Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เครโทรส

28/01/2016 10:29:27
ใครเคยมีประสบการณ์กับตัวมั้ย ว่ามันดีจริงหรือเปล่า หรือแค่กระแสเห่อๆกันไป

*ไม่ต้องบอกว่ามาถามที่บอร์ดหูฟังทำไม เพราะเจ้าของร้านก็จัด โปรลูกเทพ เหมือนกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

เดียว

28/01/2016 10:35:25
1,067
ผมว่าสิ่งเหล่านี้มีจริงครับ แต่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธสอนให้เชื่อเหตุผล คนเราจะรวยได้ด้วยความเพียร ไม่ใช่อ้อนวอน และถึงแม้ว่าไม่รวย ก็สามารถมีความสุขได้ เพราะความสุขอยู่จิตใจไม่ใช่วัตถุ
ใครจะเชื่อถือ นับถืออะไรก็นานาจิตตังครับ แต่ประเด็นคืออย่ามาปนกับศาสนาพุทธก็แล้วกัน เพราะศาสนาพุทธไม่ได้สอน ไม่งั้นสังคมจะผิดเพี้ยน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

inspire

28/01/2016 10:42:45
0
ผมเชื่อในวิทยาศาสตร์มากกว่าครัช พวกหูฟัง เครื่องเล่น เหล่านี้มาจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น ยกเว้นมันจะสามารถพิสูจน์ได้จริงถึงจะเชื่อ

กาลามสูตร


มา อนุสฺสวเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
มา ปรมฺปราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
มา อิติกิราย - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
มา ตกฺกเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเดาว่าเป็นเหตุผลกัน
มา นยเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมานคาดคะเน
มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเดาจากอาการที่เห็น
มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
มา ภพฺพรูปตา - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะผู้พูดมีลักษณะน่าเชื่อถือ
มา สมโณ โน ครูติ - อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

Jack

28/01/2016 10:52:07
ลองอ่านบทความนี้ดูครับ "โทษจากการบูชาตุ๊กตาลูกเทพ" โดย อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล

manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000008919
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

Beamharit

28/01/2016 11:05:49
13
images by free.in.th

บางคนเลี้ยงลูกเทพเพื่อหวังให้ผู้เลี้ยงโชคดี ร่ำรวย มีความสุข

images by free.in.th

บางคนไหว้พระ ทำบุญ ตักบาตรเพื่อหวังสิ่งเดียวกัน

ก็นะผมว่าพอๆ กัน!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

เหน่งบา

28/01/2016 11:10:41
1,866



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

เดียว

28/01/2016 11:12:14
1,067
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับป๋าเทพนะครับ สงสารป๋า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

สมัครเล่น

28/01/2016 11:43:00
412
คุณเดียว ที่คุณว่าไม่อยากให้ปนกับศาสนาพุทธ
แต่มันโดนปนเปรอะไปนานมากแล้วครับ
ถ้าในกรณีของความเชื่อของคนทั่วไป
คงแยกออกยากมากแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

Ahura

28/01/2016 11:51:41
1,663
พุทธ ผี พราหมณ์ เป็นสิ่งที่หลอมรวม แยกกันไม่ออก และแก้ไขอะไรไม่ได้ในสังคมบริโภคนิยมแบบจับฉ่าย ( Eclecticism ) แนวคิดพุทธบริสุทธ์จึงดูเป็นอุดมคติและห่างไกลสภาพความเป็นจริงทางสังคมเกินไปครับ

เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคงอยู่ที่ว่า เราจะอยู่ร่วมกับมันอย่างไรอย่างมีสติและรู้เท่าทันกระแสชั่วคราวนี้ครับ

ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า " มือที่ไม่มีบาดแผล ย่อมกำยาพิษได้ " ครับ ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

นายมั่นคง

28/01/2016 11:57:37
4,294
555 ในความเห็นผมสิ่งเหล่านี้ไม่มีจริงหรอกครับ ท่านที่มีวิจารณญาณก็จะทราบกันดี แต่ที่ผมจัดโปรลูกเทพนั้น เจตนาก็คือล้อเลียนขำๆอำเล่นๆครับ และเป็นปกติของร้านมั่นคงที่มักจะบันทึกเหตุการณ์สังคมในช่วงนั้นๆแบบขำๆ อำกันเล่นๆมาตลอด

แต่ก็มีบางคนคิดกันเป็นตุเป็นตะว่าผมส่งเสริมให้คนงมงายไปซะงั้น 555 ซึ่งต้องขออภัยทุกท่านจริงๆที่บางท่านไม่เก็ทมุขนี้ครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

RockDragon

28/01/2016 12:07:45
2,893



มองโลกในแง่ดีกันเข้าไว้
แล้วจิตใจเราก็จะมีความสุขไปเองละครับ ^^

ปล.มอนชิชิของแฟนผมนะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

ellevoid

28/01/2016 12:29:32
220
สนับสนุนลุงตู่ให้ตั้งกระทรวงเวทย์มนตร์ (Ministry of Magic) ในประเทศไทยครับ แล้วเลือก sector เวทย์มนตร์ให้เป็นหนึ่งใน super cluster สำหรับประเทศไทย เพื่อให้เมืองไทยได้เป็น Magical Hub of Asean ไปเลยครับผม ฮ่าๆๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

SirisexnewTA

28/01/2016 12:41:53
387
มีประโยชน์ครับ ไปซื้อของที่ร้านมั่นคงให้เกิน 1000 บาท แล้วถ่ายรูปคู่ ก็ได้รับ AKG K 311 แล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

เหน่งบา

28/01/2016 12:42:04
1,866
จริงครับ คุณเดียว ขออภัยที่ไม่คิดให้ดีก่อนตอบกระทู้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

เดียว

28/01/2016 13:25:43
1,067
แซวเล่นครับพี่เหน่งบา ดูแล้วตุ๊กตาป๋าเทพก็น่ารักดีครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

เดียว

28/01/2016 13:36:10
1,067
อย่างพระพยอมท่านเคยว่าครับ ท่านบอกว่าเราก็ปลุกเสกลูกเทพกันเยอะๆ แล้วอุ้มไปตั้งไว้กระทรวงการคลังให้มากๆ ประเทศเราก็จะมีเงินทองมั่นคง ประชาชนก็ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องทำมาหากิน ก็มีเงินมาเอง ก็ดีนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

somkiatr

28/01/2016 17:07:20
182
ผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่ มีเพื่อนเลี้ยงกุมารทองอยู่ เป็นคนมีฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงานดีมาก สำหรับตุ๊กตาลูกเทพผมเข้าใจว่ามันคงคล้ายๆกุมารทอง แต่มาในรูปแบบของตุ๊กตาน่ารัก ซึ่งผมคงไม่คิดจะว่าหรือดูถูกเขาหรอก เป็นความเชื่อของแต่ละคน ตราบใดที่ไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้ใคร ของพวกนี้บางทีไม่เจอกับตัวเองก็ไม่มีใครเชื่อครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

เดียว

28/01/2016 18:36:01
1,067
ต้นเหตุจริงๆเกิดจากดาราและรายการทีวี สื่อมีอิทธิพลให้คนทำตามได้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

offer022

28/01/2016 19:16:14
1
พอดี เพิ่งเจอข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมเจ้านึง
เห็นว่ามีคนเอา เถ้ากระดูกคนตายเป็นมวลสาร ใส่ไปในตุ๊กตาจะได้เข้มขลัง

คือแบบ..ถ้ากระดูกคนตายนั้นเป็นผู้มีวิชาอาคม/มีศีลธรรมมาก่อน หรือเป็นเถ้าของเกจิอาจารย์ หรือแม้กระทั่งเถ้าบรรพบุรุษของเจ้าของตุ๊กตา ผมจะไม่แปลกใจเท่าไหร่นะ (อันนี้บางกลุ่มมีความเชื่อว่าบรรพบุรุษจะได้ให้โชคลาภ หรือคุ้มครองลูกหลาน ซึ่งหมายถึงผีบรรพบุรุษ ไม่ใช่ตุ๊กตาผีบรรพบุรุษ +_+)
แต่ในข่าวบอกว่า กระดูกเป็นของจากป่าช้า หรือผีตายโหง..
คือ เฮ้ย ไม่ฉุกคิดกันเลยเหรอ ว่าถ้าผีแบบนั้นมันมาสิงตุ๊กตาเมิง(ถ้ามันมาจริงๆ) มันจะไม่พาไปเดือดร้อน ดีไม่ดีมันพาเจ้าของไปตายโหงตามมันล่ะไม่ว่า แล้วเอาตามความเชื่อผมนะ ภพภูมิที่เขาอยู่สูงกว่าเรา เขาจะมาสิงตุ๊กตามึงเพื่อขอส่วนบุญ/บำเพ็ญตบะเหรอ? คิดสิเฮ้ย คิดดดด

ที่ผมเคยอ่าน พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้นะ ว่าเรื่องภพ/ภูมิ มีจริง แต่ไม่ให้เราไปยืดถือ มันไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ แต่ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้นะว่าตัวเองก็พึ่งสิ่งที่มองไม่เห็นเหมือนกัน(แต่ส่วนใหญ่จะพึ่งพุทธคุณ)

ถ้าถามผมว่า ผมเดือดร้อนไหม คือถ้าไปเจอคนถือตุ๊กตาเดินในห้างเฉยๆนี่ก็ไม่เดือดร้อนนะ อย่างถ้าร้านบุฟเฟ่ต์ ก็แค่ขอเขาย้ายที่ ถ้อยทีถ้อยอาศัย จิตของเขามันสร้างสมมาแบบนั้น เราสร้างมาแบบนี้ เมตตาได้ก็เมตตากันไป. แต่ถ้าอยู่ในที่ปิด แบบรถตู้ หรือเครื่องบิน ย้ายที่ได้ผมคงขอย้าย ถ้าย้ายไม่ได้เต็มที่ก็แค่ใส่หูฟังและหลับตาเสีย ฟังเพลงบ้าง หลับบ้าง เดี๋ยวก็ถึงที่หมาย

นี่ยังคิดเล่นๆ ให้พี่ที่รู้จักกันเอาดรอย Mikudayo ไปเลี้ยงข้าวในห้างบ้างเหมือนกัน ดูซิพวกไฮโซตุ๊กตาเทพจะทำหน้ายังไง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

yamano

28/01/2016 19:47:39
271
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

Dawn

28/01/2016 21:57:51
88
เคยเจอสุภาพสตรีท่านนึงมัวแต่เดินพลางไปหวีผมตุ๊กตาลูกเทพไปพลาง สุดท้ายเดินไปเยียบหางหมาที่นอนขวางอยู่ร้องลั่น สงสัยจะไม่ได้มองทางเลย ดีนะหมาไม่วิ่งไล่กัด คุณลูกเทพนี่ก็ไม่เตือนคุณแม่เลยนะ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

SARUS

28/01/2016 22:23:56
28



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

Jack

28/01/2016 22:31:58
ข่าวดีเจบุ๊กโกะมาจากเพจข่าวสดปลอม ระวังติดไวรัสนะครับ

khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1453956170
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

yamano

28/01/2016 23:40:03
271



ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

aeclubwoi

29/01/2016 11:26:38
0
ไม่รู้จะพูดไงดี 55

xxxxxxxxxxx
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

MaxxIE

29/01/2016 16:17:07
107
ส่วนตัวผมว่ามันเป็นสิทธิในการกระทำส่วนบุคคลที่จะนับถือหรือบูชาอะไรครับ

ส่วนตัวผมว่าศาสนาพุทธนั้นเริ่มผิดเพี้ยนตั้งแต่มีพระพุทธรูปแล้วครับ

พระพุทธเจ้าเคยบอกแก่พระเจ้าอโศกมหาราชเมื่อครั้งที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้เอ่ยปากบอกว่าจะทำพระพุทธรูปถวายพระพุทธเจ้าเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ดูต่างหน้าพระพุทธเจ้า โดยพระพุทธเจ้ากล่าวเอาไว้ว่า
"รูปเคารพนี้หาได้จำเป็นไม่ ถ้าหากผู้นั้นต้องการพบกับเราให้ผู้นั้นศึกษาพระธรรม เพราะผู้ใดที่เห็นธรรมผู้นั้นย่อมเห็นเรา"

อย่าลืมน่ะครับว่า มีเพียงสิ่งเดียวที่พระพุทธเจ้าทิ้งไว้เป็นมรดกแก่โลก ไม่ใช่พระพุทธรูปและไม่ใช่พระสงฆ์ แต่สิ่งนั้นคือ พระธรรมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

RockDragon

29/01/2016 16:26:52
2,893
- ถึงเฮียมั่น -

คห.24 เอาลิ้งโฆษณามาลง

ไม่มีโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับตุ๊กตาลูกเทพ

แบบนี้ถือว่าเป็น Spam ต้องถูกเชือดสถานเดียวนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

Jack

29/01/2016 16:31:30
คห.24 เค้าบังเอิญตอบผิดกระทู้รึเปล่าครับ

เห็นไปตอบไว้ในกระทู้

forum.munkonggadget.com/detail.php?id=200290

คล้าย ๆ กันเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

นายมั่นคง

29/01/2016 17:10:44
4,294
แบนเลยจ้าๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

yamano

29/01/2016 22:56:33
ขออนุญาติ แก้ความคิดเห็นผิดให้นิดน้าาาา
กลัวว่าคนไม่รู้จะเอาไปเล่าต่อกันผิดจ้าาาาา

พระเจ้าอโศกมหาราชไม่เคยพบพระพุทธเจ้าครับ
เพราะพระเจ้าอโศกเกิดหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
ถึง300-500 ปีเลยครับผม
พระเจ้าอโศก ฆ่าพระจริงและปลอมไปเยอะมาก
ตอนหลังกลับใจมานับถือพุทธศาสนามาก
และจัดมีการสังคายนาครั้ง 2หรือ 3 นี่ล่ะ
และทรงส่งพระสองรูปมาเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ทางสุวรรณภูมิ(ประเทศไทย) ศาสนาพุทธจึงตั้งลง
บนแผ่นดินไทยตั้งแต่นั้นมา

ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ"
แปลว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็น ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นเห็นธรรม"
คำนี้พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ก่อนเสด็จปรินิพพาน
ไม่กี่นาทีจ้าาาา เนื่องจากพระอานนท์ ถามพระพุทธเจ้า
ก่อนท่านจะปรินิพพานไม่กี่นาทีว่า "เมื่อพระองค์เสด็จปรินิพพาน
แล้ว พวกข้าพพระองค์จะเอาอะไรเป็นที่พึ่ง เป็นศาสดาพระเจ้าข้าา
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ธรรมและวินัย จะเป็นที่พึ่งและเป็นศาสดา
ของพวกเธอ " คือพระธรรมจะเป็นศาสดา พระวินัย จะเป็นอายุ
พระพุทธศาสนา

ส่วนพระธรรมนั้น พระพุทธเจ้าจะเกิดหรือไม่ พระธรรมมีอยู่แล้ว
แต่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้(ค้นพบ)และนำมาสอนจัดเป็นหมวดหมู่
ให้เข้าใจง่ายขึ้น ธรรมที่พระองค์ทรงรู้นั้นมีมาก แต่ที่ทรงนำมาสอนนั้น
คือ "อริยสัจจ" จ้าาา

พระพุทธรูปองค์แรกสร้างหลังปรินิพพาน 500ปี โดยพระเจ้ามิลินทเดอร์
หรือที่เราคุ้นหูกันว่า พระเจ้ามิลินท์ จากหนังสือ "มิลินทปัญหา"นั่นแหล่ะ

ในเน๊ตทุกวันนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา โดนบิดเบือนไปมากจ้าาา
เนื่องจากการต้องการทำลายศาสนา อย่างหนึ่ง และจากการที่ผู้ให้ข้อมูล
รู้ไม่จริง หรือได้ข้อมูลผิดมาอย่างหนึ่ง พระสงฆ์บวชมาแล้วไม่ศึกษาพระธรรม
ให้ถ่องแท้อย่างหนึ่ง อย่าไปเชื่อมาก google น่ะบางอย่างมั่วตามๆกันมาเลย
เช่นคำบอกศักราชปีนี้ 2559 ที่เป็นภาษาบาลีใน google บอกผิดจ้าาา

ถ้าอยากรู้ความจริงในพระพุทธศาสนา มีคัมภีร์ห้าเล่นเชื่อถือได้ คือ
1 พระไตรปิฏก 2 อรรถคาถาจารย์ 3 ฏีกา 4 โมคคัลลานะ 5 จำไม่ได้
แต่พระไตรปิฏกเดียวนี้ก็มีหลายสำนักจนมั่วไปหมด

เชื่อหนูเถิด หนูอดีต มหาเปรียญธรรมและนักธรรมเอกภายใน 3ปีจ้าาาาาา
ย้ำอย่าไปเชื่อมาก google น่ะบางอย่างมันก็มั่วเหมือนกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

หูทองเหลือง

30/01/2016 04:51:28
2,052
ขอแนะนำสารคดีดีๆ ชุดหนึ่งครับ "ตามรอยพระพุทธเจ้า" สร้างโดยบริษัท Panorama ออกอากาศเมื่อปี 2548
เป็นสารคดีที่ผลิตโดยคนไทยที่ดีที่สุดชุดหนึ่ง (ปัจจุบันหาดูได้ใน youtube นะครับ)

ทีมงานได้ค้นคว้าและนำเสนอเรื่องราวของพุทธศาสนาในชมพูทวีป ตั้งแต่ก่อนมีศาสนาพุทธ จนมีพระพุทธเจ้า มีการเผยแพร่ศาสนา จนถึงยุคหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน จนกระทั่งศาสนาพุทธหายไปจากอินเดีย

ดูแล้วก็ได้เรียนรู้พุทธศาสนาอีกแง่มุมหนึ่ง แล้วหันมามองพุทธศานาในไทย ว่าไม่รู้ว่าวันนึงพุทธในไทยจะเสื่อมสลายเหมือนในอินเดียไหม ถ้าคนไทยยังมีความเชื่อ พิธีกรรมแปลกๆ มากมายอย่างทุกวันนี้



และขอนำเอาตอนสุดท้ายมาให้ชม ซึ่งเป็นการสรุปเรื่องราวทุกตอน และหาคำตอบว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนอะไรเรา

[youtube]http://youtu.be/dsaEsAos52o[/youtube]

ดูแล้วก็หันมาดูข่าวตุ๊กตาลูกเทพ ยิ่งรู้สึกว่าทำไมคนไทยห่างไกลพุทธศาสนาออกไปทุกที
เดี๋ยวหลงทางไปไกล แล้วจะหาทางกลับไม่ถูกนะ..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

หูทองเหลือง

30/01/2016 05:10:08
2,052
ตามรอยพระพุทธเจ้า ตอนที่12 ครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

หูทองเหลือง

30/01/2016 05:11:23
2,052
ตามรอยพระพุทธเจ้า ตอนที่12 ครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

เหน่งบา

30/01/2016 07:43:40
1,866
พุทธวจนะ :
มนุษยทั้งหลายเปนอันมาก ถูกความกลัวคุกคามเอาแลว ยอมยึดถือเอาภูเขาบาง ปาไมที่ศักดิ์สิทธิ์บางสวนศักดิ์สิทธิ์บาง รุกขเจดียบาง วาเปนที่พึ่งของตน ๆ :
นั่นไมใชที่พึ่งอันทาความเกษมให้ไดเลย, นั่นไมใชที่พึ่งอันสูงสุด
ผูใดถือเอาสิ่งนั้น ๆ เปนที่พึ่งแลวยอมไมหลุดพนไปจากทุกขทั้งปวงได.

สวนผูใด ที่ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆเปนที่พึ่งแลว เห็นอริยสัจทั้งสี่ ดวยปญญาอันถูกตอง คือ เห็นทุกข, เห็นเหตุเปนเครื่องใหเกิดขึ้นของทุกข,
เห็นความกาวลวงเสียไดซึ่งทุกข, และเห็นมรรคประกอบดวยองคแปดอันประเสริฐ ซึ่เปนเครื่องใหถึงความเขาไปสงบรํางับแหงทุกข : นั่นแหละคือ ที่พึ่งอันเกษม, นั่นคือ ที่พึ่ง
อันสูงสุด
ผูใดถือเอาที่พึ่งนั้นแลว ยอมหลุดพนไปจากทุกขทั้งปวง ไดแท

เครดิต http://watnapp.com/media/book/p3.pdf
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

MaxxIE

30/01/2016 12:57:39
107
โห ต้องขอบคุณคุณyamanoมากเลยครับ
พึ่งรู้ว่าพระเจ้าอโศกมหาราชเกิดหลังพระพุทธเจ้า500ปี เรื่องที่ผมพิมพ์ไปนั้นผมเคยได้ยินมาจากครูวิชาพุทธศาสนาตอน ม.3 ครับ เป็นคำๆเดียวที่ผมจำได้ในวิชานั้นเลย ตอนเรียนผมค่อนข้างโง่วิชาพวกเรียงTimelineแบบวิชาประวัติศาสตร์มากๆ สงสัยจำมาสับสน555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35

Ahura

30/01/2016 14:37:27
1,663



ขออนุญาตแก้ไขข้อมูลคุณ yamano นิดนึงตรงการสร้างพระพุทธรูปนะครับ

หลักฐานเก่าแก่ที่สุดของสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าที่เป็นรูปทรงมนุษย์อยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 6 ในสมัยพระเจ้ากนิษกะ แห่งราชวงศ์กุษาณะ และเรียกศิลปะในยุคนี้ว่า คันธารราฐ

ส่วนแม่ทัพเมนันเดอร์ที่ตั้งตนเป็นกษัตริย์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย หลังอเล็กซานเดอร์ยกทัพกลับโยนกแล้ว และหันมาสนใจพระพุทธศาสนาจะอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 5 ครับ

อธิบายหยาบๆคร่าวๆแค่นี้นะครับ ถ้าละเอียดต้องมีอย่างน้อย 4-5 หน้ากระดาษ ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36

สมัครเล่น

30/01/2016 14:45:14
412
อ. ครับ ผมไปดูศิลป ยุคคันธารราฐ ที่ตักศิลา เมื่อหลายปีก่อน
ขอบอกว่า ของจริงนี่ งามสุด ๆ จริง ๆ ติดตาทุกวันนี้
เหลือแต่ยังไม่ได้ไปดู รูปปั้นตอนทุกรกิริยา ที่ละฮอร์

เข้าใจเลยว่า สมัยนั้น คนปั้น ได้แรงบันดาลใจจากศาสนาอย่างไร
งานที่ทุ่มเทจิตใจนั้นเป็นอย่างไร...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 37

yamano

30/01/2016 15:40:25
271
ขอบคุณอาจารย์Ahura. ครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 38

Ahura

30/01/2016 16:49:24
1,663
@ yamano ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องต้องอัพเดทและแก้ไขปรับปรุง เพราะมันเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลาครับ
ผมลองเช็คในวิกิฯ ก็ยังเป็นข้อมูลอย่างที่คุณ yamano ว่าไว้เลยครับ ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูลสมัยกรมฯดำรงฯ จำได้ว่าสมัยเด็กครูสอนว่าคนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต (พิกัดอยู่ตรงไหนก็ไม่บอก) กว่าผมจะมาปรับว่าเราอยู่ตรงอุษาคเนย์นี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 พันปี ก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้วอ่ะครับ 555
ป.ล. รู้สึกว่าเรื่องมนุษย์เหยียบดวงจันทร์และดาวพลูโตเป็นดาวดวงที่9 ถูกถอดออกจากแบบเรียนในอเมริกาแล้ว ^ ^

@ สมัครเล่น ความหลงใหลในรูปแบบนี้แหละครับ ถึงก่อเกิดแนวคิดปฏิเสธรูปเคารพ ( anti- iconic) ในศาสนาอิสลาม และการเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้ากระทำได้เพียงการอ่านวจนะผ่านตัวอักษรเพียงเท่านั้น
แนวคิดพุทธบริสุทธิ์ก็ใช้ไอเดียเดียวกับอิสลามและคริสต์ คือให้ยึดพุทธวจนะเป็นสำคัญ

ในปี 2491 ปาฐกถาธรรมของพระหนุ่มนาม พุทธทาส กล่าวว่า " พระพุทธรูปเป็นภูเขาขวางกั้นพุทธธรรม " ก็สร้างกระแสตื่นตระหนกและเกลียดชังพระท่านนี้ในหมู่ชาวพุทธมาแล้ว ถึงขั้นยัดเยียดว่าท่านเป็นคอมมิวนิสต์ ( ฆ่าได้ไม่บาป ) บ้างก็มี...สาธุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 39

หูทองเหลือง

30/01/2016 19:13:53
2,052
พระเจ้าอโศกมหาราชเกิดหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วสองร้อยกว่าปี และยุคนั้นยังไม่มีพระพุทธรูปเกิดขึ้น เมื่อพระเจ้าอโศกเผยแพร่ศาสนาพุทธ ได้เริ่มมีการสร้างพระสถูปขึ้น และสถูปนั้นก็มักจะประดับด้วยรูปแกะสลักเกี่ยวกับพุทธประวัติ แต่ไม่มีรูปของพระพุทธเจ้าที่เป็นร่างมนุษย์ แต่ใช้รูปสัญลักษณ์ต่างๆ แทน เช่น รูปช้าง รูปดอกบัว รูปธรรมจักร รูปพระพุทธบาท เป็นต้น นักวิชาการให้เหตุผลว่า สมัยนั้นไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่า มหาบุรุษเช่นพระพุทธเจ้านั้น จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร

ส่วนการสร้างพระพุทธรูป ในสารคดีบอกว่า เริ่มในพุทธศตวรรษที่ 6 สมัยพระเจ้ามิลินท์ ซึ่งมีเชื้อสายกรีก ปกครองแคว้นคันทาระ จึงเริ่มมีการสร้างพระพุทธรูปโดยช่างกรีก ตามอย่างการสร้างรูปปั้นเทพเจ้ากรีกที่เหมือนคนจริง และเรียกว่าพุทธศิลป์คันทาระ

จนพุทธศตวรรษที่ 7 พระเจ้ากนิษกะ ราชวงศ์กุษาณะ จากเอเชียกลางเข้าปกครองแคว้นคันทาระ การสร้างพระพุทธรูปจึงเปลี่ยนเป็นรูปแบบอินเดียแท้ โดยเฉพาะปลายสมัยกุษาณะจะมีรูปแบบงดงามมาก พระเกศาเป็นลายก้นหอย
มีจีวรห่มคลุมทั้งองค์

ชมรายละเอียดได้ในสารคดีตอนข้างล่างนี้ครับ ข้อมูลยังไม่เหมือนของอ. Ahura และคุณ yamano ซะทีเดียว ผิดถูกยังไงโปรดพิจารณา และขอยกให้ทีมงาน Panorama แล้วกันนะครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 40

Ahura

30/01/2016 20:06:40
1,663
ปัจจุบันมีทฤษฎีความเชื่อเกี่ยวกับกำเนิดการสร้างพระพุทธรูปหลากหลายแต่หลักใหญ่ๆที่ให้การยอมรับมีอยู่ 3 ทฤษฎี

1. เชื่อว่าพระพุทธรูปเกิดมาในสมัยที่พุทธองค์ทรงพระชนม์ชีพ อยู่ในหนังสือของพระถังซัมจั๋งซึ่งเดินทางเข้าอินเดียได้กล่าวถึงพระเจ้าอุเทนเมืองโกสัมพี สร้างพระพุทธรูปไม้จันทน์บูชาพระพุทธองค์ และพระเจ้าปเสนทิโกศล เมืองสาวัตถีก็สร้างพระพุทธปฏิมาขึ้นเช่นกัน แต่หลักฐานทางโบราณคดียังไม่มีการขุดพบ จึงยังไม่มีสิ่งยืนยันที่เด่นชัดหรือมีน้ำหนักพอ นอกจากนั้นยุคสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชก่อนพุทธปรินิพพานสองร้อยปีเศษ ก็ไม่ปรากฏว่าพระองค์สร้างพระพุทธรูปแต่อย่างใด


2. เกิดในสมัยพระเจ้ามิลินท์หรือเมนันเดอร์ซึ่งเป็นกษัตริย์กรีกปกครอง อินเดียโดยมีเมืองหลวงที่สาคละ ในหนังสือตำนานพระพุทธเจดีย์ของสมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กล่าวว่าเริ่มสร้างสมัยนี้ แต่มาแพร่หลายสมัยพระเจ้ากนิษกะมหาราช ในหนังสือประวัติศาสตร์ พุทธศาสนาของเจ้าคุณพระราชธรรมนิเทศ (ระบบฐิตญาโณ) ก็กล่าวว่าสร้างในสมัยพระเจ้ามิลินท์ เช่นกัน


3. เกิดในสมัยพระเจ้านิษกะมหาราช ปกครองอินเดียเหนือโดยมีศูนย์กลางที่เมืองโปุรุษปุระ หรือ เปชวาร์ กล่าวว่ากันว่าพระพุทธรูปแบบคันธารราฐเกิดในสมัยพระเจ้ากนิษกะนี้ ก่อนหน้ายังไม่มีการสร้างแต่อย่างใด พระเจ้ากนิษกะทรงรับสั่งให้ช่างกรีก สร้างพระพุทธรูปขึ้นตามแนวพุทธลักษณะศิลปะผสมกรีก-โรมัน

เหตุใดผมจึงเชื่อทฤษฎีที่ 3 ไว้ว่างๆจะทยอยๆนำเสนอนะครับเพราะตอนนี้มรสุมงานกำลังกระหน่ำไฟลุก โดยเฉพาะต้องแสดงงานที่หอศิลป์แห่งชาติเดือนมีนาคมนี้ กับบทความศิลปะอีกสองบทความเล่นเอาหัวฟูครับ 555

( เนื้อหานี้น่าคุยกันในกระทู้ พุทธ เทวะฯ ของคุณเหน่งบา มากกว่ากระทู้ตุ๊กตาผี เอ๊ย ตุ๊กตาลูกทาส เอ๊ย ตุ๊กตาลูกเทพ จริงๆพับผ่า! )
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 41

yamano

30/01/2016 20:36:18
พอดีผมกำลังเก็บของเตรียมตัวของไปธุระที่เชียงรายพรุ่งนี้หนึ่งเดือนครับ
เลยไม่มีเวลาค้นหนังสือที่ผมมีมายืนยันหลายๆอย่างที่พูดเกี่ยวกับเรื่องการ
สร้างพระพุทธรูปอะครับ สรุปขอตามอ่านอย่างเดียวครับผม

จริงๆความเห็นที่ 4 ให้นิยามไว้ดีนะครับ แต่ที่นี่เมืองไทยครับ
การศึกษา และความคิดไม่เปิดกว้างพอให้ผู้เห็นต่างได้มีจุดยืนครับ
รูปจำลองเหมือนๆกัน กราบไหวเหมือนกัน แต่ความหมายและประวัติต่าง
กันครับ ส่วนตัวผมนับถือหลักคำสอนของพุทธอย่างยิ่ง เรียกว่าดีที่สุดครับ
ผมไม่มีพระพุทธรูปไว้ในห้องนานมากแล้วครับ ผมไม่ห้อยพระนานแล้ว
ทั้งที่บ้านผม มีแต่พระดีๆดังทั้งนั้นเลยครับ แต่ผมอ่านบาลีพระพุทธ(บาลี)
หนังสือท่านพุทธทาสผมมีเยอะมาก พระอื่นก็เยอะมาก

โดยหลักธรรมแบ่งใหญ่ๆได้สอง คือธรรมที่เป็นโลกุตตระกับโลกิยะ
ท่านพุทธทาสสอนในแนวกึ่งโลกุตตระ มันเป็นเรื่องเข้าใจยากยิ่ง
สำหรับคนไทย ที่เป็นพุทธเพียงแค่ใส่บาตตอนเช้า นอกนั้นแทบไม่รู้
อะไรเลย ยึดเปลือกว่าเป็นหลักมากเกินไป คือจริงๆเราไม่รู้นะว่าอะไร
คือหลักของพุทธ เพราะว่าพุทธไม่มีหลัก ธรรมนั้นไม่มีหลักตายตัว
ไม่มีรูปแบบ ในความไม่มีหลักนั่นแหละมันคือหลัก คือแล้วแต่จริตของ
คนๆนั้น ใครจะปฏิบัติอย่างไรก็ให้เลือกเอา เพื่อให้ถึงพระนิพพาน
มันก็เหมือนงานศิลปะแหละครับ คนที่เป็นมือศิลป์ขั้นเทพเค้าไม่มีหลัก
อะไรตายตัวหรอก ไอ้ที่ยังมีหลัก คือมันยังไม่เก่ง เพิ่งเรียนรู้
แต่คนเราหน่ะชอบยัดเยียดหลักเข้าไปว่า พุทธที่แท้(555) ต้องเป็น
แบบ บล๊าบาาาาาาาาา สรุปต้องเป็นอย่างที่ตนคิดถึงจะถูก ก็ ฮ่าาาดี

พระพุทธเจ้าตรัสไว้เมื่อทรงส่งภิกษุออกไปประกาศศาสนาว่า ให้เธอเที่ยว
สอนให้เหมาะภูมิประเทศและวัฒนธรรมของที่นั้น และให้ไปทางละหนึ่งรูป
คือให้สอนตามแนวพุทธ แต่ให้ปรับให้เข้ากันกับวัฒนธรรมของที่นั้นๆครับ
เราจึงได้เห็นว่าแต่ละประเทศมีการสอนปฏิบัติต่างกันออกไปครับ

ถ้าถามว่าอะไรสำคัญที่ในศาสนาพุทธ บ้างคนอาจบอกว่าพระธรรม
แต่ผมว่าไม่ใช่ครับ พระสงฆ์ สำคัญที่สุด ผมพูดถึงพระสงฆ์นะครับ
ไม่ใช่คนห่มเหลือง(ที่ไปปิดถนน ) ถ้ามีแต่คำสอน แต่ไม่มีคนสืบต่อ
ศาสนานั้นจะล่มสลายครับ เช่น

เมื่อพระสงฆ์ประมาณ 8000รูป ในอินเดีย ถูกฆ่าตายที่มหาลัยนารันทา
ศาสนาจึงหมดไปจากอินเดียทันที ทั้งที่พระธรรมก็ยังอยู่ ศาสนสถาน
ก็ยังมีอยู่ แต่เมื่อไม่มีพระสงฆ์ จากศาสนสถาน จึงกลายเป็น เทวสถาน
มีรูปเพศ ของ เทวดาแขกหญิงชายให้กราบไหว้แทน ก็ยังมีคนไทยไหว้
ทุกปี (คำสอนก็ไม่มีใครสืบต่อ และอีกไม่นานเกิน สองชั่วอายุคน พุทธ
ในไทยก็น่าจะหมดไปเช่นกัน)

มีคนคิดว่าจะต้องปฏิวัติศาสนา 5555 มันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ตามแบบแนว
ทางของคนเลยครับ ถ้าจะแก้จริงควรแก้ไขที่ การศึกษา และสังคมครอบครัว
ก่อนเลยครับ เพราะพระนั้นก็มาจาก ครอบครัวนั่นแหละครับ
ถ้าท่านอบรมลูกมาดี เค้าไปอยู่ไหนมันก็ดี แต่เลี้ยงลูกให้เป็นตัว...
ไปอยู่ที่ไหนก็ นะ

ทำไมคนไทยชอบ พึงพาสิ่งที่ไม่มีตัวตน หรือตัวตน
เพราะคนไทยมีการศึกษา ในแบบฝึกให้คิดเองน้อยครับ จึงชอบพึ่งพา
สิ่งศักดิ์สิทธ์ ถึงไม่มีลูกเทพ ไม่มีรูปพระพุทธเจ้า คนไทยก็จะแสวงหา
ปรีกล้วย รากไม้ อุนตร้าแมน มากราบไหว้ มาเป็นที่พึ่งอยู่ดี
เพราะหลักการศึกษาเราไม่เอื้อนให้เรา คิดเอง พึ่งตนเอง

ที่ท่านพุทธทาส กล่าวไว้น่ะถูกแล้วครับ คัมภีร์ และพระพุทธรูปบังพระธรรม

แถมอีกนิดไว้เป็นแง่คิด "พุทธวจน"
พระพุทธเจ้าไม่ใช่คนไทย เพราะฉนั้นท่านไปเอาพุทธวจนที่เป็นภาษาไทยมา
จากไหนจ๊ะ จากพระไตรปิฏก พระไตรปิฏกที่แท้ก็เป็นภาษามคธ(บาลี)
แต่ท่านนั้นท่านไม่ยอมรับบาลี แต่ยอมรับพุทธวจนที่คนอื่นแปลจากบาลี
มาเป็นไทย แล้วบอกว่า นี่คือ "พุทธวจน" ผมก็ติดตามด้วยความตลกอยู่
พักหนึ่ง

พุทธวจน แปลว่า คำของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านพูดภาษามคธ(บาลี)
ครับ เพราะฉะนั้นเวลาที่ใครจะเอาคำของพระพุทธเจ้ามาอ้างว่า.......
จะต้องยกตัวบาลีมา แล้วบอกด้วยว่า ท่านตรัสอยู่ในพระไตรปิฏกเล่มไหน
หน้าที่เท่าไหร่ วรรคไหน แล้วก็ค่อยแปลเป็นไทยแบบนี้ครับ เรียกว่า
พุทธวจน เช่น..
"เย ธมฺมา เหตุปพฺภวา เตสํเหตุํ ตถาคโต
เตสญฺจ โย นิโรโธจ เอวํ วาที มหาสมโณ"
"ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้า ตรัสเหตุแห่งเหล่านั้น
และความดับแห่งเหตุแห่งธรรมเหล่า พระสมณเจ้ามีปกติตรัสอย่างนี้"
ที่มาขุททกนิกาย เล่มที่๒๓ หน้าที่(จำไม่ได้) ประมาณนี้ครับ
จึงจะเรียกว่า "พุทธวจน"ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 42

31/01/2016 17:07:21
ผู้เข้าถึงธรรมทั้งหลาย ก็ไม่ควรจะสิงสู่เวปนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 43

?

31/01/2016 18:10:40
เข้าถึง...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 44

เปรียวRT

31/01/2016 19:36:07
0
กระทู้นี้เนื้อหาสาระดีมากๆเลยครับ ถ้าดูแค่ชื่อกระทู้แล้วไม่ได้เข้ามาอ่านนี่ผมคงพลาดเนื้อหาสาระดีๆไปแล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 45

bonus79

31/01/2016 21:34:03
1,133
เห็นกระทู้นี้ตั้งแต่วันที่ จขกท โพส ก็รออ่านมาเรื่อยครับ ส่วนตัวผมศึกษาพุทธวจนมาหลายปีก็คิดว่ามีคำตอบในใจ ดีใจที่ได้อ่านความเห็นมากมายจากพี่ๆข้างบน

ครั้งแรกที่อ่าน ผมนึกถึงพระสูตรที่พี่เหน่งบายกมาเลย ก็คงต้องบอกว่าผู้ศึกษาน่าจะมีทิฐิโน้มเอียงไปในทางเดียวกัน

อย่างไรก็ดี มีเนื้อหาสาระครับ

บางคนที่คิดว่าคนศึกษาธรรมมะ ก็ไม่ควรจะมาหลงติดกับกิเลสเสียงเพลง หรือหูฟัง จริงๆแล้ว โสดาบันจนถึงถึงอนาคามีก็ยังละกิเลสไม่ได้หมดนะครับ แต่กิเลสและกรรมของเขาเบาบางมากและมีไม่มากเพียงพอที่จะทำให้กลุ่มคนพวกนี้เข้าถึงอบายภูมิ

บุคคลบางจำพวกที่ยัง ราคะกล้า มักโกธร ฟุ้งซ่าน ทุศีล(บ้าง) แต่เอาตัวรอดได้ ไปทางเจริญอย่างเดียวไม่ไปทางเสื่อม ทำตัวเองให้รอดพ้นจากอบายภูมิ ก็เป็นไปได้ โดยการต้องสั่งสมสุตตะ (คำสอนพระพุทธเจ้าให้มาก) รู้แจ้งแทงตลอดเป็นอย่างดีด้วยความเห็นถูกต้อง ก็พอมีหนทางไม่ตกอบายภูมิละครับ

ใครจะสัทธาอะไรก็แล้วแต่ครับ อย่าเบียดเบียนกันก็พอ :) ส่วนตุ๊กตาลูกเทพ แค่ฟังเรื่องราวข่าวสารก็รู้สึกทะแม่งๆแล้วครับ ตลกดีครับสำหรับผมนะ

ปล. ผมขอโทดที่ไม่ได้ยกพระสูตรมา ณ ที่นี้ แต่มีเวลาจะหามาแปะให้ เรื่อง บุคคลสิบจำพวก (ห้าพวกแรกไปเจริญอย่างเดียว ไม่ไปทางเสื่อม ห้าพวกหลังกลับกันไปเสื่อมอย่างเดียวไม่ไปทางเจริญ) ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 46

bonus79

31/01/2016 21:34:04
1,133
เห็นกระทู้นี้ตั้งแต่วันที่ จขกท โพส ก็รออ่านมาเรื่อยครับ ส่วนตัวผมศึกษาพุทธวจนมาหลายปีก็คิดว่ามีคำตอบในใจ ดีใจที่ได้อ่านความเห็นมากมายจากพี่ๆข้างบน

ครั้งแรกที่อ่าน ผมนึกถึงพระสูตรที่พี่เหน่งบายกมาเลย ก็คงต้องบอกว่าผู้ศึกษาน่าจะมีทิฐิโน้มเอียงไปในทางเดียวกัน

อย่างไรก็ดี มีเนื้อหาสาระครับ

บางคนที่คิดว่าคนศึกษาธรรมมะ ก็ไม่ควรจะมาหลงติดกับกิเลสเสียงเพลง หรือหูฟัง จริงๆแล้ว โสดาบันจนถึงถึงอนาคามีก็ยังละกิเลสไม่ได้หมดนะครับ แต่กิเลสและกรรมของเขาเบาบางมากและมีไม่มากเพียงพอที่จะทำให้กลุ่มคนพวกนี้เข้าถึงอบายภูมิ

บุคคลบางจำพวกที่ยัง ราคะกล้า มักโกธร ฟุ้งซ่าน ทุศีล(บ้าง) แต่เอาตัวรอดได้ ไปทางเจริญอย่างเดียวไม่ไปทางเสื่อม ทำตัวเองให้รอดพ้นจากอบายภูมิ ก็เป็นไปได้ โดยการต้องสั่งสมสุตตะ (คำสอนพระพุทธเจ้าให้มาก) รู้แจ้งแทงตลอดเป็นอย่างดีด้วยความเห็นถูกต้อง ก็พอมีหนทางไม่ตกอบายภูมิละครับ

ใครจะสัทธาอะไรก็แล้วแต่ครับ อย่าเบียดเบียนกันก็พอ :) ส่วนตุ๊กตาลูกเทพ แค่ฟังเรื่องราวข่าวสารก็รู้สึกทะแม่งๆแล้วครับ ตลกดีครับสำหรับผมนะ

ปล. ผมขอโทดที่ไม่ได้ยกพระสูตรมา ณ ที่นี้ แต่มีเวลาจะหามาแปะให้ เรื่อง บุคคลสิบจำพวก (ห้าพวกแรกไปเจริญอย่างเดียว ไม่ไปทางเสื่อม ห้าพวกหลังกลับกันไปเสื่อมอย่างเดียวไม่ไปทางเจริญ) ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 47

bonus79

31/01/2016 22:14:17
1,133
อินทรีย์ของบุคคล 10 จำพวก
(บุคคลผู้ทุศีล มีศีล ราคะกล้า มักโกรธ ฟุ้งซ่าน ...ทำอย่างไรจึงจะไปทางเจริญอย่างเดียวไม่ถึงความเสื่อม)
-----------------------------------------
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรอานนท์ ก็มิคสาลาอุบาสิกาเป็นพาลไม่ฉลาด เป็นคนบอด มีปัญญาทึบ เป็นอะไร และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอะไร ในญาณเครื่องกำหนดรู้ความยิ่งและหย่อนแห่งอินทรีย์ของบุคคลดูกรอานนท์ บุคคล ๑๐ จำพวกนี้มีอยู่ในโลก ๑๐ จำพวกเป็นไฉน
ดูกรอานนท์ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ทุศีล และไม่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาย่อมถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อม ดูกรอานนท์ พวกคนผู้ถือประมาณย่อมประมาณในเรื่องนั้นว่า ธรรมแม้ของคนนี้ก็เหล่านั้นแหละ ธรรมแม้ของคนอื่นก็เหล่านั้นแหละ เพราะเหตุไรในสองคนนั้น คนหนึ่งเลว คนหนึ่งดีก็การประมาณของคนผู้ถือประมาณเหล่านั้น ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูลเพื่อทุกข์ ตลอดกาลนาน ดูกรอานนท์ ในสองคนนั้น บุคคลใด เป็นผู้ทุศีลและรู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความเป็นผู้ทุศีลของเขา ตามความเป็นจริง กระทำกิจแม้ด้วยการฟัง กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย ดูกรอานนท์บุคคลนี้ดีกว่าและประณีตกว่าบุคคลที่กล่าวข้างต้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะกระแสแห่งธรรมย่อมถูกต้องบุคคลนี้ใครเล่าจะพึงรู้เหตุนั้นได้ นอกจากตถาคต
ดูกรอานนท์ เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายอย่าได้เป็นผู้ชอบประมาณในบุคคลและอย่าได้ถือประมาณในบุคคล เพราะผู้ถือประมาณในบุคคลย่อมทำลายคุณวิเศษของตน เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้ ฯ
ดูกรอานนท์ ก็บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีศีล แต่ไม่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งศีลของเขา ตามความเป็นจริงบุคคลนั้นไม่ทำกิจแม้ด้วยการฟัง ไม่กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต ไม่แทงตลอดแม้ด้วยทิฐิ ย่อมไม่ได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเสื่อม ไม่ไปทางเจริญ ย่อมถึงความเสื่อมอย่างเดียว ไม่ถึงความเจริญดูกรอานนท์ ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีศีล และรู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ
ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งศีลของเขา ตามความเป็นจริงบุคคลนั้นกระทำกิจแม้ด้วยการฟัง กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมได้วิมุติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ย่อมถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อมดูกรอานนท์ ฯลฯ เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้ ฯ
ดูกรอานนท์ ก็บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีราคะกล้า ทั้งไม่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งราคะของเขา ตามความเป็นจริง บุคคลนั้นไม่กระทำกิจแม้ด้วยการฟัง ไม่กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต ไม่แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมไม่ได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัยเมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเสื่อม ไม่ไปทางเจริญ ย่อมถึงความเสื่อมอย่างเดียวไม่ถึงความเจริญ ดูกรอานนท์ ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีราคะกล้าแต่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งราคะของเขาตามความเป็นจริงบุคคลนั้นกระทำกิจแม้ด้วยการฟัง กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัยเมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ย่อมถึงความเจริญอย่างเดียวไม่ถึงความเสื่อม ดูกรอานนท์ ฯลฯ เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณใน
บุคคลได้ ฯ
ดูกรอานนท์ ก็บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักโกรธ ทั้งไม่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความโกรธของเขาตามความเป็นจริง บุคคลนั้นไม่กระทำกิจแม้ด้วยการฟัง ไม่กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต ไม่แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมไม่ได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเสื่อม ไม่ไปทางเจริญ ย่อมถึงความเสื่อมอย่างเดียว ไม่ถึงความเจริญ ดูกรอานนท์ ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มักโกรธ แต่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความโกรธของเขา ตามความเป็นจริงบุคคลนั้นกระทำกิจแม้ด้วยการฟังกระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิย่อมได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ย่อมถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อม ดูกรอานนท์ ฯลฯ เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้ ฯ
ดูกรอานนท์ ก็บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ทั้งไม่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความฟุ้งซ่านของเขา ตามความเป็นจริงบุคคลนั้นไม่กระทำกิจแม้ด้วยการฟัง ไม่กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต ไม่แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมไม่ได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเสื่อม ไม่ไปทางเจริญ ย่อมถึงความเสื่อม
อย่างเดียว ไม่ถึงความเจริญดูกรอานนท์ ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฟุ้งซ่าน แต่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความฟุ้งซ่านของเขา ตามความเป็นจริงบุคคลนั้นกระทำกิจแม้ด้วยการฟัง กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูตแทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมได้วิมุติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ย่อมถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อมดูกรอานนท์ พวกคนผู้ถือประมาณ ย่อมประมาณในเรื่องนั้นว่าธรรมแม้ของคนนี้ก็เหล่านั้นแหละ ธรรมแม้ของคนอื่นก็เหล่านั้นแหละ เพราะเหตุไรในสองคนนั้น คนหนึ่งเลว คนหนึ่งดี ก็การประมาณของคนผู้ถือประมาณเหล่านั้นย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ ตลอดกาลนาน ดูกรอานนท์ในสองคนนั้น บุคคลใดเป็นผู้ฟุ้งซ่าน
แต่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความฟุ้งซ่านของเขา ตามความเป็นจริง บุคคลนั้นกระทำกิจแม้ด้วยการฟัง กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยทิฐิ ย่อมได้วิมุติแม้อันเกิดในสมัย บุคคลนี้ดีกว่า และประณีตกว่าบุคคลที่กล่าวข้างต้นโน้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะกระแสแห่งธรรมย่อมถูกต้องบุคคลนี้ ใครเล่าจะพึงรู้เหตุนั้นได้นอกจากตถาคต ดูกรอานนท์ เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายอย่าประมาณในบุคคลและอย่าได้ถือประมาณในบุคคลเพราะผู้ถือประมาณในบุคคล ย่อมทำลายคุณวิเศษของตนเราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้ ฯ

ทสก.อํ. ๒๔/๑๒๓/๗๕
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"ตุ๊กตาลูกเทพ"