ขวดใหม่เอามาไว้นอกตู้ไม่นานก็ทำท่าจะแข็งตัวเป็นไขอีก = ="

จะบอกว่า ไม่ต้องกังวลนะครับ ต่อให้กินเข้าไปตอนเป็นไข(บางคน กินน้ำมันมะพร้าวเป็นช้อนๆไม่ไหว ก็เอาแช่่ตู้เย็นให้แข็ง แล้วเอาช้อนตักกิน)พอเจออุณหภูมิร่างกาย มันก็ละลายเรียบครับ ไม่ต้องห่วงหรือกลัวว่าจะไปจับแข็งอุดตันตามเส้นเลือด

น้ำมันพืชหลายอย่าง กลายเป็นว่า ถ้าผ่านความร้อนสูงจากกระบวนการปรุงอาหารเช่น ทอด กลับจะจับตัวเป็นยางเหนียวในร่างกายครับ

อากาศเย็นมากผิดปกติจริงๆ ครับ - -"

สมัยก่อนจำได้ว่าเคยมีโฆษณาเอาน้ำมันพืชไปแช่ตู้เย็น ยี่ห้อหนึ่งเป็นไข อีกยี่ห้อหนึ่งไม่เป็นไข ผมก็ลืมนึกไปว่าอุณหภูมิร่างกายคนเรามัน 37 องศานี่หว่า กินเข้าไปมันก็ละลายหมดอยู่ดี แล้วจะไปสนทำไมฟระ เอาง่าย ๆ เลยนะ ให้ลองเอาน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันพืชใส่คนละกระทะไปวางตากแดดไว้สักพัก แล้วเอากระทะมาล้างดูว่าอันไหนล้างออกง่ายกว่ากัน อันไหนเป็นคราบเหนียวติดกระทะล้างไม่ออก พอเข้าไปอยู่ในร่างกายเรามันก็แบบเดียวกันนั่นแหละครับ

ใช่เลยครับ ท่านJack
เดี๋ยวนี้คนพอจะรู้ข้อมูลเรื่องนี้พอมีบ้าง แต่เชื่อว่าส่วนมากก็ยังไม่รู้กัน ว่าโฆษณาน้ำมันพืชอย่างอื่นเช่นปาล์ม มะพร้าว ถั่วเหลือง กระทั่งรำข้าวซึ่งถือว่าคุณสมบัติดีกว่า มีภัยแฝงเร้นอย่างไรบ้าง

ตามท่านjackว่า น่ำมันปาล์มและถั่วเหลืองผมลดการใช้มาสักพักแล้ว

คุณ เหน่งบารบกวนถามที กินแล้วได้อะไรหาซื้อได้ที่ใหน 5555

ยี่ห้อนี้ แม้ช้อยนางรำ(คุณสันติ เศวตวิมล)เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยครับ ของเค้าคงดีจริงคุณสันติถึงกล้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ แต่สถานที่ซื้อคงต้องให้คุณเหน่งบาชี้ช่องเพราะที่ผมรู้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ว่างจำหน่ายกว้างขวาง เค้ายังมีวิธีใช้หุงข้าวด้วยนะครับตอนหุงข้าวให้ใส่น้ำมันมะพร้าวลงไป2ช้อนโต๊ะพอหุงเสร็จให้น้ำเข้าแช่ตู้เย็นไว้12ชั่วโมงหลังจากนั้นจะรับประทานให้นำมาอุ่นทานจะช่วยลดดัชนีน้ำตาลลง50เปอร์เซ็นต์เลยครับคนไทยเป็นเบาหวานเยอะเพราะทานข้าวขัดขาวครับ

สำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันมะพร้าว ลองอ่านบทความชุด "ปฏิวัติน้ำมันพืช อย่าปล่อยให้พวกมันหลอกพวกเราอีกต่อไป" ของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ดูครับ เข้า Google ค้นคำว่า "ปฏิวัติน้ำมันพืช" ก็ได้ครับ

เห็นหัวกระทู้เดาไม่ผิด. ใช่จิงๆ. 55
อย่าว่าแข็งเลยพี่ ฟังเพลงไม่ได้มาหลายวันหมดมูดดื้อๆ. 9-11 องศา
ต้องเปิด heater. นอน.

ตอนนี้ ขวดใหม่ก็แข็งเป๊กไปซะแล้วครับ = ="

เช้านี้ ของผมก็ แข็ง เหมือนกันครับคุณเหน่งบา ทั้งสองขวดเลย
ผมใช้อม ทำ oil pulling ทุกเช้าครับ

มันแข็งแบบนี้เทไม่ออก กินไม่ได้ ไม่ทราบว่าแต่ละท่านมีเทคนิคอย่างไรที่จะละลายน้ำมันมะพร้าวที่แข็งเป็นไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอมแบบนี้บ้างไหมครับ

ผมเห็นคร่าวๆก็2กระทู้เลยอยากให้ลองอ่านความเห็นและการอ้างอิงของแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจดูครับ ว่าน้ำมันมะพร้าวอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คุณเข้าใจกัน
ด้วยความเคารพครับ
"ขณะนี้วงการแพทย์ก็ยังถือว่าน้ำมันมะพร้าวเหมือนน้ำมันปาล์มตรงที่เป็นไขมันอิ่มตัวซึ่งก่อโรค และควรหลีกเลี่ยง" - นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บทความเต็ม
http://visitdrsant.blogspot.com/2011/05/blog-post_16.html

และอีกบทความเพื่อไขความกระจ่างที่มากขึ้นเกี่ยวกับน้ำมันพืชและน้ำมันหมูโดยอ้างอิงหลักฐานทางวิชาการ

"สรุป หลักฐานการแพทย์ปัจจุบันยังฟันธงไม่ได้ว่าจะใช้น้ำมันอะไรผัดทอดอาหารจึงจะดีที่สุด ขอให้สาธุชนทั้งหลายท่านไปลุ้นเอาเองเถอะนะครับ กล่าวคือ

ติ๊งต่างว่าถ้าท่านใช้น้ำมันหมู น้ำมันวัว(เนย) มันก็ดีที่มันเสถียร ไม่เกิดโมเลกุลของเสียหลังการผัดทอดมาก แต่ตัวน้ำมันหมูน้ำมันวัวเองซึ่งเป็นน้ำมันอิ่มตัวก็อาจะจะทำให้ท่านเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดมากขึ้น ซึ่งจนถึงทุกวันนี้วงการแพทย์ก็ยังเชื่ออย่างนั้น แม้ว่าหลักฐานพิสูจน์จะยังอยู๋ในระดับข้างๆคูๆไม่ชัดเจนนัก แต่เนื่องจากวงการแพทย์ได้ปลุกผีน้ำมันหมูขึ้นมาแล้ว และยังไม่มีใครพิสูจน์ให้เห็นว่าผีไม่มีจริง ถ้าท่านกล้า ท่านก็ไปลุยป่าช้าเองเองเถอะนะ

ติ๊งต่างว่าถ้าท่านใช้น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันแก่นปาล์ม (palm kernel oil) ก็มีข้อดีที่มันเสถียร ไม่เกิดโมเลกุลของเสียหลังโดนความร้อนมาก แต่ข้อมูลว่ากรดไขมันสายโซ่ขนาดกลาง (MCT) อย่างน้ำมันมะพร้าวนี้ มันจะดีจะชั่ว จะก่อโรคหรือไม่ อันนี้ไม่มีข้อมูลเลย ท่านไปเสี่ยงเอาเองเถอะนะ

ติ๊งต่างว่าถ้าท่านใช้น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำ น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน ก็ดีที่มันเป็นน้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่วงการแพทย์ถือว่าไม่ก่อโรคหัวใจหลอดเลือด แต่มันไม่เสถียร เมื่อโดนความร้อนมากๆอาจมีโมเลกุลแปลกๆเป็นเศษขยะตกค้างในอาหาร แม้จะยังไม่มีข้อมูลผลเสียให้เห็นจะๆในคน เป็นเพียงแค่ความเสี่ยงในจินตนาการ แต่หากท่านเป็นคนขี้กลัวจินตนาการที่เขาร่อนกันไปตามอินเตอร์เน็ท ท่านก็ต้องคิดอ่านหลบเอาเอง

ติ๊งต่างว่าถ้าท่านใช้น้ำมันมะกอก ก็ดีที่มันเป็นน้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว มันจึงเป็นการสมยอมระหว่างข้อดีและข้อเสีย คือในแง่ของการทนความร้อนไม่เกิดโมเลกุลขยะง่ายๆ มันทนความร้อนพอควร แม้ไม่ทนมากเท่าน้ำมันอิ่มตัว แต่ก็ทนมากกว่าน้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ในแง่ที่เป็นไขมันไม่ก่อโรค มันก็จัดว่าเป็นไขมันไม่ก่อโรค แม้จะไม่เจ๋งเท่าน้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน แต่ก็ดีกว่าน้ำมันอิ่มตัวเช่นน้ำมันหมู ซึ่งวงการแพทย์ตราหน้าว่าเป็นไขมันก่อโรค"
- นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บทความเต็ม
http://visitdrsant.blogspot.com/2015/04/blog-post.html

ยินดีที่เข้ามาร่วมให้ความเห็นครับ ท่านweisongsit ^ ^
มาร่วมกันให้ข้อมูลเยอะๆ พวกเราก็จะได้อ่านกันเยอะๆ ข้อมูลมีหลายหลาก ต่างความเห็นต่างแง่มุมได้ครับ แล้วแต่ละคนก็ลองใช้วิจารณญาณดูครับ

นักวิชาการส่วนมาก จะพยายามอ้างอิงผลการวิเคราะห์ และทดสอบด้วยกลุ่มตัวอย่าง ยิ่งมากก็ยิ่งดี และยิ่งอัพเดตก็ยิ่งดีครับ

ที่ผมไม่ค่อยจะนำเสนอชัดๆในข้อมูลของน้ำมันมะพร้าวโดยการตัดแปะข้อความมา ก็เพราะเกรงจะเปิดปัญหาเรื่องความเห็นต่างด้วยส่วนหนึ่ง และ ผมเองก็ยังอ่านข้อมูลไม่มากพอ ไม่ละเอียดพอจะนำเสนออย่างเป็นรูปธรรมครับ เลยบอกให้ลองหาอ่านในเน็ทเอา เท่าที่ทำกระทู้มา กระทู้แรก เน้นเรื่องให้side effects ของน้ำมันมะพร้าว และผลที่ไม่ใช่ทางตรงแต่ตัวเองสัมผัสได้ เกี่ยวกับภูมิแพ้ที่ตนเองเป็นอยู่เท่านั้นครับ ท่านweisongsit ^ ^

กระทู้นี้ก็เอาฮาตรงเรื่อง...แข็ง ตามประสาคนทะลึ่ง 555

ท่านแจ็ค ถ้ามันแข็ง วิธีง่ายๆ ให้ละลายโดยการเอาไปแช่ในน้ำอุ่นครับ ไม่ต้องร้อนมาก เอาว่า เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นที่ความร้อนค่อนข้างสูงในกะละมังแล้วเอาขวดน้ำมันมะพร้าวที่แข็งไปแช่สักพัก เชื่อว่า ความร้อนขนาดที่คนเราทนอาบได้ คงไม่ทำให้เกิดผลในทางสารพิษออกมาจากพลาสติกทำขวดนะครับ ^ ^

เคยมีคนตั้งข้อสังเกตว่ารุ่นปู่ย่าตายายของเราใช้น้ำมันหมูประกอบอาหารกันมาตั้งหลายชั่วอายุคนแล้ว ไม่เห็นใครเป็นโรคหลอดเลือด ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ โคเลสเตอรอล แต่มาระยะหลังที่คนหันมานิยมใช้น้ำมันพืชกันกลับพบว่าคนเป็นโรคเหล่านี้เพิ่มขึ้นมากครับ ส่วนเรื่องไขมันอิ่มตัวมันมีข้อดีกว่าไขมันไม่อิ่มตัวครับ จากที่ได้อ่านบทความมานะครับ

ถ้าผมเข้ามาอ่านความเห็นท่านเหน่งบาช้าไปกว่านี้ผมคงเอาเข้าไมโครเวฟไปแล้วครับ 555+ ขอบคุณครับ คุยกันเรื่องน้ำมันมะพร้าวอยู่ดี ๆ ทำไมลากไปเข้าเรื่องน้ำมันหมูได้นะเนี่ย 555

ถ้าไมโครเวฟนี่ ควรเลี่ยงการใช้ทุกกรณีครับ เชื่อว่าคงไม่มีใครเห็นต่างแน่
ยิ่งไอ้การเอาของกินใส่ในภาชนะพลาสติก แล้วคิดจะเอาเข้าไมโครเวฟ...ห้ามทำโดยเด็ดขาดครับ ^ ^

คุณเหน่งบาครับผมเพิ่งดู้จ่าของผลิตภัณฑ์เค้าแนะนำควรแบ่งใส่ภาชนะปากกว้างเพื่อสามารถตักได้ ส่วนเรื่องข้อดีข้อเสียก็อย่างที่คุณเหน่งบาบอกเลยครับอยู่ที่ข้อมูลที่ต้องใช้วิจารณญาณ
ในการสึกษาข้อมูลครับ ผมก็ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด ก็ฟังผ่านๆแม้กระทังเรื่องไขมันทารที่ฟรั่งเคยบอกว่าไม่มีโทษหรือเรื่องทานไข่
ก็กลับมาการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างในทางตรงกันข้ามมาแล้วหลังจากเวลาผ่านไป อย่างไรก็ดีการดูแลสุขภาพโดยการได้ออกกำลังให้เมาะสมเป็นทางที่ดีที่สุดครับ

ขอแย้งเรื่องรุ่นปู่รุ่นย่าเราอายุยืนหน่อยครับ คิดว่าช้อมูลน่าจะมีประโยชย์กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ


แน่นอนว่า เราเห็นคนแก่รุ่นปู่รุ่นย่าเราอายุยืน้กือบร้อยปีกัน

อันนั้นเป็นความจริงที่เราเห็น. แต่มันจะ misleading ให้เรามองข้ามบางอย่างไป


สังเกตมั้ยว่า คนแก่ ๆ จะมีในหมู่บ้านอยู่ไม่กี่คน แล้วเพื่อนฝูงท่าน คนรุ่นเดียวกับท่านหายไปไหน

คำตอบคือ คนเหล่านั้นก็เสียชีวิตไปตามอายุไข สามสิบสี่สิบก็เริ่มล้มตายกันแล้ว

ที่้เหลือรอดมาคุยกะเรา ก็คือคนที่แข็งแรงกว่าชาวบ้านคนอื่นเค้า ทำให้เราเข้าใจผิดว่าคนสมัยก่อนอายุยืนกว่าปัจจุบัน

ส่วนเรื่องสมัยก่อนไม่มีใคนเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือด หรือคลอเรส้ตอรอลสูง

ต้องแยกแยะว่า มันไม่มีจริง ๆ หรือ มันไม่มีเพราะเรายังไม่รู้จัก องค์ความรู้ขณะนั้นยังตรวจำไม่เจอโรคเหล่านี้

อีกอย่าง
โรคเหล่านี้มักจะต้องทำร้ายร่างกาน(กินอาหารไม่เหมาะสม ไม่ออกกำลังกาย) ต่อเนื่องยาวนานถึงจะแสดงอาการ
คนสมัยก่อน ตายวัย ยังไม่ทันเป็นโรคก็ตายเสียก่อนแล้ว

ผมยินดีเปิดรับความเห็นที่แตกต่างเสมอครับ อย่างความเห็นของท่าน Hanataro ก็ถือว่าเป็นข้อสังเกตที่มีเหตุมีผล ผมจึงยินดีรับฟังอยู่แล้วครับ