วัดผิดก็น่าจะมาจากความสัพเพร่าของช่างที่วัดครับ การใส่เบอร์ที่ตรงที่สุดก็น่าจะสบายที่สุดครับ

ปกติตอนวัดเค้าจะมีให้เลือกความชัดที่สบายตาที่สุดด้วยไม่ใช่เหรอครับ
หรือร้านเก่ามันไม่ทำให้หว่า
ผมก็ไม่ได้เลือกอันที่ชัดสุดน่ะครับ เลือกอันที่สบายตาสุด ความชัดมันจะลดลงหน่อยนึง

แต่ก่อน การวัดมันไม่ละเอียดครับ คือวัดแค่สายตา ว่าสั้นหรือยาวเท่าไหร่
ผมไปเจอร้านที่วัดละเอียดอีกสองสามเรื่อง ถึงได้รู้ว่าเดิมนั้นมันละเอียดไม่พออย่างไร
คือนอกจากความยาวสั้นของสายตา ยังต้องวัดความเอียงอีกมิตินึงครับ
อย่างของผมเองนี่ มีอยู่ข้างนึงที่เอียงนิด อีกข้างปกติ ถ้าร้านไม่ได้วัดแง่นี้ เท่านี้ก็เวียนหัวแล้ว
นอกจากนั้น บางร้านยังมักง่ายเรื่องเซ็นเตอร์ของตาด้วย
คือระยะห่างของตา ของผมเป็น6.7 ซม. แต่ร้านก่อนหน้านั้น ดันมักง่ายเอาของที่มีในสต็อค..สมมุติว่าเบอร์สายตาสั้น600 แต่ขนาดที่ใหญ่กว่า คือ เซ็นเตอร์7.2ซม.มาตัดให้ ใส่อย่างไรก็มึนครับ

ร้านบางร้านก็จะมั่วว่า เปลี่ยนแว่นใหม่ ต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับแว่น มันจริงไม่หมดครับ กลายเป็นว่า ถ้ามันตัดไม่พอดีกับสายตาทุกมิติที่ต้องคำนึง ก็เท่ากับเราต้องบังคับให้ประสาทตาเราปรับตัวให้เข้ากับแว่นที่ตัดมาผิดเพี้ยน..= =*

ร้านที่ว่าตัดดีนั้น เปลี่ยนแว่นใหม่แต่ละครั้ง จะพอดีเกือบตลอด ใช้เวลาปรับตัวแค่ครึ่งวันเองครับ

ผมใส่แว่นมาเปลี่ยนเลนส มาเกือบ10ครั้ง ไม่ปวดหัวครับ ผมว่าขึ้นอยู่กับคนวัดสายตา เครื่องมือวัดสายตา และฝีมือของช่างเจียรเลนส และการนำใส่กับกรอบแว่นครับ เคยเจอร้านแว่นที่พ่วงมากับโรงพยาบาลที่ไปตรวจสุขภาพที่บริษัท ทั้งตรวจไม่ละเอียด ประกอบแว่นก็ค่าสายตาผิด ใส่ไม่ได้เลย คนขายแว่นก็บอกว่ารอปรับสภาพเปลี่ยนแว่นใหม่ๆ ก็แบบนี้ พอเอาค่าสายตาไปให้ร้านตัดแว่นอีกร้านดู เค้าบอกว่าสายตาคนไม่มีทางจะเอียงแบบนี้ สรุป อยู่ที่ร้านครับ

ผมวัดเอง ใส่เอง. เจียเลนน์เอง. เลือกกรอบเอง ไม่ปวดหัวจ้าาา5555

จริงๆ ก็อยู่ที่ฝีมือช่างส่วนหนึ่ง โดยนิสัยคนไทยเราส่วนใหญ่ก็ทำงานแบบ
ขอไปทีอยู่แล้ว ต้องทำใจ นิสัยมาตราฐานไทยครับ

จริงๆจะไปคิดว่าช่างอย่างเดียวก็ไม่ถูกครับ เพราะว่า เลนน์ไม่ใช่แก้วตาแท้ๆของเรา
จึงต้องมีสภาพวะการปรับตัวจริงๆ และยิ่งคนที่สายตาสั้นมากๆ หรือทั้งสั้นทั้งยาว
ก็จะมีอาการ. ปวดหัวล้างเป็นธรรมดา กรอบก็มีส่วนครับ หนักไปก็ทำให้ปวดหัว
ความยาวของกรอบก็มีส่วนครับ สั้นกว่าช่วงหูเรา มันรัดทำให้ปวดหัว

ที่สำคัญตัวเนื้อเลนส์. เลนน์ที่ราคาแพงยอมใส่สบายกว่าเลนส์. 300บาท
บ้างคนจะเอาถูกๆๆๆ ดีๆๆๆๆๆ มันไม่มีหรอกครับในโลกนี้

ความลาดเอียงเค้าใช้เครื่องวัดครับ เครื่องดีๆตัวเป็นแสน. พอมาตัดให้คุณราคาแว่นก็
ต้องถีบตัวขึ้นไปอีก

ตัวอย่างผม สองข้างสั้นไม่เท่ากัน เอียงก็ไม่เท่ากัน. เพราะชอบไม่แอบดูสาวๆอาบน้ำ
ต้องใช้ตาเดียวส่องรูข้างฝา 5555ตาเลยเอียงสั้นไม่เท่ากัน
เวลาวัดเลนส์วัดยากมากเวลาใส่ก็ต้องมีปวดหัวบ้างเป็นธรรมดา นิดหน่อย
แต่ที่สำคัญคือการพักผ่อน ต้องนอนให้เพียงพอ และพอดี ไม่งั้นเวลาใส่ก็ต้องหัวอยู่แล้ว

การเลือกเลนส์. ให้เลือกที่มียี่ห้อดีหน่อย ร้านที่น่าเชื่อถือได้ว่าจะเอาเลนส์แท้ให้เรา
เลนส์ดีแพงส่วนใหญ่จะมีผ้าไฟท์เบอชั้นดีแถมด้วย เวลารับแว่นมาก็ขอซองเลนส์เขา
มาด้วยเพื่อดูว่าเขาเอาเลนส์ยี่ห้ออะไรแท้ไหมให้เราด้วยหรือเปล่า

กรอบมีความสำคัญลองลงมา
เลือกที่เป็นแบบเบาๆก้านขา กับระยะห่างของสายตาให้พอดี

โลกนี้ไม่มีอะไรหลอกครับที่ตรงไปตรงมาต้องทำใจ

โอ เหมือนผมเลยครับ ชอบถ้ำมอง เฮ้ย ไม่ใช่... เรื่องสั้นกับเอียงสองข้างไม่เท่ากัน
ของผมเป็นเพราะแอบดู ไม่ใช่สิ เป็นเพราะนอนตะแคงอ่านหนังสือครับ ผลที่ได้เลยทั้งสั้นไม่เท่าและเอียง่ไม่เท่า

ควรสร้างสุขนิสัยที่ดีในการอ่านหนังสือด้วยนะครับ ^ ^

ผมสายตาสั้นตั้งแต่เด็กเพราะนั่งเล่นวีดีโอเกม 8 บิทนาน ตัดแว่นล่าสุดเมื่อปีก่อนประมาณเกือบ 3000 บาท ตอนเลือกกรอบลองใส่ดูมันก็โอเค แต่พอตัดเสร็จกลับมาบ้านปรากฎว่า เห้ย ทำไมมันหลวมวะ กำจริงๆ ครับ - -"

สายตาผม สั้น ยาว เอียง พร้อมๆกันเลย มาครบ

ของผมข้างนึงปกติ ข้างนึงยาว+ เอียง พอมากๆเข้า ก็ยอมไปตัดแว่น ทีแรกราวๆ 4000 ใส่ได้ 5 นาทีปวดหัวมาก ลองอยู่หลายวันหลายครั้งก็ยังเป็น

เลยไปลองอีกร้านตัด 300 บาทรวมเลนส์ กลัวแล้ว แต่ปรากฏว่าชิลเลยใส่มาเป็นปีละ เลยตัดแต่ร้านนี้ละ ความใสสู้ไม่ได้แน่นอน แสดงว่าขึ้นกับฝีมือช่างจริงๆ เวลาที่สายตาเราแปลกๆเนี่ย