มารอฟังด้วยคน
พอดีชอบฟัง Score Soundtrack หนัง น่าจะเข้าข่ายเดียวกัน

ยินดีครับท่าน MaxxIE วันนี้ได้มีโอกาสฟังไฟล์ DSD กับ AK100 เครื่องเก่าๆ ของผมเลยเกิดแรงบันดาลใจสู่ก้าวเล็กๆ ของผมขึ้นมาอ่ะครับ...ดูแล้วอนาคตอาจจะได้ฉันมาม่ากะเขาละสิ^^!

คหสต.นะคับ เอาที่ เคยผ่านมือมาแล้วกัน bayerdynamic t90 คับ เข้าทาง classic วงใหญ่มาก เด่นมากด้านความเปนธรรมชาติ รายละเอียด stage มิติ แยกชิ้นดนตรี ฟังเอามันก็ได้ เบสก็ดี ไม่มั่นใจว่า international plus กำลังขับประมานไหน 250ohm น่าจะยังไหวอยู่ ส่วนตัวก็เคยใช้แอมป์ portable ขับเหมือนกันคับ

ถ้าเป็น Classic วงใหญ่ แนะนำเป็น AKG 812 ครับ ตัวนี้แยกช่องไฟ และรายละเอียดเสียงไว้ชัดมากๆๆ
เป็นหูฟังไม่กี่ตัวที่สามารถฟัง Symphony ได้กว้าง และสมจริงสุดๆครับผม

คือ ยังไงก็สู้ลำโพงไม่ได้อ่ะ

น่าสนใจทั้งสองเลยครับโดยเฉพาะ AKG ค่ายนี้เสียงดีราคาโดนมากๆ ทำให้นึกถึงตอนที่เริ่มเล่นใหม่ๆ ยังประทับใจหูฟังตัวแรกของผมไม่ลืมเลย ใว้มีเวลาจะไปลองฟังแน่นอนครับ^^

Yuin pk 1 ครับ ฮ่าาาาาๅๅๅ. + แอมแพงกว่า. ฟลูไซอีก

ลำโพงก็ต้องเป็นแบบลำโพงคู่ครับ+. แอมด้วย
ลำโพงบางคู่ก็สู้ หูฟังบ่ด้ายกาาาา

PK1 นี่แหละครับที่ผมฟังอยู่มันนี่แหละตัวก่อเรื่องเลย...ทำให้ผมอยากไปต่อ ที่ผ่านมาก็หาเรื่องให้ผมมาม่ามาแล้วทั้งนั้น ทั้งแอมป์ทั้ง DAP และอื่นที่ตามมาอีกมากมาย...ซื้อมาขายไปแต่!!!...เจ้า PK1 มันก็ยังอยู่ขนาดขายไปแล้วยังต้องไปหาซื้อกลับมาอีกครับ555

5555pk1นี่ตัวเรียกเพื่อนเลยครับ

555...จิง...ที่สุด...

สอบถามเฮียหมูหวานครับ AK812 กับ HD800 ตัวไหนเหมาะกับแนวนี้มากกว่ากันครับ?

ถ้าเป็นแนว Classic ผมว่า 812 เหนือกว่าครับ ช่องไฟแยกแต่ละชิ้นดนตรีมันดีกว่า และเวลาวงทั้งวงโหม
เสียง 812 จะไปได้สุดกว่า แต่หมายความว่าแอมป์ต้องถึงด้วยนะครับ ผมใช้ฟังกับ Mytek Brooklyn

ถ้าฟัง Symphony Orchestra ผมชอบอยู่ 2 ตัว ... คือ AKG K812 กับ Kennerton Odin

ตัวแรกคงไม่ต้องบอกอะไรมากครับ ส่วนตัวหลังผมเขียนแนวเสียงไว้ใน head-fi ไว้ประมาณนี้ครับ (ปรับนิดหน่อย)

"if you take an AKG K812, give it a fuller mid-bass, a little fuller mid, smooth-out and lower treble ... you get the Odin"

K812 ฟังเห็น "รายละเอียด" เห็น "เครื่องดนตรี" แต่ Odin ฟังแล้วเห็น "เพลง" กับ "วงดนตรี" (อารมณ์เห็นต้นไม้หลายๆ ต้น กับเห็นป่าหนึ่งป่า)

ชักอยากไปเที่ยวป่า..555

นอกเรื่องนิด.

dave_rawitat. Odin ฟัง rock เหมาะมั๊ยครับ

แหม่ฟังหลายท่านอธิบายถึง K812 แล้ว อนาคตชักออกแรงปีนให้ถึงซะแล้วครับรูปร่างเจ้าก็สวยซะด้วย...อยากมีใว้เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางสายนี้จริงๆ ครับ ผมคงได้ผอมสมใจหล่ะงานนี้(ไม่มีตังค์กินข้าว)

@ rachata ครับ
ตัว 812 ถ้าหาแอมป์ถึงๆ Match ได้ รับรองว่าไม่ผิดหวังจริงๆครับ เห็นเป็นชิ้นๆ ชั้นๆ หนักเบาเยี่ยมเลยจ้าา

ครับคงต้องหาโอกาสไปลองฟัง...ขอบคุณคุณหมูหวานและทุกท่านมากๆ ครับที่ที่ช่วยแนะนำ^^

ผมเคยไปดู symphony no.9 ของเบโธเฟน ที่วง russian symphony orchestra เล่น
เมื่อหลายปีก่อน ใครเป็นคอนดักเตอร์จำไม่ได้ ผมคุ้นๆว่า ทิมปานีที่หน้าตาเหมือนผู้พันแซนเดอร์
จะอยู่ด้านหลังริมซ้ายอ่ะครับ ไม่ทราบว่าการเซทวงออเครสตร้านี่มีกฏตายตัวหรือไม่
ผู้ใดรูรบกวนด้วยนะครับ อ้อ อีกอย่างปกติเปียโนคอนแชร์โต้นี่เปียโนจะวางอยู่ข้างๆคอนดักเตอร์เลยนี่ครับ งง

แต่ล่ะตัว เรียกเพื่อนทั้งนั้นเลย
พอจะมีตัวไหนที่ไม่ต้องพึ่งแอมป์ ต่อตรงก็เอาอยู่มั้ยเนี่ย 555

สงสัยคงได้ถอยลำโพงมาเผื่อดูหนังก่อนแล้วละ เห็นราคาแต่ล่ะตัวก็ผมร่วงแล้ว 555

จริงๆตอบยากมากครับว่าตัวไหนเหมาะ ผมว่าถ้า จขกท บอกชื่อ composer ที่ชอบมา อาจจะง่ายขึ้นครับ ส่วนตัวผมแบ่งเครื่องเสียงสำหรับเพลงคลาสสิกไว้สองประเภทครับ คือสายพริ้ว รายละเอียด ไหลลื่น กับสายสมจริง สเกลใหญ่โต หนักเบาเก็บครบ เนื้อเสียงเข้มข้น

ถ้าชอบฟัง mozart/strass/stravinsky/mahler/vivaldi/bach/handel/haydn ที่เป็น symphony หรือ จะเปน concerto อะไรก้แล้วแต่ แนวๆนี้ที่เน้นความพริ้วไหวของกลุ่มเครื่องสายเป็นตัวขับเคลื่นเพลง(ย้กเว้น mahler ไว้คนนะครับ ) บวกกับรายละเอียด transiant/dynamic ที่ฉับพลันแบบ mahler ผมว่าแนวนี้ ถ้าช่องไฟดี โปร่ง แบบ airy ละทำให้ฟังเพราะครับ hd800/k812/he1000/hd700/k712/edition x/stax ได้อยู่ครับ
- เพลงตัวอย่างของพวกนี้นะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=yRUlzJn8UeU

https://www.youtube.com/watch?v=CFQQsu6VBYA

https://www.youtube.com/watch?v=g65oWFMSoK0

ส่วนอีกสาย ก็พวก dvorak/wagner/tchaikovsky/brahms/beethoven/verdi/blitz/medelson/ richard strauss ทั้งที่เปนทั้ง concerto/symphony/opera ดนตรีเหล่านี้จะยุคโรแมนติกซะเยอะครับ เพลงจะขับเคลื่อนด้วยลูกหนัก เปอร์คัชชั่น เซลโล่ เครื่องเป่า รวมถึงเครื่องสาย ถึงพริกถึงขิง อันนี้ต้องใช้โทนัลที่เก็บครบๆเสียงต่ำลงลึกๆไม่มีบู๊ดมิดเบสเพื่อให้ กลางต่ำกับกลางต้องมีเนื้อเพื่อหุ้มวงให้ดนตรีดูมีพลัง เช่น tchaikovsky 1812 ท่อน climax ตอนจบที่เปนคอรัสคอร์แว๊กร้องแล้วผสมการยิงปืนใหญ่เข้าไป ตรงนี้ต้องมีลูกหนัก มีเนื้อ เบสต้องลึกถึงจะถ่ายทอดอารมณ์มาได้ครับ กลุ่มนี้ต้องใช้พวก Audeze lcd-x/lcd-4/abyass ครับ

กลุ่มสองนี้แนวๆนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=794tKBIgkwc

https://www.youtube.com/watch?v=89jOPAGJq-M

https://www.youtube.com/watch?v=ZrsYD46W1U0

ซึ่งถ้าเอาหูกลุ่มแรกมาฟังเพลงกลุ่มสอง พวกเซลโล่ เปอรคัชชั่น มันจะไม่ไหวครับลงไม่ลึกแรงไม่สมจริง ดนตรีจะโหว่งๆเหว่งๆขาดพลังเพราะเครื่องสายจะดูบี้ๆแห้งๆ แถมสเกลชิ้นดนตรีเล็กๆแต่ดันช่องไฟเยอะจะทำให้มันยิ่งโหวงเหวงไปใหญ่ แต่กลับกันเอากลุ่มสองไปฟังกลุ่มแรก มันก้จะเทอะทะ เฉื่อยๆไม่ flow เท่าทำให้ฟังละเสียอารมณ์ครับ

ส่วนถ้าฟังทั้งสอง ผมว่า grado ps1000 ครับ อาจจะไม่ได้สุดๆของทั้งสองแนว แต่ก้เกลียดๆเป็นเป็ดยักษ์ทำได้ดีทั้งคู่หละครับ ซึ่งเล่นลำโพงเองก็ต้องเลือกเหมือนกันครับ จะเห็นว่าคนชอบเพลงคลาสิก ไม่สาย JBL horn ก้ไปสาย Magnepan / Quad

ps. ถ้าฟังพวก sonata ด้วยนี้ไม่ต้องเอาเป็นประเด็นเลยครับ ผมว่าหูพวกด้านบนทุกตัวสบายๆเลยครับ

เรืองการจัดวง แล้วแต่คอนดักเตอร์ครับ ส่วนมากจะจัดให้ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นอยู่ในต่ำแหน่งที่เค้าคิดว่าเล่นบทเพลงนั้นๆแล้วรวมออกมาได้ฟิลลิ่งที่ตัว composer อยากจะได้ครับ แต่เท่าที่ผมฟังๆส่วนมากเครื่องสาย กับฟลุต ค่อนข้างนิ่งนะครับ เปอคัชชั่นนี่สลับกันไปๆมาๆแล้วแต่คอนดักเตอร์/เพลง/อัลบั้ม ครับ

@hvk ยกนิ้วเลย ละเอียดมาก ฟังคลาสสิคมันสุดทุกอย่างอ่ะ ตั้งแต่ source จนถึงอุปกรณ์ ถ้าลำโพงก็ต้องหลายตัว แถมต้องจัดตำแหน่งด้วย ไม่ใช่ซื้อ 5.1 มาแล้ววางสะเปะสะปะ รวมกันอยู่ด้านหน้าหมด

เราต้องหาจุดเบรคให้ตัวเองไม่งั้นล้มละลาย

เรื่องการวางวงนอกจากจะอยู่ที่คอนดักแล้วอยู่ที่สถานที่เล่นด้วย ถ้าฮอลออกแคบแต่โถงสูงอย่างโบสถ์ จัดเครื่องหรือนักร้องไปวางชั้น 2 ก็มี ชิ้นงานที่เล่นก็มีส่วนมากอย่าง sololist ต่างๆ

nan79 ใช่ครับผมลืมพิมพ์เรื่อง vanue การอัดไปเลยหละครับ จริงๆแล้วเพลงคลาสสิก vanue นี่ตัวสำคัญในการกำหนดมิติต่างๆเลยครับเพราะเปนตัวจำกัดการวางไมค์ รวมถึงตำแหน่งดนตรี อย่างพวกวง เวียร์นา ฟิลฮาโมนิก พวก new year concert เบียดกันยังกับเพลงร็อค ขี่คอกันเล่นในฮอลเลยครับ พวกเล่นเครื่องเสียงฟรั่งเอาแผ่น DG new year concert 1989 ไปฟังละบอกว่าชุดไม่ดี ดนตรีแยกไม่ขาด ก็มันไม่ขาดมาตั้งแต่การแสดงละครับ อันนี้ไม่รู้เครื่องหรือคนฟังมั่วกันแน่ ส่วนวงโออ่าก้พวก chicago/berlin/royall concertgabow/leningrad พวกนี้ฟังมิติช่องไฟมาแบบเด่นมากๆครับ ส่วนแผ่นค่าย telarc กับ sheffield lab พวกเพลงคลาสสิก พวกนี้อัดเน้นมิติ ช่องไฟเต็มที่ แต่เนื้อหาเพลงออกทะเลไปไกลแบบหายนะครับ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารวมๆมันแล้วแต่สถานที่ แล้วแต่คอนดักเตอร์ แล้วแต่การอัด ว่าจะให้ซาวแบบไหนครับ อย่างวงเดียวกันคอนดักเตอร์ต่างกันทีมอัดเสียงเดียวกัน เสียงก็ต่างกันซ้ายกับขวาแล้วครับ

แผ่น telarc อัดเสียงดี แต่เจอคอนดักกับวงแบบเดินสาย อันนี้ก็อึนๆ ไม่รู้จะพูดไงดี อัดเสียงดีแต่เล่นงั้นๆ มันก็หมดอารมณ์จะฟัง บางทีฟังท่อนเดียวก็ไม่อยากฟังต่อแล้ว

คนตามฟังเพลงคลาสสิคพอพูดถึงวงกับคอนดัก การที่มีคอนดักที่คุมวงเดียวกับคอนดักเดินสายตามสัญญาหรืองานเชิญ อันนี้ก็เป็นเรื่องปวดหัวของคนฟัง เพราะต้องมานั่งตามว่างานชิ้นไหน ปีไหนเล่นดี มันไม่ใช่แบบทีฟังเบอลินเนอร์วงเดียวคอนดักคุมจนตายกันไปข้างนึง เอาเหอะนะ เลือกที่ชอบๆ แล้วกัน

ยังมีคนเก่ง แต่ไม่ชอบอัดแผ่น
ทำให้หาฟังได้ไม่มากนักแบบ sergiu celibidache ด้วยครับ
บางเพลงพ่อเจ้าประคุณตีความ แบบผมฟังแล้ว อะไรกันวะ
บางเพลงก็ตีความถูกใจสุด ๆ
สรุป เป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวล้วน ๆ

ชอบ Rudolf Koelman อ่ะ ไวโอลินเค้าคลีนมาก แต่มีแค่ mp3 ในป่า กะ m4a ในไอจูน T-T

โอโหเรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย^^...อ่านจาก comment หลายๆ ท่านผมได้ความรู้เพิ่มเลยนะเนี่ยบอกตรงๆ ครับผมพึ่งเคยได้ฟังแค่ครั้งสองครังเองยังไม่มีความรู้อะไรเลยครับ แต่ที่รู้สึกชอบเพราะมันเป็นดนตรีที่ฟังแล้วรู้สึกสะใจและมันสุดจริงครับเลยอย่ากจะหาข้อมูลเพื่อเป็นพื้นฐานในอนาคตนะครับ...รู้สึกขอบคุณจากใจจริงทุกๆ ความเห็นเลยครับส่วนตัวผมเป็นคนที่ฟังเพลงหลากหลายครับแต่ classic เนี่ยพึ่งได้เคยสัมผัสครั

@rachata

ทุกเรื่องล่ะครับ เรายิ่งเล่น ยิ่งลงลึก ยิ่งเห็นรายละเอียด เพลงคลาสสิคก็เช่นเดียวกัน ไม่ต่างจากเรื่องหูฟัง ก่อนจะเล่นผมเชื่อว่าหลายคนไม่เห็นรายละเอียด หูฟังก็คงจะเหมือนๆ กัน ฟังออกมาเหมือนๆ กัน ถึงจะต่างกันก็คงไม่มากเท่าไหร่

เรื่องนี้ตัวแปรมันเยอะมากครับ คอนดักเตอร์ วง สถานที่ ยังไม่รวมถึงทีมอัด ทีมผลิตอีก

ถ้า "เพิ่งเริ่มฟัง" เอาจริงๆ แล้วอย่าเพิ่งสนใจเรื่องอุปกรณ์ฟังเพลงมากดีกว่าครับ ตัวเสียงกลางๆ ไม่เด่นด้านไหนเป็นพิเศษ เวทีกว้างๆ หน่อย อย่างพวก AKG K701 เหลือเฟือมากๆ ตรับ ที่จะทำให้เราเริ่มเห็นรายละเอียดของเพลง จะได้ไม่ลงทุนมาก จมมากด้วย เอาเงินไปลงกับเพลงดีๆ ดีกว่าเยอะครับ และหลายๆ เวอร์ชั่นด้วย (ปกติเพลงที่ผมชอบๆ ผมจะมีประมาณ 5-6 เวอร์ชั่นเก็บไว้ เป็นเรื่องปกติมากๆ)

แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมาตามความชอบครับ ว่าอยากได้ยินเพลงออกมาแบบไหน อันนี้ไปลองฟังได้ครับ :-)

เพื่อนสนิทผม เป็นนักดนตรี เล่นประจำอยู่ที่วง Singapore Symphony Orchestra ยังใช้ K612 ฟังเพลง ซ้อมเพลง และอื่นๆ เลยครับ แถมชอบมากด้วย 612 นะครับ ไม่ได้พิมพ์ผิด ไม่ใช่ 712, 812

การที่หลายๆ คน "ชอบ K812" ในกระทู้นี้ ไม่ได้แปลว่ามันดีกว่านะครับ มันแค่เป็นการบอกว่า "คนเหล่านี้บังเอิญอยากได้ยินเพลงออกมาในลักษณะที่ K812 มันทำออกมาได้" เท่านั้นครับ

ตัวอย่างเช่น .... ผมกับภรรยาผม ยังชอบไม่เหมือนกันเลย ผมชอบ K812, Odin กับการฟังเพลงพวกนี้อย่างที่เขียนไปแล้ว แต่ภรรยาผมชอบ HE560 ชอบ HD800 มากกว่า เป็นเรื่องปกติครับ

ถ้า "เพิ่งเริ่มฟัง" เอาจริงๆ แล้วอย่าเพิ่งสนใจเรื่องอุปกรณ์ฟังเพลงมากดีกว่าครับ ตัวเสียงกลางๆ ไม่เด่นด้านไหนเป็นพิเศษ เวทีกว้างๆ หน่อย อย่างพวก AKG K701 เหลือเฟือมากๆ ตรับ ที่จะทำให้เราเริ่มเห็นรายละเอียดของเพลง จะได้ไม่ลงทุนมาก จมมากด้วย เอาเงินไปลงกับเพลงดีๆ ดีกว่าเยอะครับ และหลายๆ เวอร์ชั่นด้วย (ปกติเพลงที่ผมชอบๆ ผมจะมีประมาณ 5-6 เวอร์ชั่นเก็บไว้ เป็นเรื่องปกติมากๆ)

----------------------------------------------------------------------------------------------
+1 x 2

ขอ clarify นิดๆ ฮะ ... "เพิ่งเริ่มฟัง" ของผม หมายถึงเพิ่งเริ่มฟังเพลงคลาสสิคนะครับ ไม่ได้มีความหมายอื่นใดเลย :-)

จริงๆมันก็ไม่จำเป็นเสมอว่าจะเป็นแบบที่ผมบอกว่าเพลงคลาสสิกต้องใช้เครื่องกับชุดถึงๆตลอดหรอกครับ แต่นั่นคือมาจาก assumption ว่าคุณฟังเพลงจริงจัง แต่ถ้าเริ่มฟังจากเพลงสองเพลง แล้วจะศึกษารายละเอียดเพลงเพิ่มเติม ก็เล่น hd600/k240/dt770/k550 พวกนี้กำลังดีแล้วครับ ต่ำกว่านี้เสียงมันมาไม่ครบแบบที่มันควรจะเป็นครับ ส่วนสูงกว่านี้ คุณก็จะได้คุณภาพ ที่มากขึ้น

ยังไง k812 ก้ดีกว่า k612 ทุกๆด้านละครับ ไม่เกี่ยวว่าชอบไม่ชอบ k812 ทำอะไรที่ k612 ทำได้ทุกด้าน แนวก้เหมือนๆกัน แต่ที่เพิ่มขึนมา ก็เช่น k612 แหลมมันแข็งด้วนกว่า k812 ก้ปรับให้มันไปไกลขึ้นพริ้วขึ้น กลาง k612 มันโด่ง k812 ก็ทำให้มันไม่โดง มีมวลขึ้นเนียนกลมขึ้น มิติ ช่องไฟ ก็ดีขึ้นตาม ทำให้เวลาฟังเพลง นอกจากจะได้รายละเอียดเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเข้าใจถึงดนตรีจริงๆได้สมจริงกว่าครับ ซึ่งจุดสมดุลย์ในการฟังของแต่ละคนแตกต่างกัน ถ้าต้องการแค่รายละเอียดมีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง พวก hd600/k550 อะไรแบบนี้ก้เพียงพอได้ครับ แต่ถ้าจะเอาทุกอย่างครบๆเก็บทุกเม็ด ก็ต้องไปเล่นตัว flagship แล้วครับ

ขนาดห้องอัดเสียง เค้ายังมีลำโพงสองแบบที่ใช้เล่นกันเลยครับ กลุ่มนึงพวก bw-801 / jbl 43x 44xx ไว้เช็คซาวแบบซีเรียสสำหรับเพลงที่อัดมาแบบ audiophile ส่วนเพลงทั่วๆไป เค้าก้ใช้ yamaha ns-10 ตัวเล็กๆ ไม่ใช่ ns10 ดีกว่า 801 หรอกครับ แต่ ns-10 มันให้เสียงคล้ายๆวิทยุบ้านๆ หูฟังบ้านๆมันทำให้สามารคาดเดาทิศทางว่า final output ที่คนทั่วไปต้องการจะเปนอย่างไร เพราะถ้าเอา 801/43xx มามิกส์กับเพลงบ้านๆ มันก็จะทำให้เบสหาย แหลมหุบ เวลาไปเปิดกับลำโพงทั่วๆไป เพราะพวกนี้ไม่ได้ให้ความถี่อะไรกว้างขนาดนั้นครับ ต้องเอา ns10 มาฟังแล้วบูสความถี่ให้มันฟังได้ดีกับ ns-10 แล้วมันถึงจะฟังได้ดีกับลำโพงบ้านๆครับ

ขอเคลียร์นิดหน่อนครับ

ผมไม่ได้บอกว่า 612 vs 812 เป็น "ความชอบ" นะครับ ผมหมายถึงแค่ "ความพอดีในการฟัง" ที่ถ้าจะเริ่มต้นฟัง และไม่ได้ฟังถึงขนาดจะ critical listening นั้น มันก็เพียงพอ

ที่บอกว่าเป็นเรื่องความชอบ นั้นคือเทียบระดับตัว flagship หรือใกล้เคียงครับ เช่น HD800 vs K812 อะไรทำนองนี้ ซึ่งบังเอิญที่หลายๆ คนบอกว่า 812 เพราะชอบสิ่งที่ 812 มันให้

ผมรู้จักหลายคน ที่ชอบ K812 มากกว่า HD800 และหลายคนที่ชอบ HD800 มากกว่า K812 "ในภาพรวม" เพราะว่าเมื่อลงรายละเอียดจริงๆ มันก็ยังเป็นเพลงๆ อยู่ดี บางเพลงก็ชอบ A มากกว่า B บางเพลงก็ชอบ B มากกว่า A

เมื่อ technicality มันพอๆ กัน มันก็เป็นเรื่องของความชอบ เรื่อง characteristic ครับ .. นั่นคือประเด็นที่ผมอยากจะสื่อ

แต่ถ้า technicality มันไม่พอกัน (812 vs 612) ก็อยู่ที่ความพอดีกับการฟังของตัวเอง และองค์ประกอบอื่นๆ (source, dac, amp, etc) ด้วยล่ะครับ

เรื่องมันยาว -___-'

อันที่จริง ทั้งคุณ @hvk และ @dave_rawitat ก็ไม่ได้ค้านกันหรอกนะ เพียงแต่มีประเด็นที่จะชี้ไปในแต่ละทาง

ที่จริง คือ ที่จริง คือ เจ้าของกระทู้ค่อยๆ เริ่มฟังไปทีละนิดดีกว่า เพราะเพลงคลาสสิคนอกจากต้องใช้เวลาแล้วต้องมีประสบการณ์ในการฟังมากๆ แถมถ้าจะจริงๆ จังๆ จุดที่สำคัญไม่ใช่อุปกรณ์ซะทีเดียว จุดสำคัญคือ ความรู้เกี่ยวกับเครื่องดนตรีและวงแบบต่างๆ

ค่อยๆ ฟังไปตามที่ชอบอ่ะ อย่าซีเรียส เด๋วอ่านเยอะๆ จะมึนกว่านั่งฟังเพลงอีก พอฟังไปซักระยะ เก็บสะสมเสียงในสมองมาขึ้นเรื่อยๆ ความพลิกแพลง พิศดารของเพลงที่จะฟัง อุปกรณ์ที่จะเล่นจะตามมาเอง ไม่ต้องมาเก็บเอาสุด เอาดีตอนนี้ก็ได้

นะนะนะ

ผมไม่ได้ค้านคุณ @hvk ฮะ ตรงกันข้าม ผมเห็นด้วยมากๆ ด้วยซ้ำ :-)

ก็เคลียร์กันไปมา คนอื่นๆ อาจจะคิดว่า ทะเลาะกัน

อีก 10 ปีข้างหน้าก็จะมีกระทู้แบบนี้อีกอ่ะแหละ 555

คลาสสิคฟังกันสนุกๆ สบายๆ แบบนี้ก็มีนะ



ละครต่างประเทศบางเรื่องเอาท่อนนี้ไปใส่ในเรื่องก็มี แต่คนไม่รู้ ลุงเค้าเล่นแบบนี้เป็นประเพณีปีใหม่เลย

อันนี้แบบเต็มๆ เกือบชั่วโมงครึ่ง https://www.youtube.com/watch?v=1cA1pXJ8Iuc