าก็แค่นั้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 56

nopphong

29/09/2009 16:47:33
4
กรณีของผมเป็นแค่ตัวอย่างครับ เชื่อว่ามีกรณีแบบผมอีกมากมายนับไม่ถ้วนจากอดีตถึงปัจจุบัน ไม่งั้นคงไม่มีเพลงสิบหมื่นที่ยอดรักร้อง และไม่มีกรณีขวัญกับเรียม และกรณีอื่นๆอีกมากมาย ที่ผู้ชายดี แต่ จน
ตกลงผู้ชายดี หมายถึงผู้ชายรวย หรือเปล่า
ถ้าไม่ใช่ ผู้ชายจนก็ดีได้ แล้วมาพูดกันทำไมว่าจะเอาเงินเท่านั้นเท่านี้ แค่ดูกันให้แน่ใจว่ามันดีจริง หรือเก็บพอเป็นธรรมเนียมหรือเก็บเพื่อพิสูจน์หลักฐาณ ก็น่าจะพอ ไม่ใช่พอผู้ชายให้สินสอดล้านนึงก็คิดว่ามันดีแล้วนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 57

นายมั่นคง

29/09/2009 16:47:42
0
555 ตอนนี้กลายเป็นเรื่องถกกันว่าจริงๆๆ ควรวางมาตรการในการขอลูกสาวคนอื่นกันอย่างไร 555


คิดเล่นๆๆ นะ ผมว่า ใช้วิธีจ่ายไปก่อน...ก็เหมือนหลับตาซื้อมาก่อน

แล้วคือ Apple care เอ๊ย wife care ไปเรื่อยๆๆ ทีละ 1 ปี ถ้าเกิดไม่ถูกใจ ก็ปล่อยมือสอง แล้วซื้อเมียใหม่ เอ๊ย ซื้อเครื่องใหม่ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 58

Bank

29/09/2009 16:47:51
0
\"ไม่มีอะไรที่ดีที่สุด และก็ไม่มีอะไรที่เลวที่สุด\"

ทุกอย่างมันอยู่ตรงกลางอยู่ที่เราจะเอนไปข้างไหนแค่นั้นเองครับ
แต่การที่จะเป็นคนดีนั้นมันทำยาก แต่ทำชั่วครั้งเดียวก็ชั่วแล้ว อยู่ที่เราเลือกเป็นครับ

ปล.เรื่องรวยจนเนี่ย ผมเคยเจอประมาณว่าผู้ชายรวยกว่าผู้หญิงแล้วแต่งกันไปที่แรก
ชื่นชมกันใหญ่คุยโม้ไปทั้งจังหวัด สุดท้ายพอที่บ้านรู้ว่าฝ่ายหญิงไม่มีฐานะ เท่านั้นล่ะครับ
กลายเป็นไม่ปลื้มทันที แล้วอีกอย่างผุ้ชายที่มาขอที่ว่ากันว่ารวย พอไปดูที่บ้านที่ไหนได้
ที่บ้านของเค้าร่วมกันทำเป็นเหมือนกับกองทุนในครอบครัว คือเป็นธุรกิจที่ร่วมๆ กันทำในบ้าน
แล้วบังเอิญผุ้ชายคนนั้นดันไม่ใช่ลูกรักของในครอบครัวอีก ทีนี้อยู่กันลำบากละครับ ทีแรกนึกว่าสบาย
สุดท้ายกลายเป็นลำบาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ พี่สาวลูกพี่ลูกน้องผมเองครับ
บางครั้งพี่สาวได้กลับมาที่บ้านที่ตรังก็จะมาอยู่ทีละหลายๆ วัน ไม่อยากจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลย
แต่ผมเข้าใจในความลำบากของผู้หญิงนะ ที่แต่งแล้วต้องออกไปไกลบ้านแล้วเจอปัญหาแบบนี้

แต่ว่าถ้ามองกันแบบนี้ผู้ชายดีๆ ที่ไม่มีทุนทรัพย์ แต่เป็นคนดี รักจริง ก็คงแย่สิครับ ถ้าคนรักจริงแล้ว
ไม่มีเงินก็ไม่มีทางหาผู้หญิงดีๆ ได้ แบบนั้นรึเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมว่าคนดีๆ ก็น้อยใจแย่

แต่สำหรับผมๆ ไม่สนแล้วล่ะ ถ้าถูกใจผมก็คบกับผมต่อ ถ้าจะไปจากผมก็บอกกันสักคำ แล้วผมจะให้คุณไป
อย่าให้ผมจับได้เองว่ามีคนอื่น เพราะถ้าจับได้เอง แค่คำว่าเพื่อนผมก็ไม่มีให้คุณครับ น้องสาวผมเคยบอกว่า
ถ้าเป็นแฟนกับใครสักคนเราต้องเปิดใจให้กว้าง ปัจจุบันนี้ไม่รุ้ใครเชื่อรึเปล่า ผมไม่เคยหวังอะไรจากคนที่ผม
คบด้วยเลย แค่ เค้าถามว่าผมกินข้าวรึยัง?, อย่านอนดึกนะ... ผมก็ดีใจมากแล้ว ไม่ต้องบอกรักก็ได้
ไม่รุ้มีใครคิดเหมือนผมรึเปล่า หวังว่าผมคงยังไม่ได้บ้านะ อยากบอกแค่นี้ล่ะ.....

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 59

bankhalkdown

29/09/2009 16:49:44
0
ก็อย่างที่ผมบอกอะครับ เรียกแพงเกิน ต้องประมาณว่า

รักพี่ต้องหนีตาม 5555 พาไปจดทะเบียนเลย

เดี๋ยวค่อยแต่งทีหลัง อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 60

EmoMetal

29/09/2009 16:52:03
0
^
^
^
ป.ล.ของ คุณ Bank จากข้อความที่ 58 เป็น ป.ล. ที่ยาวที่สุดในโลกครับ กินเนทบุ๊ค ลงไว้แล้ว555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 61

ryder2000

29/09/2009 16:52:08
0
คุณ iAsa ต้องขอโทษด้วยคับ (หมาเลยเรา)คืออย่างว่าคับ นึกว่ามีแต่ผู้ชาย ไม่ต้องกลัวคับคนในเว็บนี้ ผมว่าใจกว้างทุกคนนะ มองต่างกันได้เรื่องธรรมดา มองแบบพ่อตา มองแบบแม่ยาย มองแบบเจ้าบ่าว มองแบบเจ้าสาว มองแบบผู้ชาย มองแบบผู้หญิง มองแบบคนไทย มองแบบฝรั่ง
ผมขอต้องคุณเช้าเปนข้อๆไปนะคับ (เสื่อกมีประสบการณ์แต่งงาน มากกว่าชาวบ้าน)
ตอนนั้นเค้ามาคุย เจอแบบนี้ไป \\\"คิดว่าเช้ามีค่าเท่าไหน ก็ลองเสนอมา เดี๋ยวพิจารณาเอง\\\" ไม่กล้าเสนอกันเลยทีเดียว ถามหน่อยคับประโยคข้างบนใครพูดคับ ถ้าคุณเช้าพูด เกิดสมมุติผมเปนแฟน ผมเสียใจตายเลย แฟนเราตีค่าตัวเอง (หรือความรักของผมที่มีให้เปนตัวเงิน เศร้าโครต)
แต่จริงๆเท่าที่รู้คือทางบ้านเช้า ลูกพี่ลูกน้องอะไรงี้ไม่มีใครต่ำกว่า 200k หลัก M ยังมี ส่วนของมั่นส่วนใหญ่เป็นของที่ไม่ได้หาได้ด้วยเงินค่ะ (ทั้งไปขอเค้าและเค้ามาขอ)ส่วนประโยคนี้ก็อย่างที่ผมบอกไปไง เขากลัวว่าจะน้อยหน้าคนอื่นหรือเปล่าเรื่องสินสอด (หรือเขาจะเอามาอวดกัน แต่ก็ไม่ผิดคับ แค่มันเศร้า)
ที่คุณเช้าพูดประโยคต่อมา นั้นเปนส่วนของคนที่มีอันจะกิน แต่เจ้าของกระทู้หมายถึงคนจนๆอย่างเรา(รวมผมด้วย)
ประโยคที่พ่อคุณเช้าบอกมาไม่ผิดคับ คุณพ่อกลัวลูกจะลำบาก (คุณคิดหรือว่าพ่อแม่จะอยู่กับลูกได้ตลอดชีวิต คิดหรือว่าได้ลูกเขยคนรวยแล้วจะไม่ลำบาก ถ้าวันหนึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ ลูกเขยหมดตัวหรือเลิกกัน แล้วลูกจะลำบากไหม เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวลูกจะลำบากถ้าเขายืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ สอนให้พึ่งตัวเองไม่ใช่กลัวลูกจะลำบาก เพราะคุณไม่รู้อนาคตหรอก ทำให้ลูกพร้อมเจออนาคตดีกว่าไหม)แต่ขอถามคับว่าคำว่าให้เกียรติคืออะรัย จำนวนเงินหรือการกระทำคือให้เกียรติ สมมุติเกิดผมรักคุณเช้า (คิดมาได้)แต่ผมหาเช้ากินค่ำ ไม่เงินหลักแสนหรือล้าน แต่ผมไม่ล่วงเกิน ไม่เคยนอกใจ เข้าตามตรอกออกทางประตูอย่างนี้เรียกว่าให้เกียรติไหม หรือต้องเปนลูกโอ๊ต ให้สินสอดสักร้อยล้าน แต่นอกใจ อย่างไหนเขาเรียกว่าให้เกียรติ
ประโยคสุดท้ายของกระทู้แรกคุณเช้า ผมขอถามลองมองกลับกันบ้างคับ อย่างนี้ถ้าผมมีลูกสาวผมไม่เรียกสินสอดก็แสดงว่าผมไม่รักลูก((พูดไม่ได้ยังไม่มีลูกสาว ต้องให้พี่ต่อกับคุณแชมป์ เชียงใหม่พูด)เวร ตอนนี้มีแต่ลูกชาย อยู่ในท้องเมีย)คุณเช้าคุณเคยดูโฆษณาประกันชีวิตของบริษัทอะรัยผมจำไม่ได้ แต่เนื้อหาประมาณว่าตาแก่ยังคงไปสีซ้อที่หลุมศพ ยายทุกวัน อย่างนี้หรือเปล่าคือความรัก หรือฐานะมั่งคงคือความรัก
ปล.คุยกันสนุกๆแลกเปลี่ยนความคิด ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด ผมสรุปให้แต่งงานมันก็เหมือนซื้อหวย มันออกได้ทุกหน้า(แต่งงานวันเดียวเลิก สุดยอดเลย ใครทำได้บ้างคับ โดนมาแล้ว)
คุณTanan คุณฝันไปหรือเปล่า ไม่มีใครเขามาอวดความดีลูกเขย มีแต่อวดความรวย
ไม่ลูกสะใภ้นะที่เขาจะมาอวดความดีกันนะ
วันนี้พิมพ์ยาวที่สุดตั้งแต่มาสิงอยู่ในเว็บ รวมทุกวันรวมกันยังไม่ได้เท่าวันนี้เลย (เราจะดูเปนผู้ชายที่รังแก่ผู้หญิงไหมวะ)แต่คงไม่เปนไรเพราะคงไม่มีอะรัยเลวกว่าวันเดียวเลิกแล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 62

veera

29/09/2009 17:01:24
0
ผู้ชายสมัยนี้ค่อนข้างเห็นแก่ตัว (คิดเข้าข้างตัวเอง) ลองคิดกลับมาว่าถ้ามีคนมาขอน้องเราหรือลูกสาวเรา เราจะทำอย่างไรที่จะให้ลูกสาวได้สิ่งที่ดีที่สุด จะไปเอาแบบฝรั่งคงไม่ถูกครับเพราะฝรั่งเขาอยู่แบบตัวใครตัวมัน อยากแต่งก็แต่ง ที่เมืองไทยมันไม่เหมือนกันคนไทยเลี้ยงลูกไม่เหมือนฝรั่งครับ แต่ฝรั่งที่ครอบครัวอบอุ่นนี่จะไม่เหมือนในหนังที่เราดูครับ เขาก็เลี้ยงลูกแบบคนไทย คนจีนครับ อยู่กันเป็นครอบครัว
พ่อ แม่ ลูก (สาว) เขาเลี้ยงดูผูกพันกันมา อยู่ดีจะไปเอาลูกสาวเขามาเฉยๆคงไม่ได้มั้งครับ เท่าที่เจอมาส่วนมากสินสอดเขาจะคืนให้กับคู่บ่าวสาวตามที่ เฮียมั่น ว่ามาครับ เพื่อเป็นเงินออม หรือสำหรับทำทุนในอนาคต ที่พ่อ แม่ ฝ่ายหญิงเรียกค่าสินสอดแพงอาจจะเพราะไม่ไว้ใจผู้ชายมากกว่า ถ้าผู้ชายดีจริงต้องทำให้ได้ครับ อันนี้เป็นการให้เกียรติ ฝ่ายหญิงและครอบครัวครับ

เรื่องสินสอดนี่มันมีที่มานะครับลองไปค้นคว้าดูก่อนว่าที่มามันเป็นอย่างไร ?

ส่วนครอบครัวที่ขายลูกกินก็คงมีอยู่เหมือนกัน

ที่ผมเคยเห็นมาก็มี ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดมากแต่ฝ่ายชายไม่มีเงินพอ ฝ่ายหญิงเขาออกให้ก่อน แล้วเอาเงินคืนหลังงานก็มี มันพูดยาก แต่ที่สุดแล้วมันขึ้นอยู่ที่ตัวผู้ชายเองว่าเราให้เกียรติ ฝ่ายหญิงแค่ไหน ? ลูกใครๆก็รักครับ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 63

Bank

29/09/2009 17:16:00
0
หุหุหุ ลืมไปครับว่าใส่ ปล. -*-

เหอๆๆๆ ดีใจจัง ได้ลงกินเน็ท แร้ว 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 64

iAsa

29/09/2009 17:19:31
0
คุณ ryder2000 มาเป็นข้อ เช้าก็ตอบเป็นข้อเน้อ

1. ข้อแรก ป๊ะป๋าค่ะ เช้าหน่ะ หลั่นล้าจะตาย แค่แฟนให้เกียรติ เป็นคนดี รักครอบครัวเรา ไม่ดูถูกที่บ้านเรา พ่อแม่เค้าดี ก็ ok
2. ไม่ได้อวดกันค่ะไ ม่ได้น้อยหน้าใคร แต่เช้าก็คุยกับพี่น้องเช้ากันตามประสาญาติกัน แต่อย่างที่บอก มันเป็นเร่องของการให้เกียรติอีกฝั่งมากกว่า (ที่บอก 200k นีอ้างจากเจ้าของกระทู้ค่ะ จริงๆทางฝั่งเช้าส่วนใหญ่ก็มากกว่านั้น) อย่างของหมั้นฝั่งหญิง (ในกรณีที่บ้านเราเป็นผู้หญิง) ที่ต้องให้ฝั่งชาย บ้านเราก็ให้เต็มที่นะ ถือเป็นเกียรติกับฝั่งชาย รวมไปถึงเป็นการสร้างความเกรงใจให้ฝั่งชายด้วยค่ะ ว่าไม่ได้ขูดรีดนะเฟร้ย เอาให้ได้เรียกว่า ชื่นใจกันทั้งสองฝ่าย(เจ้าบ่าวเจ้าสาว)และอย่างที่ตอบก่อนหน้านี้อะค่ะ ว่าถ้าผู้หญิงฐานะทางสังคมสูงกว่ามาก หรือฐานะทางบ้านสูงกว่ามาก ผู้ชายเองก็น่าจะรู้สึกแย่เป็นเรื่องธรรมดา แต่งกันตอนแรกอาจไม่เท่าไหร่ อยู่ด้วยกันไปอาจจะพบปัญหาหลังจากนั้น แต่นี่ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนไปว่ามีสิ่งที่ดีมาทดแทนกันได้มั้ย เรื่องจำนวนเงิน เป็นแค่ \\\"ข้อวัดอย่างหนึ่ง\\\" แต่ไม่ได้วัดได้เสมอไปค่ะ มันย่อมมีอย่างอื่นมาคานน้ำหนักกันได้

3. ไม่ว่าเป็นกรณีไหน พ่อเช้าก็ไม่ยกให้ทั้งคู่ค่ะ ไม่ว่าจะยาจกหรือลูกโอ๊ต 5555 แฟนเก่าเช้า ฐานะที่บ้านดีกว่าบ้านเช้า รวยกว่าบ้านเช้าเยอะ แต่สภาวะที่บ้านค่อนข้างแย่ (คือนิสัย มรยาท การอบรม)สอนมาไม่เหมือนกัน พ่อเช้าก็ไม่ยกให้เหมือนกัน = =\\\" อารมที่ว่า รวยล้นฟ้าแต่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า หรือรู้แล้วแต่ไม่ควรคบ
4. เช้าว่าอย่างซ้อมันเป็น Slide of life ค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาแค่ไหน ไม่มีใครตอบได้ ช่วง 30 ลุงอาจจะเคยเสียพนัน ซ้อต้องไปขายกล้วยแขกอยู่สิบปีก็ได้นะ แต่ก็ยังรักกันอะไรอย่างนี้

เช้าไม่ได้มองว่า ผู้หญิงจำเป็นจะต้องแต่งงาน ชีวิตมีหลายทางแยก ถ้าเช้าเกิดได้แต่งกับคนที่พ่อไม่ยกให้จริง มันก็อาจจะถูกหวย HAppy หรือ!! อาจจะแย่ก็ได้ แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่คงกลัว ว่าจะไม่ happy เค้าก็ต้องพยายามกรองให้มากสุดแหละค่ะ ถ้าเกิดแต่งแล้ว happy แต่ดันไม่ได้แต่ง ก็ไม่ได้แปลว่า ถ้าไม่ได้แต่งแล้วจะไม่ happy นี่นา ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามทางที่ควรจะเป็นเอง

เท่าที่อ่านมา รวมๆกัน ประเพณีนี้คงดี \\\"ถ้า\\\" ทุกฝ่ายเป็นไปตามทำนองคลองธรรมค่ะ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นแก่ตัว หรือไม่ดี ก็คงทำให้ประเพณีเสื่อมไปด้วย

ปล ด้วย \\\"คุณTanan คุณฝันไปหรือเปล่า ไม่มีใครเขามาอวดความดีลูกเขย มีแต่อวดความรวย\\\" ไม่จริ๊ง~~~~~~ ยายเช้าชมพ่อเช้ากับญาติๆประจำ
ปล2. ไม่เห็นว่าจะเป็นผู้ร้ายตรงไหนเลยนี่คะ แค่แลกความคิดเห็นกัน เช้าไม่ซีเรียสน่อ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 65

HITMAN

29/09/2009 17:20:31
0
ผมได้ยินมาว่าที่ประเทศอินเดีย ฝ่ายหญิงต้องไปขอฝ่ายชาย
สินสอดทองมั่น คิดตามอายุของผู้ชาย ถ้าอายุ18-30 ค่าตัวจะแพงมากๆ
ถ้าเลย30ไปแล้วค่าก็ถูกลง ไม่รู้จริงหรือเปล่า ถ้าจริงก็น่าสนใจทีเดียว555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 66

ryder2000

29/09/2009 17:25:42
0
เฮียคับ ทำอย่างเฮียว่าท่าทางจะเสียชีวิตหรือไม่ก็เปนไข้เลือดออก (หัว)
ให้เฮียทำเปนตัวอย่างก่อนเลยนะคับ จากนั้นแจ้งผลด้วยคับ
หากแจ้งไม่ได้ทางเว็บ ก็มาเข้าฝันได้นะคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 67

สมัครเล่น

29/09/2009 17:36:03
0
ถามเรื่องสินสอดฝรั่ง เพราะอยากรู้
ดันของขึ้นซะแล้ว
ไล่ให้ไปหาฝรั่งเสียอีก

ผมว่าง่ายมาก
ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องแต่ง
ถ้าชอบ ก็ยอมรับเสีย
เท่านั้นล่ะครับ
ไม่ชอบแล้วยอมอยูด้วยทำไมก็ไม่รู้
เป็นเหตุเป็นผลหน่อยก็ไม่ได้

แต่จริง ๆ ผู้หญิงกับเหตุผลนี่
มักไม่ค่อยมาด้วยกัน

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 68

iAsa

29/09/2009 17:37:43
0
= =\" ไม่ได้ไล่ บอกขำๆนะ ถ้าชอบวัฒนธรรมเค้า ก็แต่งกับฝรั่งสิคะ

ทำมัยผู้ชายถึงชอบคิดว่าผู้หญิงไม่มีเหตุผล เท่าที่พูดมาตั้งกะต้นจนจบ ก็มีเหตุผลอ้างอิงตลอดนะ

หรือว่าเราไม่มีเหตุผลจนชินหว่า 55555

ต้องไปถามตาปรัชญ์ซะแร้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 69

nopphong

29/09/2009 17:39:54
4
อยากให้ลูกสาวได้สิ่งที่ดีที่สุดครับ ไม่ใช้อยากให้ลูกสาวได้คนที่มีเงินมากที่สุด คนดีๆที่ไม่รวยมีมากมาย ลูกคนจนๆที่เรียนจนได้ทุน จบหมอจบวิศวะก็มีเยอะแยะ แต่ปรากฎว่ารักลูกสาวเขาแต่เขาเรียก 200000 จะเอาที่ไหนมาให้

คุณผู้หญิงและพ่อแม่ฝ่ายหญิงอย่าลืมคิดถึงใจผู้ชายนะครับ คือผู้ชายน่ะถ้ามันไม่รักผู้หญิงคนนั้นถึงที่สุดแล้ว มีหรือจะบากหน้าไปขอ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ชายหญิงคบกันอิสระไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องไปขอถึงจะได้ แต่สมัยนี้จำนวนมากที่ได้ก่อนขอ ดังนั้นคนที่ไปขอแต่งงาน ก็คือคนที่รักลูกท่านอย่างสุดหัวใจ และให้เกียตรท่านด้วยการขอแต่งอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แล้วท่านล่ะ ตอบแทนคนที่รักลูกสาวท่านอย่างสุดหัวใจด้วยการ เรียกเงินเขามากๆ เอาสินสอดแพงๆ เพื่อให้คนที่รักลูกสาวท่านลำบากจนถึงที่สุดนั้นน่ะหรือ ???

ธรรมเนียมนี้มันมีที่มาที่ไปครับ มันมาจากเมืองจีน ที่เมื่อผู้หญิงแต่งงานไปแล้วต้องไปอยู่บ้านผู้ชาย ทำงานบ้านทุกอย่างดูแลพ่อแม่ จนถึงขนาดมีคำพูดว่า ลูกสะไภ้ ทุกคนในบ้านมีสิทธตีได้ (อันนี้แม่ผมเจอมากับตัว พ่อผมเล่าให้ฟังว่าพอพาแม่เข้าบ้าน แม่ก็โดนใช้สารพัดแถมโดน อาๆรังแก ปู่ก็พูดแบบที่ว่า สุดท้ายพ่อทนไม่ได้เลยพากันย้ายหนีออกมา) ด้วยลักษณะอย่างที่ว่า ไม่แปลกเลยที่ธรรมเนียมจีนจะเรียกสินสอดเยอะๆ เพราะแต่งไปก็เหมือนกับได้คนรับใช้ไปหนึ่งคน และออกไปก็ไม่ได้กลับมาดูแลพ่อแม่เหมือนเดิม

แต่ธรรมเนียมไทยไม่ใช่นะครับ ถ้าดูประวัติศาสตร์ สมัยก่อนคนไทยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงครับ คงเคยได้ยินว่าถ้าเป็นคนดีเหน็บพร้าด้ามเดียวก็ยกลูกสาวให้แล้ว เพราะสมัยก่อนนั้นแต่งเข้าบ้านหญิงแล้วลูกเขยก็จะช่วยมาทำนาทำไร่ครับ เพิ่งจะมาถือตามธรรมเนียมจีนเมื่อยุคหลังหลังนี่เอง(ผมไม่มีข้อมูลว่าธรรมเนียมนี้มีเข้ามาสมัยไหน)

มาสมัยนี้กลายเป็นว่า คนดีไม่ดีไม่สน เอาเงินมากองไว้ถึงจะเอาลูกสาวไปได้ ธรรมเนียมนี้ดีจริงๆ

สุดท้ายนี้ขอให้คิดไว้เลยว่า ถ้าไม่รักลูกสาวคุณสุดๆแล้ว ไม่มีไอ้ผู้ชายหน้าไหนหรอกที่จะกล้าไปขอลูกสาวท่านหรอกครับ มีแต่จะพยายามหลบหน้าให้มากที่สุด แล้วท่านจะปฎบัติต่อคนที่รักลูกสาวท่านมากที่สุดอย่างไร ลองคิดดูละกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 70

แท

29/09/2009 17:42:12
0
เรียกสินสอดแพงๆเนี่ย นึกถึงมนต์รักลูกทุ่งแฮะ 10หมื่นเชียวละ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 71

iAsa

29/09/2009 17:43:46
0
กลับบ้นก่อน เดี๋ยวมาตอบ อิอิ

จะทำเนียมไทยจีน เช้าก็ไม่ทราบเหมือนักน แต่บ้านเช้ามีมานานมากแร้วค่ะ มากขนาดรุ่นคุณทวดกันทีเดียว สงสัยนั่นจะนานเกินกว่าที่จะมีคนเล่าให้เช้าฟัง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 72

ryder2000

29/09/2009 18:05:59
0
ขอบคุณคับสนุกดีจังแต่ยังงงกับคำตอบถามต่อนะคับ
1.หมายถึงว่าคุณพ่อเช้าเป็นคนพูดว่า คิดว่าเช้ามีค่าเท่าไหน ก็ลองเสนอมา เดี๋ยวพิจารณาเอง อ้อพูดกับแฟนคุณเช้า สมมุติอีกแว้ว ผมเปนแฟนคุณเช้าจะตอบว่า ผมไม่เคยตีความรัก และคนที่เรารักเปนราคาของสินสอด แต่ผมจะอยู่ดูแลเทอถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต (ดีกว่าค่าสินสอดไหมคับ)และผมคิดว่าพ่อคุณเช้าน่าจะดูออกนะว่าผู้ชายคนที่นั่งอยู่หน้าท่านจิงใจหรือเชื่อถือไม่มากกว่าเงินไหม
ข้อ2.ก็อย่างที่คุณเช้าบอกสรุปสุดท้าย เงินมันวัดไม่ได้ แล้วทำไมค่าสินสอด(เงิน)ถือเปนการให้เกียรติ ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าผู้หญิงมีฐานะดีกว่าผู้ชายจะรู้สึกแย่ ก็เพราะเรายังมองในเรื่องทรัพย์สินไง อย่างแฟนผมจนกว่าผม แฟนผมยังไม่รู้สึกเลย(ให้มันทุกบาททุกสตางค์)
ข้อ 3 ว้า อย่างนี้คนจนแต่นิสัยดีให้ตายก็หมดสิทธิ์ (ถ้าผมมีลูกสาว ผมไม่เกี่ยวว่าจนหรือรวย เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำให้ตัวเองไปคนดีและไม่อดตายได้)
ข้อ4. โทษคับ ไอ Slide of life แปลว่าอะรัยคับ แปลไม่ออกโง่ ไม่เข้าใจความหมายที่ต้องการสื่อ (พ่อมีตังให้เรียนแต่ลูกไม่มีปัญญาเรียน เวร)แต่ก็นั้นไง อย่างนี้หรือเปล่าคือความรัก
ส่วนช่วงสุดท้าย อย่างที่คุณเช้าบอก ทุกอย่างมันก็เป็นไปตามทางที่ควรจะเป็นเอง ไม่ควรไปตัดสินด้วยเรื่องเงิน ฐานะ ความ มั่งคง (เกี่ยวอะรัยกับเฮียเขาว้า)
ส่วนเรื่องปล. ที่คุณเช้าบอกว่าคุณยายชมคุณพ่อ ตอนไหนคับเมื่อวาน ปีที่แล้ว หรือสิบปี ถ้าเปนในระยะเวลาอันใกล้ คงไม่ใช่สิ่งที่ผม หมายถึง สิ่งที่ผมหมายถึงคือช่วงปีแรกในชีวิตแต่งงาน เพราะตอนนั้นยังเปนคนที่พึ่งเข้ามาเปนสมาชิกใหม่ และอีกอย่างขอให้ลูกเขยจนกว่าด้วยนะคับ รวยกว่าคงไม่ต้องพูดถึงดีอยู่แล้วยิ่งส่งเงินมาให้ยิ่งดี ผมไม่เถียงคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 73

Uthen

29/09/2009 18:06:51
0
ท่าจะยาวกันนะเนี่ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 74

Uthen

29/09/2009 18:08:10
0
แต่ผมว่าดีนะที่แต่ล่ะคนเอาเหตุผลมาเสนอครับ อย่าเอาอารมณ์อาใส่ด้วยเน้อ..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 75

nopphong

29/09/2009 18:08:58
4
คือเรื่องแต่งเข้าบ้านผู้หญิงมันเป็นประวัติศาส์ไทยน่ะครับสมัยนานมากอาจจะสมัยอยุธยา(มั้ง) ไม่แปลกที่คนสมัยนี้ลืมกันหมดแล้ว ถือตามธรรมเนียมจีนกันหมด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 76

Bank

29/09/2009 18:10:14
0
มันก็จริงอย่างที่ คห 72 บอกอ่าเนอะ

ของบางอย่างมันมี 2 มุม ต้องได้พบเจอแล้วจะเข้าใจครับ หุหุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 77

ryder2000

29/09/2009 18:14:33
0
ง่ายมากคับ ทำไมผู้ชายถึงชอบคิดว่าผู้หญิงไม่มีเหตุผล เพราะเพื่อนผมไปผู้หญิง และเคยกล่าวไว้ว่า (รวมทั้งโก้วเล้งด้วย)จงอย่าคิดเข้าใจผู้หญิง เพราะเธอยังไม่เข้าใจตัวเองเลย
พี่ nopphong ตกลงไม่รู้จะเรียกพี่หรือคุณดี เรียกคุณพี่แล้วกัน ถูกใจวรรค สุดท้ายมากคับ โดนๆ
วิธีแก้มีคับ รอให้อายุสี่สิบ ค่อยไปขอคับ รับรองพ่อตา แม่ยาย หายหยิ่ง (ช่วยรับป้าไปด้วยคับ) อิอิ ชายชั่วอีกแว้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 78

wtbmunkong

29/09/2009 18:35:58
0
ผมอ่านกระทู้มาจนจบ ผมจับใจความได้ว่า คุณปรัชเป็นแฟนกับคุณ iAsa ฮ่า ๆ ได้เท่านั้นครับ
ปล ผมว่าโชคดีมากนะครับที่ ได้คุณปรัชเป็นแฟนอะครับ จากเรื่องหูฟังนะที่ซื้อให้นะครับ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 79

k

29/09/2009 18:43:37
6
ที่บ้านคุณเช้าน่ารักมาก หวังว่าถ้าผมจะได้แต่งงานกับใครซักคนจะได้่คนที่พ่อแม่เค้าคิดแบบที่บ้านคุณเช้า เพราะผมเองก็คงไม่มีเงินทองอะไรมากมายไปกองให้พ่อแม่เค้าหรอกครับแต่ถ้าเรื่องความดีก็คงมีอะไรที่พอจะอวดได้บ้าง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 80

lexibeat

29/09/2009 19:07:43
เข้ามาดูก็รู้สึกโดนกะ กระทู้นี้มาก ยี่งเจอข้อความว่า

\"ความสวยเป็นแค่ option เสริม คนที่นิสัยเข้ากันได้กับเราสิเป็นสิ่งที่สำคัญ\"

คมขนาดนี้ พวกแถวบ้านผม เค้าเอามาเกี่ยวข้าวได้เลย(ไม่ต้องจ้างรถเกี่ยว)

โดนใจอย่างยิ่ง สัญญาว่า จะขอติดตามอีกต่อๆ ไป .......ด้วยจิตคารวะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 81

Vichien

29/09/2009 19:48:12
0
ผมขอนำเสนอมุมมองของผมบ้างนะครับ...

ผมว่าเรื่องนี้ถกกันให้ตายก็หาข้อสรุปไม่ได้หรอกครับ...เพราะมันมีปัจจัยให้ต้องพิจารณาประกอบการให้เหตุผลเพียบ...ไม่มี\\\"คำตอบสุดท้าย\\\"ที่ครอบคลุมทุกเหตุผลหรอกครับ...

ท่านที่เป็นผู้ชายก็ย่อมมองในมุมของผู้ชายที่ต้องเป็นฝ่ายเสียค่าสินสอดตามจำนวนที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกร้อง...อาจจะไม่ได้มองในมุมของผู้หญิง, ในมุมของสังคม, ในมุมจารีต ประเพณีและวัฒนธรรม

ท่านที่เป็นผู้หญิงก็มองในมุมของฝ่ายหญิง ในมุมสังคม ประเพณี จนบางครั้งอาจมองข้ามไปในเรื่องความเหมาะสม ความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก วิถึชีวิตปัจจุบัน...

เท่าที่ตามอ่านมา หลายๆท่านก็พยายามเสนอแนะในมุมประสบการณ์ของตนเอง หรือคนใกล้เคียง ครอบครัว เพื่อน จนบางครั้งเราอาจจะไม่ได้มองในมุมมองที่กว้างขึ้น

เรื่องการให้สินสอดเป็นเรื่องของจารีต ประเพณีครับ...ซึ่งแต่ละวัฒนธรรมย่อมมีแนวคิดไม่เหมือนกัน...แต่ไม่ว่าจะวัฒนธรรมไหนก็ล้วนแต่มีเหตุมีผลของตนเอง เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าอันไหนดีกว่าหรือเราควรเลียนแบบวัฒนธรรมไหน...เพราะไม่งั้น เราคงหนีไปแต่งงานกันที่อินเดียกันหมด...อิอิ

อย่างไรก็ตาม..สำหรับผม..ประเพณีเป็นสิ่งสำคัญมากๆในการอยู่ร่วมกันในสังคม...ลองคิดดูซิครับว่าถ้าไม่มีประเพณีเรื่องการแต่งงาน..การหมั้นหมาย..การให้สินสอด..การรดน้ำสังข์... สังคมจะวุ่นวายแค่ไหน..

ใครรักใคร ชอบใคร ไม่ต้องสนพ่อ สนแม่ ก็หนีตามกันไปเลยงั้นเหรอ วันนึงอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็หอบลูกกลับมาให้พ่อแม่เลี้ยง...หรือรักกันก็จริงแต่ยังไม่อยู่ในฐานะที่พร้อมที่จะมีชีวิตคู่ แต่งกันก็ไปตกระกำลำบาก ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอด ไหนจะมีลูกมีเต้าให้เป็นภาระต้องเลี้ยงอีก สงสารก็แต่เด็กที่จะโตขึ้นมาไม่มีคุณภาพ

ประเพณีเหล่านี้แหละครับที่จะเป็นเหมือนเครื่องมือทางสังคมที่จะช่วยกล่อมเกลา คัดกรองและเตือนสติคู่รักทั้งหลาย ให้รู้จักทำมาหากินก่อนที่จะมีชีวิตร่วมกันไปยาวนาน...

ผมถึงบอกครับว่า..\\\"จารีต ประเพณี\\\"..เป็นสิ่งดี ถ้าไม่ดีคงไม่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษหรอกครับ...

แต่อย่างไรก็ตาม...ในทางปฏิบัติ..คนในสังคมเองก็มักใช้..\\\"จารีต ประเพณี\\\"..เป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ส่วนตนเหมือนกัน...

อย่างที่หลายๆท่านพูดถึงการเรียกค่าสินสอดเหมือนการขายลูก...

จะบอกเช่นนั้นก็คงไม่ถูกต้องนัก...เพราะไม่ได้ทุกครอบครัวที่ปฏิบัติเช่นนั้น เราคงต้องว่ากันเป็นรายๆไป อย่างไปเหมาเอาทั้งหมดว่าเป็นอย่างนั้น...

สุดท้าย...อยากบอกว่า..เราคนไทยครับ...ก็คงมองว่านี่คือ..\\\"วิถี..ความเป็นไทย\\\"..ถ้าให้ไปเป็นอย่างอื่นก็คงไม่น่าจะเหมาะสม ไม่ใช่ไทย..อย่าไปมองว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายเลยครับ...ขืนคิดมากหลุดกรอบไปมาก...จะมีชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมยากครับ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 82

Vichien

29/09/2009 20:04:46
0
น้องเช้า...สู้ สู้

เป็นสาวเพียงคนเดียวที่ต่อสู้..อย่างเด็ดเดียว..เพื่อความถูกต้องของสังคม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 83

iAsa

29/09/2009 20:12:19
0
คุณ ryder2000 ยายชมตั้งแต่เช้าเด็กๆ จนกระทั่งยายเช้าเริ่มจะพูดไม่รู้เรื่อง และคิดว่าก่อนยายเสียเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ยายก็ยังชื่นชมป๊ะป๋าเช้าค่ะ ^^

ส่วนเรื่องคิดมาก อย่างแฟนเก่าๆเช้าก็คิดมากกันนะ อย่างปรัชญ์เองก็เคยเปรยๆ ผู้หยิงจะคิดไม่มากเท่าผู้ชายค่ะเรื่องนี้ เท่าที่เช้าทราบมาจากคนใกล้ตัวนะ คนอื่นเช้าไม่ทราบ

Slide of Life คือเสี้ยวหนึ่งของชีวิตค่ะ ไม่ใช่ภาพรวม

คุณ nopphong งั้นไม่แปลกค่ะ เพราะบ้านคุณพ่อเช้า สมัยอยุธยานั้นยังไม่มาไทยเลย 555 บ้านทางคุณพ่อเช้าเป็นเจ้าทางมอญอพยบมาไทยค่ะ แต่ไม่ว่าต้นตระกูลจะจีน จะมอญ จะลาว จะอะไร สุดท้ายมาตั้งรกรากในไทยก็คนไทยไม่ใช่หรอคะ ^^ เพียงแต่เป็นคนไทยเชื้อสายต่างกันเท่านั้นเอง นับไปไม่รู้กี่ร้อยปี ประเพณีที่ยึดกันมาก็รวมๆเข้าด้วยกัน มันก็เรื่องธรรมดาของการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย อีกสัก 100 ปีสินสอดอาจจะคอ่ยๆหายไปแบบที่ผู้ชายหลายคนต้องการก็ได้ค่ะ ใครจะรู้ เนอะ

คุณ wtbmunkong เช้าก็ว่าเช้าโชคดี ปรัชญ์เป็นผู้ชายที่น่ารัก และฮา ที่สุดในโลก 555

คุณ K ขอบคุณค่า ^^ เช้าว่าสิ่งที่เช้าโชคดีที่สุดคือเกิดเป็นลูกป๊ะป๋า หม่ามี้นี่แหละ ^^/


พี่วิเชียร!! พี่เจ๋งมาก เย่~ เห็นด้วยกะพี่ทุกประการ

เช้าได้ข้อสรุปของเช้าว่า ไอ้เรื่องพันธุ์นี้ มันขึ้นอยู่กับคนแต่ละคน ขึ้นอยู่กับบ้าน อยู่กับสังคม บ้านใครไม่เหมาะ ก็คงต้องผ่านๆไป แต่บ้านเช้า เช้าเชื่อว่าพ่อแม่เช้าทำอะไรย่อมมีเหตุผลที่ดีกับลูก ดังนั้นเค้าจะยก หรือไม่ยกให้ใคร เรียกใครเท่าไหร่ เช้าก็ว่าเค้าต้องคิดดีแล้ว ^^~







ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 84

yoyo

29/09/2009 20:12:28
30
หรือคิดอีกทีเหมือนการเอาคืนอย่างหนึ่งนะ พ่อเจ้าสาวอาขเคยผ่านประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน พอถึงคราวตัวเองก็เลยลองบ้างแบบว่า ทีกรูยังทำได้เลย แล้วทำไมเอ็งจะะทำไม่ได้ฟะ
นึกถึงโฆษณาที่ว่าที่พ่อตาลงครัวเองทำผัดพริกขึ้หนูให้แฟนลูกสาวกิน 55555 กะให้ถอยกลับบ้านไปเลย ทีนี้ถ้าว่าที่ลูกเขยทนได้และมีความอดทนพอ สุดท้ายก็ตงชนะใจว่าที่พ่อตาได้
ผมว่ามันก็เป็นกระบวนการคัดกรองแบบหนี่งที่ทางบ้านเจ้าสาวเอามาใช้ล่ะครับ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เป็นความอดทนแต่เป็นเงินทองซึ่งเป็นของหายากและค่อนข้าง Sensitive
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 85

iAsa

29/09/2009 20:17:20
0
555 เออเนอะ อาจจะจริงแบบคุณ yoyo แบบตอนตรู ตรูยังลำบากขอมาได้ ไอ้หมอนี่เป็นใคร ทำมัยขอไม่ได้ หึ๊!!!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 86

ซิลเวอร์

29/09/2009 20:24:59
0
ผมว่าเพราะเรื่องแบบนี้ทำให้คนที่รักกันหลายๆคู่ไม่ได้แต่งกันมามากแล้ว -*-

ผมมองว่าเรื่องของสินสอดเนี่ยจะเรียดต้องดูฐานะของฝ่ายชายด้วย

บางก็ดีครับเรียกเยอะแต่ก็ให้ลูกมาเป็นทุน แต่บางบ้านก็ทำเหมือนขายลูกกิน - -*

บางครั้งสินสอดแพงก็ไม่ได้ความว่าจะรักกันยั่งยืน

พอกับแม่ผมไม่ได้แต่งงานกัน ยังอยุ่กันยืดหยั่งกะหนังสติ๊ก รักกันมากมาย

แต่บางคู่แต่งกันซะเว่อ ปีเดียวเลิกก - -*

เพราะสินสอดนี่แหละแทนที่จะได้แต่งกัน ก็เลยต้องอยู่ด้วยกันเฉย(บางคู่)



แต่งเข้าบ้านผู้หญิงตามธรรมเนียมจีนก็มีนะครับ เรียกว่า จิบสื่อ

คือบ้านผู้หญิงไม่มีลูกชาย ออกแนวฐานะดีแต่ไม่มีผู้สือทอด ก็จะให้ผู้ชายแต่งเข้าบ้านครับ ให้ใช้แซ่ของฝ่ายหญิง

โดยลูกที่ออกมาก็จะใช้ แซ่ ของฝ่ายหญิง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 87

iAsa

29/09/2009 20:26:54
0
โอ้วว เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย จิบสื่อๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 88

แพะ

29/09/2009 20:29:05
39
เก็บข้อมูลอีกรอบ...จะแต่งงานทีชีวิตนี้ช่างสับสนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย....แบะๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 89

bankhalkdown

29/09/2009 20:51:26
0
ยังไม่จบอีกหรอครับ - -*

ผมว่าเรื่องพวกนี้เถียงกันให้ตายก็ไม่มีข้อสรุปหรอกครับ

ผมว่าเป็นประเด็นที่สามารถเอาไปโต้วาทีได้เลยละ

เพราะเหตุผล+ข้อมูลของทั้งสองฝ่ายมันเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้าถามผมว่าธรรมเนียมนี้เป็นธรรมเนียมที่ดีหรือไม่

ผมคิดว่าดีแน่ละ แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานของความ

คิดของพ่อแม่ฝ่ายหญิง ความรักระหว่างทั้งสองฝ่าย

บวกกับฐานะของฝ่ายชาย ถ้าผมเป็นผู้หญิงแล้วรักผู้ชายคนนึงถึงขั้นจะแต่งงานด้วยแล้ว

แต่ติดเรื่องนี้เรื่องเดียวผมก็ไม่ยอมหรอกครับ อย่างที่คุณ bank เคยพูด

เงินเมื่อไหร่ก็หาได้ แต่ความรักที่มีให้กันถึงขั้นที่จะแต่้งงานเนี่ย มันไม่ได้มีง่ายๆหรอกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 90

ผีฟรีคิก

29/09/2009 20:51:56
0
เวลาเราคุยเรื่องสินสอดกันเนี่ย มักจะมีคนบอกว่า พ่อตาเค้าก็คืนมาให้ทำทุนทีหลังอยู่ดีแหละ
แต่ผมก็ผ่านงานแต่งงานของญาติพี่น้องมาหลายคน ไม่เห็นมันจะได้คืนกันซักคนเลยครับ
ไอ้ที่หวังจริงๆคือซองในงานมากกว่า ซึ่งโดนเมียเก็บหมด
นึกๆแล้วไม่อยากหาแฟนเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 91

SquidMan.ExE

29/09/2009 20:53:30
0
อ่า... จริงๆครับ... ยิ่งอ่านผมก็ยิ่งต้องคิดตาม...
สมัยนี้เงินเก็บ เก็บได้ก้อนนึง... ถึงเวลาต้องใช้กระทันหันมันก็จากไปซะงั้น...
เมื่อก่อนเคยไปบ้านแฟน... แฟนกับแม่แฟนก็เล่าช่วงที่พ่อแฟนหาเิงินมาเพื่อหมั้นแม่แฟน...
เรียกว่าฝั่งผู้หญิง request สุดฤทธิ์... แต่ฝ่ายชายก็หามาจนได้ทุกอย่าง...
ไม่ใช่แค่เงินหรือทอง... แต่ยังมีเครื่องประดับที่สั่งทำตาม Order ด้วย...
ผมเองเห็นก็ชื่นชมท่าน... ว่าท่านอุตสาหะ...
แต่พอมามองภาพเปรียบเทียบกับตัวเองแล้ว...

เฮ้อ...

(จริงๆผมเชื่อว่าฝ่ายแฟนก็ไม่ได้้ต้องการยกเคสนี้มาข่ม... แต่เป็นความภาคภูิมิใจที่เขาได้รับ...)

แต่ฝั่งผมก็เหงื่อตกในใจเหมือนกัน...

เป็นกระทู้ที่ใช้เวลาอ่านได้พอๆกับพ๊อกเก็ตบุคเล่มนึงเลยล่ะครับ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 92

jek

29/09/2009 21:20:28
0



ฝากให้อ่าน....ดี...ดี

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 93

nopphong

29/09/2009 21:24:47
4
ผมว่าธรรมเนียมต่างๆควรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยครับ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาอนุรักษ์กันไปโดยไม่ดูสภาพเศรฐกิจ สังคม และความเหมาะสม ไม่เช่นนนั้นแล้วถ้าประเพณีเก่าๆมันดีไปเสียหมด ป่านนี้เราคงอนุรักษ์กันด้วยการนุ่งโจงกระเบน กินหมากแจ๊บๆกันแล้วล่ะครับ อะไรที่มันไม่เข้าท่าลดได้ก็ลดเลิกได้ก็เลิก

คือสภาพเศรฐกิจสังคมตอนนี้ เงินทองไม่ได้หากันง่ายๆ หากยังยึดถือธรรมเนียมนี้กันต่อไปก็จะกลายเป็นว่า การแต่งงานมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับคู่ที่รักกันจริงแต่จน นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 94

jek

29/09/2009 21:34:36
0



สำหรับคนที่หงุดหงิดกับกระทู้นี้...อย่างเจ๊นี่แหละหนึ่งคน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 95

เต้_พ่อน้องแพง

29/09/2009 21:34:50
0
ผมเองก็มีลูกสาวนะครับ แล้วการดั้นด้นหาสินสอดนี่จะบอกได้เลยนะครับ ว่าคนๆนี้เขาจะเลี้ยงลูกเราได้ดีเหมือนที่เราเลี้ยงไหมล่ะครับ ว่าฝ่ายชายมีความพยายามขนาดไหน ผมเองดั้นด้นไปหามาจากหลายประเทศเลยล่ะ กว่าจะได้แล้วถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องแต่งสิครับ ผมเองอยู่ด้วยกันหลายปีกว่าจะได้แต่งล่ะเรียกว่าทดลองงานกันนานเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 96

jek

29/09/2009 21:47:30
0
ขอบคุณ คุณเต้_พ่อน้องแพง ที่คิดแบบนี้

เจ๊ว่าน่าจะเข้าใจกันได้แล้วนะ ถ้าคุณมีลูกสาว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 97

yoyo

29/09/2009 22:17:13
30
เห็นหลายท่านพูดว่า ถ้าไม่รักแล้วจะมาแต่งกันหรือ คบมาจนถึงป่านนี้

พูดถึงประเด็นนี้ก่อนหน่อยดีกว่า ผมเห็นด้วยนะคนเรา 2 คนจะมาใช้ชีวิตร่วมกันมันก็ต้องเริ่มจากความรักก่อน อาจจะรักปิ๊งป๊างแบบวัยรุ่นหรือสุขุมนุ่มลึกก็ตามที

แต่หลังจากแต่งงานแล้ว ความรักนั้นยังคงเหมือนเดิม หรือเข้มข้นเหมือนเดิมไหม
เคยได้ยินไหมครับว่า คนเราตอนเป็นแฟนกัน จะข้ามถนนทีก็ต้องเดินจูงกันเหมือนวัวเหมือนควาย อยากอยู่ใกล้ๆห่างไม่ได้ แต่พอแต่งแล้ว เอ้า...นี่เธอ เดินเร็วๆสิ ตามมานะ ดูรถด้วยนะ ช้าอยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวรถชนกันพอดี ว่าแล้วก็จ้ำอ้าวไปก่อนเลย หึ หึึ หึ

ที่ผมพยายามจะพูดคือ ความรู้สึกว่ารักน่ะมันอยู่ในช่วงตอนที่เรายังไม่ได้เขามา อยากเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แต่พอได้มาแล้วความรักนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่ได้หมายความว่าหมดรักนะ แต่มันกลายเป็นความรู้สึกของความเป็นเพื่อนมากขึ้น ความเป็นคู่ชีวิต ความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ห่วงหาอาทร ซึ่งผมว่าอันนี้สำคัญกว่าความรักแบบ poppy love ตอนเป็นแฟนกันเสียอีก

ดังนั้น ที่ว่ารักแล้ว เลิกรักน่ะง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ไปเจอคนใหม่ก็รักได้อีก แต่เมื่อได้รักแล้วได้มาร่วมชีวิตกัน ทำอย่างไรถึงจะรักษาสัมพันธ์ให้มั่นคงยืนยาว นั่นต่างหากที่ยาก ต้ออาศัยความรัก ความเข้าใจ และความอดทน จึงจะทำให้ชีวิตคู่ครองอยู่ได้ตราบนานเท่านาน

พูดมาตั้งนาน แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องสินสอดตรงไหนฟะ....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 98

ping_seksan

29/09/2009 22:22:45
25
เก็บข้อมูลบ้างครับ เพราะคงต้องเจอชะตากรรมเดียวกันแน่ ๆ แต่ก็โชคดีอยู่ว่า บ้านแฟน เค้าเคยพูด ๆ ไว้ว่าจะเรียกพอเป็นพิธี แต่ไม่รู้ว่าพอเป็นพิธีนี่ประมาณเท่าไหร่ และอีกอย่างเงินค่าสินสอดนี่ ถ้าแต่งงานเสร็จ เค้าก็จะให้มาเป็นเงินสำหรับตั้งต้นชีวิตคู่ครับ

แต่ว่าตั้งแต่ทำงานมาก็หลายปี ยังเก็บเงินได้ไม่ถึงไหนเลย ไม่รู้จะมีเงินไปขอสูเจ้าปีไหน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 99

Champ

29/09/2009 22:25:56
2,143
สำหรับผม แต่งเมีย

ไม่มีสินสอด ไม่มีงานแต่ง ไม่มีอะไรเลย

มีแค่ จดทะเบียนสมรสครับ

ไม่ต้องจ่ายตัง เค้า อแค่ดูแลลูกสาวเค้าดีๆก็พอครับ


โชคดีจริงๆผม ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 100

iAsa

29/09/2009 22:26:54
0
คุณเต้_พ่อน้องแพง จะบอกว่า คุณพ่อก็เคยพูดนัยๆนี้เหมือนกันค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 101

ryder2000

29/09/2009 22:28:33
0
ว้าเราเลยพูดยากเลย ดันมีแต่ลูกชาย แต่ในความคิดผมสินสอดไม่สามารถบอกได้ว่าเขาจะเลี้ยงลูกสาวดีไหม และการที่จะทดลองอยู่กันก่อน น่าจะไม่ใช่เรื่องดีนะ หรอกผมมีลูกสาว แล้ววันหนึ่งแฟนของลูกสาวผม มาบอกว่ายังไม่มีเงินขอกำลังเก็บเงินอยู่แต่ ขอไปอยู่หลับนอนด้วยกัันเปนผัวเมียก่อนนะ (แต่ก็ดีจะได้เรียกค่าสินสอดให้น้อย) ส่วนคนที่หงุดหงิด ก็ไม่ต้องอ่านง่ายดี หรืออ่านธรรมะให้มากขึ้นจะได้ไม่หงุดหงิด ดีใจจังที่มีพ่อตาจน(แต่รวยน้ำใจ)
ปล คุณbank มาหาดใหญ่บอกด้วยเจอกระทู้แล้ว อยากน้ำจัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 102

lexibeat

29/09/2009 22:34:40
ปล่อยไปตามธรรมชาติ ปล่อยไปตามธรรมชาติของแต่ละคู่ดีกว่ามั้ย
เพราะคนเรา เอาอะไรมาวัดกัน ถ้าสมมุคิว่า คู่นั้นที่เค้าพร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกัน
ฝ่ายที่มีโอกาสทางสังคม อาชีพ เศรษฐกิจ การเงินที่ดีกว่า เค้ารับในคู่ของเค้าได้
แล้วคนอื่นจะตัดสินใจแทนเค้าได้ไง เงื่อนไขของการใช้ชีวิตคู่ บางครั้งไม่ได้มีพื้นฐานจากความรักก็มีเยอะไป อย่างบางกรณีที่พลาด....(ราคาสินสอดอาจตกได้).....รับผิดชอบร่วมกัน ถ้าทั้งคู่รับผิดชอบ มนุษย์ที่เกิดมาคนต่อไป ก็คงมีปัญหาน้อย.........แล้วเกี่ยวกะสินสอดตรงไหนหว่า รู้แต่ว่ามีอารมณ์ร่วมนิดนึง 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 103

yoyo

29/09/2009 22:35:32
30
อ้อ... อีกหน่อย

สังคมไทยไม่เหมือนสังคมฝรั่งครับ นั่นเขาเป็นสังตมเดี่ยว พอโตอายุ 16-17 ก็ต้องไปหาอะไรทำแล้ว ขืนยังอยู่บ้านพ่อบ้านแม่ คนอื่นเขานินทาตาย ดังนั้นฝรั่งเขามักจะอยู่คนเดียวเช่าอพาร์ทเมนท์ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง ไม่ไปรบกวนพ่อแม่ แต่ถึงจะไปรบกวน พ่อแม่ก็ไม่ยอมอยู่ดี ถือว่าโตๆกันแล้ว มีหน้าที่ๆต้องดูแลตัวเองได้

ทีนี้พอเติบโตนอกบ้านไปเจอคนถูกใจเข้าจนแต่งงานกัน มันก็เป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้น แค่บอกกล่าวให้พ่อแม่พี่น้องทราบและเชิญมางานแต่งงานก็เท่านั้น ดังนั้นเรื่องสินสอดมันก็เลยไม่มี แต่งแล้วก็อยู่กันสองคน พ่อแม่ไม่เกี่ยว

แต่สังคมไทยมันต่างกันครับ เราเป็นสังคมครอบครัวมากกว่าฝรั่งมาก ยังมีความผูกพันกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวสูง จนบางครั้งอาจจะกลายเป็นก้าวก่ายจุ้นจ้านไปเลยก็มี บ้านเราแต่งงานกับแฟนมันก็เหมือนแต่งกับครอบครัวแฟนทั้งบ้านเลยนะครับ ไม่ใช่แต่งเสร็จแล้วก็บ๊ายบาย ไปใช้ชีวิตกันอยู่สองคนไม่ติดต่อหรือเกี่ยวข้องกับใคร
ซึ่งคุณก็จะอยู่ในสายตาของครอบครัวไปตลอด เวลามีปัญหาหรือเดือดเนื้อร้อนใจก็ยังมาปรึกษาพูดคุยกันได้เสมอ มีความห่วงหาอาทร ด้วยเหตุนี้ผมว่าเลยทำให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเลยมักจะกังวลกับคนที่จะมาแต่งงานกับลูกสาวมากซักหน่อย จนต้องพยายามหาหลักประกันหรือข้อพิสูจน์ให้มั่นใจเสียก่อน

ไม่ได้ออกตัวแทนฝ่ายหญิงนะครับ ผมมีลูกชาย 2 คน นึกถึงอนาคตแล้วหนาวอยู่เหมือนกัน หึ หึ หึ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 104

ryder2000

29/09/2009 22:35:33
0
คุณเช้า ผู้หญิงนะไม่ต้องมีเหตุผลหรอก เพราะสำหรับผู้หญิง ร้อยเหตุผลไม่สู้ หนึ่งพอใจ(น้องพี่เปนต่อ) อีกอย่างผู้หญิงยังไงเถียงชนะ ผู้ชาย อย่างน้อยก็สามี อ้ออาจจะมีลูกด้วย
ไม่อย่างนั้นพี่โน๊ตคงไมีคำนี้ อาร์ตตัวแม่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 105

นายมั่นคง

29/09/2009 22:35:46
0
ขอคุยออกนอกประเด็นเรื่องนิดนึงล่ะ

บางทีผมเคยตั้งข้อสังเกตุว่า ดาราหรือคนดัง เวลาทีวีทำข่าว มักจะตั้งประเด็นว่าสินสอดเท่าไหน่ มีอะไรบ้าง คล้ายๆ ว่ามันเป็นการบ่งบอกระดับฐานะในสังคมไปในตัว ซึ่งเวลาเปิดเผยแต่ล่ะที เล่นเอาสะท้านวงการไปหมด

แต่พอแต่งกัน แป๊บเดียวเลิก หรือมีลูกเต้าเล็กๆ ก็ยังยอมเลิกง่ายๆๆ โดยไม่พยายามปรับอะไรกัน (ผมคิดเอาเองว่า เวลาต่างคนต่างมีความสามารถในการหารายได้ ทำให้มันอดทนน้อยกว่าคนทั่วไป)


ประเด็นเล่นๆๆ นะครับ อย่าวิจารณ์แรงๆๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นร้อนหมดเน้อ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 106

nopphong

29/09/2009 22:42:10
4
ผมว่าสมัยนี้น่ะ ร้อยละ 90 ถ้าถึงขนาดจะแต่งกันน่ะ แสดงว่า XXX กันมาเป็นระยะเวลาพอสมควรกันแล้วนะครับ การมาเรียกสินสอดแพงๆ เหมือนกับพูดว่า \"เอ็งคบกันได้ เอ็ง XXX กันได้ แต่เอ็งห้ามแต่งกัน จนกว่าเอ็งจะมีเงินพอ\" ผมว่าแนวคิดแบบนี้ไม่น่าจะทำให้สังคมไทยดีขึ้นได้นะครับ
หรือจะปฎิเสธความจริงว่า โอยไม่จริงหรอก คนสมัยนี้คบกันเป็นแฟนไปยังงั้นแหละ อายุยี่สิบสามสิบปีแล้ว(เป็นอายุช่วงที่จะขอแต่งงานกัน เด็กกว่านี้คงไม่มีใครคิดจะแต่งมั้ง) เขาคบกันเฉยๆ ไม่เคย XXX กันหรอก เอ้าถ้าคิดว่าคนส่วนใหญ่สมัยนี้ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ก็ตามใจท่านแหละครับ
บางรายก็อยู่กันเป็นครอบครัวมาพอสมควรจึงตัดสินใจแต่งงานกัน แต่พอไปขอก็เจอสองแสนไม่ได้แต่กันอยู่กันต่อไปเรื่อยๆก็เยอะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 107

iAsa

29/09/2009 22:47:18
0
คุณ ryder2000 555 ไม่เสมอไปหรอกค่ะ เช้าเถียงไม่เคยชนะบรรดาลูกพี่ลูกน้องผู้ชายเช้าเลย 555 บ้านเช้าไม่ตามใจเพราะเป็นผู้หญิงนะ ทุกคนต้องมีเหตุผลมาอ้างอิง พี่ๆเช้าจะเหตุผลร้อยแปดพันเก้า สุดท้ายจะจบที่ว่า เ้ช้าเด็ก ไม่รู้หรอก พี่เจอมาเยอะแล้ว 55555555

คุณ ryder2000 อาจจะโชคร้ายที่เจอแต่ผู้หญิงไม่มีเหตุผล แต่ผู้ชายไม่มีเหตุผล ก็เยอะนา .... ไม่ใช่ว่าจะน้อย

BTW ถ้าผู้ชายไม่มีเหตุผลละคะ ที่ยึดเอาโลกหมุนรอบตัวเองเนี่ย จะเรียก Art ตัว แม่(ง) มั้ยอะคะ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 108

ryder2000

29/09/2009 22:52:40
0
อย่างนี้คับ ผมว่าผู้ชายใช้เหตุผลมาอ้างเพื่อรองรับอารมณ์คับ แต่ผู้หญิงคือตรงไปตรงมา อารมณ์รองรับอารมณ์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 109

HITMAN

29/09/2009 22:59:25
0
การแต่งงานนี่มันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆนะเนี่ย 100กว่ากระทู้แล้ว555
แต่ก็ขอบคุณ จขกท เพราะตอนนี้เริ่มทำให้ผมตาสว่างหลังจากได้อ่านกระทู้จากหลายท่าน55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 110

iAsa

29/09/2009 23:11:09
0
= = ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกแย่ แนวคิดที่คุณ nopphong มีกับผู้ใหญ่ฝ่ายผู้หญิงนี่มันดูแย่มากเลยอะค่ะ ถึงคุณอาจจะไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ว่า XXX ไปแล้ว ยังจะขอค่าตัวแพงไปทำอะไร

คุณอาจจะแค้นเคืองแม่ยายคุณมาแต่ประการใด แต่อย่ามาเหมารวมสรุปว่าสังคมไทยเป็นแบบที่คุณคิด อย่างน้อย เราก็รู้สึกแย่มากๆในฐานะครอบครัวผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด

เราอาจจะอยู่ในสังคมคนละแบบกับคุณ คุณอาจจะอาบน้ำร้อนมาก่อน มีประสบการมากพอที่จะมองโลกกว้าง และสมัยใหม่ได้มากวก่าเช้า มีความคิดเป็นหัวสมัยใหม่ และมีสังคมที่ผ่านโลกาพิวัฒน์มาแล้ว

บอกตามตรง ถ้าดูกันตามพาสปอร์ต เราอาจจะมีความเป็นไทยน้อยกว่าคุณด้วยซ้ำ อาจจะใช้เวลาในการอยู่ที่เมืองไทยน้อยกว่าคุณ เรากลับไม่เห็นว่าการแต่งกันแบบง่ายๆไม่มีสินสอด จะทำให้ครอบครัวมีความสุขตรงไหน เราดูจากครอบครัวของ\"ฝรั่ง\"ในภาพลักษณ์ของคนไทย มัน... มักง่าย และตัดสินใจอะไรกันง่ายๆพิกล แต่งง่าย หย่าหง่าย แยกตัวออกจากกันง่าย ฝรั่งดีๆเค้าก็มี เพียงแต่มันไม่ค่อยมีในหนัง หรือ สังคมทั่วๆไปแค่นั้นเอง

ดูคุณจะติดใจกะไอ้ 200k นี่มากมาย เงินจำนวนนี้สำรับเรามันหาไม่ยาก (โดยไม่ต้องแบมือขอ) เราเลยไม่เข้าใจคนอย่างคุณ ที่ดูถูกและด่าได้แม้กระทั่งแม่ของคนที่คุณรัก

ตั้งแต่ตอบข้อความในกระทู้นี้มาตั้งยาว ไม่มีรู้สึกแย่ๆกับข้อความของใครเลยนะคะ เพราะว่าสำหรับข้อความอื่น เหมือนแชร์ไอเดียอะ แต่ความคิดเห็นคุณนี่ ในความรู้สึกเรา คือคุณมองบ้านผู้หญิงได้แย่มาก และอาจจะมองค่าของผุ้หญิงน้อยด้วยละมั้ง

เราคงไม่เหมาะกับกระทู้นี้ เชิญคุณผู้ชายที่เห็นด้วยว่าพ่อแม่ผู้หญิงส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ขายลูกกิน เมาท์กันให้สนุกละกันค่ะ ถึงคนที่คุณด่า ไม่ใช่พ่อกับแม่ของเช้า แต่ถ้าโดนเหมารวมไปด้วย เช้าก็ไม่ happy หรอกนะ

อย่างที่บางท่านแนะนำแหละค่ะ ว่าใครชอบก็อ่าน ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน เราแค่ชี้แจงเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าเห็นว่า ไอ้ความคิดด้านเทือกเถาเหล่ากอเช้ามันคร่ำครึ ไม่ใช่สังคมสมัยใหม่ ไม่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ก็ทำเป็นไม่เห็นกันไปค่ะ

เพราะต่อให้เช้านั่งตอบ นั่งชี้แจงกันต่อไป สงสัยจะยาว พูดไปก็ใช่ว่าจะเปิดใจกันได้ ดีใจที่เจอผู้ชายดีๆแบบปรัชญ์ เพราะอย่างน้อยก็ยังพยายาม และให้เกียรติพ่อกับแม่เช้าอย่างมากมาย




ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 111

iAsa

29/09/2009 23:12:40
0
คุณ ryder2000 อ้อ ผู้ชายเค้าเอาเหตุผลมาเพื่อรองรับอารมเองหรอ 5555555555 เค้าเรียกมีฟอร์มชิมิคะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 112

ซิลเวอร์

29/09/2009 23:22:13
0
ใจเย็นครับคุณเช้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 113

iAsa

29/09/2009 23:28:30
0
= =\" เย็นแร้วนะ แค่อยากจะบอก(แบบตรงๆ) ว่าเรามีความคิดเห็นกับความคิดเค้าแค่ไหนอะค่ะ ย้ายห้องๆ ไปดูรูปจ๋วยๆดีกว่า หุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 114

pirarucu

29/09/2009 23:30:09
ประสบการณ์ที่ได้รับมาของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับนี่ครับ คนที่เขาทำแล้วชีวิตมีความสุขก็ต้องมองว่าเรื่องนี้มีข้อดีนะมีเหตุผลสนับสนุนก็ว่ากันไป ส่วนคนที่เจอประสบการณ์แย่ๆมาก็ต้องมองว่าเรื่องนี้ไม่ดี มีข้อเสียด้วยเหตุผลต่างๆก็ว่ากันไปอีกเช่นกัน มันก็อย่างนี้แล ชีวิตของแต่ละคนแต่ละครอบครัวมันไม่เหมือนกันนี่ครับ เอามาวัดและเปรียบเทียบกันคงลำบาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 115

nopphong

29/09/2009 23:36:26
4
ขออภัยที่ทำให้รู้สึกไม่ดี คำพูดผมเนี่ยมักจะ direct injection แบบนี้แหละ เพราะนิสัยช่างมักจะตีกันที่ต้อนเหตุมากกว่าจะเสียเวลาพูดอ้อมค้อม
ตามที่คุณ iAsa บอกมานั่นแหละครับมุมมอง เงิน 200000 สำหรับใครบางคนมันได้มาง่ายๆ สำหรับใครอีกหลายๆค
นมันคือเงินเก็บทั้งชีวิต
แต่สินสอดมันไม่ได้ดูว่าใครมีใครจน ใครเป็นคนดีหรือไม่ดี พอคนนึงแต่งกันสองแสน พอถึงเวลาลูกตัวเองจะแต่งจะเรียกสองหมื่นก็กลัวเสียหน้า โดยลืมนึกไปว่าฐาณะของคนที่รักลูกเราและลูกเรารักน่ะมันแค่ไหน

อย่าคิดว่าการสะท้อนแง่มุมแย่ๆของเรื่องนี้ออกมาเป็นการด่าเหมารวมพ่อแม่ทุกคนสิครับ เพราะการคิดแบบนั้นมันก็กลายเป็นจะไม่คุยกันด้วยเหตุผลแต่เป็นการเถียงกันด้วยความกลัวว่าจะมีคนมาด่าว่าพ่อแม่ตนเองเสียมากกว่า

ทางบ้านคุณ iAsa และเพื่อนๆท่านอื่นๆ อาจจะดีแบบที่คุณ iAsa บอกไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าส่วนใหญ่ของสังคมไทยจะดีแบบนั้น เพราะถ้ามันดีแบบนั้นคงไม่มีเพลงสิบหมื่นออกมาให้ฟังกัน
คุยกันเนี่ยไม่ได้ต้องการจะว่าใคร เรื่องแม่ยายผมก็เล่าให้ฟังเพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น และอยากรู้ว่าคนที่เขาคิดจะเรียกสินสอดลูกแพงๆน่ะเขาคิดยังไง และต้องการจะสื่อว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป คิดจะเปลี่ยนกันบ้างหรือเปล่า

โดยคุณเช้ายังยืนยันเหมือนเดิมคือ การแต่งแบบไม่มีสินสอดไม่เห็นว่ามันจะทำให้ชีวิตแต่งงานดีขึ้นแต่อย่างใด
ผมก็ยังยืนยันเหมือนกันว่าให้สินสอดกองท่วมหัวก็ไม่ได้บอกว่าชีวิตแต่งงานจะดีเหมือนกัน
น่าจะสรุปได้ตรงกันว่า มีสินสิด หรือไม่มีสินสอด ก็ไม่ได้ผลกระทบต่อชีวิตสมรส
ดังนั้นจะดีกว่าไหมที่จะเรียกกันให้พอเหมาะสม คิดถึงความลำบากของอีกฝ่ายบ้าง ไม่ใช่ว่าจะเอาเงินทองเป็นตัววัดแต่เพียงอย่างเดียวครับ

ปล.เรื่อง xxx อาจจะฟังดูแรงไปบ้าง แต่เรื่อง XXX กันก่อนแต่งน่าจะเป็นเรื่องปรกติของสมัยนี้ เนื่องจากสมัยนี้เราไม่ได้แต่งกันตอนอายุ 18 เราอยู่กันจนเกือบ 30 จึงจะคิดแต่ง แล้วคนอายุขนาดนั้นคงไม่คบกันเฉยๆเป็นแน่ ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รู้ ในเมื่อรู้ว่าลูกมีแฟน และด้วยอายุขนาดนั้นก็คงจะรู้กันว่าทำอะไรกันบ้าง แต่ก็อณุญาตให้คบกัน(หรือไม่อณุญาตแต่ห้ามไม่ได้) แล้วจะหมายความว่าอย่างไรได้นอกจากหมายความว่า \"เอ็งจะทำอะไรก็ทำไป แต่ห้ามแต่งจนกว่าจะหาเงินมาได้\" สมองน้อยๆของผมมันคิดได้อย่างนี้นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 116

iAsa

29/09/2009 23:42:31
0
ง่ำๆ ขอบคุณคุณ nopphong ชี้แจงคร่าา~

สำหรับเรา ในกรณีที่คนที่ xxx ไปแล้ว แต่ยังไม่แต่ง การแต่งหมายถึงพร้อมจะมีลูกด้วยกันอะค่ะ แต่งแล้วจะได้มีน้องซะที ทำนองนั้นอะ พ่อกับแม่(บางท่าน)อาจจะยังคิดว่าอีกฝั่งไม่พร้อม เลยเรียกแพงๆถ่วงเวลาไ้ว้ก่อนรึเปล่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 117

nopphong

29/09/2009 23:44:54
4
กรณีแม่ยายผม(อีกแล้ว ขออภัยไม่ได้ต้องการด่าแม่ยาย แต่ไม่รู้จะยกตัวอย่างจริงๆที่ไหนมาให้ฟัง เลยเอาประสพการณ์ตรงของตัวเองเนี่ยแหละ) เขาก็รู้ว่าผมคบกับลูกสาวตัวเองมาหลายปีแค่ไหน แต่พอไปขอแต่งปราฎว่าเกิดกรณีเรียกสองแสนขึ้นมา แล้วทางผมมีเงินไม่พอเลยถอยทัพกลับบ้านมาก่อน พอแฟนผมไปคุยด้วย ปรากฎเขาพูดหน้าตาเฉยว่า....ก็อยู่ๆกันไปยังไม่ต้องแต่ง จะแต่งกันไปทำไม ฯลฯ เจริญล่ะครับความคิดแบบนี้ เข้าข่ายเอ็งจะทำอะไรก็ทำไป ห้ามแต่งจนกว่าจะหาเงินมากองได้จริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 118

iAsa

29/09/2009 23:47:39
0
กลืนน้ำลายเอื้อก แม่ยายคำขาดจริงๆเลย 555 อย่างนี้แฟนคุณ nopphong คงเครียดมิน้อยเลย ><
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 119

nopphong

29/09/2009 23:54:05
4
ตอบความเห็นที่ 116 นะครับ คือผมว่าสมัยนี้กว่าจะเรียนจบก็ 18-22 ปี กว่าจะคบกันจนตัดสินใจแต่งน่ะน่าจะเกิน 25-30 ผมว่าอายุขนาดนี้ถ้ายังไม่พร้อมมีลูกแล้วจะพร้อมเมื่อไรล่ะครับ

ต้องอย่าลืมว่าโดยธรรมชาติแล้ว ผู้ชายยังสมารถมีลูกได้จนแก่ แต่ผู้หญิงหลัง 30 ปีมีโอกาสที่ลูกจะออกมาเอ๋อสูงขึ้นมาก และ เกิน 40 ก็จะมีลูกไม่ได้แล้ว แต่ปรากฎว่าจนอายุจะ 30 ยังบอกว่าไม่พร้อม อันนี้ท่าจะแย่นะครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 120

nopphong

29/09/2009 23:58:55
4
แฟนผมไม่เครียดเลยครับ เพราะ เธอก็บอกว่าอืม...อยู่ก็อยู่ไป ไม่แต่งก็ได้ แต่คนเครียดเห็นจะเป็นผม กับป้าแฟน และ แม่ผมมากกว่า แบบว่าแฟนใกล้ 30 เข้าไปทุกที กลัวว่าจะมีลูกออกมาเอ๋อน่ะครับ ปัจจุบันมีลูกคนนึงโชคดีที่ไม่เอ๋อ นี่ถ้าเจรจาไม่สำเร็จอยู่กันไปเรื่อยๆกว่าจะเก็บตังได้ครบสองแสน สงสัยผมจะมีลูกออกมาเอ๋อแน่นอน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 121

iAsa

30/09/2009 00:00:37
0
555 มุมมองไม่เหมือนกันจิรงๆด้วย เช้าว่าผู้หญิงจะแต่ง เร็วสุดก็ 28 เร็วกว่านี้เหมือนจะยังไม่พร้อมอะค่ะ 5555 จริงๆ มีลูกคนเดียวก็พอ ดังนั้นมีลูกก่อน 35 ก็พอค่ะ แพทย์เดี๋ยวนี้พัฒนาไปไกล รีบแต่งเดี๋ยวอดเีที่ยวโลกกว้าง T_T มิได้ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 122

อ็อด อ็อด

30/09/2009 00:10:05
ถ้าคิดมาก ก็เอามาปล่อยขายเลยครับ วันหลัง ปล่อยในบอร์ดเลย
555+ วันหลังให้เฮียเปิดเว็ปขายอีกเว็ปเลย เอาเป็นเว็ปขายเมียมือสอง
ปล. ผมจะโดนเเบนไหมเนี่ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 123

เต้_พ่อน้องแพง

30/09/2009 00:15:56
0
จริงๆ ไม่เป็นประเด็นเท่าไหร่เลยนะครับเนี่ย ของแบบนี้ถ้าจะได้แต่งมันก็ต้องได้แต่งสิครับ

ตอนผมลุยไปขอลูกสาวแม่ยายผม ไปคนเดียวไม่มีอะไรไปทั้งนั้นเอารถเพื่อนไปขอตังค์ลูกสาวเขาเติมน้ำมันกลับกทม.อีกต่างหาก ทาบทามไว้ตั้งแต่ทองบาทละ 4800 มาได้แต่งเอาตอน ปี 47 นี่เอง หุหุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 124

nopphong

30/09/2009 00:21:32
4
แบบว่าหมอยังไม่มียาฉีดแก้โรคเอ๋อน่ะครับ ฮ่าๆๆ
แต่งก่อน 35 น่ะแบบว่าลูกไม่ใช่คิดจะมีมันก็มีปุ๊บปั๊บนะครับ ไม่เผื่อเวลาเอาไว้เกิดพลาดท่าเกินเวลาไปจะคิดมีลูกก็ยากขึ้นเรื่อยๆนะครับ

อันนี้เป็นข้อมูลจากเว็ป http://tddf.or.th ครับ

****************
หญิงไทยปัจจุบันจะมีบุตรคนแรกบางทีก็ปา เข้าไปใกล้ ๓๐ ปีขึ้นเรื่อยๆ หรือมากกว่าผลตามมาคือ เด็กมีโอกาสที่จะปัญญาอ่อนหรือเกิดภาวะดาวน์ซินโดรม กลับมาก่อปัญหาของสังคมและคุณภาพประชากรได้ ดังลำดับอายุต่อไปนี้

อายุของมารดา (ปี) โอกาสที่จะมีบุตรอยู่ในภาวะดาวน์ซินโดรม

๒๐ ๑ ใน ๑,๖๐๐

๒๕ ๑ ใน ๑,๓๐๐

๓๐ ๑ ใน ๑,๐๐๐

๓๕ ๑ ใน ๓๖๐

๔๐ ๑ ใน ๙๐

๔๕ ๑ ใน ๓๐

********

จะเห็นได้ว่าหากแต่ง 30 -35 สมมุตว่ามีลูกตอนอายุ 35 จะมีโอกาสลูกเป็นโรคเอ๋อ ถึงประมาณ 1ใน 360 ซึ่งผมว่าเพื่อนๆทุกท่านคงไม่อยากเป็นคนโชคร้ายคนนั้นจริงใหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 125

นายมั่นคง

30/09/2009 00:24:14
0
555 แวะมาอ่านต่อล่ะ ก็ถือว่าทุกท่านใช้เหตุผลในการอธิบายได้ดีครับ คือเรามีความเห็นอย่างไรสามารถแสดงได้ แต่อยู่ในขอบเขตของการเคารพสิทธิ์ผู้อื่นเช่นกัน

เป็นกระทู้ในอุดมคติที่สร้างสรรอันหนึ่งจริงๆครับ 555

ใครที่กำลังคิดจะแต่งสามารถศึกษาข้อมูลจากกระทู้นี้ได้เลย




แต่ใครที่คิดจะปล่อยขายในบอร์ด ผมเกรงว่าจะขายไม่ออกล่ะครับ และถ้าวันใดผมประกาศปล่อยเป็นคนแรก วันนั้นอาจจะเป็นวันตายของผมก็ได้ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 126

Vichien

30/09/2009 01:23:16
0
ผมติดตามอ่านกระทู้นี้อย่างใจจดใจจ่อ...เพราะผมเองก็กำลังประสบปัญหานี้อยู่ในระดับหนึ่ง...

เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผมกับแฟนคบกันมากถึง 14 ปีโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน...

และที่สำคัญเรายังไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณNopphongคิดว่าคนส่วนใหญ่ทำกันด้วย...

ผมขออนุญาตคุณ Nopphong วิจารณ์และเสนอความคิดหน่อยนะครับ

ผมว่าคุณNopphongมองโลกในแง่ร้ายไปนิด...ที่สำคัญปัญหาส่วนใหญ่เป็นปัญหาเฉพาะบุคคล

ในกรณีของคุณก็บอกเองว่าเป็นประสบการณ์ตรง...ซึ่งตรงนี้ก็ต้องถือว่าเป็นโชคชะตาที่เล่นตลกกับคุณที่ทำให้คุณมารักกับคนที่มีคุณแม่ยายแบบนี้

แต่ไม่ได้หมายความว่าแม่ยายทุกคนจะเป็น และถึงแม่ยายผมจะเป็นแบบนี้ ผมก็จะมองเค้าในด้านดี ว่าเค้ารักลูกสาวเค้า เค้าย่อมไม่อยากให้ลูกสาวเค้าไปตกระกำลำบาก...หากเรารักลูกสาวเค้าจริง...เรื่องอย่างนี้ผมว่าเราต้องพิสูจน์ตัวเอง ว่าเราทำได้...

แต่ก็อีกแหละคุณอาจจะบอกว่า...200Kมันมาก อาจต้องหาทั้งชีวิต...ผมว่าเรื่องอย่างนี้มันต้องพิสูจน์ให้เค้าเห็นนะครับว่าเรารักลูกสาวเค้าจริงและเราพยายามมาแค่ไหนที่จะเอาชนะใจครอบครัวเค้าให้เค้าเห็นคุณค่าของความรักเราที่มีต่อลูกสาวเค้า ที่มันมีมูลค่า(ทางใจ)มากกว่าเงิน 200K นั่น...

ผมเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก แต่ครอบครัวของแฟนฐานะดีพอควร...ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าถ้าผมจะไปขอลูกสาวเค้า พ่อและแม่แฟนผมไม่น่าจะมีปัญหา ผมได้แสดงให้เค้าเห็นว่าผมรักและดูแลแฟนผมได้

แต่ที่ผมยังไม่แต่งตอนนี้ไม่ใช่เรื่องฐานะแล้วครับ..แต่เป็นเรื่องความพร้อมของตัวผมเองมากกว่า...ผมยังไม่อยากเอาเค้ามาลำบากับผมนะครับ...ที่บ้านก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร..มาอยู่ด้วยกันแล้วจะลำบากเค้าเปล่าๆ สงสารนะ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 127

nopphong

30/09/2009 02:10:20
4
ดูตารางการมีบุตรของผมหรือยังครับ ถ้าดูแล้วเปลี่ยนใจจะแต่งหรือยังเอ่ย อิอิ
ถ้าได้ลูกเอ๋อ ผมมันมันลำบากมากกว่าเอาเขามาอยู่ด้วยตอนนี้แน่ๆครับ อีกอย่างคือ(ขออภัย อย่าคิดว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวนะครับ แค่อยากจะให้มองอีกมุม) ถามแฟนบ้างหรือยังครับว่าอยากแต่งหรือยัง บางทีเราอยากทำตามใจเรามากเกินไป อ้างว่ายังไม่พร้อมโน่นนี่โดยลืมนึกถึงใจของแฟน ยิ่งคบกันนานจนผู้หญิงอายุมากขึ้นจิตใจเขาจะมีความคิดว่ากลัวเราทิ้ง กลัวโน่นนี่(ซึ่งหลายเคสมันก็เป็นตามที่เขากลัว ตอนนี้ยังดีแต่อนาคตไม่มีความแน่นอน) ช่วงนี้จึงเปราะบาง หลายครั้งและหลายคู่เลิกกันเพราะความกลัวนี้ครับ ยังไงปรับความเข้าใจกันไว้นะครับขอเป็นกำลังใจให้

ส่วนเงิน 200K นั่น ตกลงเราตีค่าความรักกันด้วยจำนวนเงินหรืออย่างไรครับ
คนที่ฐาณะไม่ดีแสดงว่าไม่รักจริงอย่างนั้นหรือครับ
แล้วถ้าเกิดบ้านผมรวยไปขอใครก็แสดงว่าผมรักจริงไปหมดอย่างนั้นน่ะหรือ

อย่างนี้พวกดารานี่คงรักกันจริงน่าดูสินสอดตั้งหลายล้าน แต่เอ...ทำไมมันเลิกกันเร็วจัง สงสัยจะรักกันจัด อิอิ

ผมว่ารักจริงหรือไม่ ไม่ควรเอาเงินเข้ามากำหนด และไม่ควรเอาเรื่องเงินทองมาวัดว่าคนนี้รักจริงหรือไม่ ดูกันที่การทำตัวของคนๆนั้นน่าจะดีกว่าครับ

เหมือนสมัยก่อนที่เขาบอกว่าถ้าเป็นคนดีเห็บพร้ามาด้ามเดียวก็ยกลูกสาวให้นั่นไงครับ แบบนี้แหละถึงจะเรียกว่ารักลูกสาวจริง คือดูที่คนๆนั้นเป็นคนดี คนนั้นรักลูกสาวเรา และลูกสาวเรารักคนนั้น ไม่ใช่ดูที่ว่า คนๆนั้นมีปัญญาหาเงินมาให้ได้หรือไม่ มองแบบนั้นมันมองเชิงวัตถุมากไปครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 128

nopphong

30/09/2009 02:27:50
4
โดยสรุปสำหรับผมนะครับ

หาเงินสินสอดมาไม่ได้
ไม่ได้แปลว่าไม่รักผู้หญิงจริง
ไม่ได้แปลว่ารักเขาน้อย
ไม่ได้แปลว่าไม่ให้เกียตร
ไม่ได้แปลว่าไม่อยากทำตามประเภณี

หาสินสอดมาไม่ได้ แปลได้อย่างเดียวว่า **ฐาณะไม่ดีพอ**

ทีนี้ตั้งเป็นสมการได้ว่า ไม่ให้แต่งเพราะหาสินสอดไม่ได้ = ไม่ให้แต่งเพราะฐาณะไม่ดี

ไม่ต้องโยกโย้เป็นอย่างอื่น ไม่ต้องอ้างทดสอบความรัก ไม่ต้องอ้างการพิสูจน์ว่าเลี้ยงได้อะไรทั้งสิ้น เพราะสมการมันมีอยู่แค่นั้นเองว่า ให้แต่งเพราะมันมีเงิน จบข่าว

อีกทั้งเรื่องความรัก การให้เกียรติ การทำตามประเภณี ทั้งหมดมันพิสูจน์สำเร็จแล้วตอนผู้ชายยอมตกลงพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอครับ ไม่รักจริงไม่มีใครกล้าไปขอหรอกครับท่าน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 129

bwasu

30/09/2009 03:50:09
0
เรื่องนี้ไม่จบครับ...ถ้าเราไม่พิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้...

สินสอดและมูลค่าของสินสอด เป็นแค่กฏเกณฑ์ทางประเพณ๊อย่างหนึ่งซึ่งคนในสังคมกำหนดขึ้น คำว่าประเพณีหรือธรรมเนียม มันก็คือสิ่งที่เราคนในสังคม ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา (แสดงว่ามันต้องมีความดีโดยตัวของมันเองอยู่พอควร)
ก่อนจะคุยกันคงต้องพิจารณามาตรฐานฐานะทางสังคมของแต่ละบุคคลที่จะยึดถือและปฏิบัติตามธรรมเนียมที่ว่ากันก่อน ซึ่งแต่ละคนมีสถานะ และฐานะทางสังคมแตกต่างกันทั้งสิ้นดังนั้นธรรมเนียมประเพณีที่จะนำมาปรับใช้กับบุคคลต่างคนต่างมารตรฐาน คงต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลักสำคัญ
...เรื่องประเพณีการเรียกสินสอดก็เหมือนกันครับ ฝ่ายที่เรียกสินสอดควรพิจารณาเรียกให้เหมาะสมกับฐานะทางสังคมของผู้ที่จะต้องให้เป็นหลักสำคัญก่อนเพราะฝ่ายให้เป็นฝ่ายถูกเรียกร้องให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข แล้วค่อยพิจารณาถึงความเหมาะสมกับฐานะทางสังคมของฝ่ายเรียกสินสอด..อย่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเดือดร้อนแบกรับเงื่อนไขจนเกินไปนัก
...ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต้องไม่ลืมคำนึงถึงประเด็นหลักของเรื่องอันเป็นสาเหตุของประเพณีการเรียกสินสอด นั่นก็คือความรักของบุคคลสองคนที่เป็นเงื่อนไขของสินสอดต่างหากที่สำคัญที่สุด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 130

bankhalkdown

30/09/2009 08:11:03
0
^
^

เห็นด้วยครับ สินสอดนั้นผมว่าเป็นประเพณีที่ดีอยู่ในตัวของมันครับ

อยู่ที่คนที่ใ้ช้ ใช้ไปในมุมมองไหนและคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง เท่านั้นเอง

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 131

iAsa

30/09/2009 08:14:34
0
คุณ nopphong ตารางนี้ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าวัดจากอะไร ปัจจัยที่ทำให้เด็กเอ๋อ คือความไม่พร้อมของคนที่เป็นแม่ส่วนหนึ่ง ซึ่งสามารถป้องกันได้ ถ้าหากคุณหม่ามี้ดูแลสุขภาพตัวเองดีค่ะ (ดีมาล่วงหน้านะ ไม่ใช่ดีตอนท้อง) และดาวซินโดรม ก็ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพันธุกรรม ถ้าจะบอกว่าแต่ง 30 - 35 โอกาสเป็น 1 ใน 3xx คงไม่ใช่ แต่ต้องเป็นหาค่าเฉลี่ยระหว่าง 1000 - 3xx นี่มากกว่า = =\"

ในกรณีของคุณ nopphong หากสรุปแบบปัจจัยที่เห็นหลักๆ เป็นโลจิกมิติเดียว ก็คงสรุปได้เยี่ยงนั้นแหละค่ะ ^^

ถ้าสำหรับเช้า ก็คงจะเป็นเพราะ พ่อไม่อยากยกให้ 55555555555 แบบ อยากคบเป็นแฟนคบไป แต่ไม่ให้แต่งกะคนนี้ (ทำนอง แต่งไป อย่าแต่งจะดีกว่า หรือหาคนอื่นได้ดีกว่า)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 132

bankhalkdown

30/09/2009 08:19:58
0
ผมเป็นคนเก่งเลขสะด้วยสิ ยิ่งดูยิ่งงง เลย 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 133

Tanan

30/09/2009 08:22:12
0
อุอุ ...... เมื่อวานเอาไปคุยกับแฟน แฟนบอกว่า \"ถ้าพ่อแม่เค้าขอเท่าไหร่ก็ให้ไปเถอะ ......เดี๋ยวฉันทวงคืนหลังเลิกงาน ....... \"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 134

sam

30/09/2009 08:48:32
0
ผมว่าคุณ Noppong อาจโชคร้ายก็ได้นะครับ ผมนะโชคดีตอนแต่งงานพ่อแม่แฟนไม่เคยเีรียกค่าสินสอดแล้วแต่จะให้ แถมตอนแต่งยังยกบ้านให้อีก 1 หลัง พอมีลูกเลี้ยงลูกให้อีก เกิดมานับว่าผมโชคดีจริงๆ แต่กรณีของคุณ Noppong ผมว่าแม่ยายจะเรียกสินสอดไปทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน และจริงๆ แล้ว ผมว่าอายุของแฟนคุณ Noppong และตัวเอง จริงๆ แล้วตาม กม. สามารถจดทะเบียนสมรสได้เองครับ ผมว่าเราไปยึดติดกับขนบธรรมเนียมประเพณีบางอย่างเกินไป เช่น ถ้าไม่จัดงานแต่งไม่ได้ มีลูกเดี๋ยวคนว่าเอา ผมว่าโลกเปลี่ยนไปทุกวันเหมือนที่คุณ Noppong ว่าละครับ อยู่กันก่อนแต่งมีเพียบ ดังนั้น หากจะแต่งกันจริงๆ แล้วผมว่าเรื่องจัดงานเอิกเกริก มีพิธี ผมว่าล้าสมัยไปแล้วครับ ถ้าลูกผมแต่งงานแล้วมันไม่อยากจัดงาน ผมก็ปล่อยให้เข้าตัดสินใจครับ ส่วนเรื่องสินสอดผมก็คิดเหมือนพ่อตาผมละครับ ไม่รู้จะเรียกไปทำไม ได้มาก็คืนไปหมดอยู่ดีครับ ว่าแต่อย่าไปอคติกับแม่ยายเลยครับ ยังต้องอยู่กันอีกนาน อย่างน้อยก็เป็นแม่ภรรยานะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 135

nopphong

30/09/2009 09:25:56
4
นั่นคือมองต่ามุมกันแหละครับคุณ sam ได้หลายมุมดี

มุมนึง คุณวิเชียรและคุณเช้า ฝ่ายขวาจัด ต้องทำตามธรรมเนียมทุกอย่างเพื่อหน้าตาในสังคม ถ้าไม่ทำตามประเภณีแสดงว่าไม่รักจริง

ผมฝ่ายเป็นกลาง อยากทำตามประเภณีอยู่แต่ก็เห็นว่าประเภณีบางอบ่างสร้างความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมในสังคมควรจะลดละเลิกเสีย

อีกมุมนึงฝ่ายซ้ายจัด คือคุณ sam เห็นว่าประเภณีมันยุ่งยากนักไหนๆก็ไหนๆ ไม่ปฎิบัติมันซะเลย เอาแค่ความสบายใจของเราก็พอ

ต่างคนก็ต่างมุม เปลี่ยนไปตามสภาพสังคมของแต่ละคน คงไม่มีสูตรสำเร็จว่าวันนี้เลิกสินสอดกันให้หมดทุกคนอะไรแบบนั้น
มุมผมสะท้อนออกมาเพื่อให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงลองมองดูใจตัวเองว่า ตกลง สินสอด เรียกเพื่ออะไร แล้วมันให้อะไรกับผู้เรียกสินสอด แล้วคิดถึงผู้ถูกเรียกบ้างหรือไม่ เท่านั้นครับ

จากสมการ ไม่ให้แต่งเพราะหาสินสอดไม่ได้ = ไม่ให้แต่งเพราะฐาณะไม่ดี

ก็ยังเป็นสมการเปิด คือไม่ให้แต่งเพราะฐาณะไม่ดีเนี่ย แปลว่าพ่อแม่หวังดีไม่อยากให้แต่งกับคนจน หรือพ่อแม่หวังอย่างอื่น(อย่าเอาพ่อแม่ตัวเองเป็นหลักนะครับ พ่อแม่หน้าเลือดมีอยู่เยอะในสังคมไทย)
แต่ท้ายสุดแล้วสมการแทนค่าได้อย่างเดียวคือ ท่านดูคนด้วยฐาณะ เท่านั้นแหละครับ เพราะสินสอดมันชี้วัดอะไรไม่ได้เลยนอกจากฐาณะเท่านั้น

แล้วถ้าท่านเป็นคนประเภท วัดคนที่รักลูกคุณด้วยฐาณะ อันนั้นก็ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นนะครับ จะพูดให้ดูดีว่า โอยฉันกลัวลูกฉันไปลำบากกลัวฐาณะต่างกันอยู่กันไม่ยืด พูดยังไงก็พูดได้ แต่ที่พูดออกมาก็คือ เอ็งมันจนอย่าแหยมมาแต่งกับลูกข้า เท่านั้นแหละครับ (แต่ไม่ได้พูด หรืออาจจะพูดไม่ได้ว่า ห้าม xxx กับลูกฉันนะ เพราะสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ก็กลายเป็นยอมรับให้ xxx ได้แต่ห้ามแต่งไป)

โดยความคิด ถ้าเป็นครอบครัวที่มีแนวคิดว่า ฐาณะ หน้าตาในสังคม สำคัญกว่าแค่รักกัน ครอบครัวนั้นก็คงให้ความสำคัญกับสินสอดต่อไป
ครอบคัวใหนมองว่าความรักสำคัญกว่าฐาณะการเงิน หน้าตาในสังคม ครอบครัวนั้นคงเรียกพอเป็นพิธี
ส่วนครอบครัวไหนไม่สนใจสังคมเลย ไปอยู่กันเงียบๆก็เป็นวิธีที่สมเหตุผลดีเหมือนกันครับ

เชื่อไหมครับแต่กันมาหลายปีจนลูกสามขวบแล้ว ผมยังไม่ได้จดทะเบียนเลย เพราะความรักของเราไม่ได้ต้องการทะเบีบนมายืนยัน อยากจดเมื่อไร หรือวาเลนไทน์ไหนมีของแถมตอนจดทะเบียนเยอะๆ ค่อยไปจด ฮ่าๆๆๆ กะว่าจะไปจดบางซื่อมากกว่าบางรัก เพราะคิดว่าความซื่อสัตย์ต่อกัน สำคัญกว่าความรักครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 136

Bank

30/09/2009 09:34:57
0
โอ้ว ไปยาวเลย จะจบลงอย่างไรหนอ หุหุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 137

เอ็มสมุย(m_samui)

30/09/2009 09:42:08
0
โอ้กว่าจะอ่านจบเหนื่อยเลย
ไม่มีแรงพิมเลย อิอิ
ขอไปคิดก่อนเน้อ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 138

Bank

30/09/2009 10:24:44
0
แต่ความคิดก็มีหลายมุมมอง หลายแบบดีครับ

แต่ส่วนตัวผมถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงยินยอมนะ ผมอยากจัดเป็นงานแต่งเล็กๆ
เอาแค่พ่อแม่ เพื่อนสนิท แล้วก็ญาติพี่น้องที่สนิท จัดที่ริมทะเล

ตั้งโต๊ะจีน พอเป็นพิธี ในใจผม ๆ ชอบประมาณนั้นจริงๆ นะ แต่ถ้าว่าไปตาม
หลักความจริงมันคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ คงได้แต่คิด อิอิอิ

แต่อ่านความคิดแต่ละคนก็ดีๆ กันนะครับ แต่เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อน
แล้วก็อยู่ที่ใครจะคิดด้วยครับ ที่จะคิดยังไงก็คงไม่ผิด

แต่นึกอีกทีก็สงสารคนดีที่ทุนทรัพย์น้อยล่ะครับ มีแต่ใจจะทำอะไรก็ยาก

หุหุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 139

Uthen

30/09/2009 10:29:06
0
ของผมเสร็จงานเอาเงินสินสอดกลับเข้าบริษัทแทบไม่ทันเลย 555+ เช็คเกือบเด้ง...
ถ้าทำแล้วทุกคนมีความสุขก็ทำไปเถอะครับ อย่าหมายความรวมถึงครอบครัวอื่นๆเลยครับ

เราไม่สามารถเอาข้อเสนอ ข้อกำหนดต่างๆ มาตั้งเป็นสมการเพื่อหาคำตอบได้หรอกครับ

แต่ถ้าพยายามที่จะตั้งแต่และครอบครัวจะมีตัวแปรที่ต่างกันไปครับ ถ้าท่านเรียนเลขมา คำตอบหลายๆ คำตอบยังต้อง +C เลย (ค่าที่หาคำตอบไม่ได้) มันไม่มีอะไรที่ลงตัวไปซ่ะหมดหรอกครับ

สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ สำหรับท่านที่ต้องหาเงินค่าสินสอดในจำนวนที่เยอะครับ ลองต่อลองดูกับพ่อแม่แฟนดูอธิบายท่าน ชักแม่น้ำทั้ง 5 เลยครับรับรองท่านควักกระเป๋าใส่พานให้แน่นอนครับ (เสร็จงานอย่าลืมคืนท่านล่ะ) ฮั๊วกับแฟนก็ได้ช่วยกันกล่อม.... หน่อย

แค่มีข้อเรียกร้องจากท่าน แล้วเราก็ตีโพยตีพายว่าพ่อแม่ท่านคิดเป็นอย่างอื่นแล้ว จะไม่คิดน้อยไปหน่อยหรือ.... ท่านไม่ได้อยู่กับเราทุกวัน ท่านจะรู้ได้ยังงัยว่าเราดีจริง ต้องพิสูจน์ ซิ
เงินค่าสินสอดเป็นเพียงองค์ประกอบวันแต่งเท่านั้นแหละ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 140

Uthen

30/09/2009 10:31:31
0
บทพิสูจน์ไม่ได้หมายถึงเอาเงินมากองนะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด วิธีการคิดเองครับ
ไปล่ะ ฟิ้ว....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 141

ryder2000

30/09/2009 10:48:16
0
คุณพี่ nopphong ชอบคับ ความเห็น 135 แม่ยายพี่น่าจะดีใจนะมีลูกเขยอย่างพี่ (แต่ความจิงบ้างอย่างเขารับไม่ได้หรอก)(เพราะมันแทงใจ)(เศษแก้วมันบาดคน แต่คำคนมันบาดใจ) ก็บอกแล้ว กระเป๋าแบนแฟนยิ้ม คนจนมีสิทธิ์ไหมคับ ไม่อย่างนั้นมันจะมีคำว่า \\\"มีเงินนับเปนน้องมีทองเขานับเปนพี่หรือคับ\\\"
ปล.คุณ bank ตกลง มาหาดใหญ่บอกด้วยนะ จะได้พาไปอโคจร อ้อเล่นชวนไปกินน้ำชานะหรือเหล้าดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 142

iAsa

30/09/2009 10:58:17
0
\"มุมนึง คุณวิเชียรและคุณเช้า ฝ่ายขวาจัด ต้องทำตามธรรมเนียมทุกอย่างเพื่อหน้าตาในสังคม ถ้าไม่ทำตามประเภณีแสดงว่าไม่รักจริง\"~

ก็ไม่ใช่อีก ไม่ใช่ว่าไม่ทำตามประเพณีถือว่าไม่รักจริงค่ะ คุณ nopphong ไม่เข้าใจเช้า~ (ช่วยจินตนาการเสียงแบบ พ่อไม่เข้าใจตุ้ม~ 555)

แต่ว่า มันต้องคิดหลายมุม ทั้งมุมของตัวเอง และมุมของคนอื่น

ถ้าให้อธิบายความคิดเช้านี่ยาวแน่ๆ แต่ทั้งหมด มันเป็นเพราะมัน \"เหมาะสม\" กับสภาพสังคมแบบเช้า โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน้าตาทางสังคมน้อยมาก

อาจจะใช่ที่ว่าถ้าไม่เป็นไปตามประเพณี อาจจะเสื่อมเสียชื่อเสียงวงตระกูล เทือกเถาเหล่ากอ ที่มีประวัติดีๆ แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นคือความรู้สึกของคนเป็นพ่อกับแม่ค่ะ เราอาจจะคิดว่า เราอาจจะทำงี้ได้ เราอาจจะทำอย่างนั้นได้ จริงค่ะมันทำได้ ง่ายมาก จูงมือแฟน ไปจดทะเบียน หรือจัดงานเล็กๆ เฉพาะครอบครัวคนสนิท แล้วอยู่แบบไม่ต้องจดอะไรก็เหอะ แต่สิ่งจะเกิดขึ้นตามมา

- บรรดาเพื่อนพ่อทั้งหลาย หรือญาติห่างๆ ที่เจอกันบ่อยๆตามงานเลี้ยงสังสรรค์ ก็จะ อ้าว แต่งตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอก อาจจะมีเคืองๆกัน ที่ไม่บอก เพราะบางคนอาจจะสนิท
- พ่อแม่ ผู้หญิง \"บางท่าน\" อาจจะอยากเห็นงานของลูกสาว เหมือนผู้หญิง \"บางคน\" อยากแต่งชุดเจ้าสาวสวยๆ วันแต่งงานเป็นวันสำคัญ ถ้าไม่มี ท่านอาจจะไม่ว่าอะไร ไม่พูดอะไร แต่ก็อาจจะแอบเหมือนบางสิ่งขาดไป Moment ดีๆที่ควรจะมีก็จะไม่มี
- ถ้าเราดื้อจะแต่ง พ่อแม่คงไม่ขัดใจ แต่ถ้าเราลำบากขึ้น หรือสามีเราเปลี่ยนไป พ่อแม่เราจะคิดมากกว่าเดิม ถึงตอนนั้น เราคงไม่มีหน้าไปแบกรับความอัดอั้นตันใจของพ่อกับแม่ ทั้งๆที่ท่านเตือนแล้ว


จริงๆฐานะที่ต่างกัน มันสร้างปัญหาได้แบบไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ถึงเราอาจจะมองไม่เห็นในตอนนี้ ถ้าฐานะต่างกัน แต่เลี้ยงมาให้ความเป็นอยู่เหมือนกัน มันอาจจะ ok แต่โดยส่วนใหญ่ ฐานะต่างกัน เลี้ยงมาก็ต่างกัน รสนิยมก็ต่างกัน

สำหรับเช้า ให้เช้าเลี้ยงสามี(ในอนาคต) เช้าก็ทำได้อยู่นะ ไม่คิดมากด้วย แต่พ่อกับแม่คงไม่คิดอย่างนั้นอะคะ คิดว่า จะไปสร้างภาระให้ตัวเองทำไม แต่ครั้นจะให้ไปใช้ชีวิตต่างจากที่เคยเป็น ถ้าต่างกันมากๆ เราเองก็ไม่เห็นว่าจะต้องไปทำตัวลำบากอย่างนั้นทำไม ในเมื่อเรามีคุณสมบัติที่จะใช้ชีวิตได้แบบที่เราเคยใช้

นี่ยังไม่รวมเรื่องอุปนิสัย และรสนิยมลึกๆที่อาจจะต่างกัน และไม่สามารถเห็นกันได้ง่ายๆ ด้วยค่ะ ถ้ามองโลกในแง่ดีมากๆ เรารู้จักนิสัยแฟนเราหมดแล้ว ไม่มีหางโผล่ เขางอกอื่นใด แต่เราไม่มีทางจะรู้จักญาติแฟนได้หมดใช่มั้ยคะ การแต่งงานของคนไทย เหมือนสองบ้านแต่งกัน ถ้าเจอบ้านแฟนแบบ คนละแบบกับบ้านเรา ถ้าเรารับได้ก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่อาจจะมาแบบรับไม่ได้ อย่างบางคนที่เคยเจอก็ดีนะ นิสัยดีกับเรา แต่เห็นแก่ตัวกับคนอื่นแล้วมองว่าปกติเพราะช่วยครอบครัวตัวเอง หรือ! นิสัยดีหมดเลย แต่แบบขากถุย กินกระดูกก้างปลาเสร็จก็วางไวบนโต๊ะกินข้าว อะไรแบบนี้ บางคนอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันเป้นพฤติกรรมที่เราทำใจไม่ค่อยได้ T_T

เราว่า

รัก อย่างเดียวอาจจะไม่พอ
เงิน อย่างเดียวไม่พอชัวร์
ทั้งเงิน ทั้งรัก ทั้งสองอย่างก็ยังตัดสินไม่ได้

ถ้ารักจริงไม่มีเงิน แล้วเข้ากับป๊ะป๋าหม่ามี้ ฝั่งหญิงได้ ทานโปรดปรานนี่ น่าจะรอดฉลุยค่ะ (ในกรณีที่บ้านหญิงฐานะดีกว่านะคะ)

แต่ถ้ารักอย่างเดียว โลกนี้มีแค่เราสองคน คงต้องสัยความเสียสละของหลายฝ่ายมากๆค่ะ

ถ้ามองในบ้านคนที่ฐานะเท่าๆกัน แล้วเงินไม่ได้หาได้ง่ายๆ อันนี้จริงๆก็ควรจะประณีประนอมกันแหละค่ะ ถ้าหาได้ไม่พอก็ต้องคุยกันไป แบบว่า ถ้าฝั่งพ่อแม่ผู้หญิงเค้าพิศวาสว่าที่ลูกเขยอยู่แล้ว ก็อาจจะสบายหน่อย ถ้ายังไม่วางใจ หรือเจอคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงที่อยากได้ตัง ประเภท ยกลูกสาวให้ทีแล้วอยู่กินได้จนแก่ตายเลย นี่ก็ ซวยหน่อยนะคะ คงต้องหา Plan B
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 143

นายมั่นคง

30/09/2009 11:08:48
0
อยากบอกว่า เข้ามาอ่านอยู่เน้อ ความคิดเห็นต่างๆๆ นั้น ผมประเมินแต่ล่ะท่านแล้ว มันกลายเป็นว่าถูกทั้งหมด

เพราะในแง่มุมที่แย่ๆ มันก็ดันมีเกิดขึ้นจริงๆๆ มาแล้ว และในแง่มุมดีๆๆ ที่ควรทำ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำซะอีก.......5555


เอ้า เพลินดีครับ ผมดูแตะล่ะท่านพิมพ์กันยาวๆๆ แล้วอยากร่ายยาวๆมั่ง แต่ติดว่าเดี๋ยวจะไม่ได้ตอบกระทู้อื่นซะอีก 555 เอ้า แต่ว่าตามอ่านครับ

เป็นวงสนทนาที่น่ารักมากครับ........


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 144

Bank

30/09/2009 11:25:28
0
RE คุณ Ryder2000ไปแล้วบอกแน่นอนครับ คุณ Ryder2000 อิอิอิ ผมถนัดทั้งสองอย่างครับ
ทั้งเหล้าทั้งน้ำชา ฮ่าๆๆๆ

เห็นด้วยนะครับ เฮีย อิอิอิ เหตุผล อ่านแล้ว กลายเป็นว่าต้องปฏิบัติตามซะทั้งหมดล่ะ
แต่ก็ถูกอย่างที่มาว่าทุกท่านล่ะครับ อยู่ที่มุมมอง ของแต่ละคนครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 145

ลูกจ้างจนจน

30/09/2009 11:35:38
ก่อนแต่งมีเงินเก็บประมาณ 3 แสน ทองแท่งอีก 20 บาท หลังแต่งเงินเก็บไม่มี แถมมีหนี้ประมาณ 2 ล้าน คิดแล้วเศร้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 146

Bank

30/09/2009 11:44:31
0
อ่านไปอ่านมาเห็นด้วยกับอันหลังของคุณเช้าเต็มๆ ล่ะ

ถ้าเข้ากับพ่อแม่ฝ่ายหญิงได้ก็รอดฉลุยแต่ถ้าไม่ได้ ก็ตายตั้งแต่ด่านหน้าจริงๆ
แต่บางครั้งเราก็ลืมนึกอย่างที่คุณเช้าบอกมันก็จริงล่ะ เราไม่ได้มองละเอียดเหมือนผู้หญิง
เพราะถ้าเจอแบบนั้นเราก็คงบอกไม่ถูกล่ะ \"อ้าว แต่งเมื่อไหร่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย\" เหวอไป
เหมือนกันเนอะ

สรุปแล้ว รัก + เข้ากับพ่อแม่ทางฝั่งหญิง หรือ ชาย + เงิน พอมี = ก็น่าจะรอด ?
สมการผมน่าจะเป็นไปได้รึเปล่า ? เหอๆๆๆ

ยืมหน่อยครับ คุณเช้า

\"รัก อย่างเดียวอาจจะไม่พอ
เงิน อย่างเดียวไม่พอชัวร์
ทั้งเงิน ทั้งรัก ทั้งสองอย่างก็ยังตัดสินไม่ได้

ถ้ารักจริงไม่มีเงิน แล้วเข้ากับป๊ะป๋าหม่ามี้ ฝั่งหญิงได้ ทานโปรดปรานนี่ น่าจะรอดฉลุยค่ะ (ในกรณีที่บ้านหญิงฐานะดีกว่านะคะ)

แต่ถ้ารักอย่างเดียว โลกนี้มีแค่เราสองคน คงต้องสัยความเสียสละของหลายฝ่ายมากๆค่ะ \"

อันนี้ล่ะ จริงที่สุดเลยนะ ผมว่า

ไปกินข้าวล่ะ เด๋วกลับมาอ่านต่อครับ อย่าลืมทานข้าวกันด้วยนะครับทุกคน


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 147

ryder2000

30/09/2009 11:57:16
0
อ่านคุณ bank แล้วได้ความคิดมาอย่างหนึ่ง ต้องไปบูชาสาลิกาลิ้นทอง (เพื่อนผมบอกว่ามันมีแต่สาลิกาลิ้นไว)
อีกวิธีคือต้องไปสืบประวัติต้นตระกูล ว่าพ่อแม่เปนไงบ้าง ก็อย่างที่เขาว่าคับ แต่งกับลูกแต่ก็เกี่ยวกับพ่อแม่ และวงศ์สาคะนาญาติด้วย
ไปกินข้าว ด้วย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 148

lavan

30/09/2009 12:39:44
ผมแต่งงานแล้ว แต่อยากแต่งอีก ได้ ป่ะ

สินสอด ไม่เกี่ยง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 149

Bank

30/09/2009 12:52:51
0
แต่มันก็จริงนะ ถ้าคบแล้วเข้าหาพ่อแม่กินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากับทางฝ่ายหญิง
ผมว่ามันก็เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีนึงนะครับ ถ้าไปสลับๆ กันได้ก็จะดีมาก เพื่อจะได้ลองดูว่า
แฟนของเราเข้ากันได้กับพ่อแม่เราด้วยรึเปล่า ผมว่ามันก็โอเคดีนะ อีกอย่างถ้าถูกใจ
กับพ่อแม่ของทางฝ่ายหญิงบางทีเค้ายังช่วยเชียร์เราด้วยนะ อิอิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 150

nopphong

30/09/2009 13:36:46
4
อ่านคำตอบคุณเช้าแล้วนึกถึงกระทู้ที่ 1 ของผมเลย คือ เห็นคนเดินมากับแฟนสวยๆตามห้าง แล้วคิดหรือเปล่าว่าจะเอาปัญญาที่ไหนไปขอ ฮ่าๆๆ

ยิ่งสวย ยิ่งฐาณะดี ยิ่งสินสอดแพง เพราะพ่อแม่ต้องคิดแล้วว่าหน้าตาฐาณะอย่างลูกฉันให้แต่งกระจอกๆไม่ได้หรอก สุดท้ายไอ้หนุ่มรักจริงก็ได้แต่คบเป็นแฟนไม่ได้แต่ง แห้วไปตามระเบียบ ท่านที่มีแฟนสวย เตรียมทำใจกันไว้บ้างหรือยังครับ ฮ่าๆๆ

ว่าแต่ความเห็นที่ 145 ถ้าเป็นเรื่องจริงนี่น่าสงสารมากเลย เสียใจด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 151

nopphong

30/09/2009 13:52:53
4
ว่าแต่ท่านใดมีวิธีรับมือแม่ยายที่มีความคิดว่า

ผู้ชายมันเลวเหมือนกันหมดเดี๋ยวพอมีลูกหรืออายุมากขึ้นมันก็จะทิ้งเราไปหาผู้หญิงอื่น ผู้ชายมันไว้ใจไม่ได้ อย่าคิดถึงครอบครัวให้มากนักต้องคิดพึงตัวเองเป็นหลัก ต้องยืนด้วยตนเองให้ได้ถึงแม้สิ่งนั้นจะหมายถึงต้องครอบครัวแตกแยกก็ตาม

แม่ยายแบบนี้รับมือยังไงดีครับ คือภูมิหลังเขาแต่งงานมีลูกกับสามีสองคนแล้วสามีทิ้งไปมีแฟนใหม่น่ะครับแล้วตัวเองก็ต้องเลี้ยงลูกมาคนเดียวตลอด เลยมองผู้ชายเลวไปเสียหมด บ่อยครั้งที่ยุให้แฟนผมไปทำงานที่เงินเยอะๆโดยเป็นงานที่ต้องทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง เรียกว่าให้เห็นเงินสำคัญกว่าครอบครัว นัยว่าโดนทิ้งเมื่อไรจะได้มีเงินใช้
เจอแม่ยายแบบนี้กลุ้มใจครับ ดีนะที่ตอนเด็กๆแม่เขาไม่ได้เป็นคนเลี้ยงแฟนผมแต่ให้ป้าแฟนเลี้ยงแทน ไม่อย่างนั้นถ้าความคิดแบบนี้ฝังเข้าหัวแฟนผมล่ะก็สงสัยครอบครัวผมล่มจมแน่ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 152

Vichien

30/09/2009 14:07:45
0
ผมว่าคุณNopphong เข้าใจอะไรผิดบางอย่างนะครับ

ผมว่าเราต้องแยกแยะประเด็นนะครับ....ระหว่างประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติ...กับการปฏิบัติจริง...

ที่ผมพยายามอธิบาย..ผมบอกว่าที่สังคมให้การยอมรับประเพณีต่างๆนั้น..ก็เพราะมันย่อมมีข้อดีอะไรบ้างอย่าง ถึงได้ยึดถือกันมา ไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งงาน แต่ผมยังหมายรวมถึงประเพณีอื่นๆ ที่แสดงถือ..\\\"วิถีความเป็นไทย\\\"..

หากเราปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามประเพณีอันดีงานเหล่านี้แล้ว เรานั่นเองนั่นแหละครับที่จะลำบากเพราะเราต้องอยู่ในสังคม เราต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรือถูกมองจากผู้อื่นว่าทำตัวไม่ดี...

แต่ที่คุณNopphong มีประสบการณ์มา มันเป็นเรื่องในทางปฏิบัติจริงแล้วครับ...ถ้าประเพณีไม่ได้บอกว่าต้องเรียกสินสอดเท่าไหร่...\\\"จึงจะเหมาะสม\\\"...จึงเป็นช่องทางให้พ่อแม่ฝ่่ายหญิงเรียกหาประโยชน์ได้...โดยไม่คำนึงถึงความสามารถของฝ่ายชาย

เพราะฉะนั้นการจะมาบอกว่า...\\\"ประเพณีการแต่งงาน, การเรียกสินสอด\\\"...เป็นสิ่งผิด ไม่ดี ไม่ควรปฏิบัติยึดถืออีกต่อไป...ผมว่ามันสุดโต่งเกินไป...

อย่างที่บอกครับว่ามันเป็น..วิถีไทย..ไม่ทำอย่างนี้ ผมว่าสังคมมันยิ่งปั่นปวน นี่ขนาดมีประเพณีแล้วนะ สังคมยังแย่ขนาดนี้ เด็กผู้หญิงท้องก่อนแต่งกันเยอะแยะ แล้วเรายังจะสนับสนุนให้ทำอะไรตามใจฉันกันอีกต่อไปหรือ..

ผมว่าเราต้องแยกแยะประเด็นครับ...อย่าเหมารวมว่าทุกๆคนที่แต่งงานกันแล้วถูกเรียกสินสอดเท่านั้น เท่านี้แล้วเป็นการขายลูกกิน...หรือถ้าไม่มีฐานะห้ามแต่งงาน..หรือความรักมีมูลค่า....ผมว่ามันคนละเรื่องกันแล้วครับ

เรืองความรักระหว่างคนสองคน เรารักกันแค่ไหนใครจะรู้ มันบอกมูลค่าเป็นเงินไม่ได้หรอก แต่อย่าเอาเรื่องประเพณีการแต่งงานมาพยายามอธิบาย มันคนละเรื่อง

ผมเห็นใจคุณ Nopphong นะที่มาเจออุปสรรค ที่ทำให้พิธีกรรมความรัก(แต่งงาน)เป็นเรื่องยุ่งยากในชีวิต อันนี้เป็นแค่เหตุการณ์เดียวในหลายหมื่นแสนคู่ของคู่แต่งงานที่ถูกเรียกสินสอดเหมือนกัน แต่เค้าไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นปัญหา...

สำหรับทางแก้ปัญหา ถ้ามองว่ามันเป็นปัญหา..ก็ไม่ต้องไปแต่งมันครับ..อยู่ด้วยกันไปเลย...จบ เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคน แต่เราก็ต้องยอมรับสภาพการถูกมอง ถูกตำหนิ ถูกประนามโดยคนในสังคม และเราก็โทษเขาไม่ได้ เพราะเราต้องอยู่ในสังคม เรามีญาติ พี่น้อง คนรู้จักมากมาย ทุกคนอยู่ในกรอบประเพณีเดียวกัน ทุกคนทำได้ แต่เราทำไม่ได้ และเราก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนเข้าใจ และคิดเหมือนเราได้...


เหมือนกับที่คุณ Nopphong พยายามทำอยู่ขณะนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 153

iAsa

30/09/2009 14:08:29
0
รับมือไงดีหว่า คือ คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ละมั้งคะ - -

อดทนๆๆๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 154

Uthen

30/09/2009 14:13:42
0
^^^ เอ้าสู้ๆ ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 155

Uthen

30/09/2009 14:15:18
0
วันนี้นั่งทำงานต้อง แวะมาดูกระทู้นี้ทุก 10 นาทีก็ว่าได้ครับ มันจี๊ดๆ ยังงัยบอกไม่ถูกนะครับ
เอาใจช่วยทุกๆ ท่านนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 156

Nop Maneengam

30/09/2009 14:33:35
0
ผมเพิ่งแต่งมาหมาด ๆ เป็นจีน ไป ขอ ไทยแท้ๆ

คุยกันไม่รู้เรื่องเลย ไม่มีหลักมีแต่ประมาณตาม เพื่อนบ้านบ้างหละ ญาติพี่น้องบ้างหละ ตัวผู้ใหญ่แต่ละคน มีบรรทัดฐานต่างกันมาก แต่ก็ต้องจับมาคุยกัน

เรื่องสินสอดก็ ว่าคนจีนเค้าต้องเก็บมาทำทุนนะ คนไทยก็ว่าต้องให้พ่อให้แม่ไว้ การจัดงานต้องอย่างนั้น อย่างงี้ บลา ๆๆ

ผมบอกทุกคนว่า \"ไม่แต่งแล้ว\" ตอนแรกทุกคนใจแข็งกันจังเลย สักพักก็เลยตกลงกันได้ ตลกดีครับ ไม่รู้แต่งไปได้ไง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 157

Nop Maneengam

30/09/2009 14:41:55
0
เรื่องให้แฟนทำงานก็โดนมาเหมือนกันครับ ยิ่งผมบังคับให้แฟนผมออกจาก ราชการด้วย ผมก็ยันคำเดิมมีปัญหามาก็อยู่กันไปเองครับ

ไปทำงานให้มีเงินมาก ๆ ตอนแก่ก็ใช้เงินไป ไม่ต้องมีลูกหลานมาดูแล พ่อ แม่ แฟนเหมือนจะทำใจไม่ได้แต่ ผมก็พูด หนักแน่น พอที่เค้าจะยกลูกสาวเค้า มาให้ผม


แล้วก็ต้องออกจากราชการด้วย ญาติพี่น้องเค้า โคตร เคืองผมเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 158

nopphong

30/09/2009 14:56:24
4
คุณวิเขียรมีมุมมองที่เข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะครับ ในมุมมองของคุณวิเชียรคือ การทำตามประเภณีเป็นสิ่งที่ดี จะลำบากแค่ไหนก็ควรทำตามประเภณี การถือความเป็นไทยเป็นสิ่งที่ดี ไม่ต้องคิดอะไรทำตามๆไปถือว่าดีแล้ว และการทำตามประเภณีจะทำให้สังคมดี และถ้าปรเภณีไม่มีดีทำไมปัจจุบันยังทำ

ซึ่งที่ว่ามาผมไม่เห็นด้วยนะครับ ความเป็นไทยบางอย่างก็ใช่ว่าดี แล้วที่ไม่ดีเนี่ยก็ยังทำมาจนถึงปัจจุบันก็เยอะ ซึ่งของไทยอาจจะไม่ชัดเจนเพราะเลิกประเภณีที่ไม่ดีไปเยอะแล้วเช่นประเภณีการกินหมาก ประเภณีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช ประเภณีการมีทาส ที่ยังไม่เลิกเห็นจะเป็นเรื่องการวัดการมีหน้ามีตาทางสังคมด้วยวัตถุนอกกาย เช่นมีรถคันโตๆ ต้องใส่ทองเส้นโตๆ หรือการนับถือคนที่ทรัพย์สิน

แต่ถ้ายกตัวอย่างกะเหรี่ยงคอยาว จะชัดเจนกว่า เห็นไหมครับว่าประเภณีทำคอยาวนั้น เป็นสิ่งแสดงความเป็นตัวตนของเขา คนที่ทำก็จะมีหน้ามีตาในสังคมเขา ใครไม่ทำก็จะโดนดูหมิ่น แต่ถามจากใจว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ แล้วถ้าไม่ทำมันจะมีผลเสียอะไร จะเห็นว่าถ้าไม่ทำมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิต สิ่งที่มีผลคือสังคมรอบข้างรับได้หรือไม่เท่านั้น มาปัจจุบันจึงเห็นว่าผู้หญิงเผ่านี้ทำคอยาวน้อยลง

เช่นกันสินสอด ใครไม่มีสินสอดก็คงต้องรับผลกระทบทางสังคม แต่จะมีผลกับสังคมโดยรวมหรือไม่ ทำให้คนท้องก่อนแต่งมากขึ้นหรือไม่ สังคมปั่นป่วนมากขึ้นหรือไม่ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย (จะเกี่ยวกันก็คงจะมีคนท้องก่อนแต่งมากขึ้นเพราะสินสอดมากกว่า เพราะยังไม่มีปัญญาแต่งแต่ธรรมชาติไม่เคยรอใคร)

ในความเห็นผม สินสอดไม่ได้พิสูจน์อะไรนอกจากฐาณะ และสินสอดไม่ได้มีข้อดีอะไรให้กับสังคมนี้เลย แต่สินสอดมีประโยชน์กับหน้าตาทางสังคมเท่านั้น แต่หน้าตาทางสังคมนี้ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานและเวลาหลายปี มันคุ้มแล้วน่ะหรือ และควรจะอนุรักษ์สิ่งที่ไม่มีประโยชน์กับสังคมโดยองค์รวมเอาไว้ต่อไปน่ะหรือ

หรือบอกว่าเพื่อรักษาความเป็นไทยไว้ มันจะไร้ประโยชน์แค่ไหนก็ต้องทำมันต่อไปนะครับ

ไม่เถียงครับว่าถ้าไม่มีสินสอดอาจจะโดนชาวบ้านนินทา ต้องยอมรับผลทางสังคมที่ตามมา วันนี้เราอาจจะยังต้องทำตามสังคมกันต่อไป แต่ถ้าเรามีความคิดตรงกันว่า ที่ทำๆกันอยู่นี่มันคือหัวโขนที่สังคมบังคับให้เราใส่ มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเรา แล้วเราพยายามใส่มันแค่หลอกๆ ใส่มันแค่เท่าที่จะทำได้ ถอดมันให้เร็วที่สุด แบบนี้น่าจะดีกว่าครับ

ผมไม่ได้บอกให้ยกเลิกการแต่งงานนะครับ แต่ให้ยกเลิกการใช้สินสอดเป็นเงื่อนไขว่าถ้าหามาไม่ได้มากๆห้ามแต่ง นะครับ
เพราะถ้าทุกบ้านกลัวเสียหน้า เรียกสินสอดสองแสนกันหมดทุกบ้าน เชื่อว่าเมืองไทยจะต้องมีคนท้องก่อนแต่งเพิ่มขึ้นอีกมากมาย จะต้องมีครอบครัวที่ต้องอยู่กันโดยไม่ได้แต่งอีกมากมาย และจะต้องมีคู่ที่ต้องเลิกรากันไปเพราะคบกันมานานแต่ยังหาสินสอดมาไม่ได้อีกมากมาย
ประเภณีที่มีปัญหามากขนาดนี้ และไม่มีข้อดีให้กับคู่บ่าวสาวเลยขนาดนี้ ยังอยากจะรักษากันต่อไปก็สุดแล้วแต่ใจท่านแหละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 159

Nop Maneengam

30/09/2009 15:04:01
0
ส่วนเรืองสินสอดนี่ผมคงตอบได้ดีที่สุด ตอนลูกสาวในอนาคตของผม แต่งออกไปนั่นหละครับ ตอนนี้ขอผลิตก่อน \"\"\"\"\"\"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 160

nopphong

30/09/2009 15:08:37
4
ตอบคุณ Nop Maneengam นะครับ
ของผมแฟนเคยทำงานเป็นแอร์ครับ หายไปทีละหลายๆวัน ยิ่งช่วงปีใหม่นะ พอลงจากเครื่องนี้ ต้องขึ้นไปต่อเครื่องนั้น ไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลย ผมเลยบอกให้ออกน่ะครับ แม่ยายผมโวยวายใหญ่จะให้เอาเงินไว้ก่อน ส่วนผมบอกเธอว่าอยู่บ้านผมน่ะ งานบ้านเธอไม่ต้องทำ ค่าใช้จ่ายในบ้านเธอไม่ต้องออก จะทำงานอะไรก็ได้ ทำกะดึกกะบ่ายอะไรก็เอา ผมขออย่างเดียวครอบครัวต้องอยู่ด้วยกัน เห็นหน้ากันวันละครั้ง ผมขอแค่นี้จริงๆ สุดท้ายแฟนผมก็เข้าใจไม่เชื่อคำแม่ยายผมน่ะครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 161

nopphong

30/09/2009 15:14:36
4
ปล.บางท่านอาจจะบอกว่า love me love my job แต่กรณีผมคือตอนแรกแฟนไม่ได้เป็นแอร์ แต่พออยู่ๆกันไปเธอหนีไปเป็นแอร์ซะอย่างนั้น ผมถือว่าผมโดนหักหลังนะครับ ผมทนจนถึงที่สุดแล้วทนไม่ไหวเลยต้องเกิดการต่อรองกันขึ้น อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 162

jek

30/09/2009 15:23:41
0
คุณ nopphong ถ้าคุณยังเขียนคำว่า ประเพณี เป็น ประเภณี
เขียนคำว่า ฐานะ เป็น ฐาณะ
เขียนคำว่า ให้เกียรติ เป็น ให้เกียตร
ด้วยเจตนาแล้วละก็........

แสดงว่า.....คุณเป็นคนไม่ยอมรับความจริง
เจตนาทำสิ่งผิดให้ถูกอีกเรื่อง นอกเหนือจากการเถียงหัวชนฝาเรื่องสินสอดแล้ว

เจ๊ว่านะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 163

nopphong

30/09/2009 15:25:37
4
เพิ่มอีกหน่อยคือคุณวิเชียรคิดว่าปัญหานี้มันเป็นแค่ส่วนน้อย คิดว่าปัญหานี้มีแค่ไม่กี่คนที่คิดว่ามันเป็นปัญหา ผมบอกเลยครับว่าคิดผิด ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับสังคมชั้นกลางและชั้นล่าง การแต่งงานเป็นภาระใหญ่ในชีวิต หลายๆคู่แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว หลายคู่เป็นหนี้เป็นสิน ทั้งหมดเพราะสังคมบีบบังคับให้ทำ

ก็ก้มหน้ารับกรรมกันต่อไป ใส่หัวโขนกันต่อไป ซึ่งถ้าผมมีลูกสาวผมคงไม่ต้องการให้ใครมาสวมหัวโขนนี้ต่อไปครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 164

iAsa

30/09/2009 15:27:08
0
อ๊ะโห แฟนเป็นแอร์ด้วย!! เหมือนคุณอาเช้าเลย แต่งงานแล้วลาออก เพราะว่าแอร์เป็นอาชีพที่ไม่มีเวลาให้ครอบครัวจริงๆคะ = =\" ยิ่งมีลูกนะ ไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้คุณอาเขย ก็เลยกำลังง่วนกับการเก็บตังค่ะ ต้อง plan เผื่อสามชีวิตที่เหลือ ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตกันเลยทีเดียว ต้องเผื่อสำหรับเจ็บป่วย หรือ คุณอาเขยเกิดมีเหตุสุดวิสัยไม่มีงานหรือรายได้ จะต้องมีเงินเก็บพอให้ใช้ไปอีกนาน เพราะว่าตอนนี้คุณอาเช้าคงจะกลับไปเป็นแอร์ไม่ได้อีกแล้ว (อายุเยอะแล้วค่ะ ถึงจะยังสวยปิ๊งอยู่ก็เหอะ แต่สุขภาพไม่ค่อยดีด้วย)

อ่านที่คุณ nopphong ตอบพี่วิเชียร

\"ที่ยังไม่เลิกเห็นจะเป็นเรื่องการวัดการมีหน้ามีตาทางสังคมด้วยวัตถุนอกกาย เช่นมีรถคันโตๆ ต้องใส่ทองเส้นโตๆ หรือการนับถือคนที่ทรัพย์สิน\"

อันนี้ไม่ใช่ประเพณีไทยนะคะ !! แต่เป็นสันดารมนุษย์หลายคนเลย (ไม่ใช่ทุกคน)

จริงๆ คนไทยต้องควรจะอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อวดร่ำอวดรวย แต่คงไว้ซึ่งเกียรติและศักศรีค่ะ (พูดประหนึ่งนางเอกเลยตรู) คือไม่ต้องไปอวดร่ำอวดรวยใครเค้า แต่อย่าทำให้คนอื่นว่า หรือนินทาเอาได้ค่ะ ทำอะไรให้ถูกกาละเทสะ ทำนองนี้ เช่น ไปงานเลี้ยงแต่งงานลูกสาว Super Hiso โรงแรม 6 ดาว จะให้แต่งตัวซ่อมซ่อ ไปก็ใช่ที่ ก็ต้องแต่งตัวให้ดี เรียบร้อย ดูมีระดับ(ไม่ใช่สวยเด้ง โป้เปิดหลัง ชุดละหมื่นอย่างนี้ก็ไม่เหมาะ) ใส่เครื่องประดับให้เข้ากับชุด พอให้ดูไม่ทำให้งานเค้าหมองลง (เป็นการให้เกียรติเจ้าภาพค่ะ) ไม่อย่างนั้น แต่งตัวแบบ \"ตรูจะแต่ง\" ไป อาจจะโดนว่าว่า ผู้ปกครองไม่อบรมเอาได้ = =\"

พวกที่บอกว่า อวดร่ำอวดรวย การมีหน้ามีตาในสังคมเป็นประเพณีไทยเนี่ย ขอเถียงขาดใจเลยจิรงๆนะ T_T ชาติไหนๆก็มีคนพันธุ์นี้ค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 165

Uthen

30/09/2009 15:27:56
0
บ้านผมที่ต่างจังหวัดก็ยึดถือประเพณีนี้กันทั้งนั้นครับ ไม่เห็นจะสิ้นเนื้อประดาตัวเลยครับเห็นแต่มีความสุขกันถ้วนหน้าครับ เงินสินสอดก็ไม่ได้ไปไหนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 166

nopphong

30/09/2009 15:30:57
4
ตอบคุณ jek
คนตกภาษาไทย และเกลียดวิชาภาษาไทยเข้าใส้ ก็เขียนได้แค่นี้แหละครับ

เขียนผิดนั้นไม่ได้ตั้งใจให้ผิด แต่เป็นไม่ใส่ใจจะหาคำที่ถูกมากกว่าครับ
สมมุติว่าผมเขียนถูก มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตนี้ขึ้นมาเลย แค่ทำให้ดูดีขึ้นมานิดนึงแค่นั้นเองครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 167

nopphong

30/09/2009 15:40:32
4
คุณ uthen มองด้านที่ดีก็มีเยอะครับไม่เถียง พ่อแม่ที่เรียกพอเป็นพิธีแล้วคืนให้ก็เยอะ แต่ที่เรียกแล้วหายก็เยอะ แต่ในใจผมว่าสินสอดนี่คงครึ่งๆแหละระหว่างคืนกับไม่คืน จะดีกว่าใหมถ้าเปลี่ยนความคิดใหม่เพื่อไม่ให้คนอีกครึ่งที่ไม่ได้คืนต้องลำบากครับ

จะว่าไปที่ทำให้หมดตัวได้มากเห็นจะเป็นการทำการแต่งงานใหญ่โตจนเกินฐานะ เพราะต้องการให้สังคมยอมรับโดยไม่ได้ดูความสามารถของตนเองมากกว่าครับ ซึ่งการจัดงานใหญ่โตก็เป็นประเพณี(แก้แล้วนะครับ อิอิ)อย่างนึงของไทยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 168

koong

30/09/2009 15:48:16
14
บางอย่างมันเป็นเหมือนการให้เกียร์ติกับครอบครัวซึ่งกันและกันครับ ดีไม่ดีแล้วแต่แนวคิดครับ ผมทำงานเก็บเงิน 5 ปี (แฟนช่วยกันเก็บด้วย)กว่ากับสินสอด 100,000 กับทองอีก 10 บาทได้ ทางฝ่ายพ่อ-แม่แฟนหลังจากได้ก็คืนครับให้เป็นสินสมรสไป เหมือนกับเงินสร้างครอบครับ ลองถามแฟนไปแฟนบอกเค้าแค่อยากดูว่าเรามีความพยายามแค่ไหนในการเก็บเงินสร้างครอบครัว สามารถดูแลลูกสาวเค้าได้ดีมั้ย มันเป้นเหมือนการทดสอบที่ดีทีเดียว แฟนก็มารู้ทีหลังเหมือนกันครับ....

อันนี้กรณีที่เจอพ่อ-แม่แฟนดีก็ดีไปครับ แต่ถ้ากรณ๊ที่เรียกว่าขายลูกกินก็อีกแบบ บางอย่างคงคุยกันได้ล่ะครับถ้ามากไป

ส่วนตัวผมคิดว่า ประเพณีแต่ล่ะประเพณีมันมีเหตุและผลของมันครับ ดีหรือไม่ผู้ทำผู้ใช้จะเป็นคนกำหนดเองครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 169

Uthen

30/09/2009 15:51:38
0
ผมว่าที่จนก็เพราะการจัดงานใหญ่โตเกินตัวครับ (เน้น เกินตัวครับ) ไม่ใช่จนเพราะทำตามประเพณี

จริงๆ ถ้าทั้งสองฝ่ายมีโอกาสได้พูดคุยกันก่อนสักระยะนึงก่อน พากันไปโน่นนี่ ก่อนแต่ง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวกันก่อนเรื่องร้ายๆ ที่น่าจะง่ายลงไม่มากก็น้อยครับ

เหตุมันเกิดตรงอีโก้นี่แหละ.....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 170

iPrach

30/09/2009 15:52:31
28
ต่างคนต่างมุมมองครับ
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
อยู่คนเดียวบนโลกคงไม่ได้
ยังงัยก็คนไทยเหมือนกัน
ปรับตัวเข้าหากัน หาจุดที่คิดว่า optimum ที่สุด
เหมือนผักครึ่งนึง อย่างอื่นครึ่งนึง (เกี่ยวไรว่ะ)
ค่อยๆ คิดแก้ปัญหาไปครับ ใจเย็นๆๆๆ
เดี๋ยวทุกอย่างก็ ok เองครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 171

Nop Maneengam

30/09/2009 15:53:36
0
เรื่องอวดความร่ำรวย ผมว่ามีทุกชาติ ครับ แต่ถ้าความนอบน้อมผมว่าญี่ปุ่น มีกำพืดนี้สุดแล้วเห็นมันทำอะไรมันก็โค้ง คำนับกันบ่อย ๆจนน่ารำคาญ อันนี้ั้ไม่ยืนยัน แต่ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นรู้สึกอย่างนี้จิง ๆ

โดยส่วนตัวผมว่าคนไทย ไม่ชอบให้ใครดูถูก อันนี้ได้ยินบ่อย ไม่ให้ใครว่าได้ อันนี้ก็มาก

มันก็เลยเป็นที่มาของความซับซ้อน ในการเข้าสังคมหละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 172

เบียส

30/09/2009 16:38:35
11
ไอ้ กระผมก็ โดนไป 100K ครับ แต่ แม่ยา่ยผม เค้า ก็เอามาคืนเป็นเงินก้นหม้อ ของครอบครัวใหม่ จ้า 55 เรื่อง นี้ ผมมองว่ามันเป็น ดัชนี ชี้วัด ความสามารถของฝ่ายชายมากกว่า

ครับ ผมเองในตอนนั้น อายุ 27 เท่านัน้ ก็ไม่มีเงินมีทอง เหมือนกัน ครับ แต่ก็ กระเสือกกระสน ไปหามันมาจนได้ เรียกว่า เทกัน จนหมดหน้าตัก เลยละ ครับ 55 ผมมองว่ามัน

เป็น การพิสูจน์ ตัวเองให้ทาง พ่อแม่ ฝ่ายหญิงเค้าได้ รับรู้ ถึง ความรัก ความตั้งใจ ของเรา ที่มีต่อลูก สาวของเค้ามากกว่า เอาเป็นว่า เราเกิด มาเป็นคนไทยแล้ว อยู่ ในประเพณีที่ดี

งาม เราเอง ควรที่จะ ช่วยกันรักษาประเพณี แบบนี้ ให้ อยู่ ยืนนานต่อไป ครับ ถึงแม้มันจะผันแปรไป ตามยุคสมัย ไปบ้าง แต่เมื่อผ่านวันเวลาเหล่านี้ มาได้ แล้ว เราลองมองย้อน

กลับไปดู สิ ครับ เราเองก็คงภูมิใจ ที่เราได้ลงมือทำเรื่องที่เป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมา เอ้า ลูกผู้ ชายเกิดมาครั้ง เดียว ลุยไปเลย ครับสู้ สู้ ....................อิ อิ อิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 173

ryder2000

30/09/2009 16:53:37
0
เย้ความคิดของพี่วิเชียรอันนี้ โดนใจ ประเพณีไม่ผิด(เพราะประเพณีเปนสิ่งดีงาม เขาจึงทำสืบต่อกันมา) จะผิดก็ที่คนใช้ (แจ๋วเกี่ยวอะไรวะ)(ความรักไม่เคยเปลี่ยนแปร มีแต่คนที่เปลี่ยนไป)
ส่วนของคุณพี่ nopphong ต้องเข้าใจว่าแม่ยายแก่โดนมากเยอะ(คงไม่ใช่สมจิต)คนเราเมื่อได้รับประสบการณ์ที่เลวร้ายเลยทำให้เขาต้องระวังตัว (คงไม่อยากให้ลูกโดนอย่างตัวเอง เพราะตอนนั้นแม่ยายคุณพี่คงสาหัสมากอันนี้น่าเห็นใจคับ)ส่วนเรื่องที่แม่ยายเขาอยากให้แฟนคุณพี่เปนแอร์ ผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องผิด (ในความคิดผมนะ แก่โดนมาเยอะ) เพราะการที่แก่อยากให้ลูกยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้ (มันคงเกิดจากประสบการณ์ที่แก่เจอ แต่คงเปนเพราะรักลูกแก่ไม่อยากให้ลูกแก่ลำบากอย่างแก่นะคับ น่าเห็นใจ
ส่วนของคุณเช้าที่ว่า \\\"ที่ยังไม่เลิกเห็นจะเป็นเรื่องการวัดการมีหน้ามีตาทางสังคมด้วยวัตถุนอกกาย เช่นมีรถคันโตๆ ต้องใส่ทองเส้นโตๆ หรือการนับถือคนที่ทรัพย์สิน\\\"

อันนี้ไม่ใช่ประเพณีไทยนะคะ !! แต่เป็นสันดารมนุษย์หลายคนเลย (ไม่ใช่ทุกคน)
ใช่มันไม่ใช่ประเพณีไทย แต่มันเกิดขึ้นในสังคมไทย และมากขึ้นเรื่อยๆ (ก็อย่างที่ผมเคยถามไปไง ระหว่างคนดีแต่จน กับคนรวยแต่เลว คุณเช้าบอกว่าพ่อคุณเช้าถึงไม่เลือกทั้งคู่ไง (คนจนที่ดี มันไม่ดีตรงไหน(เพราะเมิงจนไง)(ตอบให้)หรือมีเหตุผลอื่น ขอโทษคับแรงไป แต่...........
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 174

Tanan

30/09/2009 17:16:48
0
แล้วสมมุติว่า เราโอนบ้านที่เราซื้อมาให้เป็นชื่อแฟน แบบนี้ถือเป็น สินสอดไหมครับ
บ้านหรือรถแบบนั้นอะ (ที่มันไม่มีเงินก็เพราะไปซื้อพวกนั้นเนี้ยหละ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 175

ryder2000

30/09/2009 17:28:50
0
ได้เพราะเขาก็ยังเรียกว่าสินสอด ให้ตอนแต่งงานนะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 176

iAsa

30/09/2009 17:32:21
0
\"(คนจนที่ดี มันไม่ดีตรงไหน(เพราะเมิงจนไง)(ตอบให้)หรือมีเหตุผลอื่น ขอโทษคับแรงไป แต่........... \"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 177

iAsa

30/09/2009 17:32:40
0
ชะอ้าว ข้อความขาด พิ่มพ์ใหม่ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 178

ryder2000

30/09/2009 17:36:27
0
บริสุทธิ์ใจไงคุณเช้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 179

bankhalkdown

30/09/2009 17:43:15
0
สินสอดคือ เงินที่ฝ่ายชายให้แก่บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้รับบัตรบุญธรรม

ของฝ่ายหญิงครับพี่นัท ถ้าให้ตัวผู้หญิงเองเค้าเรียกของหมั้นครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 180

iAsa

30/09/2009 17:46:29
0
นัท ที่นัทว่ามันเป็นของหมั้นจ๊ะ แต่จะเป็นสินสอดรึเปล่า ต้องไปตกลงกะแม่ยายเองนะจ๊ะ 55

ตอบคุณ ryder2000 ใหม่

\"คุณเช้าบอกว่าพ่อคุณเช้าถึงไม่เลือกทั้งคู่ไง (คนจนที่ดี มันไม่ดีตรงไหน(เพราะเมิงจนไง)(ตอบให้)หรือมีเหตุผลอื่น ขอโทษคับแรงไป แต่........... \"

เช้าได้มีพูดถึงประเด็นนี้ไปกรายๆข้างต้นแล้วค่ะ ไปดู 110 ได้ (จำไม่ผิดมั้ง)

ไม่ใช่เพราะจนค่ะ ขอใช้คำว่าฐานะต่างกันดีกว่านะคะ เพราะว่าเช้าก็ไม่ได้รวย

พ่อเช้าเคยสอนว่า จะมีแฟน อย่าให้จนมากไปหรือรวยมากไป รวยมากไป บ้านเค้าจะดูถูกเอาได้ หาว่าเราเกาะ ถ้าเราจะคบคนที่รวยกว่ามากๆ ต้องทำตัวให้มีคุณค่าพอ (เราชอบตรงนี้มาก นั่นคือ เราต้องพัฒนาตัวเองค่ะ ไม่ใช่ดึงเค้าลงมา เหนื่อยก็ต้องยอม ถ้ารัก) แต่เหนื่อย ส่วนจนมากไป อาจจะต้องเหนื่อยใจ กับเรื่องเช่น แฟนน้อยใจ คิดมาก ญาติแฟน ที่บ้านแฟน การอบรม รสนิยมที่แตกต่าง ปัญหาสารพันเล็กๆน้อยๆที่คาดไม่ถึง รวมไปถึง อาจจะเจอผู้ชายที่ขยันเอาใจแฟน แต่ใช้ตังแฟนค่ะ

ดังนั้น การหาแฟนให้เสมอตัวเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ถ้าแฟนฐานะต่างกันมาก ไม่ต้องคิดไปไกลเลยค่ะ เอาแค่ว่าจะแต่งก็ได้ พ่อกับแม่ทั้งสองฝ่ายมาคุยกัน จะคุยกันรู้เรื่องแค่ไหนไม่รู้เลย ยังจะงานแต่งอีก เอาแขกสองฝั่ง ญาติสองบ้านมาเจอกัน ไม่สนุกสนานกันแย่หรอคะ แต่งตัวคนละแบบ คุยกันคนนึงบอก อาหารญี่ปุ่นต้อง FUJI สิ หรูหราอลังการอรอ่ยถูกปาก อีกฝั่งบอก FUJI อาหารยี่ปุ่นห่วยๆ คุณภาพไม่ดี รสชาติไม่ไหว ต้อง MARU ทองหล่อสิ เป็นต้น ญาติอีกฝั่งคงจะลำบากใจไม่น้อยเลยค่ะ

เม็ดเงิน ไม่ได้วัดทุกอย่าง
แต่มันอาจจะอ้างอิงไปถึงฐานะทางสังคมและการอบรมค่ะ บอกแล้ว มันเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อกัน

เงินไม่ได้ส่งผลกับอุปนิสัย และรสนิยมเท่านั้น ยังส่งผลกับการศึกษาด้วยค่ะ บางคนอาจจะเก่งได้ทุน แต่ไม่ใช่ทุกคนใช่มั้ยละคะ คนที่การศึกษาต่างกัน คิดไม่เหมือนกัน เพราะระบบวิธีคิดถูขัดเกลามาต่างกัน ถึงมีคนบอว่า คนจบเอกพูดไม่รู้เรื่อง 555 ถ้าแบบว่าจบ step ต่างกันเล็กๆ แบบ โทกับตรี หรือ โท กับเอก ก็ยังอาจจะพูดกันรู้เรื่อง (ในกรณีที่พื้นฐานของฝั่งที่ด้อยกว่าถูกขัดเกลามาดี)

เอาแค่นี้ก่อนละกันค่ะ ยาวไปเดี๋ยวกลายเป็นยืดเยื้อ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 181

bankhalkdown

30/09/2009 17:46:41
0
ขอติงคุณเช้านิดนึงนะครับคนเราต้องมองกว้างๆหน่อยนะครับ

พูดอย่างนี้เหมือนคนจนไม่มีหัวใจนะครับ

อย่ามองแต่ตัวเราเองครับ เพราะเราๆท่านๆ เนี่ยมีอันจะกิน

แต่คนที่เขาไม่มีอันจะกินมีอยู่เยอะมากๆ ครับ ในสังคม

คนจะรวยหรือจะจนก็คนเหมือนกันอะครับ ยิ่งคนรวยสมัยนี้ชอบเอาเปรียบคนจนด้วย

เกียรติของความเป็นคนมันไม่ได้วัดกันที่ฐานะหรอกครับ

อย่าวัดคนที่ฐานะครับ มันไม่ถูกต้อง งั้นผมก็ถามสิ คนรวย แต่เลว มันดียังไง

มันดีตรงมันเลวหรอครับ


ปล.ผมติงเพราะเรื่องนี้ไม่เห็นด้วยจริงๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 182

Mr.TokZaa

30/09/2009 17:58:06
0
นั้งอ่านซะตาแฉะเลย555 อ่านบ้างข้ามบ้าง
ร้อยแปดเหตุผลต่างคนต่างความคิด ดีครับดี
สินสอดดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัวแต่ซักวันมันก็จะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว
สำหรับผมเพื่อความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย \"เพื่อคนที่เรารัก\" และ \"คนที่รักเรา\" คนที่จะอยู่เคียงข้างเราไปยันแก่ยันเฒ่า ยังไงผมก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้นะแหละครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกปัญหามีทางออก เพียงแต่ว่าคนที่เจอน่ะใช่หรือเปล่า ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 183

iAsa

30/09/2009 17:58:54
0
ต้องขอโทษคุณ Bankhalkdown ด้วยทีเหมือนจะดูถูกใคร ไม่รุจะยกตัวอย่างยังไงจริงๆ ให้เห็นภาพว่า ฐานะต่างกันเกินไป มันจะลำบาก ไม่ว่าจะรวยกว่าหรือจนกว่า (แบบที่บอกข้างบนน่านแหละ)

เห็นด้วยค่ะที่เกียรติมันไม่ได้วัดกันที่ฐานะ ถึงใช้คำว่าฐานะทางสังคมไงคะ

แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงจริงๆ ว่าถ้าต่อให้ฝ่ายหญิงที่ฐานะดีกว่า ยอมรับผู้ชายที่ฐานะแย่กว่าได้ (ทั้งสองฐานะ เงิน และสังคมค่ะ) มันส่งผลจริงๆนะ ทั้งจิตใจของฝั่งที่ด้อยกว่า และความรู้สึกของฝั่งที่มากกว่า

เพราะอย่างที่บอก เราก็ไม่ได้รวย

ที่ก่อนหน้านี้เราพยายามไม่อธิบายมาก ก็ฌพราะกลัวโดนเรื่องนี้เหมือนกัน แต่พอดีมีคนถาม ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 184

bankhalkdown

30/09/2009 18:10:59
0
แต่ถ้าเป็นผมถ้าผมรวยอยู่แล้วแฟนผมไม่จำเป็นต้องรวยหรือฐานะดี

ผมขอแค่รักจริงก็พอแล้ว เพราะผมรวยอยู่แล้วผมมีปัญญาเลี้ยงได้

และถ้าผมรักใครผมไม่จ้องจะกลัวแ่ต่เขาจะเกาะผมหรอกครับ

เพราะก่อนที่เราจะแต่งงานเราก็ต้องศึกษานิสัยใจคอกันมาอย่างดีแล้ว

แต่ถ้าผมฐานะปานกลาง(ปัจจุบันก็เช่นนี้ 555) ก็ต้องดูเรื่องฐานะด้วยละครับ

คุณเช้าพูดก็ถูกครับ แต่เรื่องพวกนี้มันแยกไปได้อีกเยอะแยะครับ

เป็นหลายกรณีอะครับ เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ ครับ

เวลาขึ้นศาลเกี่ยวกับกฎหมายครอบครัวยังมีการกำหนดอะไรที่พิเศษไปกว่า

การขึ้นศาลธรรมดาเลยครับ เช่น ต้องมีผู้พิพากษาสมทบ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้

ด้วยเลยครับ เพราะฉะนั้นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ มักจะเป็นเรื่องที่

มนุษย์ก็คงเถียงกันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วละครับ

แต่เป็นเรื่องที่ประมาณว่าเถียงกันไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะว่ามันไม่มีข้อยุติ

เพราะพื้นฐานทางความคิดของคนทุกคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 185

นายมั่นคง

30/09/2009 18:19:30
0
นี่มันหลายรสชาติ ภายในกระทู้เดียวเลยนะนั่น.........5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 186

ryder2000

30/09/2009 18:21:07
0
ผมบอกจากประสบการณ์ของตัวเองนะ แฟนผมจนกว่าผมเรียกว่าเยอะก็ว่าได้ แต่ผมไม่เคยรังเกียจหรือไปตั้งแง่เรื่องเงินคับเธอ(อาจเปนความใจกว้างของผู้ชายชื่อไอแผนอย่างเรา หลงตัวเอง) แต่แฟนผมอาจจะรู้สึกบ้างเพราะเธอเปนคนคิดมาก แต่เธอและผมก็ไม่ได้เลิกคบกันเพราะฐานะ ต่อสู้เก็บเงินด้วยกันจนมีเงินสินสอดเปนของตัวเอง(มีลูกด้วยกันแล้ว)(ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันคับ)สิ่งที่ผมทำคือให้ความรักความเข้าใจเธอ แม้จะไม่ได้อย่างที่ใจเราต้องการเต็มที่ แต่ผมทำได้เพียงพยายามต่อไปเรื่อยๆ แล้ววันนี้มันก็ดีขึ้น (ผมดีใจจังที่ผมไม่ต้องไปกังวนว่าบ้านเขาจะมีฐานะเท่าเราไม่น้อ อย่างนี้บ้านผมแต่ก่อนไม่มีบ้านอยู่ พ่อผมสู้มาจนที่บ้านมีโรงแรมเปนของตัวเองแล้ว ถ้าผมคิดแบบคุณเช้าผมต้องเปลี่ยนแฟนตามฐานะที่บ้านผมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆไหมคับ ถ้าเปนอย่างนั้นผมมีเมียหลายคนเลยคับ ยิ้มเลยเรา คิดอย่างนั้นใกล้เปนไข้เลือดออกหัว และพ่อแม่ผมไม่เคยสอนว่าให้เลือกคนรักเพราะฐานะเท่าเทียมกัน สิ่งที่แก่ต้องการขอให้เขารักเราจิง เปนคนดี และขยัน พ่อแม่ผมเกลียดเสียด้วยซ้ำ คนรวยแต่ทำงานไม่เปน เปนแต่แต่งตัว มันก็ไม่ผิดหรอกผมว่าคุณเช้าอายุยังน้อย ประสบการณ์ก็น่าจะไม่เยอะ ที่บ้านมีฐานะแถมอบอุ่น เขาจึงเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดให้คุณ (แต่เหมือนที่ผมเคยบอกทำให้ลูกว่ายน้ำเปนดีกว่า ให้เธอใส่ห่วงยางตลอดเวลา เพราะถ้าว้นหนึ่งห่วงยางแตก ลูกเราจะลำบากที่สุด)
ปล.ขอนอกเรื่องนะคับถ้าอาแปะที่เฮียมั่นคงเขียนถึงเปนยอดคน พ่อของผมก็เปนยอดคนเช่นกัน(ผมภูมิใจในตัวพ่อคับ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 187

Bank

30/09/2009 18:24:40
0
ว้าว Continue Disc 5 แล้วนะเนี่ย ดูกันต่อไปท่านผู้ชม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 188

ryder2000

30/09/2009 18:27:35
0
bank อย่างนี้ av disc มาต่อที่หาดใหญ่ดีกว่าไหม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 189

k

30/09/2009 18:37:40
6
เห็นด้วยกะ คห 180 ของคุณเช้านะ เรื่องการคบกับคนที่ฐานะหรือพื้นฐานต่างๆเสมอกันเพราะความคิดความอ่านความเห็นต่างๆมันน่าจะจูนกันได้ดีกว่า เพราะถ้าพื้นฐานต่างกันเกินไป ผมว่าจู่ด้วยกันไปนานๆมันคงจูนเหนื่อยน่าดู (โดยเฉพาะถ้าเลย \"โปร\" ไปแล้ว)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 190

Bank

30/09/2009 19:27:20
0
ว้าวๆๆๆๆ มีคนชวนดู av แร้ว 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 191

วรุตม์

30/09/2009 19:37:49
0
เป็นผมถ้าเรียกแพงไปผมพาหนีนะ

หนีก่อน มีลูกแล้วค่อยกลับมา

ห้าๆๆๆๆๆ

ราคามันตกเองล่ะ

ห้าๆๆๆๆๆๆ

เลวได้ใจจริงๆ

ห้าๆๆๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 192

nopphong

30/09/2009 19:42:22
4
ผมว่า ฐานะทางสังคม และ ฐานะทางการเงินมันคนละเรื่องกับ นิสัยใจคอนะครับ ตกลงว่าคนจนนั้นดีไม่ได้หรือครับ มีความเห็นเหมือนคุณ blackhawk นะครับ คือถึงขั้นจะแต่งกันน่ะคงไม่ได้คบกันมาแค่เดือนเดียวเป็นแน่ น่าจะศึกษานิสัยใจคอ รู้จักครอบครัวกันและกันมาพอสมควร
นิสัยก็รู้แล้ว ครอบครัวก็รู้จักแล้ว ด่านสุดท้ายยังต้องมีการวัดคนกันด้วยวัตถุอีกต่างหาก
เหนื่อยครับเกิดเป็นผู้ชาย เฮ้อ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 193

ย่องมาฟัง...

30/09/2009 20:15:26
0
.
.
.
อ่านแล้วเครียด ไปวน\"โรงแรมสยาม\"ดีกว่า...ลุย
.
.
.
Hey...Hey...Hey
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 194

nopphong

30/09/2009 20:17:32
4
จะว่าไปถ้าไอ้หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยมาขอลูกสาวผม ผมคงไม่เรียกสินสอดแพงๆเป็นการวัดใจนะครับ แต่จะห้ามแต่งกันไปก่อนสักสามสี่ปี ช่วงนี้ห้ามมีลูกกันเด็ดขาด หากผ่านระยะนี้ไปได้ยังรักกันดีอยู่ ดูแล้วรักกันจริงๆ และสามารถเลี้ยงตัวได้ดีขยันขันแข็ง คงต้องยกให้ เพราะอย่างไรเสียใจคนมันห้ามยาก ได้ลูกเขยไม่ถูกใจมา ก็ยังดีกว่าเสียลูกสาวไปนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 195

ryder2000

30/09/2009 20:51:28
0
ไม่ใช่ไปดูหมายถึงไปเปนพระเอกนะคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 196

iAsa

30/09/2009 21:23:56
0
คุณ bankhalkdown อันนี้อาจจะต้องอ้างส่วนใหญ่ของสังคมนิสนุง ผู้ชาย เลี้ยงผู้หญิง = เรื่องปกติ ผู้หญิง เลี้ยงผู้ชาย = ดูแย่ขึ้นมาทันที 555

คุณ Ryder 2000 เช้าอาจจะบอกไม่เคลีย ในกรณีที่เช้าพูดคือ หญิงรวยกว่าชายอะค่ะ ชายรวยกว่าหญิงนี่ ขึ้นอยู่กับหญิงเป็นคนๆไป และ ครอบครัวชายเป็นคนๆไปค่ะ ว่าครอบครัวชาย ใจกว้างแค่ไหน ยอมรับได้แค่ไหน ส่วนฝั่งผู้หญิงว่า เป็นคนดีแค่ไหนค่ะ

คือ อย่างที่บอกแหละค่ะ เงิน ต่อให้รวยมากมาย แต่พื้นฐานนิสัยบางอย่างรับไม่ได้ ก็คบกันยากอะค่ะ (ย้อนกลับเข้าประเด็นสองประเด็นเดิมว่า พ่อเ้ช้าไม่ยกให้ทั้งคู่)

เล่าเรื่องส่วนตัวก็ได้

ก่อนหน้าคบปรัชญ์ เช้าเคยคบกะคนๆนึง เกือบจะได้แต่งงาน คบกันมาไม่เคยทะเลาะกันเลยค่ะ มามีปัญหาจนได้ คือเมื่อต้องคลุกคลีกับที่บ้านเค้า ตอนแรกคุณพ่อเตือนแล้วค่ะ แต่เช้าไม่เชื่อ

คุณพ่อแฟนเก่าเป็นคนเก่งมากค่ะ คล้ายๆคุณพ่อคุณ ryder2000 เลย เริ่มต้นจาก 0 เรียกได้ว่า เงิน 500 ยังหาแทบไม่ได้ จนสร้างตัวเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่โต บ้านแฟนเก่ารวยกว่าเช้าค่ะ เช้ากล้าพูด มีพี่น้องและเครื่อญาติมากมาย หลายๆคนสามารถพึ่งใบบุญของคุณพ่อแฟนเ่ก่าเช้าได้ ทุกคนเป็นคนจริงใจ เฮฮา อารมดี แต่!!! เช้ากลับทนอยู่ด้วยไม่ได้ค่ะ

เพราะว่าที่บ้านเค้าไม่มีความละเอียดอ่อนในหลายๆเรื่องที่เช้ามี ไม่อยากลง Detail ค่ะ เพราะว่า เดี๋ยวไปกระทบใครเข้า และ ไม่อยากพูดถึงพวกเค้าในแง่ลบค่ะ เพราะยังไงพวกเค้าก็เป็นคนดี ไม่ว่าจะเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหาร ระดับภาษาที่ใช้พูด การวางตัวเวลาอยู่บ้าน รวมไปถึงรสนิยมในการใช้ของต่างๆ และหลักการคิด เช้าไม่สามารถจะใช้ชีวิตร่วมกับพวกเค้าด้วยค่ะ การเจอครอบครัวแฟนเก่า ทำให้เริ่มเห็นความเป็นครอบครัวเค้าในตัวเค้า สุดท้ายก็เลยเห็นด้วยกับคุณพ่อค่ะ ว่าเราอยู่ในสังคมแบบนั้นไม่ได้จริงๆ ถึงแม้จะเ้ข้ากันได้แค่ไหนก็ตาม (เค้าจบระดับเดียวกับเช้าค่ะ ในประเทศที่ใกล้เคียงกัน) ตอนนี้ ก็เลยเป็นเพื่อนกัน คุยกันได้ดี

จริงอยู่ประสบการเช้าอาจจะไม่เยอะ แต่เช้าว่าพ่อเช้าน่าจะประสบการโชกโชน 555 เช้าก็เชื่อพ่ออะค่ะ พ่อเช้าดูแฟนเก่า หรือ คนที่มีจีบเช้าแต่ละคน (เยอะ) ทักคนไหนว่าไง ไม่เคยพลาด เลิกกันเพราะเรื่องที่พ่อคาดเดาทุกคน ต่อให้พ่อไม่ให้แต่ง เช้าก็คิดว่าเช้าน่าจะเชื่อพ่อ เพราะทำให้พ่อสบายใจ ดีกว่าตามแฟนซึ่งเป็นคนที่สำคัญน้อยกว่าพ่ออะค่ะ (ปรัชญ์ฟังไว้ 555) ปรัชญ์น่าจะโชคดีกว่าแฟนเก่าๆเช้านิสนุง ตรงที่พ่อค่อนข้างจะชมมากกว่าบ่น 555555

BTW, ทำมัยต้องบอกว่าคนรวยทำงานไม่เป็น เป็นแต่แต่งตัวละคะ = =\\\" คนไม่รวย แล้วเป็นแต่แต่งตัว รอคนมาเลี้ยงก็มีนะ 555 เช้าไม่รวย แต่ก็ทำงานไม่ค่อยเก่ง (น่าอวดมาก) ทำได้ขายข้าวแกง อยากไปขายอาหารหมา 555 สงสัยอย่างนี้ ไม่มีคนมาขอชัวร์ เอริ๊ก



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 197

lexibeat

30/09/2009 21:28:31
สู้ต่อไป...........ไอ้มดแดง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 198

นายมั่นคง

30/09/2009 21:57:23
0
ได้ลูกเขยไม่ถูกใจมา ก็ยังดีกว่าเสียลูกสาวไปนะครับ







วลียอดเยี่ยมของกระทู้นี้เลยพี่ nopphong 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 199

ryder2000

30/09/2009 23:24:17
0
อย่างนี้ผมเล่าให้ฟังอีกเรื่อง มีผู้ชายคนหนึ่งบอกผมว่า (เนื่องจากทางบ้านเขาไม่ชอบฝ่ายหญิง ในตอนนั้น ชายหญิงคู่นี้ตกงาน ลำบากมาก แม่เขายื่นคำขาดไม่ช่วยเหลือ ถ้าไม่เลิกคบกับฝ่ายหญิง แต่ชายคนนั้นยอมลำบากร่วมกับฝ่ายหญิง กัดฟันสู้ชีวิต จนทำให้แม่เขายอมรับฝ่ายหญิงแฟนของเขาจนได้) เขายอมเปนขอทานถ้าเขารักกับผู้หญิงคนนี้แล้วทำให้เขาเปนอย่างนั้น (มันเปนทางที่เขาเลือก)แต่ถ้าเขาจะรวยเหมือนกับนายกบ้างคนแต่เปนทางที่เขาไม่ได้เลือกเขาจะไม่ทำมัน
ปล.ชีวิตคนมีอะรัยมากว่าความรัก แต่หากชีวิตใครที่ไม่เคยมีรักแท้ก็เปนชีวิตที่น่าเศร้า
กล้าหาญในความรักจิง เพื่อนผม (สมแล้วที่เกิดเปนผู้ชาย)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 200

Vichien

30/09/2009 23:42:01
0
ผมว่าบ้านหลังนี้มันเล็กและขาดความหลากหลายทางความคิดไปครับคุณNopphong เพราะจะเห็นได้ว่าคนที่หมุนเวียนเข้ามาแสดงความคิดเห็นล้วนแต่เป็นคนเดิมๆ ที่ตอบโต้ไปมา ซ้ำส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ชายซึ่งเป็นพวกเดียวกะเรา เลยมีแนวโน้มว่าจะเห็นตามๆกัน..

ผมอยากให้คุณ Nopphong ไปลองโพสแสดงความคิดเห็นแบบนี้ในบ้านที่หลังใหญ่และมีคนเยอะกว่านี้ครับ...

ผมว่าคุณอาจจะได้มุมมองที่หลากหลายกว่าที่นี่ก็ได้ ตอนนี้ผมชักจะรู้สึกสงสารน้องเช้าแล้วที่เพียรพยายามตอบทุกความเห็นในมุมมองของผู้หญิงอยู่คนเดียว...ไม่มีใครมาแบ่งเบาหรือช่วยแสดงความคิดในมุมมองของผู้หญิงบ้างเลยว่ารู้สึกอย่างไรที่...ผู้ชายคิดแบบนี้...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 201

ซิลเวอร์

30/09/2009 23:57:04
0
งั้นก็ต้องพันทิพย์ห้องสยามแหละครับ

รับรองขึ้นกระทู้แนะนำ ชัว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 202

ryder2000

01/10/2009 00:09:01
0
คงเปนดังโก้วเล้งกล่าวไว้ ทำลายจิตก่อน ทำลายร่างกาย เจอความเห็นที่ 200 ของพี่วิเชียร ไปหมดความคิดที่จะเขียนเลย ลาขาด ยอมคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 203

นายมั่นคง

01/10/2009 00:10:47
0
อืมม จริงๆแฮะ ผมมองไปมองมา อ้าว กระทู้นี้มีผู้หญิงแค่คนเดียวเอง เอ้า ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นตัวแทนสตรีและเป็นวีรสตรีก็แล้วกันเน้อ

ไอ้เว็บเรามันแทบจะเป็นโรงเรียนชายล้วนเลยล่ะ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 204

bwasu

01/10/2009 00:51:59
0
ประเพณีการเรียกสินสอด เป็นกุศโลบายของคนโบราณ มีจุดประสงค์ของประเพณีแฝงอยู่ครับลองพิจารณาดู คนโบราณฉลาดครับ..... ด้วยความรักลูกสาวตัวเองนี่เองทำให้คิดว่า จะทำอย่างไรหนอที่จะพอจะพิสูจน์ได้เบื้องต้นว่า ไอ้หนุ่ม หน้าตาบ้านๆ บุคลิคหยองกรอด เพิ่งทำงานใหม่ๆ มันมีปัญญาที่จะเลี้ยงลูกสาวเราและให้ความสุขสบายได้ใกล้เคียงกับที่เราเคยเลี้ยงมามั้ย มันจะรักลูกสาวเราจริง จะมาหลอกฟันแล้วทิ้งหรือเปล่า?(ซึ่งตอนมาขอหรือมาเจอกันครั้งแรก ร้อยทั้งร้อยไอ้หนุ่มก็จะบอกว่าผมรักจริงครับ ไม่ทิ้งขว้างแน่นอน) จะพิสูจน์อย่างไรดีล่ะ จะให้ย้ายบ้านไปอยู่กัยมันเฝ้าดูพฤติกรรมของมันก็ไม่ได้ อย่ากระนั้นเลย ถ้ารักลูกสาวเราจริงๆ ทำมาหากินเก็บเงินเก็บทองโชว์ให้ดูหน่อยเป็นไร? อย่าดีแต่พูด ถ้าหามาได้เดี๋ยวก็คืนให้ บวกให้อีกเท่านึงด้วย ลูกจะได้เอาไปเป็นทุนในการสร้างครอบครัว(ในใจก็คิดว่าถ้ามันไม่มีปัญญาหาสินสอดจริงๆ หลังจากเห็นแล้วว่ามันตั้งใจหาแล้วแต่ไม่ได้ ก็คงต้อง ให้มันแต่งกันในที่สุดนั่นแหละ)ไอ้พวกพ่อรวยแม่รวย เรียกเท่าไหร่ก็มีปัญญานี่ คงต้องพิสูจน์ด้วยวิธีอื่นประกอบกัน

......ผม(และคุณnopphongเอง)คงไม่พอใจเลยถ้าไอ้หนุ่มที่ไหนจะมาขอลูกสาวไปอยู่ด้วยแล้วไม่แสดงให้เห็นว่าเค้าก็มีพละกำลังและความสามารถที่จะหากินแย่งชิงอาหารและสิ่งจำเป็น...อยู่ท่ามกลางฝูงสัตว์สังคมที่หิวกระหายเช่นปัจจุบัน....

ปล.จากกุศโลบายของประเพณีสินสอด คงไม่ได้กำหนดไว้ให้เป็นเครื่องวัดฐานะความเหมาะสมของครอบครัวแต่ละฝ่าย แต่น่าจะแยบยลในแง่พิสูจน์ความสามารถส่วนตัวของ ผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคตมากกว่า

ถึงคุณเช้าจ้ะ...วันนึงในภายหน้า..วันที่เราแก่ตัวลง นอนไม่สบายอยู่บนเตียงพยาบาล ถ่ายสิ่งสกปรก น่ารังเกียจ คนที่จะอยู่กับคนจนวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ คือคนคนนึงที่รักเราสุดหัวใจผูกพันกับเราที่สุด...เว้นจากพ่อกับแม่แล้วคนในโลกนี้คือ สามีเท่านั้น ไม่ใช่ผู้คนในสังคมรอบข้าง ไม่ว่าจะพี่น้องญาติมิตร...

....บางอย่างใช้ความรู้สึกตัดสิน ดีกว่าใช้เหตุผลตัดสินนะ...เพราะความรู้สึกกับเรื่องบางเรื่องมั่นคง(Gadget)มากกว่าวัตถุใดๆในโลก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 205

iAsa

01/10/2009 07:56:56
0
555 เช้าไม่มายด์ เรื่องที่เช้าเป็นผุ้หญิงคนเดียวหรอกค่ะ เพราะว่าคนเรามีหลายร้อยความคิด ผู้ชายเองก็มีทั้งชอบและไม่ชอบประเพณีนี้ ทุกคนย่อมมีสิทธิ์จะมีมุมมองของตัวเอง

อย่างเรื่องที่คุณ Ryder2000 เล่ามา ทำให้เห็นว่า เพื่อนคุณรักแฟนมากค่ะ เค้าเลือกที่จะเดินอีกเส้นนึงที่เลือกจะมีชีวิตกับผู้หญิงที่เค้ารัก โดยขัดใจแม่

แต่ถ้าเป็นเช้า เช้าจะเลือกคุณพ่อคุณแม่เช้าก่อน อันนี้เช้าไม่แน่ใจว่าเป็นข้อแตกต่างของผู้ชาย หรือผู้หญิงหรือเปล่าหน่ะค่ะ ว่าผู้ชายอาจจะ independent กว่า แต่เห็นผู้ชายหลายคนก็ไม่ขัดใจแม่นะ 555

เช้าไม่ใช่คนไทยเชื้อสายจีน (ถ้ามีก็น้อยมากจนไม่ปรากฎบนลักษณะภายนอก555) แต่ชอบวลีนึงของคนจีนมาก

\"เมียมิ่งเหมือนเสื้อผ้า พี่น้องเหมือนแขนขา\"

ในที่นี้เช้าขอตีความวลีนี้แบบรวมๆนะคะ แฟน หรือเพื่อนฝูง นั้นเหมือนเสื้อผ้า เป็นปัจจัยสี่ แต่ก็เป็นของนอกกาย พี่น้อง ในที่นี้เช้าขอนับเป็นพ่อแม่ (พอดีไม่มีพี่น้องแท้ๆค่ะ) เหมือนแขนขา ไม่ใช่ปัจจัยสี่ ที่เปลี่ยนได้ แต่ขาดแล้วหาไม่ได้อีก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 206

iAsa

01/10/2009 07:59:22
0
คุณ bwasu ก็อาจจะจริงค่ะ ว่าตอนแก่ๆสามีอาจจะดูแล แต่มันก็มิแน่เสมอไปนี่คะ ใครจะไปก่อนใครก็ไม่รู้ T_T เช้ายิ่งดื้อๆอยู่ จะโดนทิ้งก่อนแก่รึเปล่าก็ไม่รู้ 5555 ถึงบอกไง มีก็ดี ไม่มีก็อยู่ได้ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 207

Tanan

01/10/2009 08:23:24
0
ขนาดมีผู้หญิงคนเดียว ยังล้มไม่ได้เลย 55555
ยังไงผมของงดความคิดเห็นเรื่องนี้ก่อน (กำลังดู Case อื่นจากคนรอบข้าง)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 208

ryder2000

01/10/2009 09:24:43
0
ผมกลับมาแล้ว หลังจากว่าจะไม่เขียนอีก หลังจากอ่านความคิดสองร้อยของพี่วิเชียร หลังจากนอนไม่หลับไปครึ่งคืน เลยต้องกลับมาเพราะไม่อย่างนั้นมันอาจค้างใจตลอดไป
ผมว่าเรื่องบ้านไม่ว่ามันจะใหญ่หรือเล็กไม่ใช่ปัญหา ของให้คนในบ้านให้เกรียติกันและหวังดีต่อกัน(คิดว่าบ้านหลังนี้เปนเช่นนี้) ส่วนเรื่องที่ว่าคนเดิมๆที่เวียนเข้ามา อันนี้คงหมายถึงผมด้วย เริ่มเลยนะ คือผมหรือคนที่เวียนเข้ามาเขียนบ่อยๆอาจเปนเพราะไปเจอประสบการณ์ที่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ่ิอย หรือมันโดนใจในเรื่องกระทู้นี้ และมันก็คงไม่ผิดที่ดันมีความคิดที่ใกล้เคียงกัน ส่วนเรื่องที่พี่ว่าสงสารน้องเช้า ผมขอโทษไว้ตรงนี้ก่อนเลยหากผมเข้าใจผิด (ขอโทษคับพี่วิเชียร)คือพอผมอ่านตรงนี้แล้ว (ที่พี่เขียนมา) ผมรู้สึกว่าเราชั่วขนาดนั้นเลยหรือ เรามารุมรังแกผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งในเว็บที่เรารักที่สุดนี้หรือ (หลังจากไม่หลับไปครึ่งคืน เลยต้องกลับมาเขียน) ว่าผมไม่่เคยคิดอย่างนั้น ผมรักและเปนห่วงที่คนในเว็บ (รวมทั้งคุณเช้าด้วย) ผมเพียงแต่บอกและเล่าประสบการณ์ต่อและอ้อม รวมทั้งความคิดเห็นที่ผมมีอย่างบริสุทธิ์ใจให้กระทู้นี้ ผมคงไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการณ์แต่งงานสองครั้งอย่างผม ไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวังอย่างผม เพราะมันฝังอยู่ในใจแม้เราจะพยายามลืมมันแค่ไหนคงไม่อยากให้น้องสาวเราหรือน้องชายเราเจอเรื่องอย่างนั้น ผมต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ เพราะผมคิดว่าสิ่งที่แก่นำมาเสนอเปนประสบการณ์ที่แก่คงไม่อยากให้ใครเจอ และเปนความบริสุทธิ์ใจที่เสนอความคิดเห็น ที่ท้ายอยากจะขอโทษที่คนที่เข้ามาอ่านความคิดเห็นผม แล้วรู้สึกไม่ดีกับมันรวมทั้งขอโทษพี่วิเชียรด้วย
ปล.ฝากถึงคุณเช้าผมดีใจที่คุณรักพ่อแม่มากกว่าแฟน เพราะมันมีความจิงที่เปลี่ยนไม่ได้ว่าคนรักกัน เลิกรักกัน ก็คืออดีต แต่สายเลือดตัดไม่ขาด (สำคัญกว่าความรักของพ่อที่รักแม่และแม่ที่รักพ่อ เพราะถ้าวันหนึ่งที่เขาเลิกกันทุกอย่างคืออดีต)ไม่มีอดีตพ่อ อดีตแม่ เปนแล้วเปนตลอดการ
ส่วนเรื่องการดำเนินชีวิตผมเลือกเอง ผมไม่เสียใจ (แม้มันจะล้ม)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 209

Vichien

01/10/2009 09:50:51
0
คุณryder2000 ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ...เพราะไม่มีอะไรผิด และที่ผมหมายถึงก็ไม่ได้หมายถึงว่า ให้พวกผู้ชายอย่างเรา สงสารน้องเช้า เพราะพวกเราไปรุมหรอก แต่ผู้หญิงในนี้มันน้อยไปเท่านั้นเอง

ประเด็นปัญหาที่เราคุยกันอยู่นี้มันแทบจะเรียกได้ว่าเป็น..ประเด็นสาธารณะ..ที่เกิดในสังคม การจะคิดอ่านให้เหตุผลกัน ก็ควรจะได้รับฟังจากผู้คนที่หลากหลายกว่าที่เราคุยกันอยู่นี้ไม่กี่คน ไม่แน่ในบ้านหลังใหญ่ๆนั้น อาจมีผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ไม่ได้คิดอย่างน้องเช้า และเห็นด้วยกับประเด็นสาธารณะนี้ก็ได้

ผมถึงบอกว่า มันเล็กและขาดความหลากหลาย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 210

Sprigan

01/10/2009 10:00:37
0
555+++

อ่านมาน้านนานจนตาแฉะ ก็นั่นล่ะครับมันก็ต่างความคิดจริงๆ

ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องผมเอง

พ่อแม่แฟนผมเค้าเรียกล้านนึง (รอไปก่อนแล้วกัน)

บ้านแฟนผมเค้าก็ร๊วยรวย แต่บ้านผมมันก็ธรรมด๊าธรรมดา

แฟนผมเป็นหมอ น่ารักมากๆ(ถ้าตามเนื้อหาในกระทู้นี้เค้าบอกเกี่ยวกับความแพงค่าสินสอดด้วยรึเปล่า ผมไม่รู้นะ555+++) ผมเป็นอาจารย์มหาลัย(ก็เหมือนกับข้าราชการมีเกียรติแต่ไม่มีตัง)

ผมก็คิดว่ากล้าขอ(กู)ก็กล้าให้วะ

แม่ผมถามว่าเอามั้ยแม่ให้ ผมบอกรอไปก่อนแม่เดี๋ยวมันก็ลง 55++

อันนี้คือเหตุการณ์ของผม แต่ผมจะไม่แสดงความคิดเห็นนะก็เอามาให้ดูเล่นๆ(แต่กรูเครียดจริง55++)

มาถึงเรื่องที่เถียงกันยืดยาวมากมาย ต่างคนมันก็มีความเห็นต่างกันล่ะครับ

ทุกคนถูกเลี้ยงดูมาจากครอบครัวต่างกัน สังคมต่างกัน คำสั่งคำสอนที่ได้รับมาจากพ่อแม่ต่างกัน รับสื่อต่างกัน เป็นธรรมดามันก็ต้องมีอะไรที่คิดไม่เหมือนกันเป็นธรรมดา (พี่น้องท้องเดียวกันยังทะเลาะกันเล๊ย)

ผมอยากให้ทุกคนลองคิดในมุมของคนที่เรามีความเห็นไม่ตรงกันกับเค้าดูบ้าง ลองสมมุติว่าเราอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน สถานะเดียวกัน

อย่างเราๆผู้ชายก็ต้องนึกไว้นะว่า ถ้าเราเป็นผู้หญิง(หรือแม่ยายน่ะนะ) การที่เค้าเรียกสินสอดใช่อยู่อย่างที่พูดก็คือมันเป็นหลักประกันว่าเราสามารถดูแลลูกสาวเค้าได้มั้ย(ส่วนใหญ่เค้าก็จะเรียกไม่เกินไปหรอก เหมือนโดนวัดใจเลย55++) มองอีกมุมนึงมันก็อาจเป็นการให้เกียรติเราก็ได้ คือเค้าคิดว่าคนอย่างเราเนี่ยมันสามารถหามาได้(เข้าข้างตัวเองอีก55++)

แล้วถ้าคิดในมุมผู้ชาย มันเหมือนเป็นการเพิ่มภาระให้ชีวิตเลยนะเนี่ย ผู้หญิงจะคิด ว่าถ้าไม่มีสินสอดเลย จะเหมือนไม่ให้เกียรติเค้าอีกเหมือนกัน(ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร)

ถามว่าผมชอบมั้ย ผมว่าดีนะ กับการที่มันจะทำให้ผู้ชายอย่างเราๆคิดจะทำให้ชีวิตดีขึ้น

ผมบอกแล้วว่ามันอยู่ที่การมองต่างมุม การที่โดนเรียกสินสอดแพงกว่าที่เราจะหามาได้ในชีวิตประจำวันมันก็อาจจะเป็นการจุดประกายในคนเราหาสิ่งที่ดีๆเพิ่มให้กับชีวิตเรา

แล้วถามว่ามันมีข้อเสียมั้ยผมว่าอันนี้มันอยู่ที่ตัวคนที่จะใช้ประเพณีนี้แล้วล่ะครับ

สรุป ก็อยากให้เอาใจเค้ามาใส่ใจเรานะครับ อย่างที่ ขงจื้อกล่าวไว้ว่า
\\\"สิ่งใดที่ตนเองไม่ต้องการ จงอย่าไปยัดเยียดให้ผู้อื่น\\\"

(พิมพ์ยาวที่สุดที่เคยพิมพ์ในบอร์ดนี้มาเลยนะเนี่ย)

ปล.1 ผมว่าอย่าไปเถียงกับผู้หญิงเลยเน้อ ไงๆก็ต้องยอมเค้าอยู่ดี
ปล.2 คุณเช้าครับถ้าคุณยึดมันในวัฒนธรรมไทยจริงๆก็อย่างใช้ไทยคำอังกฤษคำ หรือคำที่สามารถใช้คำไทยได้แต่ไม่ใช้นะครับ มันดูแปลกๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 211

watashipan

01/10/2009 10:01:48
2
มาให้กำลังใจคุณเช้าครับ สังคมเปลี่ยนไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเปลี่ยนครับต่างคนต่างความคิด
ของดออกความเห็นครับเก็บไว้คิดเองก็พอ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 212

ping_seksan

01/10/2009 10:41:09
25
เหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ เลย ตามอ่านไม่ไหวแล้วครับ ยาวมาก ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 213

นายมั่นคง

01/10/2009 10:48:09
0
เมื่อกี๊อ่านดูเจอปรัชญาของขงจื๊อ งั้นผมฝากของเปาบุ้นจิ้นไปด้วยอีกคนเลยก็แล้วกัน 555


\"ลูกแก้วเมียขวัญ คือความสุขอันแท้จริงของมนุษย์\"





อันนี้จำจากโฆษณาผงซักฟอกเปาบุ้นจิ้นเมื่อยี่สิบกว่าปีมาแล้วจ้า...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 214

iAsa

01/10/2009 11:18:51
0
คุณ Sprigan ไม่อยากจะให้หาว่ากระแดะเลย = =\" แต่มันเป็นความเคยชินค่ะ เช้าทำงานที่แทบไม่ได้ใช้ภาษาไทยเลย (ยกเว้นเมาท์กับเพื่อนข้างๆ) ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมาพักนึงจนชิน เรียกได้ว่ากลับมาไทยแล้วได้ยินเสียงรอบตัวเป็นภาษาไทยแล้วตื่นเต้น ถึงจะกลับมาสองปีแล้ว แต่มันก็ยังติด เพราะทงานสายที่ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาไทยค่ะ

การศึกษาถึงแม้จะเรียนไทยมาจนถึงป.ตรี แต่ว่า ก็มีเหตุให้ต้องสลับภาษาเป็นช่วงๆ ชีวิตต้องใช้ภาษาสลับกันค่อนข้างบ่อยมากค่ะ ขนาดชื่อนามสกุลเต็ม ยังเป็นไทยคำฝรั่งคำเลย 555 ถ้าฟังแล้วขัดใจต้องขออภัย ณ ที่นี้

จริงๆคือพยายามแก้มาพักใหญ่แล้วค่ะ ไม่ใช่ไม่พยายามเลย ตอนกลับมาแรกๆนี่.... 555 แต่พูดชัดนะคะ ไม่มีสำเนียงพิกลๆ!! ภาษาอังกฤษต่างหากที่ไม่ชัด เพราะ จะเมกาก็ไม่ใช่ จะอังกฤษก็พิกลๆ แถมเหน่อๆไปทางสแกนอีกตาหาก

คุณ ryder2000 พัดๆๆๆ เช้าไม่ได้คิดว่าพี่นะคะ บอกแล้ว แลกเปลี่ยนความคิดเห็นๆ แต่เห็นด้วยกับพี่วิเชียรว่า ในนี้ผู้หญิงน้อย ถ้ามีผู้หญิงมากกว่านี้ อาจจะมีผู้หญิงที่ไม่เห็นด้วยกับเช้าก็ได้ ^^!!

คุณเฮียมั่นคง! \"ลูกแก้วเมียขวัญ คือความสุขอันแท้จริงของมนุษย์\"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 215

Sprigan

01/10/2009 11:32:37
0
จ้าขอโทดนะ

ผมไม่ได้ว่าคุณเช้าน้า...

สงสัยผมติดนิสัยที่มหาลัยมาน่ะครับ...

คุณเช้าก็เป็นเหมือนพริตตี้ประจำบอร์ดไปแล้วน้าเนี้ย 555+++

มีไรก็คุยกันขำๆครับคนกันเอง เนอะ !

ปล. เฮียครับยี่สิบกว่าปีมาแล้วผมทำอะไรอยู่เนี่ย แต่ผมไม่เคยดูโฆษณานี่เลยแฮะ ตอนนี้ก็ยังวัยรุ่นอยู่เล๊ย 555++
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 216

iAsa

01/10/2009 11:37:23
0
555 มิเป็นไร มีไรก็เล่าให้กันฟังค่ะ ส่วนพริตตี้ก็เกินไป๊~~ ไม่มีปัญหาค่ะ ยังไงขำๆกันอยู่แล้ว ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 217

Uthen

01/10/2009 11:38:48
0
เฮียครับ
ขอเพิ่มพ่อแก้วแม่แก้วด้วยได้มั๊ยครับ.... 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 218

Uthen

01/10/2009 11:40:01
0
ชอบ ลูกแก้ว เมียขวัญมากครับ
ใครแต่งงานมีลูกแล้วนี่คือคำตอบของครอบครัวเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 219

Uthen

01/10/2009 11:40:37
0
ชอบ ลูกแก้ว เมียขวัญมากครับ
ใครแต่งงานมีลูกแล้วนี่คือคำตอบของครอบครัวเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 220

iAsa

01/10/2009 12:52:35
0
อ้าว ข้อความขาดเพิ่งเห็น

คุณเฮียมั่นคง! \"ลูกแก้วเมียขวัญ คือความสุขอันแท้จริงของมนุษย์\"

จริงมากๆค่ะ ใครมีได้นี่โชคดีสุดๆเลย ตอนนี้ยังไม่มีเมีย เอ้ย สามี เลยขอพยายามทำตัวเป็นลูกแก้วก่อน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 221

นายมั่นคง

01/10/2009 14:06:59
0
555 ลูกแก้วเมียขวัญน่ะไพเราะดีแล้ว


ถ้าเป็น พ่อแก้ว แม่แก้ว ผมว่ามันเสียวไส้ชอบกล เดี๋ยวจะค้นว่ามันมีที่มาอย่างไร....



แต่ถ้าแปลเป็นว่า พ่อแก้วนึง แม่แก้วนึง ลูกก็เมาตายกันพอดี 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 222

nopphong

01/10/2009 14:10:08
4
ไม่อยากไปคุยในบอร์ดใหญ่ๆอย่างพันธทิพย์ครับ เพราะเกรียนมันเยอะ คุยกันไปคุยกันมาจากเหตุผลจะกลายเป็นอารมณ์ อยู่ในนี้ก็ถือว่าคุยกับคนรสนิยมใกล้เคียงกัน พอเป็นกระสาย คุยกันสนุกๆ
เพราะรู้อยู่แล้วว่า คุยจบก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับสังคมได้ คนที่ยังคิดจะขายก็ขายกันต่อไป คนที่คิดว่าสินสอดแพงๆแสดงว่าดีก็ยังคิดเหมือนเดิม คนที่กลางๆก็เหมือนเดิม คนคิดจะชักดาบไม่จ่ายก็มีเยอะเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ

แค่เอามาคุยให้รู้กันว่า คนเราคิดไม่เหมือนกันนะ ที่เขาคิดแบบนี้ๆเพราะเหตุผลนี้ๆ เวลาเจอเหตุการณ์จะได้เข้าใจซึ่งกันและกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 223

nopphong

01/10/2009 14:16:09
4
จะว่าไปเหตุผลแต่ละท่านก็ดีนะครับ
แต่ยังขาดเหตุผลด้านสุดโต่งที่คนไทยจำนวนมากนิยมทำกัน คือสินสอดเรียกแพงๆแล้วยึดหมด อ้างว่าเป็นค่าเลี้ยงดูเจ้าสาว ผมสงสัยในแนวความคิดนี้มาก คือคิดแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อที่เลี้ยงมาน่ะก็ลูกสาวตัวเอง แต่พอจะแต่งดันมาเก็บค่าเลี้ยงจากเจ้าบ่าวเนี่ยนะ แบบนี้ไม่เรียกว่าขายก็นึกคำเรียกอย่างอื่นไม่ออกนะครับ มันเหมือนเลี้ยงๆมาพอโตก็เก็บตังจากคนมาซื้อ น่ะครับ

ท่านใดพอจะหาเหตุผลมาชี้แจงประเด็นในเหตุการณ์แบบนี้ได้ไหมครับ (ตัดประเด็น ให้แล้วคืน ให้เป็นพิธี หรือให้แล้วเก็บไว้ให้ลูกสาว ทิ้งหมดนะครับ เอาเฉพาะให้แล้วเก็บเรียบเท่านั้น)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 224

bankhalkdown

01/10/2009 15:30:03
0
มันไม่สุดโต่งหรอกครับ ก็อย่างที่เคยบอกครับ

เรื่องประเพณีและวัฒนธรรมมีพื้นฐานที่ดีมาอยู่แล้วครับ

และสินสอดไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทยนะครับ

หลายประเทศในเอเชียก็มี ที่ญี่ปุ่น อินเดีย ตุรกี อัฟกานิสถาน

พวกประเทศแถบตะวันออกกลาง มุสลิม ก็มักจะมีประเพณีนี้ครับ

แต่บางประเทศเขาอาจจะดูเหมือนสุดโต่งว่าเราอีก คือให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายให้สินสอดผู้ชาย

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสุดโต่งหรอกครับ แต่ที่มันจะสุดโต่งก็เพราะ

คนเรียกนั้นแล ^^ เรียกซะสุดโต่งเลย อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 225

bankhalkdown

01/10/2009 15:42:42
0
และเรื่องพวกนี้ผมว่ามันไม่มีใครผิดหรอกครับ

การแสดงความคิดเห็นก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ ที่จะแตกต่างกัน

บางทีเรามาจากคนละครอบครัว การเลี้ยงดูรวมถึงสังคมก็แตกต่างกัน

แต่คนที่ถูกเลี้ยงดูต่างกันก็ใช่ว่าเป็นคนไม่ดีใช่ไหมครับ

ขอเพียงแต่การแสดงความคิดเห็น

อยู่ในกรอบไม่เกินเลยกันก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคิดเหมือนกันหมดนี่สิแปลก

ผมว่าดีด้วยซ้ำที่มีประเด็นแบบนี้มา บอร์ดจะได้ไม่เงียบบวกกับจะได้

แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดกันด้วยครับ แต่ประเด็นนี้ผมว่าถ้าสาวให้ยาวต่อไป

ก็ไม่มีทางจบหรอกครับ เพราะเราต่างก็คิดในมุมมองของเราอยู่แล้ว

อย่างบอร์ดนี้ผู้ชายเยอะ มุมมองผู้ชายส่วนใหญ่เรื่องสินสอดก็มักจะเป็นในแง่ลบอยู่แล้ว

เหตุผลคงไม่ต้องบอกนะครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 226

ryder2000

01/10/2009 16:31:04
0
คุณพี่ nopphong เขาไม่ได้เรียกว่าขาย ถ้าวงการพระเครื่องเขาเรียกว่า เช่า ส่วนผมของเรียกว่าค่าดูแล ถ้าเราไปคิดในอีกด้าน แม่ยายแกอาจกลัวแก่ไปไม่มีใครดูแลเลยต้องปลอดภัยไว้ก่อน มันเปนรื่องของความมั่นคงในชีวิตด้วย (ความรักมันจับต้องไม่ได้ เงินสิแน่นอน)(มีเงินนับเปนน้อง มีทองนับเปนพี่ มีทั้งเงินทั้งทองเขาถึงให้เปนลูกเขย)
ปล ถามคุณเช้าหน่อยจากความเห็นที่ร้อยแปดสิบ คำว่าจน มันไม่ใช่ฐานะหรือ (ฐานะร่ำรวยหรือฐานะยากจน)
ส่วนที่ว่าเพื่อนผมเลือกแฟน ผมว่าไม่ใช่เขากล้าหาญพอที่จะพิสูจน์ให้พ่อแม่เขาเห็นต่างหากว่า แฟนเขาดีจิง เพราะเขาไม่ได้ตัดพ่อลูกกันนะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 227

Sprigan

01/10/2009 17:00:42
0
เรื่องนี้ย้าวยาว......

พี่ nopphong แล้วถ้าเก็บส่วนนึงแล้วคืนส่วนนึงล่ะ 555+++(ผมยังไม่รู้ว่าแม่ยายผมจะคืนมั้ย)

คือผมว่าอย่างงี้พี่ต้องไปว่าตัวแม่ยายแล้วล่ะครับ(เพราะส่วนมากที่เห็นเค้าก็คืนกัน)

เหมือนคนที่มีอำนาจอยู่ในมือจะเลือกใช้มันในทางไหนมากกว่า ว่าจะทำให้สินสอดเป็นประเพณีที่ดีงามหรือเป็นหนทางรวยโดยใช้ลูกเป็นเครื่องมือ^^

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 228

Uthen

01/10/2009 17:07:38
0
ไม่อยากเสียสินสอดไม่หาเช่าเอาล่ะคร้าบ....บ

ล้อเล่นนะ เมียมาเห็นคงบ้านแตก อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 229

iAsa

01/10/2009 17:47:58
0
คุณ ryder2000 เช้าคงอธิบายข้างบนไม่เคลียเองค่ะ

ฐานะต่างกัน = ไม่วาจะเป็นการเงิน หรือสังคม

ฐานะทางการเงิน ต่างกัน คือ รวยกับจน
ฐานะทางสังคม ก็อีกเรื่องนึง คิดว่าน่าจะเข้าใจนะคะ ไม่อยากอธิบายยาว เดี๋ยวโดนโบก ตรงนี้ไม่ใช่ว่าคุณหญิงคุณนายรวยๆอย่างเดียวถึงจะอยู่ในฐานะสังคมสูงได้นะคะ ฐานะทางสังคมสูงแต่เงินไม่มากก็มีค่ะ ตรงนี้มันส่งผลถึงการอบรมเลี้ยงดู เหมือนกริยาส่อสกุล ทำนองนั้น บางคนไม่ได้รวยเลย แต่การพูดการจา มารยาทต่างๆนานา แค่มองก็รู้แล้วว่าถูกอบรมมาดีเป็นต้น!

ถ้าพูดในฐานะของเช้า คือทั้งสองอย่าง ก็เท่านั้นค่ะ นึกว่าจะเข้าใจกัน แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ตามนี้ค่ะ ขออภัยๆ

\"ส่วนที่ว่าเพื่อนผมเลือกแฟน ผมว่าไม่ใช่เขากล้าหาญพอที่จะพิสูจน์ให้พ่อแม่เขาเห็นต่างหากว่า แฟนเขาดีจิง เพราะเขาไม่ได้ตัดพ่อลูกกันนะ \"

ถึงไม่ได้ตัดพ่อตัดลูก แต่ก็อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจใช่มั้ยคะ? กว่าที่เค้าจะยอมรับได้ คงต้องคิดมาก หรือน้อยใจไม่ใช่น้อยละค่ะ ถึงบอกไงคะ เค้าลงทุนด้วยความรู้สึกของพ่อแม่ แต่มันก็คุ้มในแบบของเค้า ผลก็ไม่ได้ผิดหรอกค่ะ อาจจะถูกต้องก็ได้ ถ้าได้ในสิ่งที่เค้าต้องการ

แต่สำหรับเรา มันไม่คุ้มไง เรา happy มากกว่าที่พ่อแม่เราจะสบายใจ เราก็ไม่ได้เป็นคนดีเด่มากนัก ถ้าเลิกกับคนที่พ่อแม่ไม่ชอบไป แฟนเราย่อมหาผู้หญิงๆ ดีได้มากกว่าเราแน่นอน (เพราะอย่างน้อยคนที่เราเคยคบหรือคบด้วย ก็ต้องเป็นคนที่จัดว่านิสัยใช้ได้ระดับนึงเลยทีเดียว)แต่พ่อกับแม่เรา ถ้าเราทำเสียใจ เค้าก็มีลูกแค่คนเดียวค่ะ คือเรา ถ้าเค้าจะคิดมากเพราะเรา เค้าก็ไม่มีพี่น้องคนอื่นไปเผื่อให้สบายใจ 5555

คุณ Ryder2000 คงไม่ใช่คนคิดมากแหละค่ะ แต่พ่อแม่เช้าละคิดม๊ากมาก มากแบบว่า โทรไม่รับซักสามที นี่เดินกันพื้นบ้านสึก 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 230

Bank

01/10/2009 17:50:34
0
ว่าร่ายยาวไปเสียตั้งนาน แต่ว่า หลังจากที่คุยกับน้องสาวผมวันนี้
ได้ความมาว่าพ่อผม ก็จะตกสินสอดน้องผม ที่ 200K เช่นกันครับ
หลังจากที่คุยกันไป ก็ได้แง่คิดหลายแบบในมุมมองของแต่ละคนครับ
(น้องสาวกับผมนะครับ)

สรุปแล้วได้ใจความว่า เงินไม่ได้เป็นของสำคัญ
แต่อยู่ที่ความตั้งใจของฝ่ายชายมากกว่าครับผม คือเหมือนการทดสอบความ
ตั้งใจพอหลังที่จากให้แล้วก็คืนกลับประมาณนั้นครับ (ครอบครัวผมนะคนอื่นไม่รู้ครับ)
เพราะว่าถ้าไม่มีอย่างที่ว่า คนที่เป็นพ่อแม่ก็คงกลัวลูกสาวลำบากครับ
อย่างที่คุณเช้า เคยบอก \"ลูกสาวคนเดียวพ่อเลี้ยงได้\" แบบนี้เลยครับ
แต่ผมก็ไม่ได้ว่าคนไม่มีเงินเป็นคนไม่ดี พูดง่ายๆ เป็นการทดสอบความตั้งใจประมาณนั้นครับ
แต่บางคนก็ลำบากกว่าจะหามาได้

ปล.คุณ Ryder2000 จะให้ผมเป็นพระเอกเลยหรอ อิอิอิ (ขำๆ นะครับ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 231

mOOz

01/10/2009 17:54:28
0
ยายผมคืนสินสอดให้พ่อผมนะคับ หลังจากแต่งเสร็จแล้ว ยายบอกผมว่าเอาไปงั้นๆแหละ ตามธรรมเนียม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 232

Uthen

01/10/2009 18:00:02
0
ผมก็ว่าส่วนใหญ่แหละที่คืนครับ ยกเว้นเสียแต่เจอลูกหมั่นใส้ประมาณนั้น พ่อแม่ใครก็อยากให้ลูกสบายกันทั้งนั้นแหละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 233

nopphong

01/10/2009 20:35:00
4
สงสัยผมเจอลูกหมั่นใส่เข้าเต็มๆนะครับ ฮ่าๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 234

นายมั่นคง

01/10/2009 22:14:47
0
เรื่องคืนสินสอดนี่ ส่วนมากมีหลายแบบจริงๆๆ

คืนหมดผมก็เคยเห็น

คือหน่อยเดียวผมก็เคยเจอ

คืนครึ่งหนึ่งก็เห็นมาเยอะ

ไม่คืนเลยก็เจอมาเหมือนกัน

ไม่คืนและบอกว่าไม่พอกลางงานก็เคยเห็น


555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 235

Uthen

01/10/2009 22:21:49
0
ผมว่ามีเรื่องที่น่าเสียดายเงินกว่าค่าสินสอดตั้งเยอะที่ผ่านมาในชีวิตครับ เรายังเฉยๆยอมรับมันเลย
สินสอดทำให้คนตั้งหลายคนสบายใจและยินดี....ทำไมถึงเสียดายกันนัก..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 236

ryder2000

01/10/2009 22:22:48
0
อย่างนั้นผมยกต่ำแหน่งลูกดีเด่นแห่งปีให้เลยคับ ผมว่าแล้วทำไหมเขาถึงอยากได้ลูกสาวกัน ถ้าได้ลูกสาวคิดดี ได้อย่างคุณเช้า ผมดีใจแทนพ่อแม่คุณเช้าจิงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 237

Uthen

01/10/2009 22:25:14
0
^^^ ผมก็อยากได้ลูกสาว ลูกชายซนเป็นลิงเลยครับ โตขึ้นจะซุกซนป่าวไม่รู้
มีลูกสาวเหมือนได้เพื่อนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 238

iAsa

02/10/2009 10:04:51
0
โอ้ย คุณ ryder2000 เช้าอะ ทำคุณพ่อคุณแม่เสียใจมาเยอะค่ะ เลยรู้ว่าทำแล้ว เราเองรู้สึกแย่ขนาดไหน เช้าดื้อมากๆๆๆๆๆๆ ตั้งแต่เด็ก แต่ประสบการมันสั่งสมให้เราค่อยๆคิดได้ทีละนิดๆห่นะค่ะ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 239

Bank

02/10/2009 11:19:08
0
แต่บางที ถ้าเราไม่ทำในสิ่งที่แย่ก่อน เราก็คงไม่รู้ว่าสิ่งไหนดี หรือ ไม่ดี รึเปล่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 240

ryder2000

02/10/2009 15:09:11
0
อย่างนี้นี้เอง คุณ bank ที่ขอเรียกว่าผิดเปนครูหรือเปล่าคับ มิน่าละประเทศไทย เรียกมีคุณครูเยอะเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 241

ryder2000

02/10/2009 15:10:04
0
แก้คับ มิน่าละประเทศไทย เลยมีคุณครูเยอะเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 242

iAsa

02/10/2009 15:25:49
0
5555 ขำคำว่าผิดเป็นครูมาก

สองเดือนก่อน เคยประชุมกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในบริษัทค่ะ ท่านบอกว่า

\"ใครบอกว่าผิดเป็นครู ไหน! ใครบอกผิดเป็นครู เดี๋ยวด่าเลย ผิดๆๆๆๆๆๆ\" (เสียงดังมาก)

\"ต้องผิดแล้วแก้ให้ถูกก่อนถึงเป็นครูได้ ขืนผิดเป็นครู ก็เจ้งตายหะหมด\"

5555 ยิ้มกันทั้งห้องประชุมค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 243

Bank

02/10/2009 15:26:12
0
555+ ประสบการณ์มันสอนเราให้รุ้จักความผิดพลาดล่ะครับ แล้วเราจะรุ้ครับ ว่าอะไรถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 244

พูดเล่น

12/12/2009 23:06:30



เขาหมายถึงเอาประสบการณ์ความผิดพลาดมาเป็นครูสอนเรา ส่วนที่ว่า ต้องผิดแล้วแก้ให้ถูกก่อนถึงเป็นครูได้ นั่นมันแปลความหมายของสำนวนไม่ออก ขืนผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในบริษัทแปลสำนวนแบบนี้ ก็เจ๊งตายหะหมด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 245

Tidal

13/12/2009 00:19:06
ฮ่าๆๆ ถึงจะเป็นกระทู้ขุดมาแต่เข้มข้นครับ เป็นอาหารยามดึกที่แสนเลิศรส

คุณ nopphong ครับ ผมว่า pantip ก็ไม่ได้เกรียนขนาดนั้นนะ ผมว่าสมควรจะถามที่ห้องสยาม และอาจพ่วงห้องอื่นๆเข้าไปด้วยตามแต่เห็นสมควร แล้วท่านจะได้แชร์ไอเดียมากพอสมควรเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 246

JFK6

13/12/2009 09:05:26
2
เราคงไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรักอย่างเดียวเสียแล้ว
ถ้าให้ความสำคัญกับสิ่งรอบข้างมากเกินความรัก ความสุขที่แท้จริงจะอยู่ที่ไหน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 247

ใจ

14/12/2009 19:11:24



ใจ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 248

โอ่ง

14/12/2009 20:22:20
0
เว็บนี้ มันส์ จริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 249

ryder2000

14/12/2009 20:28:17
0
กลับมาได้ไง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 250

mkk

23/02/2010 19:40:04
แม่ยายผมก็เช่นกันกลุ้มอยู่เนี่ย เป็นคนทางเหนือโน้น เค้าบอกให้หาเงินให้ได้ตามที่ขอหลักแสนเหมือนกันเลย ไอ้เราก็ยิ่งแย่ด้วยช่วงนี้น่ะ ไม่รู้จะทำไงหาได้มันก็อาจจได้หรอกแต่กลัวไม่พอ

ถามครับ
คนทางเหนือนี่หน้าเงินเหมือนแม่ยายผมป่าว ผมไม่ได้เล่าหมดนะแต่สรุปมาให้ฟังก็ประมาณว่าไม่ยอมท่าเดียวจะเอาให้ได้ๆทั้งๆที่ลูกสาวเค้าก็รักกับผมนะ แต่เค้าบอกว่าต้องราคานี้เท่านั้น

ถ้าอยู่ๆกันไปแม่เค้าดูเหมือนจะสั่งลูกสาวเค้าได้ประมาณนั้น ไอ้แฟนเราแม่บอกไรก็ยอมๆ เหมือนถ้าเค้าบอกให้เลิกกะเราก็คงจะต้องยอมประมาณนั้น

ผมควรจะแต่งดีมั้ยอ่ะ รักก็รักหรอกนะแต่มันรู้สึกเหมือนว่าเค้าคุยกันแม่ลูกค้าเค้าถูกคอกันสองคน ไอ้ผมนี่สิแต่งแล้วไม่ีรู้จะโดนเค้าิทิ้งป่าวนะ

จะวัดใจลูกสาวเค้ายังไงดีว่ารักเราไอ้ผมก็รักนะแต่ตอนนี้ความรู้สึกโดยรวมมันบอกว่าถ้าผมไม่มีเงินเค้าจะยังไงกะผม และรู้สึกเหมือนผมต้องคอยเอาใจทั้งแม่ทั้งลูกไปตลอด ไอ้ยอมแฟนน่ะผมพอได้ แต่แม่ยายรู้สึกจะไม่ค่อยอยากยอมอ่ะ เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยน่านับถือในเรื่องหน้าเลือด แต่ก็พอเข้าใจนะแต่ไม่ค่อยจะถูกใจซักเท่าไร
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 251

butterzai_too

23/02/2010 19:46:03
0
เข้ามาศึกษาคับ

แฟน แต่งงาน โอ้ย อีกไกล

ดูไว้ก่อน ไม่เสียหาย หุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 252

ยาจก

23/02/2010 20:35:39
บอกไปแม่ผมก็เลี้ยงผมมาด้วยนมแม่เหมือนกัน

ขอค่าน้ำนมให้แม่ผมด้วย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 253

เก๊กซิม

24/02/2010 00:26:28
0
เพิ่งมาเจอกระทู้ มันส์มากขอบอก

แต่ในความคิดของเก๊กซิมแล้ว จะไม่ได้เอาเรื่องเงินมาเป็นประเด็นนะคะ

ก่อนที่คนเราจะตกลงปลงใจ แต่งงานกัน ก่อนที่จะมาตันกันอยู่ที่เรื่องเงิน

เราเริ่มที่ความสัมพันธ์ไม่ใช่เหรอคะ

ถ้าคุณเป็นผู้ชาย ... ตลอดเวลาที่คบกัน คุณซื่อสัตย์? ให้เกียรติ? ขยันอดทน? เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวของฝ่ายหญิงหรือเปล่า

และถ้าคุณเป็นผู้หญิง ... ตลอดเวลาที่คบกัน คุณซื่อสัตย์? ให้เกียรติ? สนับสนุน? เข้าใจ? และเป็นคนมี

มนุษยสัมพันธ์ดีกับคนในครอบครัวฝ่ายชายหรือเปล่า

ถ้าต่างฝ่าย ต่างมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับเรื่องสินสอด เพราะสามารถพูดคุยกันได้ เหมือนกับคน

ในครอบครัวที่อลุ้มอล่วยกันได้นี่คะ

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น และเกิดขึ้นมากในปัจจุบันนี้ เป็นเพราะ เวลาคบกัน ก็คบกันแค่ 2 คน ครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย

แทบไม่ได้รับรู้ความเป็นมาเป็นไป นิสัยใจคอของแต่ละฝ่าย ก็เป็นธรรมดาที่จะไม่มีความเอ็นดูที่ผู้ใหญ่พึงจะมี

ให้กับเด็ก เพราะไม่รู้จักกันมากนัก สุดท้ายก็มาตันกันอยู่แค่เรื่องเงินเป็นธรรมดา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 254

เก๊กซิม

24/02/2010 00:34:07
0
เค้าถึงบอกว่า \" เข้าตามตรอก ออกตามประตู \" ไงคะ

ใช้ได้ทั้ง 2 ฝ่าย เป็นผลดีเพราะครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย จะได้มีโอกาสศึกษานิสัยใจคอ และทำความคุ้นเคยกัน

เคยได้ยินไหม๊คะ บางบ้านรักลูกเขยมากกว่าลูกตัวซะอีก ก็เพราะเหตุนี้ ถ้าทำให้เค้ารักได้ ปัญหาเรื่องสินสอด

ก็คงไม่มี ....

ที่ว่าไม่มีนี่ไม่ใช่ว่าไม่ต้องเสียนะคะ (บางคนอาจไม่ต้องเสียจริงๆ ค่ะ) แต่เราสามารถคุยกันได้ ปรึกษากันได้

ว่าเรามีกำลังเท่าไหร่ สามารถให้ได้เท่าไหร่ และส่วนมากถ้าผู้ใหญ่มีความรักความเอ็นดู ท่านก็จะคืนให้ในวันแต่งค่ะ

และยังมีเบิ้นแถมให้อีกด้วย เป็นเงินขวัญถุงไว่สร้างครอบครัวค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 255

ryder2000

24/02/2010 15:46:02
0
มีแม่ยายดีสบายไปแปดอย่าง แต่ถ้าแม่ยายไม่ดีชีวิตครอบครัวคุณล้มเอาง่ายๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 256

พระกาฬยาจก

24/02/2010 18:38:57
พาหนีไปเลยยยย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 257

burst

25/02/2010 00:39:31
2
ของผมเพิ่งไปจดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 ที่ผ่านมานี่เองครับ ไม่ได้จัดงานอะไรเลย ไปจดกันเฉยๆ แล้วก็พาผู้ใหญ่สองฝ่ายมาทานอาหารด้วยกัน...จบ หมดเงินไปก็ไม่กี่ตังค์ครับ เพราะรักกันมาเข้าปีที่ 10 แล้ว โตๆ กันแล้วน่ะครับ เลยไม่มีปัญหาเรื่องค่าสินสอดเหมือนคนอื่น

หากทุกฝ่ายคิดได้ จะสิ้นเปลืองกันไปทำไมครับ ผมเห็นมาเยอะแล้ว ระดับขอพระราชทานน้ำสังข์ จัดงาน 7 หลัก ยังหย่ากันในเวลาต่อมาไม่นานเลย อนิจจัง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 258

Close_Up

25/02/2010 01:24:13
0
สนับสนุน ท่าน พระกาฬยาจก ครับ พาหนีไปเลย 555 ล้อเล่นๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 259

Close_Up

25/02/2010 01:28:37
0
ผมเชื่อว่ามีพี่ๆบางท่าน ยอมเสียสินสอดเป็นหมื่นเพื่อหูฟังตัวเดียว แต่คนทั้งคนแต่งมาอยู่กับเรา พ่อแม่เค้าคงเสียใจบ้างแหละ ถือซะว่าเป็นค่าทำขวัญนะท่าน ถือว่าเมียเป็น Ampบ้าน ตัวนึง มี Line in , Line Out เอาแจ็คเข้าแจ็คออกได้ บางรุ่นรับแจ็คใหญ่ได้ด้วย 555 อย่าคิดลึกๆ 55555555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 260

พระกาฬยาจก

25/02/2010 19:39:21
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรักและความเข้าใจของคนสองคนครับ

แม้อุปสรรค์ยากเย็นเพียงใด

ผมว่าถ้า พี่ยังรักเค้าอยู่ และเค้าก็ศรัทธาในตัวพี่

แค่นี้ผมว่าอุปสรรคใดๆก็มาขวางไม่ได้ครับ



อย่าลืมครับ \\\\\\\"เมียซื้อสด รถซื้อผ่อน\\\\\\\"

มีปัญหาเรื่องการเงิน ปรึกษาได้ที่


\\\\\\\"\\\\\\\"\\\\\\\"\\\\\\\"มั่นคง ลิซซิ่ง\\\\\\\"\\\\\\\"\\\\\\\"\\\\\\\"

55++
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 261

gearsolid

12/03/2010 14:17:11
0
ผมเป็นวิศวกร ของผมโดนเรียก 50,0000 สะอึกไปเลย มีแค่ 200,000 แม่ยายกับพี่สาวแฟน บอกไม่ให้เกียรติ แถมแนะนำให้ไปกู้มา อยากได้หน้าได้ตา โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าลูกสาวท่านแต่งไปแล้วต้องมาช่วยกันใช้หนี้ ไม่รู้เอาอะไรมาวัดว่าเงินห้าแสน มันจะช่วยให้ลูกสาวเค้าอยู่อย่างมีความสุขได้ ตอนนี้ก็เลยบอก รอก่อนแล้วกันยังไม่มีตังส์

***ประเพณีเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยด้วยนะครับ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่คนสองคนรักกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันให้มีความสุขอย่างพอเพียง***
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 262

navapang

12/03/2010 14:20:48
0
เหตุการ์ณอย่างงี้ ต้อวงดูที่ พ่อ แม่ ภรรยาครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 263

Acidstudio

12/03/2010 14:43:36
0
เอ่อ คิดหนักมากเหมือนกันครับเรื่องนี้ เฮ้อ............ขยันหาเงินกันต่อไป
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 264

kayo98

12/03/2010 15:35:54
0
ตอนน้องสาวผมกำลังจะแต่ง ผมบอกเรียกไปเล๊ย 2 ล้าน ทอง 10 บาท

น้องสาวกระโดดดร๊อปคิ๊กสองขาคู่ครับ บอกว่า \"มึงก่ะจะให้น้องมึงขึ้นคานยันแก่เลยใช่ม่ะ

สุดท้ายเรียกแค่ 200000 ครับ แล้วแม่ผมก็ไม่ใด้สักบาทด้วย แค่เรียกเป็นพิธี สุดท้าย

ก็ให้บ่าวสาวใว้เป็นเงินเก็บต่อไป


ส่วนตัวผม ไม่แต่งครับ ยังไงก็ไม่มีปัญญาหาเงิน ขนาดนั้นใด้ ให้ไปกู้เงินเพื่อหน้าเพื่อตา

ฝ่ายหญิง ไม่เอาล่ะ ชีวิตนี้ขอเก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วโดดบันจี้จัมป์ ให้หัวใจวาย

ตายดีกว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 265

husban

12/03/2010 15:45:13
เพิ่งผ่านมาเหมือนกันสู้ๆๆครับ
โดน ไป 200,000 ทอง 10 + แหวนเพชร เม็ดเท่าขี้ตา
แม่ยายก็คืนครับ หลังหักค่าใช้จ่าย .......

ปัจจุบัน ชำระหนี้ตามกฏหมายต่อไป-*-

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 266

Kai

12/03/2010 21:45:33
2
ผมเพิ่งได้เข้ามาอ่านแบบจริงๆจังๆ

นั่งอ่านกับคนข้างๆ พออ่านจบแล้ว ได้แต่หันมาอมยิ้มพร้อมกัน

และคิดในใจดังๆว่า \"โชคดีแท้กรู...\"

ผมมีคนที่ผมรัก และมีคนที่รักผม โดยที่ไม่สนใจเรื่องอื่นใดๆเลย

นอกจาก \"ความรัก ความห่วงใย และความเข้าใจ ต่อกันทุกวัน\"

ไม่มีเงิน ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน แต่ \\\"มีความสุข\\\" ครับ

และไม่เคยได้ยินคำว่าลำบากครับ (ได้ยินแต่คำว่า ยากแค้น..555)

แต่ไปไหนก็จะติดกันยังกะสายหูฟังไปตลอด


จริงๆกะว่าจะไม่โพสท์ต่อ กะอ่านอย่างเดียว

แต่อ่านแล้วก็ได้เห็นมุมมองอะไรมากมายเลยครับ นอกจาก \"สิเรียม\"

สงสัยจะโดนด่าแน่ๆเลยกรู..5555

แต่ช่างมัน เพราะคนอย่างผมมันไปไกลเกินคำว่าเสียคนแล้วหล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 267

Montri

12/03/2010 21:53:56
1
มันมองหลายด้านนะผมว่า ผมเองเห็นเขาเรียกมา คิดว่าคงจะไปกู้มาแหละครับ ได้คืนเท่าไหร่ก็ใช้หนี้กันไป
บางทีก็มองมุมกลับนิดนึง ว่าลูกเค้าเลี้ยงมาก็เสียหลายอยู่เราก็น่าแสดงตัวหน่อยว่า เราหาเงินมาให้เขาดูได้
ก็พอเป็นหลักประกันว่าต่อๆ ไปเราก็เลี้ยงเขาได้ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน มั้งนะผมว่า อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดี
แต่สำหรับผมก็ดีกว่าอยู่แบบไม่แต่งอย่างน้อยมีลูกได้บอกลูกเราได้ว่าตอนเราแต่งงานความรู้สึกมันเป็นยังไง
ก็มุมมองใครมุมมองมันล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 268

Kai

12/03/2010 22:17:02
2



ตอนนี้ ไม่มีอะไรเลย และไม่อายใครด้วยเน้อ

ยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีตังค์ (มันน่าอวดตรงไหนเนี่ย)

แต่ความสุขนี่มันวัดออกมายากจริงๆครับ

ตอนนี้ก็ได้แต่พากันตะลอนตะลอนเที่ยวไปทั่วเลย



เฮียครับ....

****ถ้าเฮียได้เข้ามาอ่าน ผมขอถือโอกาส เอารูปมาฝากตามสัญญาเลยก็แล้วกันครับ****

ยังไม่ลืมครับเฮีย ถ้าเฮียได้ไปด้วยพร้อมกัน คงฮาขี้แตกเลยหล่ะครับ

ปล.1 ไม่ได้เอารูปมาอวดเน้อพี่น้อง ผองเพื่อน..เพราะไม่มีอะไรให้อวดหล่ะคร้าบบ สำหรับผม
แต่มันมีความสุขจริงๆครับเวลาที่เราปล่อยวางทุกอย่าง แล้วออกเดินทางไปตามทางของเรา

ความคิดผมอาจจะสุดติ่งไปนิด แต่ มันก็สุขหล่ะครับที่ได้คิด ได้ทำมัน..

ปล.2 น่ารักน่าชังจริงๆเลยกรู

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 269

tuta

12/03/2010 22:22:22
0
คุณ Kai เกือบจะได้คะแนนเต็ม10จากผมอยู่แล้ว..เชียว

ขอตัดคะแนนนิดหนึ่งตรง \" สิเรียม \" นี้แหละจะพาออกเที่ยวทะเลอยู่เรื่อย....555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 270

Montri

12/03/2010 22:28:44
1
เห็นด้วยกับท่านบน เหอะๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 271

นายมั่นคง

12/03/2010 22:35:20
4,282
ผมเจอคุณไก่ตัวเป็นๆๆ กำลังสิเรียมอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์ เอ๊ย ไม่ใช่ๆๆ กำลังเดินเล่นอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์


ผมคอนเฟิมว่าเรื่องคนรักแฟน ไม่มีใครเกินคุณไก่ เพราะจำได้ว่า วันนั้นคุยกันไปพักนึง คุณไก่บอกว่า เฮียครับ เฮียช่วยเดินลงไปชั้นสองหน่อยครับ แฟนผมเค้าอยากเห็นเฮียตัวเป็นๆๆ

ผมรีบวิ่งลงบันไดไป ในใจก็แอบดีใจว่ามีคนอยากรู้จักตูด้วยหรือเนี่ย 555


ก็สวัสดีทักทายว่าที่ศาลสูงสุดในบ้านคุณไก่ในอนาคต......จำได้ว่าท่าทางที่คุณไก่กุลีกุจอ เอาอกเอาใจแฟน เห็นแล้วน่ารักน่าอิจฉาจริงๆๆ

คอนเฟิมว่า คู่นี้เค้ารักกันมากๆๆๆ จริงๆๆ ครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 272

Kai

12/03/2010 22:37:28
2
เพราะสิเรียมนี่แหล่ะน้า...โดนหักคะแนนเลยผม 5555

หนีไม่พ้นสักที... ท่าจะบ้าไม่เลิกแฮ่ะ

นี่ถ้าผมได้รู้จักพี่tuta เร็วกว่านี้หน่อย ผมคงเที่ยวเชียงใหม่สนุกกว่านี้แน่ๆเลย...555

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 273

Kai

12/03/2010 22:41:17
2
เฮียมาเร็วเกินคาดแฮ่ะ.. เฮียรู้ไหมครับ ตอนนี้ศาลสูงสุดในบ้านของผม ก็คลั่งเฮียไม่แพ้ผมหล่ะ..

5555...ว่าผมเอาไว้เยอะ เลยเข้าตัวเลยทีนี้..สะใจดีแท้แม่คุณ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 274

นายมั่นคง

12/03/2010 22:50:20
4,282
ข้าฯแต่ศาลที่เคารพ........


ผมว่าศาลตุลาการในบ้านคุณไก่ คงอ่านแค่ผ่านๆๆ มากกว่าครับ ถึงรู้สึกว่าสนุกสนาน.........



แต่ถ้าอ่านประจำและอ่านทุกกระทู้ และรู้ว่าทะลึ่งกันขนาดนี้ มีหวังโดนศาลสั่งประหารชีวิตด้วยการขลิบทีละหน่อยๆๆ จนกว่าจะสิ้นใจแน่ๆๆๆ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 275

Kai

12/03/2010 23:06:44
2
ไม่ทันแล้วหล่ะครับเฮีย รู้หมดทุกซอกทุกมุมแล้วครับ

หมดกัน... เส้นทางสายบันเทิงของผม..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 276

นัท

13/03/2010 08:18:36
เวรกำคุณเช้าหญิงคนเดียวของเราหายไปไหนแล้ววุ้ย

หมดกัน ๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 277

jirb

25/07/2010 21:38:30



ว่าที่แม่ยายส่วนพ่อตาเฉยเรียก 1 ล้านบาทและทอง แหวนเพชร สร้อยข้อมือ อีก ผมฟังถึงกลับอึ้ง

เลยครับ น้ำตามันตกในเลยครับเราเป็นผู้ชายต้องอดทนเครียดครับ บ้านแฟนผมเขาฐานะดีมาก

เลยครับมีเงินมีทองให้ลูกใช่สบายเลย ส่วนเรานะเงินเดือนก็น้อยอยู่แล้ว ส่วนทางบ้านไม่ค่อยมี

เงินอยู่เแล้วกว่าจะเรียนจบก็กู้เงินเรียน เกิดมาไม่ได้รวยมีเงินมีทองปู่ย่าตายายก็ไม่มีเงิน

จะสร้างครอบครัวก็แสนจะลำบาก แฟนผมถึงกลับร้องให้เลยครับแฟนผมก็รู้ว่าผมไม่ใช้คนรวยแต่เรารักกัน(คำว่ารักเป็นกำลังใจที่ดีนะครับเวลาที่เราร้องให้เราเสียใจ)

มันเป็นวันที่ผมหนาวสั่นในใจเลยผมรู้ว่าการที่จะหาเงินซักบาทมันก็ยากอยู่แล้วความรักเรามันจะยาวนานแค่ไหน(ในเมื่อเงินมันส่งผลทางด้านจิตใจ)

ผมสงสารแฟนผมมากเลยครับเราตั้งใจที่จะแต่งงานกันผมไม่ว่า ว่าที่แม่ยายหลอกครับมันเป็นการทดสอบผม แต่ผมก็คงไม่มีปัญญาที่จะหาเงินได้มากขนาดนั้นจริงๆ

จะกู้เงินก็อยู่ไปแบบไม่มีความสุขหลอกครับเร่งหาเงินเร่งทำงาน ชีวิตครอบครัวจะดีได้อย่างไง
การที่คนเราจะคิดว่า ทดสอบหาเงินซัก 1 ล้านบาทแต่ไม่มองว่าเค้าทุกทรมาณขนาดไหนและลูกคุณจะทรมาณใจขนาดไหน

คนดีเค้าก็ไม่อยากทดสอบหลอกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 278

วัฒน์

26/07/2010 14:55:33
อยากกลับไปสู่ยุคหิน รักใครชอบใคร ไม่ต้องไปขอ ไม่ต้องไปจีบ
เอากระบองไปตีหัว แล้วจิกผม ลากเข้าถ้ำ อิอิอิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 279

-o-[B]on[D]-o-

26/07/2010 20:48:29
3
ผมไม่เห็นด้วยกับการให้สินสอดแพงๆนะครับ
แต่ถ้าพ่อแม่ฝ่ายหญิงต้องการเรียกแพงมาขนาดไหน
ผมคิดว่า ผมมีปัญญาที่จะหามาให้พ่อแม่ฝ่ายหญิง ถ้าผมรักผู้หญิงคนนั้นจริงแล้วอยากจะอยู่คู่กับเธอคนนั้นตลอดไปครับผม ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 280

mhxymcl

20/10/2010 22:16:02
0
Dissemination of how to make your hair a healthy atmosphere, GHD Australia professional specifically for your use hair straightener,ghd Straightener,ghd hair and ghd Hair Straightener to help you repair your hair,In addition the company in New Zealand GHD NZ also provide the same products ghd hair,ghd Straighteners and hair straighteners,We guarantee that our ghd Hair Straighteners good quality and cheap price.By the way,have you heard golf for sale,discount golf clubs,golf clubs for sale and ladies golf club?yes,our business partners callaway golf clubs offer price reduction is being,While the focus we recommend that you look more out of exercise to maintain a healthy body, ping golf clubs is a perfect sport, if you need any left handed golf clubs,taylor made golf clubs and golf club drivers,weclome to our discount golf store to buy what you need like Golf Balls.
Our company also offers the following services like Golf Equipment,TaylorMade Golf,Golf Irons,Callaway Golf,Golf Fairway Woods and Hybrid Golf Clubs,If you like Titleist Golf or Golf Wedges,please check our Golf Putters web,You can enjoy the best prices of Mizuno Golf,Golf Bags,Ping Golf,Golf Set,We sincerely recommend that you use these products, after years of marketing experience we guarantee that you will be wise choice,It includes:Taylor made irons,Callaway clubs,golf for sale,wholesale golf,golf for wholesale and golf for discount,Callaway club,edit by 英文seo,Other movie Web:动漫网站
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 281

wwwkan123

21/04/2011 13:30:21
0
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 282

supersaiya

04/08/2011 09:00:51
เคยมีคนถามผมว่า "ไม่แต่งจะนอนกอดเงินไปจนตายหรือไง" ผมเลยสวนไปว่า "มันก็ยังดีกว่าเสียเงินไปแถมยังอาจจะตายทั้งเป็นด้วยอีก และยังไม่อยากเร่งเวลาตายของตัวเอง"
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 283

supersaiya

04/08/2011 09:08:07
สินสอดคือค่าน้ำนม ค่าเลี้ยงดูฝ่ายหญิง ผมเลยสงสัยว่าผู้ชายอย่างเราเกิดจากกระบอกไม้ไผ่ แล้วเก็บหญ้ากินเป็นอาหารหรือไง ผู้ชายก็ต้องมีค่าเลี้ยงดูมาก่อนเหมือนกัน แค่นี้ก็เห็นว่าเขาเอาเปรียบเราแล้วครับ แล้วที่ว่าผู้หญิงมีสิทธิเท่าเทียมชาย งั้นก็ต้องสามารถโดนชก กระทืบได้เหมือนผู้ชายสิ รวมถึงที่เขาบอกว่า โปรดเอื้อเฟื้อแก่ เด็ก สตรี คนชรา ก็ให้ตัดคำว่าสตรีออกซะ ในเมื่อเขาเรียกสิทธิเท่าเทียม ดังนั้นผู้หญิงก็ต้องจัดเป็นเพศที่แข็งแรงเหมือนผู้ชายสิ จะได้แฟร์ๆ ไม่ไช่จะเอาแต่เรื่องดี พอเรื่องไม่ดีก็ยกประเพณีเพศอ่อนแอมาอ้าง ทุเรศจังครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 284

supersaiya

04/08/2011 09:16:01
ยังมีอีกนะ ตัวอย่างข้างบ้านนี้เอง ประมาณว่าพอได้สินสอดไปแล้ว เหมือนเสร็จหน้าที่ คราวนี้ก็จะไม่เห็นหัวเราแล้วประมาณว่าได้เงินไปแล้วเราก็หมาตัวนึง พยามยามทำตัวหาเรืองเลิก พอเลิกกันผู้หญิงรวยเพราะเงินเรา แต่เราหมดตัวเพราะจ่ายสินสอดไปหมด ไม่เหลืออะไร บางคนบอกรักกันก็เสียสละกัน แต่ถ้าเราเสียสละฝ่ายเดียวแบบนี้ เรียกว่าขี้ข้าแล้วครับ เป็นผมจะเลิกกันแล้วจัดหนักซักชุดให้มันจำไปจนวันตายเลย บางทีความทนก็เหมือนระเบิดเวลาน่ะ ถ้าระเบิดเมื่อไรแรงมหาศาล ไม่เหมือนผู้หญิงโมโหร้ายเหมือนระเบิดลูกเล็กระเบิดบ่อยแต่ไม่แรงมาก ผมว่าควรยกเลิกไอ้ประเพณีสินสอด เอาเปรียบเนี้ยไปนานแล้วครับ เพราะต่างฝ่ายสมัยนี้ก็หาเงินได้ทั้งคู่ ไม่เหมือนเมื่อก่อนผู้ชายหาเงิน ผู้หญิงแม่บ้านน่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 285

supersaiya

04/08/2011 09:18:33
เผลอๆ ถ้ามันมีชู้ มันก็เอาเงินสินสอดที่เราเก็บมาอย่างยากลำบาก หรือไม่ก็เงินพ่อแม่เราไปประเคนชู้มันอีก เจ็บใจ 2 เด้งเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 286

ม้าน้ำ

04/08/2011 09:33:20
1
โอ้ กระทู้ตั้งแต่ปี2009 ^^

ผมสังเกตดู ฝ่ายชายหลายคนไม่ค่อยพอใจ ที่ฝ่ายหญิงเรียกค่าสินสอดแพง แต่พวกคุณรู้กันมั้ยครับ ในยุคกลาง ไม่ว่าจะเอเชีย (อินเดีย) หรือยุโรป (แทบทุกประเทศ) ฝ่ายหญิงต้องเป็นคนจ่ายค่าสินสอดให้กับฝ่ายชาย (ถ้าศึกษาข้อมูลยุคกลางมาดี จะทราบครับ โดยสมัยยุคกลาง เขาให้เหตุผลว่าฝ่ายชายจะต้องดูแลฝ่ายหญิงไปทั้งชีวิต ดังนั้นฝ่ายหญิงจะต้องจ่ายสินสอดให้กับฝ่ายชาย)

ผมแอบคิดนะ ว่าสมัยยุคกลางของฝรั่ง เหตุผลยังมากกว่าปัจจุบันนี้อีก ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 287

supersaiya

04/08/2011 09:59:56
ผมว่ามันเป็มหกรรมประมูลลูกสาวมากกว่า ประมาณว่า "พ่อแม่ฝ่ายหญิงเปิดประมูลลูกสาวแล้ว เร่เข้ามา" 55555555555555555555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 288

buster

04/08/2011 12:04:12
0
555...เพิ่งเจอกระทู้...เห็นแล้วหงุดหงิดเชียวเลย

อยากเรียกการตั้งราคาลูกสาวเลย...จากประสบการณ์ตรง

แล้วการเรียกราคาที่ไม่สมเหตุสมผลนี้...ผลลัพธ์ = กำเงินสดของเราต่อไปแล้วเดินออกมา

อาจจะเจ็บ...อาจจะเศร้า...แต่เราก็ยังกินข้าวกินเหล้าได้เหมือนเดิม

555...เอิ๊กๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 289

ผู้หญิง

27/10/2011 14:09:22
เราได้สินสอด2400000กับทองยี่สิบบาท แหวนเพชร1กะรัต ผู้ชายไม่บ่นสักคำ
เค้าบอกว่าเปงค่าน้ำนมที่เลี้ยงดูผู้หญิงดีๆจนได้แต่งงานกับเค้า
สรุปว่าที่ผู้ชายไม่อยากให้ค่าสินสอดเพราะเสียดายเงินช่ายมั้ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 290

นายสไปร์ท

27/10/2011 15:30:36
1
ไม่ได้ไม่อยากให้หรอกจร้าาาา ...แต่ว่ามันไม่มีจะให้

ถ้าสำหรับคนที่มีเงินอ่ะ ก็ไม่เป็นปัญหาหรอกคร้าบยบบบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 291

supersaiya

08/11/2011 20:50:29
ดูอย่างผมสิ เสียสินสอดไปหลายแสน ได้เมียยังกับคนบ้า เจ้าอารมณ์ชิบ รอเก็บตังค์ขอสาวใหม่ได้ก่อนค่อยเลิก แล้วเอาคืนชุดใหญ่ให้มันจำไปจนวันตายเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 292

supersaiya

08/11/2011 21:07:35
wife ที่แปลว่าภรรยา ที่จริงเป็นคำย่อนะครับ มาจาก
w = without = ปราศจาก ไม่
i = information = ประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ทราบ
f = fighting = ต่อสู้ ทะเลาะ
e = everyday = ทุกวัน
รวมแปลว่า Without Information Fighting Everyday = หาเรื่องทะเลาะได้ทุกวันโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ขำๆ ฮาๆ นะครับ

ผมจำไม่ได้ว่าเอามาจากเว็บไหน แล้วใครเป็นคนโพสต์ไว้ แต่ก็ขอขอบคุณ และให้เครดิตไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 293

ไซม่อน

08/11/2011 21:40:48
0



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 294

ไซม่อน

08/11/2011 21:43:04
0
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 295

supersaiya

29/11/2011 20:51:44
เอ๊ะ หรือว่าผมได้เมียเป็นคนบ้าจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 296

Eviltwins

29/11/2011 20:53:41
0
...ของผม แม่ยายคล้ายๆกับจะบอกว่า ยิ่งรอนาน ยิ่งแพงขึ้นนะจ้ะ T_T)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 297

Big

29/11/2011 21:01:04
เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 298

ikhkgi8jbh

13/12/2011 18:07:05
ไม่มีสินสอดขอแฟนน่ารักชื่อฝัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 299

Guzzo

13/12/2011 18:55:11
0
สรุป

เงินมาของไปครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 300

supersaiya

15/12/2011 01:31:55
พอผู้ชายไปมีกิ๊กก็หาว่าหลายใจ อยากจะรู้ว่าถ้าแฟนไม่ทำให้รู้สึกว่าตกนรกล่ะก็ เขาจะไปมีมั้ยกิ๊กเนี่ย ควรจะสำรวจฝ่าย ญ บ้างว่าทำให้ฝ่าย ช น่ะ รู้สึกแย่มานานมั้ย ไม่ใช่เอะอะอะไรก็หาว่าผู้ ช เจ้าชู้น่ะ ญ เอาเปรียบกันชัดๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 301

ม้าน้ำ

15/12/2011 11:39:52
1
กระทู้นี้ดังข้ามปีจริงๆ ^^ แวะเข้ามาอ่านกี่รอบ ก็ยังมัน

ผมเคยเอาประเด็นกระทู้นี้ไปถามแม่ผมนะ แม่ผมบอกว่าบางทีพ่อแม่ฝ่ายลูกสาว เขามองปุป เขาก็รู้แล้ว ว่าไปกันไม่รอด เพราะความรูสึกมันฟ้องว่าฝ่ายชายเป็นพวกไม่เอาถ่าน ดูกิริยา ดูการกระทำ ก็เห็นตั้งแต่เหยียบเข้าประตูบ้าน

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 302

jetsadaton999

15/12/2011 11:51:24
0
เคยเห็นบางครอบครัวเวลาจัดงานแต่ง พอจบงานเสร็จเค้าก็ให้เงินช่วยทั้งหมดเอาไปทำทุนสร้างอนาคตและพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายช่วยกันออกออกค่าจัดงานให้เปล่าๆ.....ผมว่าขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยของแต่ละครอบครับหละครับเรื่องแบบนี้....สินสอดผมว่ามันเป็นแค่ประเพณีแล้วก็กุศโลบายของคนสมัยก่อนๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 303

sharp

15/12/2011 15:18:14
ไม่มีที่ไป ก็อยู่กับลมหายใจเข้า-ออก มีความสุขที่สุดครับ เชื่อผม..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 304

jetsadaton999

15/12/2011 15:54:30
0
"ไม่มีที่ไป ก็อยู่กับลมหายใจเข้า-ออก มีความสุขที่สุดครับ เชื่อผม.."
โดนมากๆ ท่าน sharp นิพพานเท่านั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ทกข์ ไม่สุข
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 305

Guzzo

18/12/2011 18:06:10
0
สุดยอดครับ อนุโมทนาสาธุเลยครับ ท่าน sharp
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 306

-o-[B]on[D]-o-

18/12/2011 18:47:13
3
โอ้วววว ขุดข้ามปี 5555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 307

supersaiya

05/02/2012 03:11:55
happy new เมีย เอ๊ย new year ทุกท่าน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 308

รักนะ

06/02/2012 12:01:46
คนสวยหาเมื่อไรก็ได้ แต่เมียที่ดีของลูกหายากมาก โชคดีผมเจอ 2 อย่างในคนเดียวกัน
แต่ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคนดี มันจะมีอะไรดึงดูดให้เจอกัน

ตัวอย่าง คุณอยากมีแฟนสวยและนิสัยดี คงจะหาไม่เจอใน Pub ง่ายๆหรอก
สินสอดเป็นแค่อุบายของคนสมัยก่อนที่ไม่อยากให้ลูกลำบากจึงเรียกสินสอดเยอะ เผื่อลูกสาวจะตกระกำลำบากในอนาคต

การที่ผู้ชายบางคนไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิงและครอบครัว ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่จะบอกว่าในอนาคตคุณ คุณก็มักจะเอาความสบายส่วนตัวมาเหนืออื่นใด ถูกต้องไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 309

supersaiya

18/02/2012 23:09:26
ผมสิแย่กว่าคุณเยอะ เสียเงินยังไม่ว่า ยังโดนมันและเกือบทุกๆคนทางฝั่งมันเอาเปรียบตลอดเลย ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อ ผมคงโดนสูบหมดแน่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 310

bambie

21/02/2012 14:37:07
กำลังจะบอกว่าพ่อแม่ผู้หญิงไม่มีใครเค้าอยากขายลูกกินหรอกน่ะค่ะ แต่เราต้องเข้าใจค่านิยมคนไทยก่อนเป็นอันดับแรก คุณอย่าบอกว่าคุณไม่ใส่ใจ สนใจอะไรงั้นไปเอาผู้หญิงกลางคืนมาตบแต่งภรรยาคุณก็คงจะไม่คิดมากใช่มั๊ยค่ะ ? แต่ถ้าไม่ใช่คุณก็ต้องยอมรับว่าคุณก็มีความคิดและค่านิยมแบบผู้ชายไทยคนนึง รู้ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนควรปฏิบัติ คุณลองคิดดูว่าผู้หญิงถูกกดดันทุกอย่างตั้งแต่โตมาเลย พ่อแม่หวังให้เรียนเก่ง เรียบร้อย งานนอกบ้านในบ้านต้องเก่ง ปรนนิบัติลูก-สามีต้องดี อดทน อดกลั้น ต้องดูแลตัวเอง การที่จะเลี้ยงลูกสาวคนนึงให้ดี ขอบอกว่ายากมากถึงมากที่สุด เพราะผุ้ชายยังงัยก็ไ่ม่เสียหายค่ะ เรื่องสินสอดเนี่ย ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง หรือเรียกกันแบบเว่อร์มากจริงๆเนี่ย ถ้าคุณรักผู้หญิงคนนั้นจริงๆเชื่อว่าสามารถค่ะ ลองคิดดูในแง่ร้ายว่าสมมุติเค้าไม่เรียกอะไรจากคุณเลย แล้วพอลูกสาวเค้าไปอยุ่กับคุณแล้วเกิดคุณเจ้าชู้ หรือไม่เลี้ยงดู ตบตีเธอขึ้นมา แล้วมีหลานติดมาอีกซักคนนึง คุณคิดว่าผู้หญิงคนนั้นต้องแปรสถานะตัวเองกับคำว่า "แม่หม้ายลูกติดผัวทิ้ง" เนี่ยมันเรียกอะไรกลับคืนมาไม่ได้แล้วน่ะค่ะ ผลสุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นต้องกลับไปอยู่กับพ่อแม่เหมือนเดิม ดิชั้นไม่ได้เป็นคนวิตกจริต คิดมากเป็นบ้าอะไรน่ะค่ะ แต่กำลังจะบอกว่า เวลาผ่านไป โลกเปลี่ยน คนเปลี่ยน แล้วนับภาษาอะไรกับใจคนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เปลี่ยนค่ะ....


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 311

กฤษฎา

22/02/2012 14:06:35
ค่านิยมคนไทย ผู้ชายชอบมีเมียน้อย ผู้หญิงชอบข่มผัว เงินเลยถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรอง แต่จริงๆแล้ว ถ้าเริ่มต้นที่ความไม่ไว้ใจกันระหว่างทั้งสองบ้าน ก็ไปกันไม่รอด จริงๆถ้าจะคิดค่าสินสอด ก็ต้องใช้หลักการตีราคาบริษัท หรือซื้อตัวนักกีฬา มาประเมินกันเลย พ่อแม่ผู้หญิงที่เป็นคนจีนสมัยก่อน จะกลัวเสียหน้ามาก ถ้าฝ่ายบ้านสามีมาบ่นว่าลูกสาวทำงานบ้านไม่คุ้มกับค่าสินสอด เหมือนกับเลี้ยงลูกมาไม่ดี ทำอะไรไม่เป็น จริงๆถ้าฝ่ายชายต้องไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง ช่วยทำงาน บ้านฝ่ายชายน่าจะต้องได้สินสอด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 312

paew

17/03/2012 07:23:17
ถ้าผู้ชายรักจริง ก็ต้องจ่ายค่าสินสอดแพงๆแหละน่า นี่ก็เป็นบทพิสูจน์อีกอย่างของลูกผู้หญิงนะแหละ ถ้าไม่ขอ ก็ไม่แต่ง ง่ายนิดเดียว ไม่ต้องแต่ง ไม่ต้องแต่งงงงงง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 313

supersaiya

19/04/2012 07:32:36
ทุกวันนี้สงสัยที่มันพยายามทำตัวกดดันให้ผมบอกเลิก เพื่อที่จะมีสิทธิชอบธรรมในการยึดสินสอดส่วนที่เหลือมั้งครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 314

supersaiya

19/04/2012 07:41:11
ผมชอบความคิดเห็นที่ 311 ครับ ผมได้ยินมาว่า(ไม่รู้ว่าจริงป่าว) ประเพณีสินสอดมาจากจีน เพราะฝ่ายหญิง จะต้องตัดขาดจากพ่อแม่เขาเลย จึงต้องให้ค่าเลี้ยงดูตอบแทน แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ นอกจากฝ่ายชายจะออกหมดทั้งค่าสินสอด ค่างานแต่ง ฝ่ายหญิงก็ยังไปช่วยเหลือทางบ้านฝ่ายตัวเอง(โดยส่วนใหญ่ใช้เงินฝ่ายชาย)ได้ แล้วฝ่ายชายยังต้องรับภาระเกือบทั้งหมดของครอบครัวตัวเอง ส่วนรวม และของทางครอบครัว ญาติมิตรฝ่ายหญิงอีก ฝ่ายชายแทบไม่ได้ตอบแทนคุณพ่อ แม่ ตัวเองเลย เพราะเงินเก็บ ไปเป็นสินสอด ค่างานแต่งซะหมด จริงๆแล้ว แบบนี้ฝ่ายชายควรได้สินสอดด้วยซ้ำ นี่ผมคิดจากเหตุและผล และตัวอย่างที่ผมเห็นมานะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 315

คิดคิด

23/04/2012 15:43:10
หาช่วยกันจะดีกว่ามัยค่ะ (ถ้าเรารักเค้าน่ะ ) ผช.ก็ไม่ค่อยมีตังค์ จะได้จบๆไป ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เลิก หาใหม่ค่ะ อย่าซีเรียส ลองทำตามใจตัวเองที่อยากทำดู เกิดมาเจอกันแค่ครั้งเดียว อย่าให้เรื่องเงินมาทำลายความรักกันเลยน่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคู่ค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 316

นานาจิตตัง

23/04/2012 15:59:39
การมีสินสอดทำให้มีปัญหาสังคมเกิดขึ้นน่ะ เช่น คนรักกัน เกิดไปมีอะไรกันแล้วตั้งท้องแบบว่า....ไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่เพราะถ้าจะแต่งงานก้อไม่มีเงินค่าสินสอดไปสู่ขอ ก้อเกิดปัญหาการทำแท้ง เป็นไปได้อยากให้ยกเลิกน่ะ เรื่องสินสอดหนิ ก้ออย่างว่าแหล่ะ คงยกเลิกไม่ได้หรอก พูดไปก้อเท่านั้น เฮอ.....ก้อคงต้องทำตามกระแสสังคมต่อไป
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 317

ToON

24/04/2012 11:08:24
ค่าสินสอดนี่ ตามกฏหมาย เป็นค่าตอบแทนให้กับบิดามารดาของฝ่ายหญิงที่ยอมให้ฝ่ายหญิง

สมรสด้วย

ผมโดนเรียกสินสอด300000ทอง10บาท แม่ฝ่ายหญิงบอกว่าเป็นค่าสินสอดที่ต่ำสุดแล้ว ตาม

ที่ญาติๆเค้าได้แต่งมา

แต่ถ้าเพื่อคนที่เราจะแต่งงานด้วย ผมว่าคุ้มค่ามาก

เพื่อนผมเคยบอก อย่าไปรักลูกให้มาก เวลามันโตแล้วมันก็ต้องไปมีครอบครัวใหม่

เราควรจะรักกันให้มากเพราะเราจะต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 318

Wayne

24/04/2012 15:48:51
แฟนเก่าผม ทำงานเอกชน เงินเดือนแสนนิดๆ ที่บ้านเค้าเป็นข้าราชการในมหาลัย ผมก็ทำงานเหมือนแฟน เงินเดือนมากกว่าซักหน่อย
เคยไปคุยหยั่งเชิงดู โดนเรียกสินสอดสิบล้าน สิบล้านครับ ไม่ได้พูดเล่น หน้าหงายเลย จะหามาจากไหนมาขอ ถึงเก็บได้ขนาดนั้นก็ไม่ให้หรอกครับ
ตอนนี้เลยยังโสดอยู่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 319

Tum79

24/04/2012 16:34:46
0
แวะมาเก็บข้อมูลด้วยคนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 320

supersaiya

02/05/2012 11:56:14
ทุกวันนี้พยายามคิดว่าเรากำลังสงเคราะห์คนวิกลจริต ก็ทำให้เราเห็นค่าตัวเองบ้าง และพยายามคิดว่าการที่เรายังไม่ถูกมันฆ่าทิ้งตอนนอนหลับ ก็ทำให้เรารู้สึกว่ายังมีบุญเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าจะคิดแบบนี้ได้อีกนานไหม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 321

supersaiya

02/05/2012 11:57:17
ทุกวันนี้พยายามคิดว่าเรากำลังสงเคราะห์คนวิกลจริต ก็ทำให้เราเห็นค่าตัวเองบ้าง และพยายามคิดว่าการที่เรายังไม่ถูกมันฆ่าทิ้งตอนนอนหลับ ก็ทำให้เรารู้สึกว่ายังมีบุญเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าจะคิดแบบนี้ได้อีกนานไหม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 322

weyen

07/06/2012 21:47:46
เรียกเป็นสิบล้าน วิเศษมากปาย ไม่ล้างสามวันดูนะ ค่านิยมสังคมนี่แปลกไปมาก
มาอยู่ด้วยกันก็สารพัดปัญหา ตามมาอีก คิดถูกแล้วที่ปล่อยอยากไปซะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 323

supersaiya

08/06/2012 08:52:22
เห็นด้วยครับ ทั้งที่เราก็ช่วยเหลือพวกมันตั้งมากมาย แต่มันกัลบทำกับเราเหมือนไม่เคยทำอะไรให้เลย แบบนี้เราเหมือนขี้ข้าเลยครับ เหมือนเีราเสียเงินเพื่อไปเป็นขี้ข้ามันเลย ซวยจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 324

supersaiya

08/06/2012 08:59:18
ประมาณว่าความผิดคนอื่นแม้เพียงเล็กน้อยจำได้หมด แต่ความผิดตัวเองแม้จะใหญ่แค่ไหนก็จำไม่ได้ ยังมาเถียงว่าไม่ได้ทำอีกด้วย สุดยอด......จริงๆ มาว่าเราซะเสียหาย พวกมันซะอีก นอนแบมือแบ teen ขอความช่วยเหลือเราอยู่นั่นแหละ สำนึกซะมั่ง เนรคุณชะมัด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 325

แอ้

08/06/2012 10:37:24
บ้านแฟนผมขอ 10 ล้านครับ = ='
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 326

พริกไทย

19/06/2012 16:19:12
ของเราพ่อแม่เรียกไป 300,000 แต่เรามีทุกอย่างนะ มีที่ดิน มีบ้าน มีรถ แต่แฟนไม่มีปัญญามาแต่งแม้แต่บาทเดียว แถมยังทิ้งลูกไว้ในท้องให้เราเคลียดด้วย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 327

supersaiya

15/08/2012 11:10:07
ที่เขาว่าสินสอดมีไว้เผื่อผู้หญิงโดนผู้ชายทิ้งก็ยังมีหลักประกัน งั้นถ้าผู้ชายโดนผู้หญิงทิ้งล่ัะ มีหลักอะไรประกันมั้ย ขอคืนได้มั้ย หรือต้องหมดตัวเพราะโดนหลอกรับประทาน เอาเปรียบผู้ชายชัดๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 328

เนม

15/02/2013 22:20:56
ผมอยากจะบอกว่าแม่ยายผม เร่งรัดให้ผมแต่งกับลูกสาวเค้าแต่เงินค่าสินสอดยังไม่พอ เลย เค้าเรียก 100000 อีก 3 บาท หมั้นไปแล้ว ส่วนหนึ่ง แต่ เค้าไม่ยอมเลยจะแต่งปีนี้ให้ได้ แต่เรากำลังได้ทำงาน ไม่กี่เดือนเองเค้า ไปประกาศให้คนในหมู่บ้านเค้าแล้วว่าลูกสาวเค้าจะแต่งปีนี้ แต่ลูกสาวเค้าช่วงนี้เราไม่ค่อยสนิดกันเหมือนเมื่อก่อนเท่าไร เพราะต่างคนต่างทำงานกัน ละทะเราะกันแทบทุกวัน ลูกเค้าเป็นคนที่ใช้จ่ายเปลืองมาก ผมบอกเค้าหลายครั้งแล้ว ว่า ช่วยกันเก็บเงินบ้างไม่งั้นเดี๋ยวไม่ทันนะ เค้าก็ไม่เก็บเลยผมเก็บอยู่คนเดียว แล้วแม่ยายคนนี้ พูดกับผมอีกอย่างหนึ่ง และไปพูดกับลูกสาวเค้าอีกอย่างหนึง เค้าเป็นคนหน้า เลือดมากๆ ต่อหน้าผมคุยดีแต่ลับหลัง มันไม่ใช่เลย และ งานแต่งที่จะเริ่มขึ้นนี้ ผมก็พึ่งมามารู้เพียงไม่กี่วันเอง เอาผมเครียดเลยจนหนักหัวมากๆ ไม่รู้จะทำยังงัยเลย และแม่ยายเคยบอกให้ลูกสาวเค้าให้เลิกกับผมด้วย ตอนที่เราหมั่นกันเสร็จ ใหม่ๆ เค้าไม่ค่อยชอบผมเลย ผิดกับพ่อตา เข้าขากันดีแต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ผมเครียดจนผมจะถอนใจเลย ลูกเค้าชอบตามแม่เค้า เชื่อแม่เค้าไปทุกอย่าง ถ้าเราเอาเรื่องแม่เค้ามาบอกเค้าก็ไม่เชื่อ เค้าก็โกรธผมอีก การเรียกค่าสินสอดครั้งนี้ ลดไม่ได้ เพราะ เป็นหน้าเป็นตาของเค้า จะเอาเหมือนเค้า เหมือนญาติเค้าที่ทำกัน แต่เค้าไม่ดูเลยว่าเราทำงานหนักขนาดไหน เค้าบอกว่าเค้าอายคนที่บ้านเค้า อายทำมัย หมั้นกันแล้วเราก็ยังไม่พร้อมด้วย และทำอุบายหลอกเราออกมาว่าจะให้แต่งงานปีนี้ผมไม่รู้จะพูดยังงัยเลย เค้าเป็นคน สองหน้าคับ ชอบนินทาเค้า ปากไม่ค่อยดีเลย เรื่องแต่งนะแต่งแน่ๆ เค้าจะกลับอะไร สงสัยกลัวไม่ได้ใช้เงิน ที่บ้านก็ มีกิจการ แต่แม่ยายเค้าชอบเอาไปซื้อของอย่างอื่นที่ไม่ให้พ่อตารู้ เงินได้แต่ละทีก็มาก แต่เก็บเงินไม่อยู่ สนใจที่แม่ยายหน้าเลือดคนนี้ เค้าทำให้ผมไม่อยากไปที่บ้านของแฟนผมอีก เพราะเค้าทำให้ผมไม่นับถือเลย เค้าเคยบอกว่าจะให้เงินค่าสินสอดคืน ผมคิดแล้วน่าจะไม่ได้คืนแน่ๆ

อยากบอกว่า แม่ยายคนนี้เค้าหน้าเงินจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 329

hipfood

16/02/2013 13:25:33
0
เรื่องสินสอดมันอยู่ที่ฐานะนะผมว่า ถ้ารวยๆ เจ้าของบริษัท เรียกสักแสนสองแสนผมว่ามันก็น้อยไป มันดูน่าเกลียดไม่สมฐานะ แต่ถ้าเป็นพนักงานบริษัทเงินแสนสองแสน ก็เยอะเอาเรื่อง ถ้าฝ่ายชายไม่ไหวก็ให้ลูกสาวเค้ารอไปก่อนแล้วกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 330

...

16/02/2013 16:58:00
ถ้าไม่สบายใจก็เลิกไปเหอะ จะแต่งไปทำไม ผมว่ามันต้องสบายใจทั้งสองฝ่าย นี่ก็ไม่รู้จะมีอะไรรออยู่อีก
ผมอยู่คนเดียว โคตรสบาย อยากทำอะไรก็ทำ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 331

เหน่งบา

18/02/2013 07:01:05
ร่วมขุดด้วยคนครับ กระทู้นี้อ่านให้สะท้อนใจก็ได้ อ่านให้หดหู่ก็ได้ แง่มุมสวยงามก็มีอยู่...

แยกได้เป็นสองประเด็นแหละครับ ประเพณี กับ คน

ในความคิดของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่กล้ามีแฟน คิดว่า จุดประสงค์ของประเพณีก็มีข้อดีนะครับ
เราควรมีความพร้อมพอสมควร ที่จะมีครอบครัว มีความพร้อมในการใช้ชีวิตคู่
สามารถรับผิดชอบให้ความสุขตามอัตตภาพกับคนที่เรารักได้
ปัญหาคือ แค่ไหน... - -* (คำนี้คำเดียว ก็ทำให้เกิดปัญหาที่ถกกันมาข้ามสามปีแล้วครับ)

ซึ่งคำว่า แค่ไหน มันมาจากประเด็นเกี่ยวกันที่สอง คือ คนครับ

หลายหลายความเป็นมา พื้นฐานครอบครัว ค่านิยมในสังคมที่เขาอยู่ ความต้องการ
และ คน ก็มีหลายประเภท ที่ดีก็มี ในกระทู้ก็ได้เห็น แต่คนบ่นเพราะพบปัญหาคงเยอะ
เพราะตัวอย่างที่ อ่านแล้วรู้สึกไม่ดี มีให้เห็นเยอะกว่า = ="
...ถ้าเอาประเพณีมาแสวงหาประโยชน์ให้ตนจนเกินกว่าเหตุ ผมก็คงว่าไม่ดีแหละครับ

ถ้าเป็นอย่างที่หลายบ้านทำ คือ เวลาผ่านไปก็ยกให้บ่าวสาวไป มันก็เป็นหลักประกันของครอบครัวลูกเขานะครับ ตรงนี้เป็นข้อดี

ส่วนตัว คิดว่า ฝ่ายชายควรมีความพร้อมสำหรับชีวิตในอนาคตครับ
ตัดสินยากว่าแค่ไหน เท่าไหร่ ความเหมาะสมของแต่ละบุคคลย่อมไม่เท่ากัน
แต่สินสอด... เอาให้พองามก็คงจะดีมังครับ ถ้ามันเกินกว่าเหตุ ลำบากนัก ก็...อย่าไปทำเลยครับ

สุดท้ายอยากจะชื่นชมชีวิตของคุณไก่ครับ อ่านการตอบกระทู้ของคุณไก่แล้ว ผมสัมผัสได้ถึงความสุขอ้ะ ท่ามกลางความทุกข๋ ไม่พอใจ เสียศรัทธา ความขัดแย้งต่างๆของหลายหลากคนในกระทู้ อย่างน้อย ก็มีแง่มุมดีของคนดีๆให้ได้อ่านกัน
เคยได้ยินคำพูดประโยคนึง "ความสุข เหมือนน้ำหอม สามารถทำให้คนที่อยู่ใกล้มีความสุขด้วยได้"
เป็นน้ำหอมที่กลิ่นไม่จางไปตามกาลเวลาด้วยสิครับ
อ่านตอนนี้ ผ่านมาสามปีแล้ว ผมสังเกตเห็นตัวเองยิ้มน้อยๆด้วย
ขอบคุณคุณไก่สำหรับความสุขที่แบ่งปันให้เพื่อนๆได้สัมผัสครับ ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 332

zetathix

18/02/2013 19:24:10
งั้นเอาเป็นเลิกกันแล้วผู้หญิงยังไม่ผ่านการตั้งครรภ์ เอาคำว่านางสาวคืนให้ไป เอาสินสอดทั้งหมดคืนให้ฝ่ายชาย

แบบนี้แฟร์ดีครับ

เงินพิสูจน์ความรัก หน้าตาในสังคม วัฒนธรรม ความถูกต้อง ศักดิ์ศรี ฯลฯ
ปัจจุบันโลกนี้อยู่ยากจัง...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 333

เหน่งบา

18/02/2013 23:17:56
0
บวกให้คุณ Zetathix ครับ เดี๋ยวนี้เงินเป็นตัวพิสูจน์...น่าเศร้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 334

ฟิ๊ว

06/05/2013 11:15:05
ขาย ลูก กิน ชัดๆ แพง อย่าง นี้ แต่ง มา ต้อง เตะเช้าเตะเย็น ไม่ได้แต่งเอามาทำเมียน่ะ แต่เอามา เป็น ที่ระบายอารม เล่น ก็ พอ เบื่อแล้ว ก็ ทิ้งไป หา คนที่ มีความคิด ที่ดีกว่านี้ ค้อย แต่งมาทำเมีย เอิ๊กๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 335

Xscannerx

30/06/2013 14:50:33
ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก
ความรักมีคุณค่าแต่ไม่ได้มีมูลค่ามันจึงไม่สามารถซื้อกันหาได้
คนหนึ่งคน เริ่มมีความรู้สึก"รัก" เพราะว่าต้องการอยากได้อีกฝ่ายมาเติมเต๊มความรู้สึกที่ขาดหายในชีวิตให้เต็ม มีเป้าหมายอยู่ด้วยกันดูแลซึ่งกันและกันไปตลอดชีวิต
คนแต่ละคนเกิดมาโอกาสในชีวิตย่อมแตกต่างกันไป
ฐานะ ชาติตระกูล. ความร่ำรวย รูปร่างหน้าตา
ล้วนเป็นสิ่งภายนอกที่สามารถสร้างกันขึ้นมาได้
สิ่งเหล่า ย่อมมีขึ้นได้ในปัจจุบัน ตามความสามารถ ความพรากเพียรพยายาม และการเข้าถึง การมองเห็น กับการได้รับโอกาสของแต่ละคน
ฉะนั้นองค์ประกอบการเลิอกคู่ครองที่สำคัญคือค้นหาคนที่ขยันทำมาหากิน ไม่มัวเมากับอบายมุข เป็นคนมีศีลธรรม
คนที่พร้อมจะอยู่เคียงเราดูแลกันและกันตลอดชีวิตจะแยกตายกันไปจะดีกว่า
(ไม่ขอใช้คำว่าเลี้ยงดูเพราะเราไม่ใช้พ่อแม่ที่จะต้องมาประคบประง้อมกัน)

ส่วนเรื่องสินสอดคำๆนี้ ย่อมแปลตามความหมายตรงตัวก็บอกแล้วว่า"คือสินเพื่อสอด(ใส่)"
เป็นเรื่องขนบธรรมเนียมที่ดีงามของชาวไทยในการที่ต้องปฎิบัติตนเป็นชาวพุทธที่ดี มีศีลธรรมข้อสามว่าด้วยเรื่องกาเมฯ
เว้นจากการล่วงละเมิดสิ่งที่เจ้าของหวงห้าม สิ่งที่แม่พ่อมีสิทธิในตัวลูกสาวในฐานะผู้ให้กำเนิด
ฉะนั้นจึงเป็นที่มาของประเพณีการยกสินสอดมาสู่ขอเพื่อให้ได้สิทธิครอบครองแทนบุพการี (แปลว่าผู้มีบุญคุณที่ให้ก่อน)
สามารถร่วมเสพเมถุนได้ถูกต้องคลองธรรม
ซึ่งจะเป็นการให้เกียรติและขอบคุณแก่พ่อแม่ฝ่ายหญิงที่อบรมสั่งสอนลูกสาวให้มีความประพฤติตนที่ดีสั่งสอนให้รู้จักหน้าที่ของภรรยาที่ดีเมื่อต้องออกเรือนไปอยู่กับสามี

แต่ปัจจุบัน การที่ฝ่ายหญิงให้ฝ่ายชายในอดีตและปัจจุบันมาล่วงเกิน ล่วงล้ำแล้ว แล้วพ่อแม่ก็รับทราบพฤติกรรมของลูกสาวดีนั้นหรือไม่รู้เพราะลูกสาวปิดบัง

เพื่อความยุติธรรมกับฝ่ายชายที่มาทีหลัง. ก็ไม่สมควรที่จะมีการเรียกร้องสินสอด
แต่ทำพิธีสู่ขอบายศรีสู่ขวัญ รับพรจากผู้ใหญ่จัดงานเลี้ยงพอเป็นพิธีบอกกล่าวญาติแต่ละฝ่ายว่ามีคู่ครองแล้วจะเหมาะสมกว่า

ส่วนที่ว่าจะมีสมบัติอะไรให้ฝ่ายหญิงเป็นเครื่องรับประกันการใช้ชีวิตฝ่ายชายก็ควรจะต้องแสดงให้เห็นซึ่งสามารถทำได้หลายอย่าง
เช่น ซื้อประกันมอบสิทธิให้. บัญชีเงินฝากประจำเพื่อการเลี้ยงดู เป็นต้น. ทดแทนจะดีกว่าการเรียกสินสอด
แต่ฝ่ายชายก็ต้องรู้หน้าที่ของสามีด้วยว่าต้องมีหน้าที่อะไรบ้างในการดูแลภรรยาที่เราไปขอเค้ามาไม่ขอมาระบายความใคร่ อย่างนี้เรียกว่าพวกเปรตมักง่าย
(ศึกษาได้จากหลักธรรมทิศ๖)

แต่ถ้าสินสอดนั้นพ่อแม่ฝ่ายหญิงมอบให้เป็นทรัพย์ฝ่ายหญิงเพื่อเป็นสมบัติออกเรือนก็ดีเป็นหลักประกันความสะสบายแก่ฝ่ายหญิง

หรือถ้ามอบเป็นทรัพย์คู่ยิ่งดีใหญ่เอาเป็นทุนสร้างอนาคตร่วมกันเพราะปัจจุบันจะคิดเริ่มทำธุรกิจอะไรก็ต้องใช้ทุนเริ่มต้นถ้าฝ่ายชายมีไม่มากก็จะนำทุนนี้ไปสร้างอนาคตในฐานะผู้นำครอบครัวได้

ส่วนเรื่องเกียรติหน้าตานั้น ถ้าฝ่ายหญิงเคยผ่านผู้ชายมาแล้วต้องคิดให้ได้เสียก่อนว่า ขนาดเรายังไม่ให้เกียรติกับพ่อเเม่เรา ไปมีสัมพันธ์ก่อนที่ได้รับอนุญาต. แล้วเราจะไปเรียกร้องให้ฝ่ายชายหาเงินหาทองมาให้เพื่อแสดงถึงการให้เกียรติแทนพ่อแม่เรานั้นเห็นว่าไม่ถูกต้อง
เพราะอย่างน้อยแล้วการที่ฝ่ายชายรับรู้ว่าคุณเคยเสียตัวแล้วยอมรับในตัวคุณเพราะรักในความดีของคุณ แล้วกล้าที่จะให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอ
ผมคิดว่านั้นคืกการให้เกียรติอย่างมากแล้ว

อย่าเรียกร้องไปมากกว่านี้เลยเพราะชีวิตคู่แท้จริงแล้วไม่มีอะไรมาก
แต่ละฝ่ายเพียง รู้จักหน้าที่ ให้เกียรติกัน ซื่อสัตย์. เชื่อใจไว้ใจกัน ช่วยกันแก้ปัญหา. ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไป
จนถึงที่สุดของชีวิตคู่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

แต่สำหรับฝ่ายชายหญิงใดที่ยังไม่พอใจในเรื่องการหาคู่ครอง ก็ควรเว้นศีลข้อสามบ้าง. เพราะอย่างน้อยเวลาจะเรียกร้องอะไรจากอีกฝ่ายจะได้พูดได้เต็มปากไม่อายตนเอง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 336

LesPaul_SG

01/07/2013 14:14:23
0
มีระบบ ผ่อน บ้างไหมครับ พ่อตา/แม่ยาย
ขำนะครับ ฮ่าส์ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 337

ฺีBurner

04/07/2013 17:02:18
สินสอดผมว่าก็ให้เหมาะสมกันทั้งสองฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็น่าจะโอเคนะ
ส่วนพวกเรียกแบบเวอร์ๆและมีแผนใช้สินสอดล่วงหน้าด้วยนี่
ต้องลองขอใบเสร็จด้วยดีไหมนี่ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 338

แต่งแล้วแต่ลูกยังไม่โต

08/08/2013 14:06:18
ผมว่าผู้ใหญ่คิดอย่าง เจ้าบ่าว หรือคนที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าว คิดอีกอย่าง คิดกันคนละอย่างเลย แต่เข้าใจครับ ว่าเจ้าบ่าวเป็นคนเสียเงิน ถ้ามีความจำเป็น ค่อยๆ คุยกัน ผมเชื่อว่าได้แต่งแน่นอนจร้า

ผมแต่งมาหลายปีแล้ว เป็นพ่อคนแล้วแต่ลูกสาวยังไม่โต ผมก็คิดแบบ พ่อแหละครับ
ถ้าถูกมองว่าขายลูก เท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะลูกมีค่ามากกกกก เทียบกับเงินไม่ได้จริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 339

supersaiya

17/03/2015 09:34:10
ผมว่าก่อนจะเสียสินสอด ควรดูให้ลึกถึงครอบครัวและญาติทุกสายของฝ่ายสาวไม่ว่าจะห่างขนาดไหน ไม่งั้นจะเหมือนผม เสียเงินไปมาก นอกจากจะได้เมียบ้ามาแล้วยังพ่วงมาด้วยแก๊งขอทานขนาดใหญ่เลยล่ะคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 340

chnam0002

19/03/2015 13:29:41
0
สำหรับคนที่อยากทำSEO หรือหา Backlink
backlink
backlink
backlink
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 341

supersaiya

27/06/2016 11:13:49
ถ้าโบราณว่า พ่อ แม่ คือพระในบ้าน
เมีย คือ โจร/ขอทาน/มาร ในบ้าน
ครอบครัว ญาติโกโหติกา ของเมีย คือ แก๊งโจร/แก๊งขอทาน/เหล่าหมู่มาร
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
"มาคุยเรื่อสินสอดกันดีกว่า"