เบสไม่ได้หายหรอก แต่หูเริ่มไปแล้วยิ่งเพิ่มโน้นเพิ่มนี่เข้าไปอีก แทนที่จะได้ใส่หูฟังฟังเพลง คราวนี้ต้องใส่ตัวช่วยการได้ยินแทน
ฟังเพลงอย่าเปิดดังๆติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ทุกอย่างในร่างกายเรามีแต่เสื่อมถอย เมื่ออายุมากขึ้นทุกวัน อย่าไปเร่งมันเลย

ลองเอาระดับเสียงที่เราฟังไปให้คนอื่นฟังสิครับแล้วเขาจะตกใจ

หูล้าครับ เพราะเปิดดังต่อเนื่องนาน

+1 คห3 ครับ

ลองหาเวลาไป Ear clinic ขอลองทำ hearing test น่ะครับ ปลอดภัยไว้ก่อน

หูล้า หรือ หูตึง กับเสียงเบส แล้วมั๊งนะ ระวังสุขภาพหูไว้บ้าง

ตอนนี้หูผมปกติดีครับ เพียงแต่ฟังนานๆ แล้วเป็นอย่างที่บอก ปกติฟัง A15+mx985 ไม่ชอบพ่วงไรเยอะครับ แต่มีความคิดใช้แอมปฺเพราะดังไม่พอและก็เบสหายนี่แหละ สงสัยต้องเปลี่ยนความคิด
จะฟังระดับเบาลงมาให้ชินครับ

ตอนนี้หูผมปกติดีครับ เพียงแต่ฟังนานๆ แล้วเป็นอย่างที่บอก ปกติฟัง A15+mx985 ไม่ชอบพ่วงไรเยอะครับ แต่มีความคิดใช้แอมปฺเพราะดังไม่พอและก็เบสหายนี่แหละ สงสัยต้องเปลี่ยนความคิด
จะฟังระดับเบาลงมาให้ชินครับ

ผมเคยอ่านชีวประวัติบีโธเฟ่น บั้นปลายชีวิตเขาต้องมาหูหนวกทั้งๆ ที่รักการแต่งเพลงเป็นชีวิตจิตใจ แล้วก็แต่งเพลงต่อไปทั้งๆ ที่หูหนวก ถ้าผมเป็นบีโธเฟ่นผมคงรับไม่ได้แน่ๆ ครับ

หูอื้อละกัน 55

ฟังเพลงดังจนเกินระดับที่พอเหมาะ ทำให้เกิดอันตรายต่อแก้วหู และอาจจะทำให้สูญเสียการได้ยินแบบถาวรได้นะครับ ลักษณะที่ว่าก็คล้ายกับอาการหูอื้อ เหมือนเวลาได้ยินประทัดดังๆ หรือเสียงอะไรที่พุ่งตรงเข้าหูแบบตรงๆและดังระดับเกินร้อยเดซิเบล

ถ้าตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว ขอให้ฟังเพลงแค่ระดับพอเหมาะเท่านั้นครับ อย่าเปิดดังจนเกินความจำเป็นโดยเด็ดขาดครับ ได้ไม่คุ้มเสียครับ^^

ถ้ามีหูฟังตัวอื่นให้ลองเอามาฟังเทียบดูครับ
ถ้าตัวอื่นไม่เป็น ก็แสดงว่าเป็นที่ตัวหูฟัง ถ้าตัวอื่นยังเป็นอยู่ ก็เป็นที่หูคนฟังครับ
ถ้าชอบเบส แนะนำให้ใช้Full Size น่าจะเหมาะกว่า มันไม่อึดอัดรูหูดี
หรือถ้าชอบพกพาออกข้างนอกบ่อยๆก็ in ear เพราะได้ยินเบสชัดโดยไม่ต้องเร่งโวลุ่ม เนื่องจากมันตัดเสียงรบกวนภายนอกไปซะเกือบหมด เร่งไม่ดังก็ฟังชัดได้ แค่อย่าใส่เดินถนน หรือ ระหว่างขับขี่ยานพาหนะก็พอ

อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจคือหูฟัง noise cancelling ครับ ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก เสียงรถเมล์ เสียงรถบิ๊กไบค์ ทำให้ไม่ต้องเร่งโวลุ่มดังๆ ไปสู้กับเสียงพวกนั้นครับ :)

ร่างกายมีการปรับตัวครับ ร่างกายของเราเมื่อได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้ามาก็จะมีกลไกการปรับตัวเพื่อให้คุ้นชินกับสิ้งนั้นๆ โดยมีเวลาเป็นปัจจัยร่วม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่รู้สึกว่าเบสหายอิมแพคหาย
เปรียบเทียบในลักษณะอื่นก็เช่นการดูหนัง 3 มิติ อ่ะครับ เวลาเราดูตัวอย่างหนังจะรู้สึกว่ามันนูน ลึก พุ่งออกมา ดูมีมิติมาก น่าดูมากๆ นั่นเพราะเราดูแค่ตัวอย่างซึ่งมีไม่กี่นาทีเราจะรู้สึกว่ามันแปลกใหม่ตื่นตาตื่นใจ กลับกัน ถ้าเราดูหนังเรื่องนั้นจริงๆจะพบว่าเมื่อเราใช้เวลาไปสักพักถ้าไม่เอะใจ จะรู้สึกได้ว่าการดูหนังสามมิติมันเรื่มแบนลงเรื่อยๆ จนแทบไม่แตกต่างจากการดูระบบธรรมดา จะแตกต่างก็ต่อเมื่อถอดแว่นออกเพื่อทำให้สมองรับรู้เปลี่ยนไปอีกที
มันเป็นธรรมชาติของร่างกายครับ ถ้าเอาง่ายๆที่สุดเลยเช่นการสวมแว่น ผู้ที่สวมจะรู้ดีว่าเมื่อสวมไปนานๆเราจะไม่รู้สึกว่าเราสวมแว่นอยู่ ร่างกายจะยอมรับว่าแว่นเป็นส่วนนึงของร่างกายไปโดยปริยาย ใครเคยหาแว่นตารอบบ้านแล้วไม่เจอ สุดท้ายมันอยู่บนหัวเพราะเราเลิกแว่นขึ้นไปบ้างล่ะ อันนั้นอธิบายได้ชัดเจน55

จริงๆแค่บอกว่าใส่ mx985+A15 ผมก็คงตอบไม่ได้นะว่ามันดังหรือเบาเกินไป
เพราะมันขึ้นกับกำลังขับของ player แล้วก็ sensitivity และ impedance ของตัวหูฟังด้วย
แต่การปรับสุดจะเสี่ยงกับการเพิ่ม distortion มากกว่า ซึ่งอาจจะทำให้เสียงแย่ลง

ส่วน impact ที่ลดลงก็อาจจะอย่างที่ด้านบนว่าไว้ครับว่า หู และสมองของเราปรับตัวให้ชินกับเสียงนั้นไปแล้ว
ทำให้เสียงที่อาจจะบู้ทๆเพิ่มขึ้นมา ฟังแล้วรู้สึก flat มากกว่าเดิม หรือตามที่เรารับรู้ตามปกติในธรรมชาติ

เปลี่ยนแนวเพลงฟังบ้าง ^^

หูคนปกติก็เป็นค่ะ แต่นานๆไประวังประสาทการได้ยินเสื่อมถาวรนะค่ะ ต้องพักหูบ้าง