powerbar เน้นการป้องกัน surge เป็นหลัก AC filter ได้พอขำๆ

powerbridge นอกจากมีวงจรป้องกัน surge แล้ว มีภาค AC filter ที่จริงจัง

ปล. ถ้าฟังเพลงแล้วไม่รู้สึกว่ามีสัญญาณรบกวน ไม่ต้องอัพไป powerbridge ก็ได้

ถามว่าคุ้มมั้ยต้องถามว่าใช้กับชุดอะไรอยู่ครับผม^^

bar ผมเสียบกับทีวีกันกระชาก
bridge ผมเสียบกับชุดฟังเพื่อกรอง

คือผมพยายามอ่านสเป็คของทั้งคู่เห็นมีระบบกรองทั้งคู่ แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันต่างกันมากน้อยแค่ไหนน่ะครับ จริงๆ ก็ต่อชุดฟังเพลงนี่ล่ะครับ ใช้ powerbar background มันก็นิ่งระดับนึงแล้วน่ะครับ เลยคันอยากจะไปที่ powerbridge ต่อ แต่ก็ยังสงสัยว่ามันต่างกันแค่ไหนครับ

นั่นละครับ เขาถึงถามว่าใช้ชุดไหนฟังอยู่ บางชุดแทบไม่เห็นความต่าง ก็ไม่ต้องเสียเงิน แต่ถ้าจะเล่นระบบไฟจริงๆ แนะนำทำระบบไฟที่บ้านก่อนเลยครับ ไล่ตั้งแต่สายไฟจากเบรกเกอร์เข้าห้อง ปลั๊กผนัง แล้วค่อยมาจบที่รางปลั๊ก

powerbar มันมีวงจรกรองในตัวนิครับ แต่เป็นคนละรุ่นกับอีกตัว คนละขนาด
http://www.clef-audio.com/show_products_detail.php?id=21&&lang=th

ต้องดูก่อนว่าทำไม bridge มันแพงกว่า ดูปลั๊กสิครับ เค้าใช้แบบปลั๊กไฟ audio grade ตัวหนึ่งก็หลายร้อยจนถึงหลักหลายพัน แต่ bar ใช้ปลั๊กแบบเต้าเดี่ยวๆ ไม่มียี่ห้อ ราคาต้นทุนแค่นี้ก็ต่างกันเยอะ วงจรกรองตัว bridge ใหญ่กว่า แต่อุปกรณ์พวกนี้มันไม่กี่บาทหรอก มันหนักไปที่ปลั๊ก กล่องที่ใหญ่กว่า ลองสังเกตุดู จริงๆทำเองก็ได้นะ วงจรพวกนี้หาได้เยอะแยะ ถ้ากรองขั้นสูงต้องพวกเป็นกล่องใหญ่ๆ ราคา 2-3 หมื่นขึ้นนู่นครับ

ในรูปคือ powerbridge ที่โมแล้วนะ ตัวที่มี 6 รูเสียบ ก็ต้องใช้ปลั๊กแบบคู่ 3 คู่ ตัวหนึ่งก็ 500 3 ตัวก็ 1500 ไหนจะกล่อง ไหนจะสายไฟ วงจร ไหนจะกำไรบริษัท ค่าขนส่ง กำไรพ่อค้า มันก็ต้องราคาประมาณนี้แหละครับ

ถ้าซื้อ bridge มาอยากโมก็ลองหามาเปลี่ยนดูครับ สนนราคาแล้วแต่กำลังเลยครับ อิๆ

http://www.overclockzone.com/forums/showthread.php/1722514-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%81-Leviton-Hubbell-salzer-cooper-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9F-IEC-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93-HDMI-%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94-RCA-banana

เพาเวอรบริด ดีกว่าอยู่แล้วครับ ลองดูการเดินสายภายในและวงจรกรองไฟจากภาพ ในgoogle ครับ จัดเต็มจริงๆ ครับ และเพาเวอรบริดสามารถใช้ปลั๊กพร้อมกันทุกช่อง เช่น รูถนึงถ้าเสียบสายไฟก็ไปทางซ้าย อีกรูนึงก็ไปทางขวา แต่เพาเวอรบารรูปลั๊กไฟหันไปทางเดียวกันหมด ถ้าใช้หัวปลั๊กอันใหญ่หรือพวกอแดปเตอร์ยาวๆ เสียบไปบางทีรูข้างๆ เสียบไม่ได้ครับ ทำให้ใช้งานอาจจะไม่ครบครับ

อีกจุดนึงเรื่องกราวด์ครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางรุ่นที่มีปลั๊กแค่ 2 ขา เราก็ทำกราวด์ อาจจะใช้สายลำโพงไปเสียบไว้ในรูน๊อตหรือที่ตัวถังที่เป็นโลหะเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ แล้วขันน๊อตให้แน่น แล้วปลายสายเอาไปเสียบไว้ที่กราวด์ ของเพาเวอรบริดได้อีกด้วยครับ แต่ระบบไฟที่บ้านคุณต้องมีกราวด์นะครับ และมีไฟบอกสถานะ power ground phase 3 ดวง ถ้าสว่างครบแปลว่าสมบูรณ์ครับ

ผมใช้ powerbar ฟังเพลงกับชุดหูฟัง เพราะซีเรียสแค่ระดับนึง ซึ่งเท่านี้ผมเองก็ไม่ได้ยินเสียงรบกวนแล้วครับ

แต่ผมมีชุดโฮมเซ็ทใหญ่สำหรับดูหนัง เซ็ทนี้ผมใช้ powerbridge 8s ตัวก่อนล่าสุด...ซึ่งผมว่าการเดินวงจรภายในมันจริงจังกว่าเยอะครับ ส่วนปลั๊กเต้ารับที่บิ้วมาจริงๆมันก็ยังไม่ใช่ของดีหรอกครับ ล่าสุดผมก็เพิ่งเปลี่ยนตัวนึงออก แล้วเอา furutech ใส่เข้าไปไว้เสียบกับ AVR และ Subwoofer แทน เสียงมาเต็มขึ้นแบบไม่ต่องเพ่ง ...ผมเห็นตัวที่แกะออกมาเปลี่ยนนี่น่าจะเป็นของธรรมดาๆ ตัวละไม่กี่บาทหรอกครับ ไว้จะถ่ายรูปมาให้ดู

ผมว่ารุ่นใหญ่ๆ มันน่าจะเดินวงจรมาดีกว่า แต่ไม่ได้ให้ปลั๊กเต้ารับแบบที่ดีมากมาให้ (แน่ล่ะ ไม่งั้นราคาพุ่งแน่ๆ) ซึ่งมันก็เอื้อกับการนำมาอัพเกรดกว่าพวก powerbar ครับ

ต่างกันเยอะเลยจ้าาา ตั้งแต่เต้าปลั๊กเสียบก็เกรดดีกว่า วัสดุตัวนำ และหน้าสัมผัสเยอะกว่า
และวงจรกรองไฟนั้นใหญ่กว่า แถมมีการแยกเป็นชุดๆ เข้าแต่ละเต้าครับ ซึ่ง PowerBar มันจะเป็นชุดเดียวต่อขนานกัน
ซึ่งถ้าหากเทียบคุณภาพการกรอง Noise แล้วตัว PowerBridge ย่อมเหนือกว่าแน่ๆๆครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ พอเป็นแนวทางในการอัพเกรดต่อไปล่ะครับ ^^